Sunday, January 17, 2021

ประเทศไทย ควรมีกษัตริย์หรือไม่? โดย ดร. เพียงดิน รักไทย 1 ก.ค. 2555

ย้อนฟังดร. เพียงดิน รักไทย พูดเรื่องกษัตริย์
ตั้งแต่ตอนเริ่มก่อตั้งมหาวิทยาลัยประชาชนใหม่ ๆ


"ประเทศไทย ควรมีกษัตริย์หรือไม่ควรมี" - That's the question!! รายการชวนคิดชวนคุย โดย ดร. เพียงดิน รักไทย
มหาวิทยาลัยประชาชน ประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2555
รับฟังโดยตรงทางยูทูป http://youtu.be/4QFkY0eJcoU

พิษ 112 จับขังโดยไม่ให้ประกันตัว สุดท้าย ขังเกินโทษ ทำลายชีวิตครอบครัววิศวกร

โปรดตามลิ้งค์นี้ไปอ่านให้ได้นะครับ อ่านบทสนทนาทั้งหมด: https://tlhr2014.com/archives/25137


 ‘สิรภพ’ ยันยื่นอุทธรณ์ต่อ คดี 112 ชี้ กม.ถูกใช้เป็นเครื่องมือ จัดการพวกต้านรัฐประหาร

จากกรณีที่ ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดี หมายเลขดำอ.3032/62 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสิรภพ กรณ์อรุษ เป็นจำเลยในความผิดฐานดูหมิ่นเบื้องสูง ตามมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 โดย ศาลสั่งจำคุก 6 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 4 เหลือคงจำคุก 4 ปี 6 เดือน

ศาลอาญาจำคุก 4 ปี 6 เดือน ‘สิรภพ’ หมิ่นเบื้องสูง

ทั้งนี้ นายสิรภพ จำเลย กล่าวว่า จะอุทธรณ์คดีนี้ต่อไป ตนยืนยันเจตนารมณ์ว่าจะต่อสู้เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงและต้องการเผยแพร่ต่อสาธารณะ ในวันนี้บางอย่างอาจจะพูดไม่ได้ เพราะอยู่ระหว่างต่อสู้คดี แต่เชื่อว่าวันข้างหน้าคำฟ้องทุกหน้า ข้อกล่าวหาทุกบรรทัดจะได้เผยแพร่เป็นสาธารณะ เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างกับการฟ้องร้องเอาผิดมาตรา 112 ที่เกี่ยวเนื่องกับการหมิ่นประมาทสถาบันเบื้องสูง

นายสิรภพกล่าวต่อว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่ถูกขังในระหว่างพิจารณาคดี และไม่ได้รับการประกันตัวนานที่สุด ในคดีนี้ เป็นระยะเวลา 4 ปี 11 เดือน แล้วก็มาได้รับการประกันตัวในช่วงใกล้จะมีการเลือกตั้งปี 2562 ประกอบกับมีเอกสารแถลงการณ์ของยูเอ็นกับการคุมขัง ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ได้รับการปล่อยชั่วคราว ส่วนจุดยืนของตนเองนั้น เพื่อต้องการให้เห็นว่า มีการใช้กฎหมายมาตรา 112 เป็นเครื่องมือกับฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองที่ต่อต้านการรัฐประหาร ส่วนประเด็นการถูกกล่าวหาพาดพิงสถาบันเบื้องสูงนั้น ขอไม่ตอบ เนื่องจากอยู่ระหว่างถูกกล่าวหาด้วยมาตรานี้ แต่เรื่องการต่อสู้ยังยืนยันว่าจะไม่หยุด ยังเดินหน้าต่อไ88

สิรภพหรือที่รู้จักในนามปากกาบนโลกออนไลน์ว่า "รุ่งศิลา" คือหนึ่งในผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 "หมิ่นประมาทกษัตริย์" ในช่วงหลังรัฐประหารปี 2557 จากการถูกกล่าวหาว่าเผยแพร่บทความและข้อความจำนวน 3 ข้อความบนเว็บบอร์ดประชาไทในปี 2552 และในเว็บ-เฟซบุ๊กส่วนตัวในปี 2556-2557 ซึ่งฝ่ายความมั่นคงเห็นว่าทำให้ประชาชนไม่เคารพเทิดทูนกษัตริย์ 

เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ตัดสินใจให้การปฏิเสธ ขอสู้คดีมาตรา 112 แม้เขาจะต้องแลกอิสรภาพเกือบ 5 ปีให้กับเรือนจำ เพื่อต่อสู้คดีที่ศาลยังไม่ตัดสิน ท่ามกลางสังคมสุญญากาศที่การวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายมาตรา 112 กลายเป็นเรื่องทำได้ยาก ในห้วงเวลาที่ผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 เป็นตราบาปที่สังคมไม่กล้าแม้จะเอ่ยถึง 

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนชวนสนทนากับสิรภพถึงเส้นทางการต่อสู้คดีมาตรา 112 อันยาวนานบนศาลทหาร-พลเรือน และวิธีคงความเป็นมนุษย์ในชุดผู้ต้องขังที่ทำให้ "5 ปีในคุกก็เอาเกียรติของเขาไปไม่ได้" 

ก่อนศาลอาญาอ่านคำพิพากษาคดีนี้วันจันทร์ที่ 18 ม.ค. 2564 เวลา 09.00 น. 

อ่านบทสนทนาทั้งหมด: https://tlhr2014.com/archives/25137

อ่านข้อมูลคดีมาตรา 112 ของสิรภพ: https://database.tlhr2014.com/public/case/580/lawsuit/202/

เครดิตข่าว ส่งมาทางไลน์ 


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ... (ต้องอ่านให้ได้)

 🤪🇹🇭🦖วันนี้จะขอเล่านิทานเรื่องหนึ่งให้ฟังครับ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ทำตัวเหลวแหลก ชอบเอาเงินกองทุนหมู่บ้านไปร่ำสุราเคล้านารี ทำให้ลูกบ้านไม่พอใจพากันลุกฮือประท้วงเรียกร้องให้ผู้ใหญ่บ้านปรับปรุงตัวเอง

บังเอิญว่าในช่วงนั้น กำลังเกิดโรคชนิดใหม่แพร่ไปในหลายหมู่บ้าน หมอในหมู่บ้านก็พยายามจะหายาจากหมู่บ้านอื่น ๆ มาแจก บ้างก็จะเอาสูตรปรุงยาจากหมู่บ้านอื่นมาปรุงในหมู่บ้าน แต่อยากทำคะแนนกับลูกบ้านเลยวางแผนว่าจะเอาเงินกองทุนหมู่บ้านซึ่งเก็บจากลูกบ้านมาซื้อยาแจกในนามของตัวเองภายใต้ชื่อโครงการ “วัคซีนของพ่อ(ใหญ่บ้าน)” ผู้ใหญ่บ้านจึงบอกให้หมอยาทุกคนในหมู่บ้านหยุดปรุงยาและไม่ให้ใครเอายามาขายยกเว้นบริษัทของผู้ใหญ่บ้านเท่านั้น โดยกะว่าผู้ใหญ่บ้านจะเก็บคะแนนเพิ่มอีกโดยการแจกยาเป็นหมู่บ้านแรกในละแวกนั้น จะได้ลบคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ลูกบ้านมีต่อตัวเอง

แต่ด้วยความที่ผู้ใหญ่บ้านผูกขาดยาไม่ให้ใช้สูตรอื่น ให้ใช้เฉพาะที่บริษัทผู้ใหญ่บ้านหามา และยังไม่ยอมให้คนอื่นที่มีความสามารถมากกว่าผู้ใหญ่บ้านปรุงยาหรือเอายามาแจก ทำให้ไป ๆ มา ๆ หมู่บ้านในละแวกใกล้เคียงได้ยาไปหลายที่แล้ว เหลือแต่หมู่ 10 หมู่บ้านเดียวที่ช้า ต้องรอถึงกลางปีกว่าจะได้ยา ทำให้ลูกบ้านต้องเจ็บป่วยล้มตายและสิ้นเนื้อประดาตัวมากมายจากสภาวะเศรษฐกิจหมู่บ้านซบเซา นอกจากนี้ ยังเกิดการทุจริตกันมหาศาลทำให้หมู่ 10 ต้องซื้อยาในราคาที่แพงกว่าหมู่บ้านอื่น ๆ ผู้ใหญ่บ้านเสียหน้าก็เลยให้พ่อค้าผูกขาดในหมู่บ้านไปเอายาจากจีนมาแจกไปพลาง ๆ ก่อน แต่ปรากฎว่ายาจากจีนนั้นก็ไม่มีคุณภาพ ลูกบ้านจึงพากันไม่พอใจมากกว่าเดิม

ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 จะรอดพ้นวิกฤติศรัทธานี้หรือไม่ ชะตากรรมของชาวบ้านหมู่ 10 จะเป็นยังไง โปรดติดตามตอนต่อไป



เครดิต : สหายนิรนามท่านหนึ่ง

คนไทยบางส่วน คิดว่า "มีกษัตริย์เป็นประมุข ดีที่สุดแล้ว"??? โดย ดร. เพียงดิน รักไทย 17 มกราคม 2564


คนไทยบางส่วน คิดว่า "มีกษัตริย์เป็นประมุข ดีที่สุดแล้ว"??? นักการเมืองเลว ฯลฯ แล้วฝั่งประชาธิปไตยจะทำอย่างไร?

โดย ดร. เพียงดิน รักไทย 17 มกราคม 2564

ระวัง ! แผนชั่วอนุรักษ์นิยม ดาวสยาม 2564 ใส่ร้ายพญาบาลอาสา เตรียมบึ้ม????


มีผู้แจ้งเตือนมาดังนี้: 
_______________________________________

ระวัง ! แผนชั่วอนุรักษ์นิยม ดาวสยาม 2564 ใส่ร้ายพญาบาลอาสา เตรียมบึ้ม????


นี่คือพฤติกรรมดาวสยาม ยุค 2564
สร้างความเกลียดชัง ยัดเยียดภาพชั่วร้าย
กรุยทางสร้างความรุนแรง ปราบปรามผู้เห็นต่าง 
ไม่มีทางเสื้อแดงจะมีปัญญาบึ้มที่ไหนได้ในตอนนี้ที่ทหารตำรวจเพ่นพ่านทุกซอย
พวกมันแหละจะจัดให้

สถาบัน 'ทำลายไทย'

________________________________

 

อวสาน สิระ เจนจาคะ ฝ่ายค้านหอบ145รายชื่อ ยื่น “ชวน” ส่งศาล รธน. ถอดถอน


 ฝ่ายค้านหอบ145รายชื่อ ยื่น “ชวน” ส่งศาล รธน.ถอดถอน“สิระ”ใหม่ 

ด้าน”เสรีพิศุทธ์”แขวะสิระคงแสดงอิทธิฤทธิ์ให้ถอนชื่อยาก ส่วนเลขาฯเพื่อไทยไม่หวั่น ถูกขู่ยุบพรรค ชี้ ส.ส. มีสิทธิ์ลงชื่อถอดถอนได้

เมื่อ 15 ม.ค. 2564 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ยื่นเรื่องขอให้ถอดถอนนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐนั้น เนื่องจากมีสมาชิกร่วมลงชื่อไม่ถึง 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกตามที่กฎหมายกำหนด 

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (15 ม.ค.) พรรคร่วมฝ่ายค้านได้นำรายชื่อ ส.ส. มายื่นให้ตนอีกครั้ง ประกอบด้วยพรรคเสรีรวมไทย 10 รายชื่อ พรรคเพื่อไทย 104 รายชื่อ พรรคก้าวไกล 27 รายชื่อ พรรคเพื่อชาติ พรรคประชาชาติ พรรคพลังปวงชนไทย และพรรคไทยศรีวิไลย์ อย่างละ1 รายชื่อ รวมทั้งสิ้น 145 รายชื่อ  

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ครั้งที่ผ่านมามีการยื่นทั้งหมด 62 รายชื่อ และมีความพยายามชักชวนให้มีการถอนรายชื่อ แต่ตอนนี้เรามี 145 รายชื่อแล้ว จึงอยากให้นายสิระไปแสดงอิทธิฤทธิ์อีกครั้งว่า จะสามารถดึงใครให้ถอนรายชื่อได้อีกหรือไม่ 

“วันนี้ผมจะให้เจ้าหน้าที่ไปยื่นต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งเรื่องไปยังนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อตรวจสอบความถูกต้องแล้ว ขอให้นายชวน รีบส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยเรื่องดังกล่าว อย่าใช้เวลานาน”

นอกจากนี้  พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กบ่าวขอบคุณพรรคร่วมฝ่ายค้านที่สามัคคีกัน และเรื่องนี้ควรให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย อย่างไรก็ตาม ในคำร้องนั้น ได้ขอให้ศาลพิจารณาเบื้องต้นด้วยว่า หากเห็นเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนว่ามีความผิด ก็ขอให้วินิจฉัยให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปด้วย

ส่วนนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงนายสิระ อาจจะมีการยื่นยุบพรรคเพื่อไทยว่า ต้องขอดูประเด็นในการยื่นยุบพรรคเพื่อไทยที่นายสิระจะยื่นก่อน อย่างไรก็ตาม กรณีที่พรรคเพื่อไทยรวบรวมรายชื่อ ส.ส. เพื่อยื่นถอดถอนนายสิระผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรไปยังศาลรัฐธรรมนูญนั้น เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญซึ่งสามารถกระทำได้

แหล่งข่าว : 

Saturday, January 16, 2021

หัวใจสำคัญของแนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง

 หัวใจสำคัญของแนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง

ลิ้งค์สำหรับดาวน์โหลดเพื่อเผยแพร่ pdf: http://tinyurl.com/jpsbcvn
ดร. เพียงดิน รักไทย 25 กุมภาพันธ์ 2559 (สรุปและพัฒนาจากความคิดเดิม เมื่อปี 2554),,,,"Piangdin Rakthai"


หนึ่ง การพัฒนาศักยภาพประชาชน คือหัวใจสำคัญที่สุด ของกระบวนการปฏิวัติ (ปัจจัยสู่ชัยชนะ) และผลของการปฏิวัติ (ชัยชนะ) ที่ยั่งยืน โดยปัจจัยที่เอื้อให้การพัฒนา และการประสพชัยชนะได้อย่างแท้จริงและรวดเร็ว คือความไม่กลัว ความฉลาดเท่าทันเกมเผด็จการ และการใช้ความได้เปรียบทุกรูปแบบในการสร้างความเปลี่ยนแปลง
สอง ต้องเน้นการใช้จุดแข็งสู้จุดอ่อนของเผด็จการ กล่าวคือ ต้องใช้ความได้เปรียบเช่น จำนวนอันมหาศาลของประชาชนผู้ถูกกดขี่ ความชอบธรรมของประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง หลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก สันติวิธีที่จะทำให้อำนาจปืนและอำนาจเถื่อนเสื่อมสมรรถภาพ เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดที่ช่วยเผยแพร่ความรู้ ความจริง ข่าวสาร และการประสานงาน ตลอดจนความได้เปรียบทางชัยภูมิ
สาม ต้องยืนบนหลักการสากล อันได้แก่ หลักประชาธิปไตยที่แท้จริงและสมบูรณ์ หลักสิทธิมนุษยชน หลักสันติวิธี และความจริง เหล่านี้คือสิ่งดีที่ปวงชนปฏิวัติต้องยึดถือและพัฒนาตัวเองให้สอดคล้อง ในขณะที่จะต้องต่อต้าน ขจัด หรือทำลายสิ่งที่ตรงข้ามในทุกมิติที่ทำได้ บนสติและความหยั่งรู้ว่า ปวงชนต้องทำตัวหรือยกระดับคุณภาพของตนให้สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นเป้าหมายของการปฏิวัติด้วย (เทียบเคียงได้กับหัวใจของศาสนาพุทธ คือ ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำใจให้ปราศจากกิเลส)
สี่ ประชาชนจะต้องเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง (ระบอบ) ที่ครอบงำ เอารัดเอาเปรียบ กดขี่ ข่มเหง และยัดเยียดความทุกข์ให้พวกเขาในทุกมิติ คือ การเมืองการปกครอง การทหาร เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา ศาสนา สาธารณสุข และการต่างประเทศ โดยต้องเข้าใจว่า ตัวบุคคล โครงสร้างองค์กรหรือสถาบันต่าง ๆ กลไกและเครื่องมือต่าง ๆ ความเชื่อและวิถีปฏิบัติที่ครอบงำ (วัฒนธรรม) และจิตสำนึกที่ถูกสร้างขึ้นโดยชนชั้นที่ได้เปรียบหรือเอาเปรียบ และจะต้องช่วยกันยกระดับคนรอบข้างให้เป็นผู้รู้และเข้าใจอย่างเท่าทันต่อการกดขี่และเอารัดเอาเปรียบเชิงโครงสร้างเหล่านั้น เพื่อเป็นฐานสำหรับการเคลื่อนไหวต่อสู้ในทุกมิติ
ห้า ความสำเร็จของการปฏิวัติประชาชนในยุคปัจจุบันต้องอยู่บนความพร้อมของปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่สานสอดกัน คือ มวลชนที่พร้อมทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ อุดมการณ์ร่วมและแนวทางที่เป็นเอกภาพ ขบวนนำที่มีความชอบธรรมและจริงจังต่อระบอบประชาธิปไตย กองทัพที่ต้องรับใช้ประชาชน และมหามิตรประเทศที่พร้อมช่วยเหลืออย่างจริงจัง
หก เป้าหมายของการปฏิวัติเป็นไปตามยุทธศาสตร์รับ ยัน รุก และรุกฆาต ในแต่ละมิติตามวิสัยที่เป็นจริง แต่จะต้องมุ่งให้ประชาชน ตาสว่างทั้งแผ่นดิน ต่อต้านขัดขืนสิ่งชั่วร้ายในทุกมิติ แล้วไม่ยอมรับให้ผู้ปกครองเถื่อนปกครองอีกต่อไป และเมื่อความพร้อมมาถึง ประชาชนจะยึดอำนาจคืนมา เพื่อจัดการสร้างชาติใหม่บนหลักการในข้อสาม ข้างต้น (ล้มช้าง สร้างชาติ)
เจ็ด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้างต้องยึดหลักการใช้พลังธรรมอันมหาศาลขับไล่อธรรม หรือเอาน้ำดีมหาศาลไล่น้ำเสีย เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียอย่างควบคุมไม่ได้และยืดเยื้อเกินไป เช่นการ สังหารประชาชนมือเปล่าอย่างโหดร้าย หรือสงครามกลางเมือง หรือการแทรกแซงของต่างประเทศบนความเสียหายของชาติอันใหญ่หลวง
แปด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ถือเป็นการแก้ปัญหาในบ้านของคนไทยทุกคน ที่เป็นพี่น้องร่วมชาติ ไม่ใช่ศัตรูต่างด้าวที่ต้องเข่นฆ่ากันให้อาสัญ ดังนั้น เป้าหมายจึงอยู่ที่การสร้างสภาวะที่ทำให้คนที่ทำผิดได้เกิดสำนึกแล้วกลับตัว เพื่อก้าวร่วมกันต่อไป ดังนั้น การคิดสร้างสรรค์ การปรับจิตสำนึก การให้ความเป็นธรรม การเคารพหลักสิทธิมนุษยชน และการใช้อารยวิธี จึงเป็นสิ่งที่ ขบวนปฏิวัติต้องยึดถือด้วยความรับผิดชอบต่อชะตากรรมของบ้านเกิดเมืองนอนร่วมกันของประชาชนทุกคน
เก้า การลุกขึ้นประกาศจุดยืนไม่ยอมรับการปกครองอันมิชอบของเครือข่ายเผด็จการทรราชย์โดยคนไทยทั่วประเทศในทุกจังหวัด คือวันดีเดย์ของการรุกฆาตต่อระบอบเผด็จการ และวันนั้น จะถูกกำหนดด้วยความพร้อมของทั้งขบวนในข้อห้า และภววิสัยที่เอื้อให้เกิดความสำเร็จที่ยั่งยืนบนความเสียหายที่น้อยที่สุด
สิบ ชัยชนะที่แท้จริงที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน คือการเปลี่ยนให้ประชาชน เป็นผู้รู้และเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง แล้วยกตนขึ้นเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ด้วยวิถีปฏิวัติในแต่ละวันที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อประชาชนคือผู้ที่ทำตัวสอดคล้องกับหลักการการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนได้จนเป็นนิสัยประจำชาติแล้ว ความสำเร็จที่ยั่งยืนจึงจะได้รับการประกันในที่สุด

ย่างเข้า 2564 ประยุทธ์และคสช. สร้างหนี้สะสม เกือบแปดล้านล้านบาท เกือบทะลุ 60% GDP

 Bright TV ได้สรุปสถานการคลังของประเทศไทย ใต้การบริหารของประยุทธ์ จันทร์โอชาและคณะฯ ดังนี้

ถานะและประมาณการการคลัง

1.ประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิปีงบประมาณ 2565 – 2568 เท่ากับ 2,400,000 2,490,000 2,619,500 และ 2,750,500 ล้านบาท ตามลำดับ ทั้งนี้ การจัดทำประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิดังกล่าวมีสมมติฐานด้านนโยบายทางภาษีที่สำคัญ ได้แก่ การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ (e-service) รายได้จากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรคมนาคม รวมทั้งผลจากการปรับเปลี่ยนระบบสัญญาสัมปทานปิโตรเลียมเป็นระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (Production Sharing Contract: PSC)

2.ประมาณการงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 2565 – 2568 เท่ากับ3,100,000 3,200,000 3,310,000 และ 3,420,000 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งมีสมมติฐานที่สำคัญ เช่น สัดส่วนงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นร้อยละ 2.0 – 3.5 ของวงเงินงบประมาณ รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้มีสัดส่วนร้อยละ 2.5 – 4 ของวงเงินงบประมาณ ค่าใช้จ่ายบุคลากรมีอัตราเพิ่มโดยเฉลี่ยไม่เกินร้อยละ 3.5 โดยใช้มาตรการให้หน่วยรับงบประมาณที่มีเงินรายได้นำมาสมทบ เป็นต้น

3.จากประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิและงบประมาณรายจ่ายดังกล่าวในปีงบประมาณ 2565 – 2568 รัฐบาลจะขาดดุลงบประมาณจำนวน 700,000 710,000 690,500และ 669,500 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.0 3.9 3.6 และ 3.4 ต่อ GDP ตามลำดับ

4.ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นปีงบประมาณ 2563 มีจำนวน 7,848,156 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 49.3 ต่อ GDP และประมาณการสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP สำหรับปีงบประมาณ 2565 – 2568 เท่ากับร้อยละ 57.6 58.6 59.0 และ 58.7 ตามลำดับ

(Source: https://www.brighttv.co.th/news/politics/public-debt-2020)

หากท่านสนใจความหมายของคำว่า หนี้สาธารณะและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง สามารถไปดูที่เว็บไซต์สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ที่ https://www.pdmo.go.th/th/faq-debt. ซึ่งเว็บไซต์แห่งนี้ได้สรุปหนี้สินในประเทศและต่างประเทศดังแผนภาพข้างล่าง ว่า 98.26% เป็นหนี้ในประเทศ คิดเป็นเงิน 7, 787,183.20 ล้านบาท และที่เหลือเป็นหนี้ต่างประเทศ อีก 138,194.49 ล้านบาท



 

ต้องแบบนี้! เสื้อแดงอีสาน ประกาศตั้งแนวร่วมราษฏร สนับสนุน 3 ข้อเรียกร้อง

 


กลุ่มเสื้อแดงอีสานยกพลหนุนลูกหลานราษฎร​





ศาลปกครองสูงสุดสวีเดนยืนยัน แบน "หัวเหว่ย" จากเครือข่าย 5G


หัวเหว่ยตัดสินใจยื่นอุทรณ์การตัดสินของศาลสวีเดนราวกลางปีที่แล้ว
ด้วยข้ออ้างว่าเป็นการกีดกันการค้า แต่ศาลปกครองสูงสุด
ยืนยันแบนหัวเหว่ยจากเครือข่าย 5G ของประเทศในที่สุด

รายละเอียดเพิ่มเติมตามคลิป เครดิต NTD Thai