ระยะเวลา 6 เดือนของการปราบปรามอำนาจมืดและยาเสพติดของ "กลุ่มผู้มีอิทธิพล"ทั่วประเทศ ทรง "ความหมาย" เพราะหากนับจากเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน เดือนกรกฎาคมก็เป็นเดือนที่ 6 คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ "กกต." ได้กำหนดแล้วว่าวันที่ 31 กรกฎาคม คือวันลง"ประชามติ" โป๊ะเช๊ะ แม้ว่าจะเป็นมาตรการในทาง "การทหาร" แต่ก็เป็นมาตรการทางทหารอันมีเป้าหมายสูงสุดในทาง "การเมือง" เท่ากับเป็น "การรุก" อย่างมีนัยสำคัญ เป็นการรุกเหมือนที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.)เคยแสดงบทบาทใน "ขอนแก่นโมเดล" เท่ากับรุกไปยัง "เสื้อแดง" เพียงแต่ตอนนี้กรอบอยู่ที่ การจัดการในเรื่อง "อำนาจมืด" การจัดการในเรื่องอันเกี่ยวกับ "ยาเสพติด" เป้าหมายคือ "ผู้มีอิทธิพล" กระนั้น ภายในกลุ่ม"ผู้มีอิทธิพล"นั้นย่อมมีสายสัมพันธ์แนบแน่นอยู่กับกระบวนการในทาง "การเมือง" ไม่ว่าการเมืองระดับ"ท้องถิ่น" ไม่ว่าการเมืองระดับ"ชาติ" ไม่ว่าการเคลื่อนไหวในระดับท้องที่ ชุมชน ไม่ว่าการเคลื่อนไหวในระดับจากท้องที่ ชุมชนเข้าไปสัมพันธ์ยัง "ส่วนกลาง" เป็นการ "จัดแถว" ล็อค "ตัวคน" เท่ากับเป็นการรุก สร้างความพร้อมก่อนจะมีการทำ "ประชามติ" ในวันที่ 31 กรกฎาคม เป็นการรุกขณะที่"ฝ่ายการเมือง"ไม่มีโอกาส เป็นการรุกขณะที่ทุกพรรคการเมืองต้องยุติบทบาทเพราะคำสั่งหัวหน้าคสช.ไม่ให้มีการเคลื่อนไหว ไม่ให้มีการประชุม ไม่ต้องพูดถึง "พรรคเพื่อไทย" ไม่ต้องพูดถึง"นปช." มอง "ภาพกว้าง" ในทางการเมือง จึงเป็นภาพทางด้าน "คสช." จึงเป็นภาพทางด้าน"ทหาร"อย่างเป็นด้านหลัก เห็นภาพ "กอ.รมน."แทรกซึมไปในทุก"พื้นที่" เห็นภาพ "รด.จิตอาสา" ร่วมไปกับขบวนปฏิบัติการจิตวิทยา(ปจว.)ของกองกำลังรักษาความสงบ(กกล.รส.) เห็นภาพ "กรธ."อธิบายความล้ำเลิศของ "รัฐธรรมนูญ" เห็นภาพ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เห็นภาพ นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ เห็นภาพโฆษกกรธ.ทางสถานีโทรทัศน์ ไม่เพียง "ช่วงเช้า" หากแม้กระทั่ง"ช่วงเย็น" แม้จะถ่ายทอดผ่านสิ่งที่เรียกว่า "ฟรีทีวี" แต่ก็ดำเนินไปภายใต้เครื่องหมาย"โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ" เดินหน้าด้วยความคึกคัก สนุกสนาน ขณะเดียวกัน ภาพทางด้านพรรคการเมือง ภาพทางด้านนักการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคเพื่อไทย หรือแม้กระทั่งคนเสื้อแดง กลับไม่ปรากฏ กลับไม่มีใครได้ยินเสียง ภายในภาพที่ไม่ปรากฏ ภายในเสียงที่มิได้มีการเผยแพร่ มองด้าน 1 เหมือนพรรคการเมืองและนักการเมืองเหล่านี้ไม่มีการเคลื่อนไหว เมื่อไม่มีการเคลื่อนไหวโอกาสของ"ประชามติ" จึงพอมองออก มองออกว่า ความมั่นใจอันมาจากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่ว่าต้องผ่าน"ประชามติ"อย่างแน่นอน เป็นไปได้สูง เป็นไปได้อย่าง"ฉลุย" พรรคเพื่อไทยจะเอา"น้ำยา"อะไรมาสู้ คนเสื้อแดงจะเอา"น้ำยา"อะไรมาต้าน ********** ข้อความข้างบนนี้ มีพี่น้องฝากมา แต่พวกเรา มดแดงล้มช้าง จงมั่นใจเถิด ทำงานของเราไป แล้วเราจะไม่ต้านพวกคนเลวเหล่านี้ แต่เราจะล้มทั้งระบอบ!!!! |
Thursday, March 10, 2016
พรรคเพื่อไทยจะเอา”น้ำยา”อะไรมาสู้ คนเสื้อแดงจะเอา”น้ำยา”อะไรมาต้าน?????
รู้ไหม เขาแอบขุดเจาะเอาน้ำมันและก๊าซบนแผ่นดินไปขาย นานและมากเท่าไหร่แล้ว???
กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 27 ภูมิพลเลี้ยวขวาตกขอบ เป็นมาเฟียกะลาแลนด์
อเนก ซานฟราน 11 มี.ค. 2559 ตอน รายงานเบื้องหลัง เหตุเกิดที่ WPI นิวยอร์ค & ความคืบหน้า ดร.ทักษิณ ชินวัตร
อเนก ซานฟราน 11 มี.ค. 2559 ตอน รายงานเบื้องหลัง เหตุเกิดที่ WPI นิวยอร์ค & ความคืบหน้า ดร.ทักษิณ ชินวัตร
หรือ
********
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
เพื่อร่วมเป็นฐานของการปฏิวัติในอนาคตอันใกล้นี้
คำต่อคำ ดร. ทักษิณ ไปพูดอะไรไว้ ที่ World Policy Institute 9 มีนาคม 2559
คำต่อคำ ดร. ทักษิณ ไปพูดอะไรไว้ ที่ World Policy Institute 9 มีนาคม 2559
หรือ
หรือ
----------------------
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน
Wednesday, March 9, 2016
ดร. ทักษิณพูดอะไรไว้ ที่ World Policy Institute ที่นิวยอร์ค 9 มีนาคม 2559
ดร.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในช่วงไฮไลต์ของการบรรยาย ที่งาน "สนทนาเป็นการส่วนตัวกับทักษิณ ชินวัตร" (Thaksin Shinawatra in Private Discussion) ซึ่งจัดโดยสถาบันนโยบายโลก (World Policy Institute) ที่นครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ ว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดของไทยจะไม่สามารถวางโครงสร้างพื้นฐานในเชิงสถาบัน ที่จะส่งเสริมให้มีการลงทุน การผลิต และความร่วมมือระหว่างไทยกับต่างประเทศได้ เนื่องจากอาจเปิดช่องให้มีการแทรกแซงอำนาจฝ่ายบริหาร และ นิติบัญญัติ โดยอำนาจพิเศษของวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้ง และฝ่ายตุลาการ
"เมื่อพิจารณาถึงเค้าโครงของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มันคงเป็นไปได้ยากที่จะได้มาซึ่งรัฐบาลที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและความท้าทายในศตวรษที่ 21 ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ ได้กำหนดให้วุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 200 คนซึ่งจะถูกแต่งตั้งโดย "ผู้เชี่ยวชาญ" วุฒิสภาจะมีอำนาจมากยิ่งขึ้นในการยับยั้งการออกพระราชบัญญัติต่างๆ ศาลรัฐธรรมนูญจะมีขอบเขตอำนาจในการตัดสินคดีที่มากยิ่งขึ้น ศาลรัฐธรรมนูญจะมีอำนาจในการไต่สวนและวินิจฉัยคดี เมื่อมีบุคคลใดก็ตามได้ดำเนินการร้องเรียน โดยไม่ได้มีเงื่อนไขที่ว่ากรณีดังกล่าวต้องเป็นข้อพิพาทจริงที่องค์กรทางการเมืองหรือศาลอื่นได้ดำเนินการยื่นเรื่องแก่ศาลรัฐธรรมนูญ"
"หากพวกเราคิดว่าหลักการแบ่งแยกอำนาจอธิปไตย คือ รากฐานเพื่อการสร้างความเจริญเติบโตและเสถียรภาพของประเทศ หัวข้อสำคัญที่พวกเราต้องพิจารณาคงเป็นเรื่องที่ว่า อำนาจตุลาการจะล่วงล้ำอำนาจนิติบัญญัติและอำนาจบริหารหรือไม่ เพื่อให้รัฐบาลสามารถบริหารเศรษฐกิจของประเทศในยุคที่เศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว ผมหวังว่าคงจะไม่มีการใช้อำนาจตุลาการที่เกินกว่าความจำเป็นอีกในอนาคต กรณีศึกษาในประเทศต่างๆ ได้แสดงให้พวกเราเห็นว่า การใช้อำนาจพิจารณาทบทวนโดยศาล โดยไม่ได้มีการถ่วงดุลและตรวจสอบ อาจกลายเป็นการใช้อำนาจอย่างไม่ เหมาะสมและเป็น "ยุทธวิธีเตะถ่วงงาน" จนสุดท้ายก่อให้เกิดอุปสรรคในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ" -- อดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ กล่าว
อดีตนายกรัฐมนตรีแสดงวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจโลกในศตวรรษที่ 21 ว่าควรให้ความสำคัญแก่การขยายความร่วมมือเพื่อสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกับประเทศคู่ค้าต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในเอเชีย ควรส่งเสริมการสร้างเครือข่ายความมั่งคั่งให้แก่ประชาชนแบบระหว่างประเทศและระหว่างภูมิภาค เพราะความเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วทางด้านเทคโนโลยีการผลิตแบบอุตสาหกรรมไปสู่ "สภาวะปกติใหม่ของโลกปัจจุบัน" หรือ "New Normal" จากรูปแบบ "การผลิตสินค้าในประเทศเดียว" สู่ "ระบบเครือข่ายการออกแบบ การสรรหาปัจจัยการผลิต และการผลิตที่มีลักษณะข้ามชาติ" และอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างมากโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย
"ประเทศไทยคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงความท้าทายของโลกในศตวรรษที่ 21 ได้ ตลอดช่วงกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยได้ถูกเชื่อมโยงเข้ากับเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง สัดส่วนมูลค่าการส่งออกต่อรายได้ประชาชาติของประเทศไทยและมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติในประเทศไทยได้แสดงให้พวกเราได้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางของเศรษฐกิจไทยที่เชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นเข้ากับชะตากรรมของเศรษฐกิจโลก" -- ดร.ทักษิณ เชื่อมโยงประเด็นสถานการณ์ไทย ที่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับนานาชาติ
ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีน กับ สหรัฐฯ ที่มักถูกมองแบบเหมารวมว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน อดีตนายกฯไทยมองว่าการปกครองที่แตกต่างกัน ซึ่งนำไปสู่นโยบายเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศที่แม้จะเป็นคนละขั้ว แต่เป็นกระบวนการคู่ขนาน ซึ่งเมื่อถึงจุดหนึ่ง จะสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมให้แก่ทั้งภูมิภาคเอเชียและโลกตะวันตก
"จีน" กินรวบรถไฟไทย ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
"จีน" กินรวบรถไฟไทย
updated: 09 มี.ค. 2559 เวลา 13:00:40 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
วันนี้ "จีน" ประเทศมหาอำนาจแห่งเอเชีย กำลังแผ่อิทธิพลการพัฒนาระบบรางมายังประเทศไทย นอกจากระบบรถไฟความเร็วปานกลาง เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-จีน ที่กำลังทำรายละเอียดโปรเจ็กต์ร่วมกัน
ขณะที่ "โบกี้บรรทุกสินค้า" 308 คัน พร้อมอะไหล่ วงเงิน 770 ล้านบาท เป็นสินค้าจากผู้ผลิตจีนเช่นกัน มี บจ.สยามโบกี้ เป็นผู้แทนจากไทย เป็นผู้จัดหาให้ ร.ฟ.ท.
ส่วน "ซื้อหัวรถจักรจีอี" 50 คัน วงเงิน 6,151 ล้านบาท เค้กประมูลล่าสุด หนีไม่พ้นได้ผู้ผลิตจากจีน เป็นกลุ่มกิจการร่วมค้า คิวเอส ประกอบด้วย บจ.ซีอาร์อาร์ซี ซิซูเอียน และ บจ.ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล ได้งานประมูลแบบไร้คู่แข่ง กำลังลุ้นจะผ่านการพิจารณาจากบิ๊กคมนาคมหรือไม่
และไม่แค่ "ร.ฟ.ท." ที่เป็นลูกค้ารายใหญ่จากจีน ปัจจุบันมี "ทีพีไอ" ของ เสี่ยประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ร่วมแจมด้วย อนาคตอันใกล้ "ปตท." น่าจะเป็นอีกรายที่จะตามมา และรายอื่น ๆ ที่กำลังมีแผนจะซื้อลอตใหญ่
สาเหตุที่ทำให้สินค้า "จีน" เป็นที่นิยมว่ากันว่าเป็นเพราะมีต้นทุนการผลิตถูกกว่าทางยุโรปอย่างน้อย 30-50% อย่าง "หัวรถจักร" จีนตั้งราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่คันละ 100-110 ล้านบาท อีกทั้งปัจจุบันจีนมีการพัฒนาเทคโนโลยีทันสมัย และได้รับไลเซนส์การผลิตจากทางยุโรปที่ผลิตสินค้าได้หลากหลายตามสเป็กที่คู่ค้ากำหนด
ติดตามข่าวสารผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat


