ยินดีต้อนรับ

พลเมืองที่รอบรู้เท่าทัน คือ พลังประชาธิปไตยที่แท้จริง
Well-informed citizens are the true democratic forces.

Saturday, May 31, 2025

เรื่องเล่าของสองเพื่อนบ้าน: กัมพูชากับไทยและเงามังกรจีน



ลองนึกภาพกัมพูชาและประเทศไทยเป็นสองบ้านที่อยู่ติดกันบนถนนสายเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บ้านทั้งสองมีประวัติศาสตร์ยาวนานเหมือนพี่น้องที่ทะเลาะกันเรื่องมรดกครอบครัว เมื่อเร็ว ๆ นี้ กัมพูชาดูเหมือนจะแสดงความเป็นชาตินิยมและท่าทีแข็งกร้าวต่อไทย ราวกับน้องเล็กที่อยากพิสูจน์ตัวเอง แต่เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การทะเลาะของเพื่อนบ้าน มันอาจเป็นส่วนหนึ่งของแผนการใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) ที่ต้องการครองอาเซียน โดยมีประเทศไทยเป็นเป้าหมายที่ยังไม่สมบูรณ์ มาดูเรื่องราวนี้ให้เข้าใจง่าย ๆ กัน

สองบ้าน สองสไตล์
กัมพูชา เหมือนน้องเล็กที่ตัวเล็กแต่ใจใหญ่ มีประชากร 16 ล้านคน เศรษฐกิจเติบโตเร็วถึง 6% ในปี 2567 จากการส่งออกเสื้อผ้าและท่องเที่ยว แต่กัมพูชายังพึ่งพาการลงทุนจากจีนมาก รัฐบาลของนายกฯ ฮุน มาเนต และพ่อของเขาคือ ฮุน เซน ควบคุมประเทศแน่นหนา ความเป็นชาตินิยมของกัมพูชาคือไฟที่ลุกโชนจากความภูมิใจในจักรวรรดิเขมรโบราณ แต่ก็รู้สึกเหมือนถูกเพื่อนบ้านอย่างไทยบดบัง
ประเทศไทย คือพี่ใหญ่ที่มีประชากร 71 ล้านคน เศรษฐกิจหลากหลายทั้งอุตสาหกรรม เทคโนโลยี และท่องเที่ยว รายได้ต่อหัวสูงกว่ากัมพูชาสามเท่า ไทยเป็นระบอบประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์เป็นประมุข แต่การเมืองวุ่นวาย มีทั้งพรรคเพื่อไทยและกลุ่มอนุรักษนิยม ความเป็นชาตินิยมของไทยก็แรงกล้า โดยเฉพาะเรื่องมรดกวัฒนธรรม เช่น วัดที่ทั้งสองชาติอ้างกรรมสิทธิ์
ทั้งสองชาติเหมือนญาติที่รักกันแต่ก็ทะเลาะกันบ่อย โดยเฉพาะเรื่องพรมแดน วัดอย่างปราสาทพระวิหารและตาเมือนธมเป็นเหมือนสมบัติครอบครัวที่ทั้งคู่แย่งกัน ปี 2551-2554 มีการปะทะกันที่พระวิหาร และในปี 2568 ความตึงเครียดปะทุอีกครั้งเมื่อทหารกัมพูชาร้องเพลงชาติที่ตาเมือนธม ทำให้นายกฯ ฮุน มาเนต ขู่ใช้กำลังปกป้องอธิปไตย ซึ่งดูกล้าหาญเกินตัวสำหรับชาติเล็ก ๆ

รากของความขัดแย้ง
กัมพูชากับไทยเหมือนญาติที่มีรากเหง้าเดียวกัน—ศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ภาษาคล้ายกัน และวัฒนธรรมอย่างมวย (เรียกว่า “กุนเขมร” ในกัมพูชา และ “มวยไทย” ในไทย) แต่ความใกล้ชิดนี้ก็ทำให้เกิดการแข่งขัน ชาวกัมพูชารู้สึกว่าไทยพยายามแย่งมรดกวัฒนธรรม เช่น นครวัด ปี 2546 ข่าวลือว่านักแสดงไทยบอกว่านครวัดเป็นของไทย ทำให้เกิดจลาจลในพนมเปญ เผาสถานทูตไทย ส่วนคนไทยมองว่าตัวเองเป็นพี่ใหญ่ในภูมิภาค และบางครั้งมองกัมพูชาเป็นน้องที่ด้อยกว่า
ความเป็นชาตินิยมนี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ในกัมพูชา พรรครัฐบาลใช้ความเป็นเขมรเพื่อรวบรวมการสนับสนุน ส่วนในไทย กลุ่มชาตินิยมอย่างเสื้อเหลืองใช้ข้อพิพาทชายแดนโจมตีคู่แข่งทางการเมือง โซเชียลมีเดียของทั้งสองชาติก็เหมือนสนามรบ ที่ต่างฝ่ายต่างแย่งกันเป็นเจ้าของมรดกวัฒนธรรม

เงาของมังกรจีน
ตอนนี้ลองนึกถึงจีนเป็นลุงรวยที่ย้ายมาอยู่บ้านกัมพูชา นำเงินทองและอิทธิพลมาให้ จีนลงทุนในกัมพูชากว่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐตั้งแต่ปี 2561 สร้างเขื่อน ถนน และอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือเรียมที่เรือรบจีนจอดในปี 2566 คือของเล่นใหม่ที่ให้จีนยึดหัวหาดในอ่าวไทย นี่ไม่ใช่แค่ความใจดี แต่เป็นกลยุทธ์ กัมพูชาเห็นจีนเป็นพี่เลี้ยงที่ช่วยต่อกรกับเพื่อนบ้านอย่างไทยและเวียดนาม แลกกับการที่กัมพูชาทำตามจีน เช่น ส่งตัวผู้ลี้ภัยอุยกูร์กลับจีนในปี 2552 หรือขวางคำแถลงของอาเซียนเรื่องทะเลจีนใต้
แต่ไทยเป็นเป้าหมายที่ยากกว่า ไทยเหมือนญาติที่ลุงจีนพยายามเกลี้ยกล่อม แต่ไทยสนิทกับสหรัฐ มีการซ้อมรบร่วมกันและซื้ออาวุธจากอเมริกา จีนพยายามดึงไทยด้วยการค้าและโครงสร้างพื้นฐาน แต่ความวุ่นวายทางการเมืองและอิทธิพลของทหารทำให้ไทยไม่ยอมง่าย ๆ

กัมพูชาเป็นหมากของจีน?
มาถึงจุดที่เรื่องน่าสนใจ ท่าทีแข็งกร้าวของกัมพูชา เช่น การขู่ใช้กำลังเรื่องตาเมือนธมในปี 2568 อาจไม่ใช่แค่เรื่องศักดิ์ศรี แต่เป็นหมากในเกมของจีนที่ต้องการครองอาเซียน โดยมีไทยเป็นเป้าหมายสุดท้าย ลองดูเหตุผล:
  1. กัมพูชากับจีนแนบแน่น: กัมพูชาพึ่งพาเงินจีน และนโยบายต่างประเทศมักตามจีน เมื่อกัมพูชาก่อความตึงเครียดกับไทย มันทำให้อาเซียนแตกแยก ไม่สามารถรวมตัวต่อต้านจีนในเรื่องทะเลจีนใต้ได้
  2. ไทยคือเป้าหมายใหญ่: ไทยเป็นพันธมิตรสหรัฐและมีอิทธิพลในอาเซียน การที่กัมพูชายั่วยุไทย เช่น เหตุการณ์ตาเมือนธม ทำให้ไทยเสียสมาธิจากบทบาทผู้นำในอาเซียน และจีนได้ประโยชน์
  3. ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย: ในอดีต จีนเคยใช้กัมพูชาเป็นเครื่องมือ เช่น สนับสนุนเขมรแดงในยุค 1970 เพื่อต่อต้านเวียดนาม วันนี้ กัมพูชาอาจเป็นตัวแทนของจีนในการก่อความวุ่นวายในภูมิภาค

เปรียบเทียบสองชาติ
  • กัมพูชา: เล็กกว่า จนกว่า ปกครองแบบเผด็จการ และเป็นพันธมิตรใกล้ชิดจีน ความเป็นชาตินิยมช่วยรวมใจประชาชน แต่การยั่วยุไทยอาจสอดคล้องกับผลประโยชน์ของจีน
  • ประเทศไทย: ใหญ่กว่า รวยกว่า เป็นประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์ และเป็นพันธมิตรสหรัฐ ไทยมีบทบาทในอาเซียน แต่การเมืองภายในทำให้เสียสมาธิจากเกมของจีน
  • จีน: ต้องการให้อาเซียนอ่อนแอ การยั่วยุของกัมพูชาช่วยให้อาเซียนแตกแยก และจีนพยายามดึงไทยเข้ามาเป็นพวก

อีกมุมหนึ่ง
แต่บางทีกัมพูชาอาจไม่ได้ทำตามคำสั่งจีน ความเป็นชาตินิยมของกัมพูชามีรากเหง้ามานานก่อนจีนจะมีอิทธิพล เหตุการณ์ตาเมือนธมอาจเป็นแค่การที่ฮุน มาเนตต้องการแสดงแสนยานุภาพเพื่อเรียกคะแนนในประเทศ กัมพูชากำลังกระจายความสัมพันธ์ไปยังญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ด้วย แสดงว่าไม่ใช่แค่หุ่นเชิดของจีน ส่วนไทยเองก็ยั่วยุได้ด้วยกลุ่มชาตินิยมของตัวเอง

บทสรุปของเรื่อง
กัมพูชากับไทยเหมือนเพื่อนบ้านที่ทะเลาะกันไม่เลิก โดยมีลุงจีนคอยยุแยงให้ร้าวฉาน การที่กัมพูชาแสดงท่าทีแข็งกร้าว เช่น เหตุการณ์ตาเมือนธมในปี 2568 อาจเป็นส่วนหนึ่งของแผนจีนที่ต้องการให้อาเซียนแตกแยก ไทยคือเป้าหมายใหญ่ที่จีนยังคว้าไม่ได้ หากทั้งสองชาติยังทะเลาะกัน มังกรจีนก็ยิ้มได้ต่อไป
สำหรับคนทั่วไป เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าสันติภาพยากจะเกิดเมื่อมหาอำนาจคอยชักใย ไทยและกัมพูชาควรเจรจาแบบทวิภาคีตามที่ไทยต้องการ หรือให้อาเซียนช่วยไกล่เกลี่ย แต่ทั้งคู่ต้องมองให้ขาดว่าใครได้ประโยชน์จากความขัดแย้งนี้

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.