Tuesday, December 29, 2015

ใครเข้าเฝ้าเปรมบ้าง? เช็คกำลังพลของทหารไทย

Edit
ความเคลื่อนไหวที่ บ้านสี่เสาเทเวศร์ เช้านี้ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เปิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ ให้เข้าอวยพรปีใหม่ ล่าสุด พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีและว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะผู้นำเหล่าทัพ ได้แก่ ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี เข้าอวยพรปีใหม่ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
Edit

จับตาให้ดี ใครอวยใคร ในบรรดาทหารของพระราชาไทย

Edit
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดบ้านให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าอวยพรในวันขึ้นปีใหม่ 2558 ภายในบ้านพัก กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1รอ.) โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพ ข้าราชการทหาร และตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นายทหารระดับสูงในกองทัพ คณะกรรมการมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าร่วมอวยพรตั้งแต่ในช่วงเช้า อาทิ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ  โดยมี พล.อ.อุดมเดช เป็นตัวแทนมอบกระเช้าและกล่าวอวยพรปีใหม่


Edit

"ป๋าเปรม" เปิดบ้านรับอวยพรปีใหม่ ขอทุกคนสามัคคี เชื่อความดีเป็นเกราะคุ้มกัน แซวนายกฯตอนเช้าอารมณ์ดี กลางวันขุ่นมัว เชื่อมั่น "บิ๊กโด่ง" ไม่ใช่คนแบบนั้น

Edit
"ป๋าเปรม" เปิดบ้านรับอวยพรปีใหม่ ขอทุกคนสามัคคี เชื่อความดีเป็นเกราะคุ้มกัน แซวนายกฯตอนเช้าอารมณ์ดี กลางวันขุ่นมัว เชื่อมั่น "บิ๊กโด่ง" ไม่ใช่คนแบบนั้น

วันที่ 30 ธ.ค. - พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ อำนวยพรแด่นายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ภายหลังเข้ามอบกระเช้าดอกไม้ และเข้าอวยพรเนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2559 ว่า ขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่นำ ผบ.เหล่าทัพเข้ามาอวยพร สุขใจมากที่ได้พบกับพวกเราถึงแม้ว่าจะไม่กี่ครั้งก็ตาม ซึ่งไม่ว่าอย่างไร วิญญาณ จิตใจ และร่างกายของผม ยังมีความเป็นทหารอยู่ตลอด ขอบคุณนายกฯ ที่ไม่ลืมกัน ยังมีความเป็นเพื่อน เป็นมิตร เป็นพี่ เป็นน้องกัน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่นายกฯ เอ่ยถึงคือความรัก ความสามัคคี ตามพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้รู้รักสามัคคี เพราะถ้าเราไม่เข้าใจ และนำไปใช้ก็จะเป็นที่น่าเสียดาย เราต้องรู้จักความรัก และนำความรักความสามัคคีไปใช้บริหารประเทศ บริหารหน่วยของเรา อย่างที่กำลังทำอยู่ ทั้งนี้ตนเข้าใจดีว่านายกฯ และทุกคนเหนื่อยมาก ๆ แต่ถ้าเราเหนื่อยแล้วคนไทยมีความสุข ไม่มีทุกข์ มีเงิน ก็คือสิ่งที่เราปรารถนา ซึ่งเป็นการทำเพื่อชาติ ทั้งนี้เราต้องแสดงความรักสามัคคี รักผู้ใต้บังคับบัญชา รักประชาชน รักสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นของบ้านเรา และต้องแสดงให้ต่างชาติเห็นถึงความสามัคคี

ทั้งนี้ดีใจที่นายกฯได้สละความสุขส่วนตัว เพื่อคนอื่น เพื่อชาติบ้านเมือง และประชาชน โดยวันนี้ ได้ถามนายกฯ ว่าอารมณ์ดีหรือไม่ นายกฯได้ตอบว่า ตอนเช้าอารมณ์ดี แต่สาย ๆ อารมณ์เริ่มขุ่นมัว แต่ถึงอย่างไรนายกฯก็เป็นคนเข้มแข็ง สู้ไม่ถอย ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดี เรื่องความรักความสามัคคีทุกคนเริ่มได้ที่ตัวเราเอง ให้เห็นว่าคนดี คือนายกฯ ที่กำลังทำถ้าทำได้อย่างดีเชื่อว่าเราจะมั่นคงแข็งแรง ทนต่อความทุกข์ยากของราษฎร เขาฝากความหวังที่นายกรัฐมนตรี และพวกเรากองทัพ และตำรวจ เราต้องรักสิ่งนี้ และทำให้ได้ แม้จะยาก แต่เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เห็นว่ากองทัพที่ได้รับจัดสรรงบฯ เพื่อช่วยเหลือบ้านเมืองจริง แสดงให้เห็นว่าเรารักเขาจริง ๆ มาเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่ได้เข้ามาเพื่ออำนาจ

ทั้งนี้ ตนอาจไม่ได้ช่วยอะไรมาก อายุมากแล้ว แต่ช่วยคิด ให้กำลังใจ และความรู้บ้างพอสมควร และเป็นเพื่อน ตนพร้อมจะช่วยด้วยความรัก ความเป็นมิตร สามัคคี ซึ่งความดี คือเกราะกำบังที่ไม่มีใครมาทำอันตรายเราได้ หากทำความดีทุกวัน จะช่วยให้เราสำเร็จ มีจิตใจชื่นบานในการช่วยเหลือคนอื่น ขอให้ทำความดี อย่างไรก็ตามขอขอบคุณทุกคนที่มา และที่ไม่มาด้วย ฝากความปรารถนาดีทุกคน หวังว่านายกรัฐมนตรีจะนำพาประเทศไปสู่ความพอมีพอกิน มีความสุขตามที่สิ่งต่าง ๆ รอบตัวเราจะทำได้ ขออวยพรให้ทุกคนสำเร็จงาน ทำเพื่อชาติบ้านเมือง ขอให้ทุกคนเข้าใจ และคนที่เข้าใจผิดขอให้เข้าใจถูก ขอให้นายกรัฐมนตรี และพวกเราที่ตั้งใจประสบผลสำเร็จในไม่ช้านี้

อย่างไรก็ตามระหว่างที่ พล.อ.เปรมพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ได้พูดคุยกับ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า "เชื่อว่าเป็นคนดี ความดีจะคุ้มครอง เชื่อว่าโด่งไม่เป็นคนแบบนั้น"
Edit

สรุปสถานการณ์เมืองไทย 30 ธันวาคม 2558

Edit
จากสหายปรีชา

สถานการณ์ภายใน : ด้านเศรษฐกิจ ย่ำแย่ การเมือง กดขี่ชัดเจน พาดพิงหมาทองแดง ก็ยังโดน112 ลงไปไล่จับเด็กๆนักศึกษา ยัดข้อหาสารพัด รายได้ทั้งรัฐ/เอกชนหดหาย โดนตัดสิทธิ์/ตัดโควต้า
ขุนศึกและอำมาตย์ขัดแย้งกันชัดเจนและรุนแรงมาก
สร้างความเดือดร้อนทุกด้าน เกิดการเปรียบเทียบมากขึ้น
ด้านต่างประเทศ : ถูกตัดสิทธิ์และประณามมากขึ้นทั้งจากมหาอำนาจและองค์กรระหว่างประเทศ ต้องหันไปแอบอิงจีนซึ่งเอาแต่ได้ กลายเป็นเพิ่มไม่พอใจให้สหรัฐ/ยุโรป
: กระแสเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงกำลังคุกรุ่นมากขึ้น ในลักษณะเชิงคุณภาพ



Edit

สรุปสถานการณ์เมืองไทย 30 ธันวาคม 2558

Edit
จากสหายปรีชา

สถานการณ์ภายใน : ด้านเศรษฐกิจ ย่ำแย่ การเมือง กดขี่ชัดเจน พาดพิงหมาทองแดง ก็ยังโดน112 ลงไปไล่จับเด็กๆนักศึกษา ยัดข้อหาสารพัด รายได้ทั้งรัฐ/เอกชนหดหาย โดนตัดสิทธิ์/ตัดโควต้า
ขุนศึกและอำมาตย์ขัดแย้งกันชัดเจนและรุนแรงมาก
สร้างความเดือดร้อนทุกด้าน เกิดการเปรียบเทียบมากขึ้น
ด้านต่างประเทศ : ถูกตัดสิทธิ์และประณามมากขึ้นทั้งจากมหาอำนาจและองค์กรระหว่างประเทศ ต้องหันไปแอบอิงจีนซึ่งเอาแต่ได้ กลายเป็นเพิ่มไม่พอใจให้สหรัฐ/ยุโรป
: กระแสเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงกำลังคุกรุ่นมากขึ้น ในลักษณะเชิงคุณภาพ



Edit

เครือข่ายเจ้าไทยหาเงินจากการขายอวัยวะของหญิงไทย THAI MONARCHY NETWORKS EARN MONEY FROM SEXUAL ORGANS OF THAI WOMEN TO NA...

Edit

เครือข่ายเจ้าไทยหาเงินจากการขายอวัยวะของหญิงไทย  THAI MONARCHY NETWORKS EARN MONEY FROM SEXUAL ORGANS OF THAI WOMEN TO NA...

 

 

Edit

ความเข้าใจผิดของประยุทธ จันทร์โอชา เรื่อง การเสียภาษีของคนไทย (เครดิต คุณตระกองขวัญ)

Edit
ตระกองขวัญ's photo.
9 hrs ·


คุณประยุทธ จันทร์โอชา ครับ

สิ่งที่คุณพูดเมื่อวานนี้ที่สุราษฎร์ธานี
ตอกย้ำชัดครับ
ว่าคุณไม่มีความรู้ ไม่มีความเข้าใจในเรื่องที่คุณพูด

คุณพล่าม ว่า

"ประเทศไทยมีคน 70 ล้านคน อยู่ในระบบภาษี 10 ล้านคน
เหลือเสียภาษีประมาณ 4 ล้านคน
อีก 6 ล้านคน ลดหย่อนตรงนั้นตรงนี้
ดังนั้น 4 ล้านคน ถือเป็นหลักของประเทศ
เพื่อนำมาขับเคลื่อนประเทศ"

นี่เรียกว่า พล่ามแบบไม่รู้ ไม่มีความรู้ความเข้าใจสักนิด

การนำประชาชนทุกคนเข้าในระบบภาษีนั้นเป็นเรื่องดีครับ
แต่คนที่คิดจะทำ และจะลงมือทำ
ควรมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่ตัวเองจะทำก่อนสักนิด

ไม่ใช่ไม่รู้ แล้วก็พล่ามแสดงความงี่เง่าออกมา

คุณประยุทธ ครับ รู้ไหมครับ
ประเทศไทยเก็บภาษีได้ปีละประมาณสองล้านล้านบาท
จากกรมสรรพากรประมาณ 1.7 ล้านบาท
จากกรมสรรพาสามิตอีกราว 3 แสนล้านบาท

ไอ้ที่คุณว่า 4 ล้านคนที่เสียภาษี
แล้วบอกเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนประเทศน่ะ
เพื่อใช้เป็นเหตุผลว่าทุกคนควรเข้าสู่ระบบภาษีน่ะ

เป็นการพล่ามแบบไม่รู้อย่างโง่บัดซบเลยครับ

ภาษีที่กรมสรรพากรเก็บได้ 1.7 ล้านบาทนั้น
เป็นภาษีบุคคลธรรมดาแค่ 2.8 แสนล้านเท่านั้นครับ

จิ๊บจ๊อยมาก แล้วจะขับเคลื่อนประเทศได้อย่างไร

เงินภาษีที่เป็นตัวขับเคลื่อนจริง ๆ นั้น
มาจากเงินภาษีสองตัวครับ

หนึ่ง คือภาษีจากบริษัทห้างร้านต่าง ๆ
ที่เรียกว่าภาษีนิติบุคคล ประมาณ 5.6 แสนล้านบาท

สอง คือภาษีมูลค่าเพิ่มที่เก็บจากประชาชนทุกคน
เป็นภาษีทางอ้อมที่ทุกคนต้องจ่ายเมื่อจับจ่ายใช้เงิน
เป็นภาษีที่เก็บได้มากที่สุดครับ
ประมาณ 7.2 แสนล้านบาท

ภาษีมูลค่าเพิ่มนี่แหละครับคือตัวหลักขับเคลื่อนประเทศ
ภาษีมูลค่าเพิ่มนี่แหละครับมาจากประชาชนจน ๆ มากที่สุด
ที่คุณเข้าใจผิด ๆ ว่า พวกเขาไม่ได้เสียภาษี

ประชาชนทุกคนล้วนเสียภาษีทั้งนั้นครับ
บางคนเสียทางตรง บางคนเสียทางอ้อม

ทีหลังก่อนจะพล่ามอะไร
ให้แสดงถึงความรู้ในเรื่องนั้น ๆ ก่อนครับ

อย่าดีแต่พล่าม

อีกเรื่องที่คุณพูด
คือเรื่องใส่ข้อมูลอาชีพ-รายได้ลงในบัตรประชาชน

คุณอ้างว่าเพื่อเป็นข้อมูลช่วยคนยากจน
ใช้ขึ้นรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี
และในอนาคตก็อาจสามารถขึ้นรถไฟฟ้าฟรีได้

มั่วไปใหญ่เลยครับ

รถเมล์ รถไฟฟรีทุกวันนี้ ดีอยู่แล้วครับ
ที่บอกว่า เป็นรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี จากภาษีประชาชน

คนจน คนรวย สามารถใช้บริการได้หมด
อย่างเท่าเทียมกัน

และปกติ คนไม่จน เขาไม่ขึ้นหรอกครับ
ไม่ว่ารถเมล์ฟรี รถไฟฟรี เขาไม่ขึ้นหรอก

ทีนี้ ถ้าคุณใช้บัตรประชาชนในการขึ้นฟรี
ก็จะเป็นการแบ่งแยกประเภทประชาชนทันทีครับ

เป็นภาพที่ไม่สวยเลยสำหรับประชาชนและประเทศชาติ

นึกภาพดูสิครับ
ประชาชนคนนั่งในรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี
จะถูกจัดเป็นพวก "จน" เป็นชนชั้นไม่มีจะกิน

ขณะที่แบบเดิม รถเมล์ รถไฟฟรีจากภาษีประชาชน นั้น
อย่างไรก็ให้ภาพที่ดีว่า ใครก็ขึ้นได้ ไม่ว่ารวยหรือจน

อย่าให้บ้านเมืองถอยหลังไปถึงห้าสิบปีก่อนเลยครับ
เหมือนประเทศอเมริกาที่แบ่งแยกคนขาว-คนดำ

รถเมล์ รถไฟ ร้านอาหาร โรงหนัง แม้กระทั่งห้องน้ำ
หากคนขาวใช้ คนดำห้ามใช้

เป็นการแบ่งแยกชนชั้นและหมู่พวก

อยากเห็นเมืองไทยเป็นแบบนั้นเหรอครับ
คนจนนั่งรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี
คนมีเงินนั่งรถเมล์อีกประเภท รถไฟอีกประเภท

ไม่สวยเลยครับ

เรื่องรถไฟฟ้าฟรีก็เหมือนกัน
แค่เรื่องสามสิบบาทรักษาทุกโรค คุณยังบ่นว่าเปลือง
แล้วดันสะเออะคิดเรื่องรถไฟฟ้าฟรี

รถไฟฟ้าน่ะ คนจนเขาไม่มีเงินพอที่จะขึ้น
ก็อย่าไปเดือดร้อนแทนเขาเลยครับ

แค่รถเมล์ รถไฟ จากภาษีประชาชนก็พอแล้ว
แค่เรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรคเขาก็พอใจแล้ว
(หาเรื่องจะเลิก 30 บาทอยู่ตลอด เพื่อทำลายผลงานทักษิณ
พอหาเรื่องที ก็โดนด่าโดนต้านที ก็ออกมาแถว่าไม่เลิกไปที)

หากไปคิดถึงเรื่องรถไฟฟ้าฟรี
จะจ่ายเอกชนเท่าไร มีวิธีอย่างไร
จะเหมาจ่ายแบบรถเมล์รถไฟ ไม่ไหวแน่ ๆ ครับ ไม่คุ้มแน่ ๆ
จะแยกขบวนรถไฟฟ้า ก็เป็นการแบ่งแยกประชาชน

รถไฟฟ้าน่ะ
ไม่ได้วิ่งไปวกวนตามถนนเหมือนรถเมล์นะครับ

คนจนอยู่ห่างเส้นทางรางรถไฟฟ้ามาก
ใครจะถ่อมาขึ้น

รถไฟฟ้าวิ่งไปตามเส้นทางธุรกิจเป็นหลัก
คนจนที่ไหนทำงานย่านธุรกิจจนต้องใช้รถไฟฟ้า

คิดอะไร ทำอะไร ให้มันเข้าท่าหน่อยเถอะครับ
ให้ประชาชนเห็นว่า รู้งาน เป็นงาน
ไม่ใช่พล่ามตะบัน รู้ทุกเรื่อง แต่ไม่ได้เรื่องสักเรื่อง

คุณยึดอำนาจมากว่าปีครึ่งนี่
ผมเห็นคุณทำเรื่องเข้าท่า และน่าจะทำได้ดีอยู่เรื่องเดียวครับ

คือขับตุ๊ก ๆ

หากสงสารบ้านเมือง ก็ไปซะเถอะครับ
ไปขับตุ๊ก ๆ ดีกว่า

นะครับ

Edit

Sunday, December 27, 2015

ดร. เพียงดิน รักไทย 28 ธันวาคม 2558 "ประชาชนไทย สู้เผด็จการผู้มากฤทธิ์เดช ได้จริงหรือ? มดแดงล้มช้าง คือทฤษฎี หลอกชาวบ้านไปตายหรือเปล่า?"

Edit



ดร. เพียงดิน รักไทย 28 ธันวาคม 2558 "ประชาชนไทย สู้เผด็จการผู้มากฤทธิ์เดช ได้จริงหรือ? มดแดงล้มช้าง คือทฤษฎี หลอกชาวบ้านไปตายหรือเปล่า?"
https://youtu.be/tNqthfYa_dI
หรือ
https://youtu.be/JXocmnNPirY

Edit

ดร. เพียงดิน รักไทย 28 ธันวาคม 2558 "ประชาชนไทย สู้เผด็จการผู้มากฤทธิ์เดช ได้จริงหรือ? มดแดงล้มช้าง คือทฤษฎี หลอกชาวบ้านไปตายหรือเปล่า?"

Edit



ดร. เพียงดิน รักไทย 28 ธันวาคม 2558 "ประชาชนไทย สู้เผด็จการผู้มากฤทธิ์เดช ได้จริงหรือ? มดแดงล้มช้าง คือทฤษฎี หลอกชาวบ้านไปตายหรือเปล่า?"
https://youtu.be/tNqthfYa_dI
หรือ
https://youtu.be/JXocmnNPirY

Edit

จุดด่างนราพร จันทร์โอชาและ วิภาดา สูตะบุตร จริงหรือ? จงช่วยกันพิสูจน์

Edit
จุดด่างนราพร จันทร์โอชาและ วิภาดา สูตะบุตร สองอดีตนายกสมาคมแม่บ้านทหารบก มีเบื้องหลังมุ่งพากันรวยเมื่อเทคทีมแบ่งสาย รวมหัวเหล่าหลังบ้านนายทหารใหญ่เรียกเก็บผลประโยชน์ปลายทางจากตำแหน่งหน้าทีการงานของสามี นราภรกินยาวได้จากพลเอกประยุทธ์นั่งติดในตำแหน่ง ผบ.ทบ.นาน 4 ปี ยังรวยไม่พอนราพรตามมาหาประโยชน์ต่อในภาคการเมือง คุมหัวคิวเบ็ดเสร็จเป็นกอบเป็นกำ ถึงจะทำเงียบๆ มีระบบมากกว่าที่วิภาดาทำ ที่พลเอกอุดมเดชสามีเป็น ผบ.ทบ.เพียงปีเดียว เลยพาพวกกินสะนั่นเมือง นางนราพรใช้พลโทหญิงสุพัตรา รัตนสุบรรณภรรยาพลเอกดาว์พง ว่ากันว่านอมินีบังหน้าเป็น ดูจากงานที่กระทรวงศึกษานราพรขอพลเอกประยุทธ์อ้างมาจัดเรื่องการศึกษาเน้นวิชาประวัติศาสตร์สุดโต่งเป็นหลัก เด็กๆต้องเรียนประวัติศาสตร์ตามใจนางนราพร ที่อดีตเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ ชำนาญแต่การใช้อำนาจกับลูกน้องสามี นำหลักการบริหารในสมาคมแม่บ้านทหารบก มาใช้ทุกที่ไม่เว้นในธรรมเนียบรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ เปิดห้อง ครม.ประชุมคู่สมรสรฐมนตรี โชว์พาวเวอร์เข้ามาขอเงินสามีดื้อๆ นราพรก็ทำมาแล้วอ้างจะไปทำสารคดีเทิดพระเกียรติเอาหน้า แต่ก็ไม่แปลกพลเอกประยุทธ์เองชอบให้ภรรยาทำแบบนี้ เห็นว่าชื่นชมกับนักข่าวนราพรเก่งทุกด้าน ช่วยทำมาหากินทุกอย่าง ส่วนนางวิภาดาน้องรักของนราพร เดินตามรอยพี่มาติดๆ เพราะพลเอกอุดมเดชอยู่เป็น ผบ.ทบ.แค่ปีเดียว ฝีมือการจ้วงหัวคิว เรียกรับส่วยของวิภาดายังห่างไกลพี่นราพรมาก วิภาดากินมูมมามและพาพวกแทะเสียงดัง แข่งกับเวลาที่จำกัดจำเขี่ย วิภาดาได้ออกแรงไปหาทุนช่วยสามีไถวงการธุรกิจเข้าโครงการสร้างอุทยานราชภักดิ์ด้วย ใช้บารมีสามีไม่บันยะบันยังเลย ลงเรียนทุกหลักสูตรที่จะได้เจอกับนักธุรกิจใหญ่ๆ ทั้ง วปอ.หลักสูตร วตท.หารุ่น หาแนวร่วมเป็นเสี่ยกระเป๋าหนักๆส่งผลให้เงินบริจาคเข้าโครงการราชภักดิ์ทางฝ่ายพลเอกอุดมเดชมีมากด้วย แต่ในส่วนของวิภาดาหาได้ ฝ่ายแม่บ้านแจ้งว่าไม่ต้องเอาเข้าหลวง วิภาดาจะเป็นคนบริหารทรัพย์สินส่วนนี้ตามอัธยาศัยเอง จนเป็นฮือฮาเม้าท์สนั่นตามหลังวิภาดาไปติดๆ เมื่อพวกสามีหลุดโคจรศูนย์อำนาจ ทั้งนางนราพรและนางวิภาดาจะต้องถูกตราหน้าว่าทำให้สามีเสื่อมเสียเกียรติภูมิ เพราะมุทะลุดุดันในเรื่องการใช้อำนาจกับในเรื่องการหาส่วนต่างของประโยชน์เงินทองเยอะเหลือเกิน
Edit

บทสะท้อนเชิงหลักการต่อรัฐไทยในความขัดแย้งไทย–กัมพูชา

บทสะท้อนเชิงหลักการต่อรัฐไทยในความขัดแย้งไทย – กัมพูชา บทนำ : การเลือกข้างที่ไม่ละทิ้งหลักการ ในความขัดแย้งระหว่างรัฐ การ “ ไม่เลือกข้าง ”...