Thursday, July 11, 2024

"นิสัยและพฤติกรรมของคนไทยที่ทำให้ถูกระบอบเผด็จการครอบงำยาวนาน"

Edit

 



บทนำ

ประเทศไทยมีประวัติศาสตร์การเมืองที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงระหว่างระบอบประชาธิปไตยและเผด็จการ การที่ระบอบเผด็จการสามารถครอบงำประเทศนี้มาเป็นเวลานานนั้นเป็นผลมาจากหลากหลายปัจจัย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือนิสัยและพฤติกรรมของคนไทยเอง บทความนี้จะทำการวิเคราะห์วิจัยและสังเคราะห์นิสัยและพฤติกรรมของคนไทยที่มีส่วนทำให้เกิดการครอบงำของระบอบเผด็จการ

1. ความอ่อนน้อมและการยอมรับในอำนาจ

คนไทยมีนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตนและให้ความเคารพต่อผู้มีอำนาจ สิ่งนี้สามารถเห็นได้จากวัฒนธรรมการไหว้และการใช้ภาษาที่สุภาพในการพูดกับผู้อาวุโสหรือผู้มีตำแหน่งสูงกว่า นิสัยนี้นำไปสู่การยอมรับในอำนาจโดยไม่ตั้งคำถามหรือโต้แย้ง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้การควบคุมจากระบอบเผด็จการง่ายขึ้น

2. การไม่สนใจการเมือง

คนไทยจำนวนมากมีทัศนคติที่ว่า "ไม่สนใจการเมือง" หรือ "การเมืองไม่ใช่เรื่องของเรา" ทัศนคตินี้ทำให้คนไทยขาดความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการเมืองและกระบวนการประชาธิปไตย ส่งผลให้ไม่สามารถตรวจสอบและควบคุมอำนาจของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ความกลัวการเปลี่ยนแปลง

คนไทยมีความกลัวและไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อยครั้งและมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน การที่กลัวการเปลี่ยนแปลงทำให้คนไทยไม่กล้าท้าทายอำนาจและไม่ต้องการเสี่ยงที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในระบบการเมือง

4. การยอมรับความไม่เท่าเทียม

คนไทยมีความคุ้นเคยกับการยอมรับความไม่เท่าเทียมในสังคม ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การศึกษา และโอกาสทางสังคม การยอมรับความไม่เท่าเทียมนี้ทำให้คนไทยไม่รู้สึกถึงความจำเป็นในการเรียกร้องสิทธิและความยุติธรรม ซึ่งทำให้ระบอบเผด็จการสามารถครอบงำได้ง่ายขึ้น

5. วัฒนธรรมการพึ่งพิง

การที่คนไทยมีนิสัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจหรือผู้นำในทุกๆ ด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การศึกษา หรือการดำเนินชีวิตประจำวัน ทำให้มีการพึ่งพิงรัฐบาลและยอมรับการตัดสินใจของรัฐบาลโดยไม่ตั้งคำถาม

6. การยอมรับสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์ต่อหลักการประชาธิปไตย

การยอมรับและการปรับตัวเข้ากับสิ่งที่ขัดกับหลักการประชาธิปไตยได้กลายเป็นมาตรฐานในสังคมไทย สิ่งนี้ทำให้คนไทยเฉยชาต่อการละเมิดสิทธิเสรีภาพและความยุติธรรม ส่งผลให้ระบอบเผด็จการสามารถครอบงำได้อย่างต่อเนื่อง

7. การไม่สามัคคี

คนไทยมักมีปัญหาในการรวมตัวกันเพื่อเป้าหมายเดียวกัน ความไม่สามัคคีนี้ทำให้การจัดตั้งกลุ่มเพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยหรือการต่อต้านระบอบเผด็จการเป็นไปได้ยาก

8. การไม่สามารถแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์เป็นกลุ่มก้อนได้สำเร็จ

การแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ในกลุ่มใหญ่ๆ มักถูกจำกัดหรือถูกควบคุม ซึ่งทำให้การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์เป็นไปได้ยาก

9. ระบบการศึกษาและวัฒนธรรมที่งมงาย

ระบบการศึกษาในประเทศไทยมักเน้นการท่องจำและการปฏิบัติตามโดยไม่ตั้งคำถาม ซึ่งส่งผลให้คนไทยขาดความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการตั้งคำถาม นอกจากนี้ วัฒนธรรมที่เน้นความเชื่อและความงมงายยังส่งผลให้คนไทยง่ายต่อการถูกควบคุมและครอบงำ

บทสรุป

นิสัยและพฤติกรรมของคนไทยที่ได้กล่าวถึงข้างต้นล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ระบอบเผด็จการสามารถครอบงำประเทศนี้มาเป็นเวลานาน การปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างสังคมที่มีความเข้มแข็งในการปกป้องประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพของประชาชน

คำแนะนำ

  1. ส่งเสริมการศึกษาเชิงวิเคราะห์: ปรับปรุงระบบการศึกษาให้เน้นการคิดวิเคราะห์และการตั้งคำถามมากขึ้น
  2. สร้างความเข้าใจในการเมือง: ส่งเสริมการให้ความรู้เกี่ยวกับการเมืองและประชาธิปไตยแก่ประชาชน
  3. ส่งเสริมการสามัคคี: สร้างกิจกรรมและโครงการที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกันและความสามัคคีในสังคม
  4. ปลูกฝังความกล้าในการแสดงความคิดเห็น: สร้างพื้นที่และวัฒนธรรมที่สนับสนุนการแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์
  5. ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมความเชื่อ: ส่งเสริมการคิดเชิงเหตุผลและลดความงมงายในการดำเนินชีวิต
Edit

Tuesday, July 9, 2024

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 10

Edit
TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 10

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 10

Edit

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 9

Edit
TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 9

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 9

Edit

Monday, July 8, 2024

"วิกฤตการณ์”ที่รุนแรงที่สุดของประเทศไทย

Edit

(เครดิต ไม่ทราบนามผู้เขียน)


คนไทยรู้ตัวกันบ้างไหม?

ธุรกิจดีๆในไทยส่วนใหญ่ถูกคนจีนยึดไปแล้ว

-โรงสี ห้องเย็น โรงแรม ท่องเที่ยว คอนโด-อสังหาริมทรัพย์ บ้านจัดสรร ร้านอาหาร ทุเรียน​ ข้าวโพด​ กล้วย ข้าว ผลไม้อื่นๆ อาหารทะเล โรงงานผลิตสินค้าต่างๆ ตลาดขายส่งฯลฯ

เมื่อเขายึดได้เขากลับเอาคนจีนเขาเข้ามาทำงาน งานของคนไทยที่มีอยู่เดิมค่อยๆ "หลุดจากวงโคจร“


คนไทยเกือบครึ่งของคนที่มีงานทำวันนี้ กำลังจะตกงานในปี 2570

*คนไทย* เจ้าของแผ่นดินกำลังจะไม่มีกิน


เดิมผมเคยเขียนเรื่องเอไอแย่งงานคนไทย

วันนี้ ผมกลับเจอเรื่องที่เร็ว แรง และชัดเจนกว่านั้นคือ

“คน และ ทุนจีน" กำลังกลืนประเทศไทย!

โรงสีใหญ่ในหกจังหวัดภาคกลางกว่าครึ่งจีนซื้อไปแล้ว…!!!

โรงแรมเกือบครึ่งในเมืองท่องเที่ยวหลักของไทย “เป็นของคนจีน”

คอนโดเปิดใหม่ในทำเลทองหลายแห่ง ลูกค้ารายใหญ่คือ “คนจีน”


ห้องเย็นรายเล็กที่มหาชัยเป็นของคนจีนเกือบร้อยแห่ง


ตลาดสำเพ็ง พันทิพย์  สี่มุมเมือง ตลาดไท ฯลฯ..... “เจ้าของร้าน”หน้าใหม่เป็นคนจีน


โรงแรมในพัทยา ภูเก็ต สุราษฎร์ฯ ขอนแก่น เชียงใหม่ และเชียงราย" ก็เสร็จ คนจีน”

“ทุเรียน” วันนี้ที่จันทบุรีไปดูเอาเองครับ

ฟาร์มกล้วยไม้ ผลไม้ กุ้ง ปลา  จาระไนไม่หมด จีนเข้าไปมีส่วนครองทั้งสิ้น


เขามาซื้อแพงกว่าราคาปกติ แผงเซ้งกัน 30,000 เขามาบอกขอเซ้ง 50,000 

เป็นเรายอมไหม…?

คอนโดขายกัน 2 ล้าน คนไทยต่อเหลือล้านแปด เขามาบอกให้สองล้านห้า!

นโยบายและแผนงานรัฐบาลจีน ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ดูน่ากลัว แต่เป็นความขยันและพลังทุนมหาศาลของ "นักธุรกิจจีน” ต่างหาก


หากหลงคิดว่ารัฐบาลจีนคงไม่มีนโยบายรุกรานเบียดเบียนใคร…???

แต่ทำไม “คนจีน”จึงพรึบและพร้อมไปทุกที่ที่มีโอกาส


คนจีนรุ่นนี้ต่างกับรุ่นเก่าที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น

แต่คนจีนรุ่นนี้ออกมาแสวงหาความมั่งคั่ง

ฉะนั้น​ การทะนุถนอมดูแลแผ่นดินที่เข้าไปทำมาหากินจะต่างกัน


ผมทราบมาว่าผู้คนในจีนที่ประสงค์ออกทำมาหากินต่างแดนมีแหล่งเงินกู้ระดับสิบล้านให้เข้าถึงได้เสมอ!!!


คนจีน

-ไม่กลัวการไปทำสิ่งที่ไม่คุ้นเคย 

-ไม่กลัวการไปยังดินแดนใหม่ 

-ไม่กลัวความยากลำบาก 

-ไม่กลัวขาดทุน 

พวกเขาจึงพร้อมออกจากพื้นที่ปลอดภัยไปแสวงหาโอกาสตลอดเวลา

“ที่สำคัญ​ยังไม่กลัวกฎหมาย​ประเทศนั้นๆ” เสียด้วย


นักศึกษาจีนที่ได้ทุนที่รัฐบาลให้ไปเรียนต่างแดน ถ้าไม่กลับบ้านและทำงานอยู่กินในดินแดนนั้นๆต่อ พวกเขาไม่ต้องใช้ทุน  แถมมีทุนเพิ่ม "ให้ประกอบอาชีพ”

ถ้าเรามีตาทิพย์มองเห็นคนจีนเป็นสีมองไปทั้งโลก 

เราจะเห็นว่าตอนนี้ สีนั้นกำลังเข้มขึ้นในทุกที่อย่างรวดเร็ว

ผมฟังเรื่องราวการเข้าแทรกซึมทางการค้าในระดับรากหญ้าของประเทศเพื่อนบ้าน มาตั้งแต่ช่วงสองปีก่อน ที่ลาว พม่า มาเลเซีย อินโด เวียดนาม เขมร ฟิลิปปินส์ 

ได้ยินเรื่องปัญหาความกระทบกระทั่งแย่งงานคนท้องถิ่น เข้าซื้อกิจการ การนำสินค้ามาขายแข่งในราคาต่ำกว่า

ด้วยความที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในต่างประเทศ เพิ่งมีโอกาสได้มองสถานการณ์ไทยอย่างจริงจัง จึงได้เห็นว่าไม่ต่างกัน

ที่จะต่างกันบ้างคือของเรายังไม่เคยเป็นเรื่องเป็นราว "รัฐบาล” ไม่เคยออกมาทำอะไร???

“คนไทย”ยังไม่เคยโวยวายเหมือนเวียดนาม มาเล อินโดฯ

ส่วนลาว เขมร พม่า ฟิลิปปินส์ผมยังไม่เคยได้ยิน

นี่ว่ากันเฉพาะในเอเชีย นะครับ เพราะมองทางไกลไม่เป็น. ยังนับถือ​แค่ “เศษเงิน”

เรารู้สึกว่าเงินฝืด แต่เคยมองไปรอบๆไหมว่า...เงินไปไหน….!!!


คนไทยที่ยากจนกำลังโดนขึงพืด รุมโทรม


เอไอแย่งงาน นายทุนทำธุรกิจสะดวกซื้อครบวงจร 

ทุนต่างชาติเข้ามายึดแย่งสูบความมั่งคั่งและทรัพยากร


รัฐบาลบริหารไม่เฉียบขาด รวมทั้งประชาชนคนไทยเห็นแก่ตัว

การเรียนการศึกษา  ไม่มีคุณภาพ เป็นพานิชย์

ค่ารักษาแพงโหด คุณภาพห่วย 

ของมอมเมาล่อลวงเยาวชนและคนไม่มีสติมีให้เข้าถึงได้ง่ายดาย

ยาเสพติดอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด ฯลฯ


อยากรอดต้องคิดสร้างสรรค์ ลงมือทำ

ไม่ขายตัวเองและทรัพย์สิน​ 

ทำตัวดี อดทน หนักเอา เบาสู้ 

ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่สร้างเรื่อง ช่วยกัน สามัคคี​กัน​ และคิดถึงส่วนรวม​มากกว่า​ส่วนตัว​


แต่หากยังเอื่อยเฉื่อย ไม่พร้อม ก็จงรอรับชะตากรรมได้ 

ผมขอบอกให้ปี 2570 “คนไทย” รอ…ตกงาน 600,000 คน รู้เรื่องแน่นอน….!!!!


แต่ในทุกวิกฤติ มีโอกาส 

หากมองดีๆ ก็จะพบว่ายังพอมี

พอหนทางอยู่รอดได้ถ้าไม่เห็นแก่ตัว ช่วยกัน และกล้าลงมือทำกันเถอะครับ

อ้อ ผมขอเพิ่ม 

สารเคมี วัสดุอุปกรณ์ ของใช้ไร้คุณภาพจากจีนมหาศาล 

ได้กลายเป็นขยะพิษ ทำลายสิ่งแวดล้อม 

คนไทยรับผลกระทบโดยตรง 

ต่อไปนอกจากจะตกงาน ชีวิตไร้คุณภาพแล้ว โรคน่าจะรุมเร้าอีกด้วย


กล้าๆหน่อยครับ..คนไทย​

บอกตามตรง ….เมื่อนึกถึง….อนาคตของไทย

ผมแอบเช็ดน้ำตา... 

(ไม่มีชื่อผู้เขียน แต่เห็นว่ามีข้อที่น่าคิด ร่วมกันก็อบปี้ ส่งต่อครับ)


Edit

Sunday, July 7, 2024

ทำไมจีนจึงคืบคลานและครอบครองประเทศไทยได้มากขนาดนี้? โดย ดร. เพียงดิน รักไทย 8 ก.ค. 2567

Edit
Edit

Report on China's Economic Expansionism in Thailand

Edit



China’s economic footprint in Thailand has been growing significantly over the past decade, representing what some scholars and analysts describe as a form of neo-imperialism through economic means. This report delves into the various sectors where Chinese investment and influence are most prominent, providing detailed insights and analysis.

1. Automotive Industry

China’s presence in Thailand’s automotive industry, particularly in the electric vehicle (EV) sector, is substantial. Chinese automakers dominate the EV market in Thailand, with an estimated 80% market share. Leading brands include BYD, Neta, and MG, all of which have established significant operations in the country.

  • BYD: BYD has invested in a factory in Rayong province, expected to produce 150,000 vehicles annually starting in 2024. This factory will not only cater to the Thai market but also serve as an export hub to other Southeast Asian and European countries (The Diplomat) (The Diplomat) .
  • SAIC Motor: Partnering with Thailand’s Charoen Pokphand Group (CP), SAIC Motor produces MG-branded EVs and has announced the construction of the SAIC Motor-CP New Energy Industrial Park in Chonburi (The Diplomat) .
  • Great Wall Motor (GWM): GWM has localized production in Thailand and collaborates with various Thai agencies to promote EV adoption. The company operates two full-production lines and plans to expand its influence in the region (The Diplomat) (Thaiger) .

This localization strategy includes significant investments in manufacturing facilities, partnerships with local conglomerates, and efforts to integrate into the Thai supply chain, which has led to job creation and technology transfers.

2. Agriculture

Chinese investments in Thailand’s agricultural sector focus on modernizing production techniques and enhancing value chains. Key areas include:

  • Food Processing: Chinese companies have established joint ventures with Thai firms to set up food processing plants, which improve efficiency and output quality. These ventures help Thailand increase its agricultural exports while benefiting from Chinese technology and capital (Deloitte United States) .
  • Technological Cooperation: Partnerships between Chinese and Thai agricultural entities have led to the adoption of advanced farming technologies, boosting productivity and sustainability (Deloitte United States) .

3. Real Estate

The real estate sector in Thailand has seen a surge of Chinese investments, especially in urban and tourist-centric areas such as Bangkok, Pattaya, Phuket, and Chiang Mai. These investments have led to:

  • Increased Property Prices: The influx of Chinese buyers has driven up property prices in key areas, creating both opportunities and challenges for the local real estate market (nationthailand) .
  • Development Projects: Chinese investors are involved in large-scale real estate development projects, contributing to urbanization and infrastructure improvement (nationthailand) .

4. Healthcare

Chinese influence in Thailand’s healthcare sector is growing through strategic partnerships and investments in medical facilities and technology:

  • Medical Technology: Chinese companies supply advanced medical equipment to Thai hospitals, enhancing the quality of healthcare services available (Deloitte United States) .
  • Joint Ventures: Collaborations between Chinese and Thai healthcare providers aim to improve service delivery and healthcare infrastructure, catering to both local and international patients (Deloitte United States) .

5. Education

Educational exchanges and collaborations have flourished between Chinese and Thai institutions, impacting higher education significantly:

  • Student Exchanges: Numerous Thai universities have established exchange programs with Chinese institutions, facilitating cultural and academic exchanges that benefit students from both countries (Deloitte United States) .
  • Joint Research: Collaborative research projects and academic partnerships have been initiated to advance various fields of study, leveraging the strengths of both nations’ academic resources (Deloitte United States) .

6. Commerce and Trade

China is Thailand’s largest trading partner, with bilateral trade reaching $135 billion in 2023. Key aspects include:

  • Trade Volume: China’s significant share in Thailand’s imports and exports underscores its role as a crucial economic partner. This trade relationship spans multiple sectors, including electronics, machinery, and agricultural products (The Diplomat) (The Diplomat) .
  • Belt and Road Initiative: Agreements under the Belt and Road Initiative have further cemented economic ties, promoting infrastructure projects and investment flows between the two countries (nationthailand) .

Implications and Analysis

The extensive Chinese investments in Thailand can be seen as part of a broader strategy of economic expansionism. While these investments bring technological advancements, job creation, and economic growth, they also pose challenges:

  • Economic Dependence: Thailand’s increasing reliance on Chinese capital and technology raises concerns about economic sovereignty and long-term sustainability.
  • Market Dominance: The dominance of Chinese companies in critical sectors like automotive and real estate can lead to market imbalances and increased competition for local businesses.
  • Geopolitical Influence: China’s economic footprint enhances its geopolitical influence in Thailand, potentially affecting Thailand’s foreign policy and regional dynamics.


China’s economic activities in Thailand exemplify a strategic approach to extending influence through investment and trade. While these actions contribute to Thailand’s economic development, they also necessitate careful consideration of the broader implications for economic independence and national policy. Balancing the benefits and challenges of this neo-imperialist approach will be crucial for Thailand’s future economic trajectory.

Edit

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 8

Edit
TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 8

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 8

Edit

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 7

Edit
TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 7

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 7

Edit

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 6

Edit
TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 6

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 6

Edit

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 5

Edit
TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 5

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 5

Note: The Submit button should work properly now, but please check the answer key for the correct answers if you encounter any issues.

Edit

บทสะท้อนเชิงหลักการต่อรัฐไทยในความขัดแย้งไทย–กัมพูชา

บทสะท้อนเชิงหลักการต่อรัฐไทยในความขัดแย้งไทย – กัมพูชา บทนำ : การเลือกข้างที่ไม่ละทิ้งหลักการ ในความขัดแย้งระหว่างรัฐ การ “ ไม่เลือกข้าง ”...