Thursday, December 3, 2015

บิ๊กตู่ ลั่น บิ๊กโด่ง เป็นน้องชายโตมาด้วยกัน ถ้าผิดก็ยอมรับ

บิ๊กตู่ ลั่น บิ๊กโด่ง เป็นน้องชายโตมาด้วยกัน ถ้าผิดก็ยอมรับ บอก ผมไม่ใช่ศาลเป็นแค่คนนำเข้ากระบวนการ ย้ำ รอผลสอบให้ชัดเจน เชื่อ 2 คนที่หนีโกง ยัน ไม่ปรับครม.ตามกระแส

[?]19 ชีวิต บริสุทธิ์ พนักงานกรุงไทย ที่ต้องถูกจำคุก ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกว่า 10 ปี!!

󾕎19 ชีวิต บริสุทธิ์
พนักงานกรุงไทย
ที่ต้องถูกจำคุก
ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกว่า 10 ปี!!


󾕎อ่านความจริงที่คนทั้งประเทศต้องรู้!!!

󾮜🏻󾮜🏻󾮜🏻
ในสมัยปี 2540 ประเทศไทยพบกับวิกฤติต้มยำกุ้ง ธนาคารและภาคธุรกิจขาดสภาพคล่อง จำนวนมากต้องปิดตัวลง

ธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นธนาคารของรัฐจึงออกโครงการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบที่เรียกว่า "อัศวินม้าขาว" (https://www.youtube.com/watch?v=hcrOxa-6HFg) เพ่ือรับช่วงต่อหนี้จากกลุ่มการเงินที่ขาดสภาพคล่องเพื่อพยุงให้ดำเนินการต่อไปได้

หนึ่งในหนี้ที่ธนาคารกรุงไทยเข้าไปช่วยเหลือคือ หนี้ของธนาคารกรุงเทพ ปล่อยกู้ให้กลุ่ม กฤษดามหานคร

กลุ่มกฤษดามหานคร เป็นกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติต้มยำกุ้ง กระทั่ง ปี 2546 มีหนี้ที่กู้ธนาคารกรุงเทพสะสมอยู่ถึง 9,900 ล้านบาท

ปลายปี 2546 ธนาคารกรุงเทพประสบวิกฤติขาดเงินทุนเช่นกัน จึงคิดจะให้กลุ่มกฤษดามหานครรีไฟแนนซ์โอนถ่ายหนี้ไปให้ธนาคารกรุงไทยแทน

ฝ่ายธนาคารกรุงไทยพิจารณาแล้วว่า หลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นที่ดินบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิที่กำลังสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ที่กลุ่มกฤษดามหานครมี มีมูลค่าเพียงพอที่จะค้ำประกันหลักทรัพย์ได้ ประกอบกับกลุ่มกฤษดามหานครไม่เคยผิดนัดชำระหนี้กับธนาคารกรุงเทพเลยนับเป็นลูกหนี้ชั้นดี ผู้บริหารธนาคารกรุงไทยจึงพิจารณาให้รีไฟแนนซ์ให้กลุ่มกฤษดามหานครโดยให้เงินกู้ 8,000 ล้านบาท

ซึ่งธนาคารกรุงเทพยอมลดหนี้ให้จำนวนหนึ่ง ทำให้กลุ่มกฤษดามหานครมีเงินเหลือพอที่จะนำไปหมุนทำธุรกิจต่อไปด้วย

ในขณะนั้นธนาคารแห่งประเทศไทยมีหน้าที่ตรวจสอบดูแลการทำงานของธนาคารเป็นปกติวิสัย หม่อมอุ๋ย ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยในขณะนั้นก็เข้ามาตรวจสอบการปล่อยกู้ครั้งนี้ และได้ทำรายงานการตรวจสอบไว้ โดยไม่ได้มีการตั้งข้อกล่าวหา หรือแสดงให้เห็นว่ามีความผิดปกติแต่อย่างใด การรีไฟแนนซ์ครั้งนี้ดูจะเป็นไปอย่างปรกติ แต่ทว่า...

ภายหลังการรัฐประหารปี 2549 คณะรัฐประหารได้ตั้ง องค์กร คตส.ขึ้นมา เพื่อตรวจสอบการเงินที่เกี่ยวกับ อดีตนายกฯทักษิณ และนำเอกสารการเงินของกลุ่มกฤษดามหานครมาตรวจสอบอีกครั้ง

คตส. พบว่ามีการออกเช็คจำนวน 26 ล้านบาท เพื่อขอซื้อหุ้นในธุรกิจที่สามารถโยงไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณได้ แม้จะเป็นเงินไม่ถึง1%ของวงเงินกู้ทั้งหมด และต้องอาศัยความเชื่อมโยงหลายชั้นถึงจะโยงไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณได้แต่ คตส. ก็เรียกคดีนี้ขึ้นมาสอบใหม่ โดยมีการตั้งข้อสงสัยเพิ่มว่า การปล่อยกู้นี้อาจอนุมัติเพราะได้รับคำสั่งมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ และเมื่อ คตส. หมดวาระไปก็ได้ส่งเรื่องไปให้ ป.ป.ช. 

ป.ป.ช. ได้นำสำนวนของ คตส. ไปส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมีผู้บริหารกฤษฎามหานคร6คน ประธานกรรมการของกรุงไทย5คน เจ้าหน้าที่สินเชื่อของกรุงไทย10คน และ พ.ต.ท.ทักษิณตกเป็นจำเลย

แต่ต่อมา กรรมการ 2 ใน 5 คน ได้พ้นจากสภาพจำเลย เพราะได้ให้การว่ามี "บิ๊กบอส" เป็นผู้สั่งการให้มีการปล่อยกู้ และปัจจุบันกรรมการ 2 คนที่ให้การปรักปรำนั้น ก็ได้มาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลทหารของ คสช.

ในขณะที่ผู้บริหารอื่นๆของกรุงไทย ยืนยันว่าเป็นการปล่อยกู้โดยสุจริต เพราะหลักทรัพย์ที่นำมาคำประกันนั้นมีมูลค่าสูงพอจะรับประกันหนี้ และในปัจจุบัน หนี้ของกลุ่มกฤษดานครก็ไม่ได้ก่อความเสียหายใดๆ ต่อธนาคารกรุงไทย..

Wednesday, December 2, 2015

เผด็จการทหารพระราชาไทย กำลังช่วยจีนข่มขืนประเทศไทย

จเด็ด สิบเอ็ดทิศ.         #จีนมันกำลังขี่คอเราเรื่องรถไฟ ..ไอ้รัฐมนตรีก็แกล้งโง่ตาใส จ้องจะเซ็นสัญญาท่าเดียว ไอ่สลัดผักเอ๊ย .. ดอกเบี้ย 2-4 พ่อมึงตาย แม่ยายมึงสิ้น ก็ยังจะยอมเค้า .. (หากกู้ JICA ญี่ปุ่น เค้าคิด 1.5 เท่านั้น แต่กู้ไม่ได้ เพราะเป็นรัฐบาลทหาร ชาวโลกเค้ารังเกียจ)

เท่านั้นยังไม่พอ..ฝ่ายจีน ยังขอออกแบบเอง และให้บริษัทจากจีนสร้างเอง และยังขอทำการเดินรถเองอีกด้วย ..ไปๆมาๆ งบต้นทุนบานปลาย งอกออกมาอีกแสนกว่าล้าน  >.< ก็ยังจะยอมมัน ..ไอ้เหี้ยเอ๊ย..!!ได้ส่วนต่างเท่าไรวะ ??

สุดท้ายพอโดนหลายๆฝ่ายท้วงติง รมต.สมคิด จาตุฯ เลยให้ฝ่ายจีนไปปรับปรุงใหม่ในหลายๆรายละเอียด ..ส่วนไอ้รมต.คมนาคมตัวปัจจุบัน(ไอ่ตัวนี้มันเป็นร่างทรงของคสช. โง่ตาใส เค้าหลอกให้มานั่งเก้าอี้นี้ เพราะเค้าจะบุฟเฟต์กันในหมู่พี่น้อง แล้วให้มึงนั่นแหล่ะในฐานะ รมต.รับตีนไปในวันหน้า ก็ยังไม่รู้ตัว วันหน้า รัฐบาลประชาชนเป็นใหญ่ จะถลกหนังแม่ง!!แล้วยึดทรัพย์ให้หมดโคตรเลย  )ร้องจะเซ็นต์ จะวางศิลาฤกษ์ท่าเดียว ..อยากถีบหน้าแม่ง!!จริงๆ!! 

จากนั้น ฝ่ายจีนก็เงียบไปพักนึง กลับมาคราวนี้ เหี้ยหนักกว่าเก่า เริ่มออกลายได้ทีขี่หลังเสือ เสือบูรพาพยัคฆ์ซะด้วย ..เสนอหน้าตาเฉยเลยว่า จีนขอเปลี่ยนบริษัทซื้อยางพารา และขอไม่ซื้อยางเก่า จะซื้อแต่ยางใหม่เท่านั้น 

..เอ้า!!ไอ้เก๊าเจ้ง..ก็ในสัญญาความร่วมมือเรื่องสัมปทานรถไฟร่วม ไทย-จีน มึงบอกฝ่ายจีนจะรับซื้อยางไทยทั้งหมดด้วยไง๊ ..วันนี้เสือกมาบิดพริ้วหน้าตาเฉย จีนมึงค้าขายกับชาวบ้านแบบนี้ไง ลาว เวียดนาม เขมร ถึงไม่เอารถไฟของมึง รวมทั้งพม่าด้วย เค้ายกเลิกกันเป็นแถว มีไอ้ฟายไทยชาติเดียวนี่แหล่ะ ยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย .. ..>.<

ดีนะที่ รมต.สมคิด หัวเรือใหญ่โปรเจคนี้ ยังมีความดีอยู่บ้าง สั่งทุกหน่วยระงับการเซ็นต์สัญญาไว้ก่อน ให้เลื่อนออกไปก่อน เพราะจีนผิดข้อเงื่อนไขหลายอย่าง ทั้งเรื่องรถไฟ สัญญาที่1 เรื่องยางพารา สัญญาที่2 และ เรื่องเงินกู้ สัญญาที่3 .. 
 
ส่วนโครงการความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น หลังจากที่ลงนามในบันทึกความร่วมมือพัฒนารถไฟไทย-ญี่ปุ่น เพื่อเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตกตอนล่าง เส้นทางกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-แหลมฉบัง-สระแก้ว ที่ประเทศญี่ปุ่นไปเรียบร้อยแล้ว จากนี้ 2 ฝ่ายจะร่วมกันปรับปรุงราง ตั้งบริษัทร่วมทุนเดินรถ(ตั้งบริษัทเสร็จภายในเดือน มค.59นี่แหล่ะ) ร่วมกันและเริ่มทดสอบการเดินรถ และจะพัฒนาก่อสร้างเป็นทางคู่ในอนาคต
ญี่ปุ่นเค้าตรงไปตรงมา ออกแนวเอื้อเฟื้อ อลุ่มอล่วยให้เราหลายเรื่อง ไม่มีปัญหาอะไรกับเราเลย มืออาชีพมากๆในทุกๆเรื่อง บอกตามตรงว่า คนไทยอย่างกูอ่านรายละเอียดแล้วรู้สึกเกรงใจญี่ปุ่นจริงๆ 

ส่วนไอ้เก๊าเจ้งอีกสายนึงเนี่ย ..แม่ง!!คบไม่ได้จริงๆ เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ใช้นิสัยจังไร ใช้นโยบายเอาเปรียบขูดรีดคนอื่นแบบนี้ จีทูจีพ่อมึงดิ จีนมีแต่ได้ฝ่ายเดียว !!ฝ่ายไทยเสียเปรียบตลอด  

ชาติหน้าตอนสายๆมึงก็ไม่มีวันมีอำนาจเหนือคาบสมุทรอินโดจีนแน่นอน เพราะชาติแถบนี้เค้ารู้สันดานมึงเป็นยังไง แค่คบได้ผิวเผิน แต่จริงจังและลงลึกด้วยไม่ได้ เพราะมึงจ้องจะขี่คอเพื่อนตลอดเวลา ..ไอ้เพื่อนเลว..

ท่านทูตจีนคนใหม่ ฯพณฯ หนิง ฟู่ขุย อ่านภาษาไทยได้นี่ครับ เชิญอ่านด้วยนะครับ เพราะผมกำลังต่อว่าประเทศจีนและรัฐบาลจีนของท่านครับ  :)

หมายเหตุ : คสช.ผู้ใหญ่ทั้งหลายทั้งปวง ท่านอย่าดูเบาไปนะครับ รบกวนท่านแหกตาดูเรื่อง #การขาดดุลการค้าต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะ กับ ไอ้เก๊าเจ้งนี่ ..มันหนักขึ้นทุกวันแล้วนะครับ แซงหน้าคู่ค้าอันดับหนึ่งของเราอย่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯไปแล้ว  เห็นมั้ยครับว่า การที่ถูกยุโรปแบนการค้าหลายอย่าง มันเป็นเช่นไร ส่งผลกระทบอย่างไร ?? เห็นนายพลหลายท่านบอกว่า อียูแบนเรา สหรัฐฯแบนเรา ก็ช่างแม่ง!! ..

ถามจริงๆท่านนายพลทุกท่าน เข้าใจเรื่องพวกนี้มั้ยวะท่าน ??

Tuesday, December 1, 2015

ป.ป.ช.ไม่พบทุจริต′ราชภักดิ์′ !!!!

ป.ป.ช.ไม่พบทุจริต′ราชภักดิ์′ ยังไม่รับ ไต่สวนปม′ราชภักดิ์′ รอ3 หน่วยงานส่งผลสอบ ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริต ยังไม่ตั้งคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริง เพราะยังไม่มีเหตุอันพึงสงสัย



นาย สรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า จากเดิมที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.มีมติให้สำนักงานป.ป.ช.รวบรวมข้อมูลที่ เกี่ยวข้องกับโครงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์โดยตนมอบให้สำนักการข่าวและ กิจการพิเศษของสำนักงานป.ป.ช.ไปรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานภาครัฐ และประชาชนซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลในภาพรวมยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการ ทุจริตแต่ในส่วนของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือ สตง. ได้ตรวจพบว่ามีการใช้งบกลางของรัฐบาลในการจัดสร้างกว่า 63 ล้านบาท เป็นหน้าที่สตง.ที่จะตรวจที่มาที่ไปของเงิน

ขณะเดียวกันได้มีผู้ที่อ้างว่าได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวได้ไปร้องทุกข์กองบังคับการปราบปรามในวันที่24 พ.ย.ที่ผ่านมาและทางกระทรวงกลาโหมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในการจัดสร้างเช่นกัน ทางป.ป.ช.เห็นว่ามีหน่วยงานที่ตรวจสอบแล้วจึงมีมติให้สำนักงานป.ป.ช.ติดตามผลการตรวจสอบของทั้ง 3 หน่วยงาน ว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่าอยู่ขอบเขตอำนาจในการเข้าไปตรวจสอบของป.ป.ช.ได้หรือไม่ ซึ่งทางป.ป.ช.จะเข้าไปตรวจสอบได้ต่อเมื่อเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือกระทำการทุจริตต่อหน้าที่

สำหรับการตั้งคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริงกับเรื่องที่สังคมให้ความสนใจนายสรรเสริญกล่าวว่า การจัดตั้งคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริงต้องปรากฏว่ามีเหตุอันพึงสงสัย จึงจะเข้าหลักเกณฑ์ที่ป.ป.ช.จะรับเรื่องมาดำเนินการได้ และประชาชนที่มาร้องเรียนสามารถทำได้แต่ต้องดูว่าเข้าเกณฑ์ 3 ข้อ ของป.ป.ช.หรือไม่ ได้แก่ มีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ มีเหตุอันพึงสงสัยหรือไม่ อยู่ในอำนาจของป.ป.ช.หรือไม่ และกล่าวหาใคร มีหลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งหากอยู่ในหลักเกณฑ์ก็สามารถรับเรื่องมาดำเนินการได้ไม่ต้องรอผลจาก 3 หน่วยงานข้างต้น โดยในขณะนี้ยังไม่มีผู้มาร้องเรียน

ส่วนที่กรณี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ออกมายอมรับว่ามีการหักค่าหัวคิวโรงหล่อจริง ขณะนี้ข้อมูลยังไม่มีเหตุอันพึงสงสัย เนื่องจากบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องเป็นเอกชน ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนที่สำนักการข่าวป.ป.ช.พบว่าการประมูลต้นปาล์มราคากว่า 1 แสนที่แพงเกินจริงนั้น นายสรรเสริญ กล่าวว่า ยังเป็นเพียงข้อมูล เป็นหน้าที่คณะกรรมการของกระทรวงกลาโหมในการตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง

Tags : ราชภักดิ์ อุทยานราชภักดิ์ ป.ป.ช.

Saturday, November 28, 2015

มติชน: ขอนแก่นโมเดล ภาค 2 PLOT หลวม ไม่สมจริง

วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 07:33:14 น.

      
         ขอนแก่นโมเดล ภาค 2 
         PLOT หลวม ไม่สมจริง

ทำท่าว่า การโหมประโคมในเรื่อง "ก่อกวน" ปั่นเพื่อพ่อ เทศกาลลอยกระทง ไปจนถึงเทศกาลปีใหม่
    อาจไม่ WORK
    หรือถึง WORK ก็อาจไม่บรรลุ "เป้าหมาย"
    บางคนอาจมองไปที่ "ปฏิกิริยา" และ "การโต้ตอบ" อย่างทันที ทันความจาก "นปช."
    ไม่ว่าจะเป็น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ
    อาจใช่ แต่การออกมาของ "นปช." มิใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้ปฏิบัติการทางการข่าว หรือ IO ครั้งนี้ไม่ WORK
    หรือทำท่าว่าอาจจะ "เดี้ยง"
    ความเป็นจริงมาจากการไม่ยอม "เด้ง" รับจากฝ่ายที่เคยประสานเสียงตั้งแต่หลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
    ภาพล้อของ "บางสื่อ" ถึงกับเห็นเป็นเรื่อง "ตาหลก"
    กระนั้น ที่เป็น "ปัจจัย" ชี้ขาดว่าจะ "สำเร็จ" หรือว่าอาจจะ "ล้มเหลว"อย่างแท้จริงอยู่ที่ปัจจัย "ภายใน"
    นั่นก็คือ เนื้องานไม่ "เนียน"


การเอา
"ตัวละคร" ที่ระบุว่าเคยมีส่วนถูกจับกุมจาก "ขอนแก่น โมเดล"เข้ามาอาจทำให้แลดูหวือหวา
    แต่บังเอิญ "ยัดเยียด" ภารกิจให้ "หนักหนา"และสาหัสเกิน
    การป่วนกิจกรรมไบค์ ฟอร์ แด้ด อาจฟังดูน่ากลัว แต่การเลเพลาดพาดถึงระดับไปยึดสถานีตำรวจ ยึดค่ายทหาร
    เพริศแพร้วพรรณราย แต่ "ไม่น่าเชื่อถือ"
    ยิ่งขยายประเด็นไปถึงขั้นตระเตรียมลอบสังหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
    ยิ่งน่าหัวร่อ
    ขนาดพรรคคอมมิวนิสต์มีกองทัพปลดแอกที่เรียกว่า"ทปท."ยังไม่เคยทำได้ระนาบ นี้ ขนาด "ขจก."ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีปฏิบัติการทางทหารต่อเนื่องมายาวนานยังไม่เคยทำได้ ระนาบนี้
    นี่แค่ "จ.ส.ต."และอายุกว่า 60 แล้วจะไหวหรือ
    ยิ่งกว่านั้น ในรายชื่อคนที่ถูกออกหมายจับจาก"ศาลทหาร"บางคนยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ
    เป็นไปได้ยังไง
    สรุปแล้ว  PLOT หลวม ฉากไม่เหมาะ ตัวละครขาดความสมจริง จึงกลายเป็นเรื่องน่าหัวร่อมากกว่าจะคิดว่าเป็นเรื่องจริง
    เดี้ยง

Thursday, November 26, 2015

WOW!! ศาลแพ่งพิพากษา ให้ “น.ส.แพรวา” และผู้ปกครองชดใช้ค่าเสียหายร่วม 30 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็

ศาลแพ่งพิพากษา ให้ "น.ส.แพรวา" และผู้ปกครองชดใช้ค่าเสียหายร่วม 30 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ กรณีขับรถซีวิคชนรถตู้โดยสารตาย 9 ราย เมื่อปี 2553
       
       ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (26 พ.ย.) ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีที่ น.ส.สะโอด ซิมกระโทก และญาติของผู้เสียชีวิต 9 ราย และผู้บาดเจ็บ 4 คน จากอุบัติเหตุ น.ส.แพรวา หรือ อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขับรถยนต์ซีวิค เฉี่ยวชนรถตู้โดยสารพลิกคว่ำ เมื่อคืนวันที่ 27 ธ.ค. 2553 ร่วมกันเป็นโจทก์รวม 28 คน ยื่นฟ้อง น.ส.แพรวา รวมทั้งบิดาและมารดา เรื่องกระทำละเมิด ให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายกว่า 100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
       
       ศาลแพ่งพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้เป็นคดีแพ่งที่สืบเนื่องมาจากคดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมีคำ พิพากษาศาลอุทธรณ์ถึงที่สุดว่าการขับรถของ น.ส.แพรวา เป็นการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ รวมถึงทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งเป็นการกระทำละเมิด จึงต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และเมื่อรับฟังได้ว่า น.ส.แพรวา จำเลยที่ 1 กระทำผิด บิดา และมารดา ซึ่งเป็นจำเลยที่ 2 และ 3 ก็ไม่ได้นำสืบถึงความระมัดระวังในการดูแลจำเลยที่ 1 จึงต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายด้วย
       
       พิพากษา ให้ น.ส.แพรวา บิดา และมารดาของ น.ส.แพรวา ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ประกอบด้วยค่าไร้อุปการะ และค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าอื่นๆ ให้กับโจทก์ร่วม รวม 28 คน ซึ่งเป็นครอบครัวของผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บแต่ละคน ในจำนวนเงินแตกต่างกัน ตั้งแต่คนละ 4 พันบาท ถึง 1 ล้าน 8 แสนบาท รวมเป็นเงินประมาณ 30 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
       
       ภายหลัง พ.ต.อ.เอกศรัญ นิลวรรณ บิดาของ น.ส.สุดาวดี นิลวรรณ หนึ่งในผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ศาลสั่งให้ชดใช้เงินประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวนเงินที่เรียกร้องไป ซึ่งความเห็นของผู้เสียหายส่วนใหญ่เห็นว่าน้อยเกินไป แต่ก็เคารพคำตัดสินของศาล โดยจากนี้ทางกลุ่มทนายความของโจทก์จะประชุมหารือกันในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์หรือไม่ และหากยื่นอุทธรณ์จะยื่นในประเด็นใด ส่วนค่าสินไหมทดแทนที่ศาลสั่งจ่ายนั้นแตกต่างกันออกไป ทั้งค่าไร้อุปการะ, ค่ารักษาพยาบาล, ค่าเดินทาง และค่าทุกข์ทรมานจากการรักษาอาการบาดเจ็บ และคาดว่าทางฝ่ายจำเลยจะมีการยื่นอุทธรณ์เช่นกันเพื่อยืดเวลาการจ่ายค่าเสีย หายออกไป
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีอาญาที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 1 ยื่นฟ้อง น.ส.แพรวา อายุ 17 ปี (ขณะเกิดเหตุ) ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ในความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาทจนเป็นเหตุในผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และถึงแก่ความตาย และทรัพย์สินเสียหาย นั้น ซึ่งคดีได้ถึงที่สุดแล้ว ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้จำคุก น.ส.แพรวา 3 ปี แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 4 ปี บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมงต่อปี และห้ามขับรถจนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปี ซึ่ง น.ส.แพรวาได้ยื่นฎีกาสู้คดี แต่ศาลไม่รับฎีกา จึงทำให้คดีสิ้นสุดตามคำพิพากษาดังกล่าว 

Monday, November 23, 2015

ข่าวลือเสี่ยโอโหดโฉดจริง (??) ศรีรัศมิ์ เป็นบ้าไปแล้ว แถมโดนขังที่บ้านราชบุรี เงินสองร้อยล้านก็ไม่ได้!!

มีข่าวมาจากทหารคสช. ว่าเค้าลงมติกันว่าไม่เอาทายาทชาย เพราะเหี้ยมโหดเกินไปจากกรณีหมอหยองและนายทหารใกล้ชิด
ส่วนน้องสาวประกาศชัด ยินดีนั่งเก้าอี้ถ้าส่วนใหญ่สนับสนุน และจะเป็นผลดีต่อราชบัลลังก์ พวกที่เหลือพากันสยองกลัวตายไม่ได้สวดศพทหารบอกว่า ขนาดยังไม่ขึ้นยังบ้าขนาดนี้ ถ้าขึ้นจะขนาดไหน พวกที่ต้องทำงานด้วยรู้สึกไม่ปลอดภัย
 ตอนนี้ศรีรัศมิ์ก็เป็นบ้าไปแล้ว โดนขังอยู่ที่บ้านราชบุรี เงิน 200 ล้านก็ไม่ได้จริง
ที่ผ่านมา เรื่องการกำจัดพงศ์พัฒน์ และหมอหยอง ปรากรม เป็นฝีมือเสี่ยล้วนๆ

ข่าวลือมาอย่างนี้ แล้วแต่ท่านจะพิจารณากันเอง



ข่าวลือเสี่ยโอโหดโฉดจริง (??) ศรีรัศมิ์ เป็นบ้าไปแล้ว แถมโดนขังที่บ้านราชบุรี เงินสองร้อยล้านก็ไม่ได้!!

มีข่าวมาจากทหารคสช. ว่าเค้าลงมติกันว่าไม่เอาทายาทชาย เพราะเหี้ยมโหดเกินไปจากกรณีหมอหยองและนายทหารใกล้ชิด
ส่วนน้องสาวประกาศชัด ยินดีนั่งเก้าอี้ถ้าส่วนใหญ่สนับสนุน และจะเป็นผลดีต่อราชบัลลังก์ พวกที่เหลือพากันสยองกลัวตายไม่ได้สวดศพทหารบอกว่า ขนาดยังไม่ขึ้นยังบ้าขนาดนี้ ถ้าขึ้นจะขนาดไหน พวกที่ต้องทำงานด้วยรู้สึกไม่ปลอดภัย
 ตอนนี้ศรีรัศมิ์ก็เป็นบ้าไปแล้ว โดนขังอยู่ที่บ้านราชบุรี เงิน 200 ล้านก็ไม่ได้จริง
ที่ผ่านมา เรื่องการกำจัดพงศ์พัฒน์ และหมอหยอง ปรากรม เป็นฝีมือเสี่ยล้วนๆ

ข่าวลือมาอย่างนี้ แล้วแต่ท่านจะพิจารณากันเอง