Thursday, April 21, 2016

ปล่อยตัว’วัฒนา’เเล้ว เผยลูกถูกกดดัน ไปนอกด่วน

จากกรณีเจ้าหน้าที่ทหารกรมพระธรรมนูญ และเจ้าหน้าตำรวจกองปราบ ได้ควบคุมตัวนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์และแกนนำพรรคเพื่อไทย มาขออำนาจศาลทหารกรุงเทพฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน หลังจากได้รับทราบข้อกล่าวหาที่มณทลทหารบกที่ 11 ฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 39/2557 ว่าด้วยเรื่องห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองกรณีโพสต์ข้อความวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล คสช.
-
จากนั้น นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราวนายวัฒนา ซึ่งภายหลังศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายวัฒนา พร้อมตีราคาประกัน 80,000 บาท และกำหนดเงื่อนไข ห้ามกระทำการใดๆยั่วยุ ปลุกปั่น ชักชวน ปลุกระดม ไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ เพื่อให้มีการชุมนุม อันจะก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือก่อให้เกิดอันตรายใดๆ อันกระทบต่อความเสียหายหรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทบการใดๆที่ให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และ ห้ามออกนอกประเทศก่อนได้รับอนุญาต
-
ต่อมาเวลา 18.15 น. วันที่ 21เมษายน ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เจ้าหน้าที่ทหารคุมตัวนายวัฒนา เมืองสุข มายังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยนั่งรถตู้สีขาวป้ายทะเบียน 10811 ก่อนจะขับเข้าไปในตัวเรือนจำ ท่ามกลางมวลชนกว่า 30คน รวมถึงบรรดาแกนนำ นปช.อาทิ นายสมหวัง อัสราษี รองประธาน นปช. จ.ส.ต. ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ อดีตส.ส.จ.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย นายวรชัย เหมะ ส.ส.จ.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย
-
จากนั้นเวลา 19.00 น.นายวัฒนา พร้อม นายสมหวัง อัสราษี รองประธาน นปช. จ.ส.ต. ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ อดีตส.ส.จ.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย นายวรชัย เหมะ ส.ส.จ.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ได้เดินออกมากพร้อมกัน โดยนายวัฒนาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะที่ถูกควบคุมตัว ได้รับการปฎิบัติดูแลจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ยืนยันว่าที่ผ่านมาตนได้เคลื่อนไหวและแสดงความคิดเห็นตามสิทธิและกฎหมายที่สามารถพึงกระทำได้ โดยในระหว่างที่ตนถูกควบคุมตัว ตนได้ใช้วิธีการอดอาหารประท้วง แต่ทางทีมแพทย์ขอร้องให้ดื่มน้ำมะพร้าว4ลูก ไม่ได้กินเนื้อตามที่เป็นข่าว โดยสาเหตุที่แพทย์ร้องขอให้กินน้ำเนื่องจากเกรงว่าตนจะขาดน้ำตาล และเป็นอันตราย
-
ทั้งนี้ตนได้ติดต่อไปยังบุตรสาวทราบว่าถูกกดดันผ่านคุณตาให้เดินทางไปต่างประเทศพร้อมมารดา โดยมีกำหนดกลับวันอาทิตย์ที่ 24 เมษายนนี้ ซึ่งลูกสาวบอกกับตนว่ารู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถช่วยเหลือพ่อได้ อย่างไรก็ตามที่ทางโฆษกคสช.ออกมาพูดว่ามีคนอยู่เบื้องหลังการออกมาเคลื่อนไหวของบุตรสาวนั้น ตอบได้เลยว่าคือนายวัฒนาคนนี้ไม่ใช่ทักษิณ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ทราบว่ามีใครเคลื่อนไหวบ้างระหว่างที่ตนถูกควบคุมตัว แต่ก็ขอขอบคุณที่สู้เพื่อตนเอง หลังจากนี้ก็จะยังคงแสดงความคิดเห็นทางการเมืองตามปกติต่อไป และก็ไม่ไหวหวั่นหากตนแสดงความคิดเห็นแล้วถูกจับกุมอีก ยืนยันก่อนหน้านี้ไม่เคยเซ็นยอมรับข้อตกลงกับทางทหารว่าจะไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองอีก นอกจากนี้เพิ่งทราบข่าวว่านายบรรหาร ศิลปอาชา ป่วยหนัก รักษาตัวที่รพ.ศิริราช ตนจะหาเวลาไปเยี่ยม และหลังจากกลับบ้านตนจะกินข้าวราดกระเพราเป็นอันดับแรก และจะมุ่งตรงกลับบ้านเลย
-
นายวัฒนา กล่าวอีกว่า ตนไม่เคยโกรธพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคสช.และไม่อยากให้นายกรัฐมนตรีมองตนเป็นศัตรูเช่นกัน ทั้งนี้มีสิ่งที่ข้องใจเนื่องจากมีบุคคลออกมาแสดงความคิดเห็นหลายฝ่ายแต่ทำไมตนถึงถูกดำเนินคดีเพียงคนเดียว และขอให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องประชามติได้ เพร่ะสุดท้ายประชาชนก็จะเป็นผู้ตัดสินเอง อย่างไรก็ตามในส่วนของการเลือกตั้งปี2560ว่าจะมีหรือไม่นั้น ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็นแต่ตนเชื่อว่าคนที่พูดแล้วก็จะรักษาคำพูด

-
Cr.MatichonOnline



ปล่อยตัว’วัฒนา’เเล้ว เผยลูกถูกกดดัน ไปนอกด่วน

จากกรณีเจ้าหน้าที่ทหารกรมพระธรรมนูญ และเจ้าหน้าตำรวจกองปราบ ได้ควบคุมตัวนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์และแกนนำพรรคเพื่อไทย มาขออำนาจศาลทหารกรุงเทพฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน หลังจากได้รับทราบข้อกล่าวหาที่มณทลทหารบกที่ 11 ฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 39/2557 ว่าด้วยเรื่องห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองกรณีโพสต์ข้อความวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล คสช.
-
จากนั้น นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราวนายวัฒนา ซึ่งภายหลังศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายวัฒนา พร้อมตีราคาประกัน 80,000 บาท และกำหนดเงื่อนไข ห้ามกระทำการใดๆยั่วยุ ปลุกปั่น ชักชวน ปลุกระดม ไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ เพื่อให้มีการชุมนุม อันจะก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือก่อให้เกิดอันตรายใดๆ อันกระทบต่อความเสียหายหรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทบการใดๆที่ให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และ ห้ามออกนอกประเทศก่อนได้รับอนุญาต
-
ต่อมาเวลา 18.15 น. วันที่ 21เมษายน ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เจ้าหน้าที่ทหารคุมตัวนายวัฒนา เมืองสุข มายังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยนั่งรถตู้สีขาวป้ายทะเบียน 10811 ก่อนจะขับเข้าไปในตัวเรือนจำ ท่ามกลางมวลชนกว่า 30คน รวมถึงบรรดาแกนนำ นปช.อาทิ นายสมหวัง อัสราษี รองประธาน นปช. จ.ส.ต. ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ อดีตส.ส.จ.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย นายวรชัย เหมะ ส.ส.จ.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย
-
จากนั้นเวลา 19.00 น.นายวัฒนา พร้อม นายสมหวัง อัสราษี รองประธาน นปช. จ.ส.ต. ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ อดีตส.ส.จ.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย นายวรชัย เหมะ ส.ส.จ.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ได้เดินออกมากพร้อมกัน โดยนายวัฒนาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะที่ถูกควบคุมตัว ได้รับการปฎิบัติดูแลจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ยืนยันว่าที่ผ่านมาตนได้เคลื่อนไหวและแสดงความคิดเห็นตามสิทธิและกฎหมายที่สามารถพึงกระทำได้ โดยในระหว่างที่ตนถูกควบคุมตัว ตนได้ใช้วิธีการอดอาหารประท้วง แต่ทางทีมแพทย์ขอร้องให้ดื่มน้ำมะพร้าว4ลูก ไม่ได้กินเนื้อตามที่เป็นข่าว โดยสาเหตุที่แพทย์ร้องขอให้กินน้ำเนื่องจากเกรงว่าตนจะขาดน้ำตาล และเป็นอันตราย
-
ทั้งนี้ตนได้ติดต่อไปยังบุตรสาวทราบว่าถูกกดดันผ่านคุณตาให้เดินทางไปต่างประเทศพร้อมมารดา โดยมีกำหนดกลับวันอาทิตย์ที่ 24 เมษายนนี้ ซึ่งลูกสาวบอกกับตนว่ารู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถช่วยเหลือพ่อได้ อย่างไรก็ตามที่ทางโฆษกคสช.ออกมาพูดว่ามีคนอยู่เบื้องหลังการออกมาเคลื่อนไหวของบุตรสาวนั้น ตอบได้เลยว่าคือนายวัฒนาคนนี้ไม่ใช่ทักษิณ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ทราบว่ามีใครเคลื่อนไหวบ้างระหว่างที่ตนถูกควบคุมตัว แต่ก็ขอขอบคุณที่สู้เพื่อตนเอง หลังจากนี้ก็จะยังคงแสดงความคิดเห็นทางการเมืองตามปกติต่อไป และก็ไม่ไหวหวั่นหากตนแสดงความคิดเห็นแล้วถูกจับกุมอีก ยืนยันก่อนหน้านี้ไม่เคยเซ็นยอมรับข้อตกลงกับทางทหารว่าจะไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองอีก นอกจากนี้เพิ่งทราบข่าวว่านายบรรหาร ศิลปอาชา ป่วยหนัก รักษาตัวที่รพ.ศิริราช ตนจะหาเวลาไปเยี่ยม และหลังจากกลับบ้านตนจะกินข้าวราดกระเพราเป็นอันดับแรก และจะมุ่งตรงกลับบ้านเลย
-
นายวัฒนา กล่าวอีกว่า ตนไม่เคยโกรธพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคสช.และไม่อยากให้นายกรัฐมนตรีมองตนเป็นศัตรูเช่นกัน ทั้งนี้มีสิ่งที่ข้องใจเนื่องจากมีบุคคลออกมาแสดงความคิดเห็นหลายฝ่ายแต่ทำไมตนถึงถูกดำเนินคดีเพียงคนเดียว และขอให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องประชามติได้ เพร่ะสุดท้ายประชาชนก็จะเป็นผู้ตัดสินเอง อย่างไรก็ตามในส่วนของการเลือกตั้งปี2560ว่าจะมีหรือไม่นั้น ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็นแต่ตนเชื่อว่าคนที่พูดแล้วก็จะรักษาคำพูด

-
Cr.MatichonOnline



ถุยยยยยยยยยยยยยย…….ถุย โพลบ้านพ่อมึงซิ ไอ้สถุนนพดล กรรณิกา

ซุเปอร์โพลเผย เศรษฐกิจยุคบิ๊กตู่ ปชช.มีเงินเก็บเพียบ อีสานแชมป์รายได้-

-
เมื่อวันที่ 21 เม.ย. นายนพดล กรรณิกา ประธานชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อวิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง "สำรวจเงินในกระเป๋าของประชาชน ยุครัฐบาลบิ๊กตู่" โดยศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน 15 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงราย เชียงใหม่ พิษณุโลก นครราชสีมา มุกดาหาร ขอนแก่น อุดรธานี ปทุมธานี ลพบุรี นครปฐม ชลบุรี นครศรีธรรมราช สงขลา และนราธิวาส จำนวนทั้งสิ้น 6,157 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1- 20 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่า หลังจากตัดจำนวนเงินของกลุ่มคนที่สูงสุดโต่งออกจากการวิเคราะห์ พบเงินในกระเป๋าของประชาชนยุครัฐบาลบิ๊กตู่ มีรายได้ค่ากลางรวมต่อเดือนจำนวน 17,031.41 บาท ขณะที่รายจ่ายต่อเดือนอยู่ที่เดือนละ 11,662.78 บาท โดยมีส่วนต่าง ส่วนเหลือเก็บแต่ละเดือนเดือนละ 5,368.63 บาท เมื่อจำแนกออกตามเพศ พบว่า ผู้ชายมีเงินเหลือเก็บแต่ละเดือนสูงกว่าผู้หญิง และหาเงินหารายได้ได้มากกว่า โดยผู้ชายมีรายได้เดือนละ 17,500.65 บาท รายจ่ายอยู่ที่เดือนละ 11,613.37 บาท มีเงินเหลือเก็บเดือนละ 5,887.28 บาท ส่วนผู้หญิงมีรายได้เดือนละ 16,529.54 บาท รายจ่าย 11,678.16 บาท มีเงินเหลือเก็บเดือนละ 4,851.38 บาท และพบว่าคนที่มีการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีมีรายได้สูงกว่าคนที่มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีเกือบสามเท่า และมีเงินเหลือเก็บต่อเดือนสูงกว่าเกือบสี่เท่า

-
นายนพดล กล่าวอีกว่า ที่น่าสนใจและน่าเป็นห่วงคือ คนอีสานมีรายได้สูงสุด แต่ก็ใช้จ่ายสูงสุด คนภาคใต้มีรายได้ต่ำสุดและมีเงินเหลือเก็บน้อยสุด คือ คนอีสานมีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 18,580.92 บาท มีรายจ่าย 13,665.78 บาท มีเงินเหลือเดือนละ 4,915.14 บาท คนภาคใต้มีรายได้เดือนละ 13,237.05 บาท มีรายจ่ายเดือนละ 9,783.64 บาท มีเงินเหลือเก็บเดือนละ 3,453.41 บาท ขณะที่คนกรุงเทพฯ มีรายได้เดือนละ 17,531.61 บาท มีรายจ่ายเดือนละ 11,137.58 บาท มีเงินเหลือเก็บสูงกว่าคนในภาคอื่นเดือนละ 6,394.03 บาท คนเหนือมีรายได้เดือนละ 17,197.33 บาท มีรายจ่ายเดือนละ 12,123.32 บาท มีเงินเหลือเก็บเดือนละ 5,074.01 บาท และคนภาคกลางมีรายได้เดือนละ 17,863.02 บาท มีรายจ่ายเดือนละ 12,121.48 บาท มีเงินเหลือเดือนละ 5,741.54 บาท

-
"ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าเงินในกระเป๋าของประชาชนในรัฐบาลยุคปัจจุบัน ยังมีเงินเหลืออยู่ในกระเป๋าของประชาชน โดยค่ากลางอยู่ประมาณห้าพันบาทต่อเดือน จึงน่าจะทำให้ประชาชนแต่ละคนได้สำรวจตรวจสอบดูว่าเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายสูงกว่า หรือต่ำกว่าห้าพันบาท ถ้าต่ำกว่าก็น่าจะพิจารณาปรับปรุงแก้ไขการใช้จ่ายของตน และที่น่าเป็นห่วงคือ รายได้ของประชาชนแต่ละภาคไม่เท่ากัน ทั้งๆ ที่ประชาชนในทุกภาคของประเทศควรมีโอกาสรวยหรือจนเท่าๆ กัน คนอีสานกลับมีรายได้สูงกว่าคนทุกภาค แต่ก็มีรายจ่ายสูงกว่า จนน่าเป็นห่วงที่คนอีสานอาจจะต้องหากลไกบางอย่างลดรายจ่ายเพื่อให้มีเงินเหลือแต่ละเดือนให้มากขึ้น และที่น่าจะสะท้อนข้อมูลไปยังฝ่ายนโยบาย คือ คนภาคใต้ที่ยังคงมีรายได้ต่ำกว่าคนทุกภาคและมีเงินเหลือแต่ละเดือนต่ำสุด ดังนั้น การบริหารจัดการการกระจายรายได้จึงต้องใช้ควบคู่ไปกับการรณรงค์การใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ประชาชนรู้จักคิดรู้จักบริหารจัดการรายได้รายจ่ายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น" นายนพดล กล่าว

-
Cr. MatichonOnline



ถุยยยยยยยยยยยยยย…….ถุย โพลบ้านพ่อมึงซิ ไอ้สถุนนพดล กรรณิกา

ซุเปอร์โพลเผย เศรษฐกิจยุคบิ๊กตู่ ปชช.มีเงินเก็บเพียบ อีสานแชมป์รายได้-

-
เมื่อวันที่ 21 เม.ย. นายนพดล กรรณิกา ประธานชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อวิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง "สำรวจเงินในกระเป๋าของประชาชน ยุครัฐบาลบิ๊กตู่" โดยศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน 15 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงราย เชียงใหม่ พิษณุโลก นครราชสีมา มุกดาหาร ขอนแก่น อุดรธานี ปทุมธานี ลพบุรี นครปฐม ชลบุรี นครศรีธรรมราช สงขลา และนราธิวาส จำนวนทั้งสิ้น 6,157 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1- 20 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่า หลังจากตัดจำนวนเงินของกลุ่มคนที่สูงสุดโต่งออกจากการวิเคราะห์ พบเงินในกระเป๋าของประชาชนยุครัฐบาลบิ๊กตู่ มีรายได้ค่ากลางรวมต่อเดือนจำนวน 17,031.41 บาท ขณะที่รายจ่ายต่อเดือนอยู่ที่เดือนละ 11,662.78 บาท โดยมีส่วนต่าง ส่วนเหลือเก็บแต่ละเดือนเดือนละ 5,368.63 บาท เมื่อจำแนกออกตามเพศ พบว่า ผู้ชายมีเงินเหลือเก็บแต่ละเดือนสูงกว่าผู้หญิง และหาเงินหารายได้ได้มากกว่า โดยผู้ชายมีรายได้เดือนละ 17,500.65 บาท รายจ่ายอยู่ที่เดือนละ 11,613.37 บาท มีเงินเหลือเก็บเดือนละ 5,887.28 บาท ส่วนผู้หญิงมีรายได้เดือนละ 16,529.54 บาท รายจ่าย 11,678.16 บาท มีเงินเหลือเก็บเดือนละ 4,851.38 บาท และพบว่าคนที่มีการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีมีรายได้สูงกว่าคนที่มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีเกือบสามเท่า และมีเงินเหลือเก็บต่อเดือนสูงกว่าเกือบสี่เท่า

-
นายนพดล กล่าวอีกว่า ที่น่าสนใจและน่าเป็นห่วงคือ คนอีสานมีรายได้สูงสุด แต่ก็ใช้จ่ายสูงสุด คนภาคใต้มีรายได้ต่ำสุดและมีเงินเหลือเก็บน้อยสุด คือ คนอีสานมีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 18,580.92 บาท มีรายจ่าย 13,665.78 บาท มีเงินเหลือเดือนละ 4,915.14 บาท คนภาคใต้มีรายได้เดือนละ 13,237.05 บาท มีรายจ่ายเดือนละ 9,783.64 บาท มีเงินเหลือเก็บเดือนละ 3,453.41 บาท ขณะที่คนกรุงเทพฯ มีรายได้เดือนละ 17,531.61 บาท มีรายจ่ายเดือนละ 11,137.58 บาท มีเงินเหลือเก็บสูงกว่าคนในภาคอื่นเดือนละ 6,394.03 บาท คนเหนือมีรายได้เดือนละ 17,197.33 บาท มีรายจ่ายเดือนละ 12,123.32 บาท มีเงินเหลือเก็บเดือนละ 5,074.01 บาท และคนภาคกลางมีรายได้เดือนละ 17,863.02 บาท มีรายจ่ายเดือนละ 12,121.48 บาท มีเงินเหลือเดือนละ 5,741.54 บาท

-
"ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าเงินในกระเป๋าของประชาชนในรัฐบาลยุคปัจจุบัน ยังมีเงินเหลืออยู่ในกระเป๋าของประชาชน โดยค่ากลางอยู่ประมาณห้าพันบาทต่อเดือน จึงน่าจะทำให้ประชาชนแต่ละคนได้สำรวจตรวจสอบดูว่าเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายสูงกว่า หรือต่ำกว่าห้าพันบาท ถ้าต่ำกว่าก็น่าจะพิจารณาปรับปรุงแก้ไขการใช้จ่ายของตน และที่น่าเป็นห่วงคือ รายได้ของประชาชนแต่ละภาคไม่เท่ากัน ทั้งๆ ที่ประชาชนในทุกภาคของประเทศควรมีโอกาสรวยหรือจนเท่าๆ กัน คนอีสานกลับมีรายได้สูงกว่าคนทุกภาค แต่ก็มีรายจ่ายสูงกว่า จนน่าเป็นห่วงที่คนอีสานอาจจะต้องหากลไกบางอย่างลดรายจ่ายเพื่อให้มีเงินเหลือแต่ละเดือนให้มากขึ้น และที่น่าจะสะท้อนข้อมูลไปยังฝ่ายนโยบาย คือ คนภาคใต้ที่ยังคงมีรายได้ต่ำกว่าคนทุกภาคและมีเงินเหลือแต่ละเดือนต่ำสุด ดังนั้น การบริหารจัดการการกระจายรายได้จึงต้องใช้ควบคู่ไปกับการรณรงค์การใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ประชาชนรู้จักคิดรู้จักบริหารจัดการรายได้รายจ่ายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น" นายนพดล กล่าว

-
Cr. MatichonOnline



ไอ้ตูบ ประยุทธ์ ผู้นำ ทรราช คสช ที่อาการผิดปกติทางอารมณ์แบบสองขั้ว

ประชาชนควรที่จะรู้เกี่ยวกับการป่วยทางจิตของ ไอ้ตูบ ประยุทธ์
-
เรื่องราวของ ผู้นำ ทรราช คสช ที่อาการผิดปกติทางอารมณ์แบบสองขั้ว และโรคเครียดจากเหตุการณ์ร้ายแรง 
-
จนออกอาการให้สื่อทั้งในและต่างประเทศ นำไปประจานอยู่บ่อยครั้ง 
เช่น 
-
ปากหมาแท้ๆ !
ไอ้ตูบประยุทธ์ กล่าวในงาน "อาชีวศึกษาทวิภาคีไทย"
ติงคนวิจารณ์ทหารมีไว้ทำไม ว่า
มีไว้รักษาแผ่นดิน
กว่า 5แสน ตร.กม.ให้ หมาพูด
-
อย่าคิดแต่เรื่อง ประชาธิปไตยโดยไม่คำนึงถึง กฏหมาย
จนได้รับเสียงตอบรับทั่วทุกสารทิศ เช่น
-
ประชาชน ก็ไม่ได้จ่ายภาษี – ซื้ออาวุธ
-
และให้หมา เอามาใช้ปล้นอำนาจเหมือนกัน
-
และประชาชนไม่ได้ไม่เคารพกฏหมาย
หากแต่ประชาชนเขาไม่เคารพกฏโจรต่างหากเล่า
-
หรือ
-
คนไม่เคารพกฏหมายแต่เสือกแหกปาก
ให้คนอื่น เคารพกฏหมาย ถุยยยย
-
หรือ
-
ก็ถูกแล้วนะครับ ผมก็เห็น หมาพูดทุกวันๆ จนเบื่อ แล้วเนี่ย
-
เมื่อกล่าวถึงกองทัพ ของทรราช คสช. เรื่องทหาร
-
ก็มีเสียงของประชาชนกล่าวว่า
-
รักษาแผ่นดิน…?   กองทัพก็ควรไปตั้งอยู่ชายแดน จะมาอยู่อะไรกลางเมืองหลวง ถ่วงความเจริญล่ะมากกว่า
-
และอาการป่วยทางจิด ของไอ้ตูบ ไม่หมดแค่นั้น เมื่อสอง สามวันนี้ ก็ ออกมาเป่าประกาศ ว่า คนตัดหญ้า และ ประชาชน มันโง่ มันไม่รู้เรื่อง ประชาธิปไตย 
-
ก็มีเสียงตอบรับจากประชาชนเช่นกันว่า 
-
รู้สึกจะมีพวกแดกภาษีจาก ประชาชนโง่ เป็นเงินเดือน โดยไม่เคยเห็นพัวของประชาชน อีกทั้งคอยกดขี่ เหยียบหัวประชาชน เหมือนไม่ใช่คน 
-
แล้วอย่างนี้ พี่น้องประชาชน ยังทนให้มันเหยียบหัวอยู่อย่างนี้อีกหรือ 
-
เมื่อไอ้ตูบ ประยุทธ์ เปรียบประชาชนเป็นดั่งหมา 
-
และบ่อยครั้งที่ ด่ากลาดว่า 
สื่อมวลชน เป็น หมาขี้เรื้อน

-

หากไอ้ตูบ ประยุทธ์ ไม่ป่วยทางจิต แล้วจะเรียกว่าอะไร 
ภาวะผู้นำไม่มีเลยจริงๆ
-
คำถามคือ ทหารทรราช คสช รักษแผ่นดินนี้ให้ใคร?
-
ให้กับ อำมาตย์ทรราช และนายทุนสามาน ผูกขาด และหรือ เหล่านักการเมืองชั่ว ๆ อย่าง พรรคร่วมรัฐบาลของ ประชาธิปัตย์ ในวาระครองอำนาจ เมื่อปี 2553
-
รักษาแผ่นดินนี้ไว้ให้ ทรราช เหล่านั้น กดขี่ประชาชนต่อไปอีกข้างหน้าด้วย นายก คนนอก สว. ลากตั้งและ องค์กรขยะ ที่มีอำนาจ มากกว่า ประชาชนกว่า 60 ล้านคนงั้นหรือ 
-
จนมีเสียงของประชาชน กล่าวกันว่า 
-
เรามีนายกฯที่ป่วยทางจิตนะครับ
-
พร้อมคำด่าไอ้ตูบ ประยุทธ์ ว่า  
-
คนอย่างมัน ฟังหมาพูดรู้เรื่อง แดรกเงินที่หมาต้องเสียภาษีหาให้. ถุยยยย

-
 หรือ แม้แต่
-

เด็กๆ ว่ะ ระดับนายกวุฒิภาวะ มีแค่เนี้ยะ.. ไปสมัครเป็น ยามบริษัท ยังไม่มีใครกล้ารับเลย นับประสาอะไร จะมาเป็น นายก กำหนด อำนาจของชาติ อีก 20 ปี ข้างหน้า   เอาแค่วันนี้เพื่อนบ้านรอบ ๆ ประเทศ ก็ไม่มีใครคบค้าด้วยแล้ว

-
ทั้งปัญหา ละเมิดสิทธฺมนุษยชน
แรงงานทาส
ปัญหาโกงกินในกองทัพ และใช้เส้นสาย ช่วยเหลือ ครอบครัว ตระกลู จันทรโอชา ไม่ว่าจะเรื่องเงินหลวงเอาเข้าบัญชีเมีย เรื่องขายที่ดิน เรื่องให้หลานชาย ติดยศ ร้อยตรี ฯลฯ
-
แม้ในวันนี้ เสีบงของประชาชน ยังสงสัยเคลือบแคลง ในอำนาจของกองทัพ ที่ทำตัวเป็นโจร ปล้นประเทศ ของตนเอง 
-
จนมีประชาชน กล่าวไว้ว่า 

-
ไม่จริงม้างงง ที่รักษาชายแดนจริงๆมีไม่กี่นายหรอก ที่เหลือแดกส่วนต่างกันเพลิน อาชีพหลักมันคือยึดอำนาจ แล้วรวย  ไม่ใช่หรือ
-
แล้วอ้างสรรคุณ ของทหารไว้เลิศหรู หากแท้จริงแล้ว.... สถุน ดี ๆ นี้เอง 
-
คำกล่าวของสื่อ รับใช้ ทรราช คสช. ว่า 
-
เก่ง ฉลาด สายตายาวไกล มีเหตุมีผล วาจาสุภาพ ละมุน อ่อนหวาน คมคาย ลึกซึ้งยิ่งนัก ผ่านการเลี้ยงดูฝึกฝนอบรมมาเนี้ยบ มากๆครับ
-
นั้นมันคำโกหก หลอกลวง เพราะไอ้ตูบ และ คณะ คสช. ไม่มีภาวะดังกล่าวเหลืออยู่ใน กมนสันดานเลย 
-
จบข่าว
-
เสรีชน


ไอ้ตูบ ประยุทธ์ ผู้นำ ทรราช คสช ที่อาการผิดปกติทางอารมณ์แบบสองขั้ว

ประชาชนควรที่จะรู้เกี่ยวกับการป่วยทางจิตของ ไอ้ตูบ ประยุทธ์
-
เรื่องราวของ ผู้นำ ทรราช คสช ที่อาการผิดปกติทางอารมณ์แบบสองขั้ว และโรคเครียดจากเหตุการณ์ร้ายแรง 
-
จนออกอาการให้สื่อทั้งในและต่างประเทศ นำไปประจานอยู่บ่อยครั้ง 
เช่น 
-
ปากหมาแท้ๆ !
ไอ้ตูบประยุทธ์ กล่าวในงาน "อาชีวศึกษาทวิภาคีไทย"
ติงคนวิจารณ์ทหารมีไว้ทำไม ว่า
มีไว้รักษาแผ่นดิน
กว่า 5แสน ตร.กม.ให้ หมาพูด
-
อย่าคิดแต่เรื่อง ประชาธิปไตยโดยไม่คำนึงถึง กฏหมาย
จนได้รับเสียงตอบรับทั่วทุกสารทิศ เช่น
-
ประชาชน ก็ไม่ได้จ่ายภาษี – ซื้ออาวุธ
-
และให้หมา เอามาใช้ปล้นอำนาจเหมือนกัน
-
และประชาชนไม่ได้ไม่เคารพกฏหมาย
หากแต่ประชาชนเขาไม่เคารพกฏโจรต่างหากเล่า
-
หรือ
-
คนไม่เคารพกฏหมายแต่เสือกแหกปาก
ให้คนอื่น เคารพกฏหมาย ถุยยยย
-
หรือ
-
ก็ถูกแล้วนะครับ ผมก็เห็น หมาพูดทุกวันๆ จนเบื่อ แล้วเนี่ย
-
เมื่อกล่าวถึงกองทัพ ของทรราช คสช. เรื่องทหาร
-
ก็มีเสียงของประชาชนกล่าวว่า
-
รักษาแผ่นดิน…?   กองทัพก็ควรไปตั้งอยู่ชายแดน จะมาอยู่อะไรกลางเมืองหลวง ถ่วงความเจริญล่ะมากกว่า
-
และอาการป่วยทางจิด ของไอ้ตูบ ไม่หมดแค่นั้น เมื่อสอง สามวันนี้ ก็ ออกมาเป่าประกาศ ว่า คนตัดหญ้า และ ประชาชน มันโง่ มันไม่รู้เรื่อง ประชาธิปไตย 
-
ก็มีเสียงตอบรับจากประชาชนเช่นกันว่า 
-
รู้สึกจะมีพวกแดกภาษีจาก ประชาชนโง่ เป็นเงินเดือน โดยไม่เคยเห็นพัวของประชาชน อีกทั้งคอยกดขี่ เหยียบหัวประชาชน เหมือนไม่ใช่คน 
-
แล้วอย่างนี้ พี่น้องประชาชน ยังทนให้มันเหยียบหัวอยู่อย่างนี้อีกหรือ 
-
เมื่อไอ้ตูบ ประยุทธ์ เปรียบประชาชนเป็นดั่งหมา 
-
และบ่อยครั้งที่ ด่ากลาดว่า 
สื่อมวลชน เป็น หมาขี้เรื้อน

-

หากไอ้ตูบ ประยุทธ์ ไม่ป่วยทางจิต แล้วจะเรียกว่าอะไร 
ภาวะผู้นำไม่มีเลยจริงๆ
-
คำถามคือ ทหารทรราช คสช รักษแผ่นดินนี้ให้ใคร?
-
ให้กับ อำมาตย์ทรราช และนายทุนสามาน ผูกขาด และหรือ เหล่านักการเมืองชั่ว ๆ อย่าง พรรคร่วมรัฐบาลของ ประชาธิปัตย์ ในวาระครองอำนาจ เมื่อปี 2553
-
รักษาแผ่นดินนี้ไว้ให้ ทรราช เหล่านั้น กดขี่ประชาชนต่อไปอีกข้างหน้าด้วย นายก คนนอก สว. ลากตั้งและ องค์กรขยะ ที่มีอำนาจ มากกว่า ประชาชนกว่า 60 ล้านคนงั้นหรือ 
-
จนมีเสียงของประชาชน กล่าวกันว่า 
-
เรามีนายกฯที่ป่วยทางจิตนะครับ
-
พร้อมคำด่าไอ้ตูบ ประยุทธ์ ว่า  
-
คนอย่างมัน ฟังหมาพูดรู้เรื่อง แดรกเงินที่หมาต้องเสียภาษีหาให้. ถุยยยย

-
 หรือ แม้แต่
-

เด็กๆ ว่ะ ระดับนายกวุฒิภาวะ มีแค่เนี้ยะ.. ไปสมัครเป็น ยามบริษัท ยังไม่มีใครกล้ารับเลย นับประสาอะไร จะมาเป็น นายก กำหนด อำนาจของชาติ อีก 20 ปี ข้างหน้า   เอาแค่วันนี้เพื่อนบ้านรอบ ๆ ประเทศ ก็ไม่มีใครคบค้าด้วยแล้ว

-
ทั้งปัญหา ละเมิดสิทธฺมนุษยชน
แรงงานทาส
ปัญหาโกงกินในกองทัพ และใช้เส้นสาย ช่วยเหลือ ครอบครัว ตระกลู จันทรโอชา ไม่ว่าจะเรื่องเงินหลวงเอาเข้าบัญชีเมีย เรื่องขายที่ดิน เรื่องให้หลานชาย ติดยศ ร้อยตรี ฯลฯ
-
แม้ในวันนี้ เสีบงของประชาชน ยังสงสัยเคลือบแคลง ในอำนาจของกองทัพ ที่ทำตัวเป็นโจร ปล้นประเทศ ของตนเอง 
-
จนมีประชาชน กล่าวไว้ว่า 

-
ไม่จริงม้างงง ที่รักษาชายแดนจริงๆมีไม่กี่นายหรอก ที่เหลือแดกส่วนต่างกันเพลิน อาชีพหลักมันคือยึดอำนาจ แล้วรวย  ไม่ใช่หรือ
-
แล้วอ้างสรรคุณ ของทหารไว้เลิศหรู หากแท้จริงแล้ว.... สถุน ดี ๆ นี้เอง 
-
คำกล่าวของสื่อ รับใช้ ทรราช คสช. ว่า 
-
เก่ง ฉลาด สายตายาวไกล มีเหตุมีผล วาจาสุภาพ ละมุน อ่อนหวาน คมคาย ลึกซึ้งยิ่งนัก ผ่านการเลี้ยงดูฝึกฝนอบรมมาเนี้ยบ มากๆครับ
-
นั้นมันคำโกหก หลอกลวง เพราะไอ้ตูบ และ คณะ คสช. ไม่มีภาวะดังกล่าวเหลืออยู่ใน กมนสันดานเลย 
-
จบข่าว
-
เสรีชน


ศาลทหารทรราช คสช. ให้ประกันตัว 'วัฒนา เมืองสุข' เตรียมปล่อยตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพคืนนี้ ไม่เกิน 2 ทุ่ม

ศาลทหารทรราช คสช. ให้ประกันตัว 'วัฒนา เมืองสุข' เตรียมปล่อยตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพคืนนี้   ไม่เกิน 2 ทุ่ม
-------------------------------------------------
เมื่อวันที่ 21 เมษายน นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่าในเวลา 18.30 น.เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัวนายวัฒนา เมืองสุข อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางเอกสาร เนื่องจากนายวัฒนา เป็นผู้ต้องขัง ในสังกัดเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ตามคำสั่งศาล แต่ได้รับการประกัน ให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายวัฒนา ก็ต้องมาทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ ลงทะเบียนงานเอกสารธุรการตามขั้นตอนปกติ ตรวจสอบหมายปล่อยตัว คาดว่าไม่น่าจะเกิน 20.00 น. จะปล่อยตัวนายวัฒนาได้

-

Cr. MatichonOnline



ศาลทหารทรราช คสช. ให้ประกันตัว 'วัฒนา เมืองสุข' เตรียมปล่อยตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพคืนนี้ ไม่เกิน 2 ทุ่ม

ศาลทหารทรราช คสช. ให้ประกันตัว 'วัฒนา เมืองสุข' เตรียมปล่อยตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพคืนนี้   ไม่เกิน 2 ทุ่ม
-------------------------------------------------
เมื่อวันที่ 21 เมษายน นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่าในเวลา 18.30 น.เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัวนายวัฒนา เมืองสุข อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางเอกสาร เนื่องจากนายวัฒนา เป็นผู้ต้องขัง ในสังกัดเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ตามคำสั่งศาล แต่ได้รับการประกัน ให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายวัฒนา ก็ต้องมาทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ ลงทะเบียนงานเอกสารธุรการตามขั้นตอนปกติ ตรวจสอบหมายปล่อยตัว คาดว่าไม่น่าจะเกิน 20.00 น. จะปล่อยตัวนายวัฒนาได้

-

Cr. MatichonOnline



ไอ้ตูบ ประยุทธ์ ประชามติ บ้านพ่อมึง หรือ? ที่ไม่ต้องฟังเสียงของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของประเทศ

ประชามติ รับร่าง รััฐธรรมนูญ ฉบับ ทรราช คสช.สั่งต้องไม่มี ...........ไม่ต้องทำ
-
ถาม........... ไอ้ตูบ ประยุทธ์ ประชามติ บ้านพ่อมึง หรือ?  ที่ไม่ต้องฟังเสียงของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของประเทศ 

------------------------------------------------------------------------
14.30 น. 19 เม.ย.ไอ้ตูบ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า ทรราช คสช. กล่าวถึงกรณีการรณรงค์รับหรือไม่รับประชามติ ว่า วันนี้ได้สั่งการไปแล้วว่าต้องไม่มี ไม่ต้องทำ

-
เมื่อถามว่า ที่นักวิชาการออกมารณรงค์แสดงความเห็นเชิงวิชาการนั้นทำได้หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ…. ยังไม่โปรดเกล้าฯลงมา แต่ถ้าโปรดเกล้าฯลงมาก็โดนหมด กฎหมายเขียนว่าห้ามรณรงค์รับหรือไม่รับ แค่นี้ทำไม่ได้หรืออย่างไร ไม่เข้าใจภาษาไทยหรือจึงต้องแปลไทยเป็นไทย

-
เมื่อถามว่า ใส่เสื้อโหวตโน หรือโหวตเยส ก็ไม่ได้ใช่หรือไม่ ทรราช กล่าวว่า ใช่แล้ว รณรงค์ให้รับหรือไม่รับก็ไม่ได้ทั้งนั้น

-
"เมื่อ พ.ร.บ.ประชามติฯ ออกมาจะมีบทลงโทษถึง 10 ปี ถ้าไม่กลัวก็ตามใจ ซึ่งสื่อก็โดนด้วย ขอให้ไปบอกแก่นายทุนสื่อด้วย วันนี้ปล่อยไปก่อน แต่ถ้ากฎหมายออกมาเมื่อไหร่ ก็จะโดนเมื่อนั้น
-
"จะฟ้องศาลกันหมด"
-
แต่เย็นวันเดียวกัน หนังม้วนใหม่ก็เปิดตัว
-
18.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กลุ่มพลเมืองโต้กลับนัดหมายประชาชนใส่เสื้อขาวรวมตัวกันเพื่อต่อต้านการควบคุมตัวนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 18 เมษายน
-
แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 กองร้อย มาเตรียมพร้อมก่อนเวลานัดหมาย
-
เมื่อ นายอานนท์ นำภา กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว และพรรคพวกเดินทางมาถึงบริเวณสกายวอล์ก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดันฝูงชนลงจากสกายวอล์ก
-
ขณะเดียวกันประชาชนที่สวมเสื้อสีขาว ก็โบกมือให้กำลังใจผู้ที่ถูกจับกุม และชู 3 นิ้วแสดงสัญลักษณ์
-
เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายอานนท์ และนายสิรวิชญ์ขึ้นรถตู้ทหาร โดยมี นายวรรณเกียรติ ชูสุวรรณ คนขับรถแท็กซี่กลุ่มพลเมืองโต้กลับ และ นายณัฐภัทร อัคฮาด น้องชาย น.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลที่เสียชีวิตจากการระดมยิงในวัดปทุมวนารามปี 2553 ขอติดตามขึ้นรถไปด้วย
-
ก่อนจะปล่อยตัวออกมาในค่ำวันเดียวกัน
-
และในเย็นวันเดียวกันนั้น
-
องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน 6 องค์กร ประกอบด้วย สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (HRLA) มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (CrCF) มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน (CRC) มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (Enlaw) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (TLHR) สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) ออกแถลงการณ์ให้ยุติการคุกคาม แทรกแซงและปิดกั้นการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของบุคคลต่อร่างรัฐธรรมนูญ
-
โดยระบุว่า การดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญกระทำโดยคนเพียงบางกลุ่ม และไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมอย่างเพียงพอ
--
ในเชิงเนื้อหาก็ถูกตั้งคำถามในหลายประเด็น อาทิ ประเด็นเรื่องสิทธิในการศึกษา สิทธิชุมชน สิทธิผู้บริโภค ที่มาของนายกรัฐมนตรี ส.ส. ส.ว. อำนาจขององค์กรอิสระ การรับรองความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของการกระทำและการใช้อำนาจจาก คสช. เป็นต้น

แม้ผู้มีอำนาจจะกำหนดให้มีการลงประชามติต่อร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว แต่บรรยากาศการมีส่วนร่วมและการใช้เสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนก็ยังถูกจำกัด
-
ดังจะเห็นได้จากการที่ผู้มีอำนาจออกมาข่มขู่อยู่เสมอๆ อาทิ การห้ามไม่ให้ใส่เสื้อ Vote No หรือขู่ว่าจะดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้ทำการรณรงค์ในทางที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เป็นต้น
-
รวมไปถึงการควบคุมตัว นายวัฒนา เมืองสุข เมื่อวันที่ 18 เมษายน
-
จึงเรียกร้องต่อรัฐบาลและทรราช คสช. ให้ปล่อยตัวนายวัฒนาโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข
-
เคารพและคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกซึ่งความเชื่อและความคิดเห็นโดยสันติวิธี สนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดทำรัฐธรรมนูญ
-
ยุติการคุกคาม ข่มขู่ แทรกแซงและปิดกั้นการใช้เสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนทุกกลุ่ม
-
ในบรรยากาศที่ฝ่ายหนึ่งเข้มขึง อีกฝ่ายหนึ่งยืนกราน
-
โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ "น้ำผึ้ง" เป็นไปได้มากน้อยเพียงใด
-
น่าสนใจและชวนระทึกใจ



ไอ้ตูบ ประยุทธ์ ประชามติ บ้านพ่อมึง หรือ? ที่ไม่ต้องฟังเสียงของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของประเทศ

ประชามติ รับร่าง รััฐธรรมนูญ ฉบับ ทรราช คสช.สั่งต้องไม่มี ...........ไม่ต้องทำ
-
ถาม........... ไอ้ตูบ ประยุทธ์ ประชามติ บ้านพ่อมึง หรือ?  ที่ไม่ต้องฟังเสียงของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของประเทศ 

------------------------------------------------------------------------
14.30 น. 19 เม.ย.ไอ้ตูบ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า ทรราช คสช. กล่าวถึงกรณีการรณรงค์รับหรือไม่รับประชามติ ว่า วันนี้ได้สั่งการไปแล้วว่าต้องไม่มี ไม่ต้องทำ

-
เมื่อถามว่า ที่นักวิชาการออกมารณรงค์แสดงความเห็นเชิงวิชาการนั้นทำได้หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ…. ยังไม่โปรดเกล้าฯลงมา แต่ถ้าโปรดเกล้าฯลงมาก็โดนหมด กฎหมายเขียนว่าห้ามรณรงค์รับหรือไม่รับ แค่นี้ทำไม่ได้หรืออย่างไร ไม่เข้าใจภาษาไทยหรือจึงต้องแปลไทยเป็นไทย

-
เมื่อถามว่า ใส่เสื้อโหวตโน หรือโหวตเยส ก็ไม่ได้ใช่หรือไม่ ทรราช กล่าวว่า ใช่แล้ว รณรงค์ให้รับหรือไม่รับก็ไม่ได้ทั้งนั้น

-
"เมื่อ พ.ร.บ.ประชามติฯ ออกมาจะมีบทลงโทษถึง 10 ปี ถ้าไม่กลัวก็ตามใจ ซึ่งสื่อก็โดนด้วย ขอให้ไปบอกแก่นายทุนสื่อด้วย วันนี้ปล่อยไปก่อน แต่ถ้ากฎหมายออกมาเมื่อไหร่ ก็จะโดนเมื่อนั้น
-
"จะฟ้องศาลกันหมด"
-
แต่เย็นวันเดียวกัน หนังม้วนใหม่ก็เปิดตัว
-
18.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กลุ่มพลเมืองโต้กลับนัดหมายประชาชนใส่เสื้อขาวรวมตัวกันเพื่อต่อต้านการควบคุมตัวนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 18 เมษายน
-
แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 กองร้อย มาเตรียมพร้อมก่อนเวลานัดหมาย
-
เมื่อ นายอานนท์ นำภา กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว และพรรคพวกเดินทางมาถึงบริเวณสกายวอล์ก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดันฝูงชนลงจากสกายวอล์ก
-
ขณะเดียวกันประชาชนที่สวมเสื้อสีขาว ก็โบกมือให้กำลังใจผู้ที่ถูกจับกุม และชู 3 นิ้วแสดงสัญลักษณ์
-
เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายอานนท์ และนายสิรวิชญ์ขึ้นรถตู้ทหาร โดยมี นายวรรณเกียรติ ชูสุวรรณ คนขับรถแท็กซี่กลุ่มพลเมืองโต้กลับ และ นายณัฐภัทร อัคฮาด น้องชาย น.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลที่เสียชีวิตจากการระดมยิงในวัดปทุมวนารามปี 2553 ขอติดตามขึ้นรถไปด้วย
-
ก่อนจะปล่อยตัวออกมาในค่ำวันเดียวกัน
-
และในเย็นวันเดียวกันนั้น
-
องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน 6 องค์กร ประกอบด้วย สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (HRLA) มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (CrCF) มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน (CRC) มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (Enlaw) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (TLHR) สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) ออกแถลงการณ์ให้ยุติการคุกคาม แทรกแซงและปิดกั้นการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของบุคคลต่อร่างรัฐธรรมนูญ
-
โดยระบุว่า การดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญกระทำโดยคนเพียงบางกลุ่ม และไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมอย่างเพียงพอ
--
ในเชิงเนื้อหาก็ถูกตั้งคำถามในหลายประเด็น อาทิ ประเด็นเรื่องสิทธิในการศึกษา สิทธิชุมชน สิทธิผู้บริโภค ที่มาของนายกรัฐมนตรี ส.ส. ส.ว. อำนาจขององค์กรอิสระ การรับรองความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของการกระทำและการใช้อำนาจจาก คสช. เป็นต้น

แม้ผู้มีอำนาจจะกำหนดให้มีการลงประชามติต่อร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว แต่บรรยากาศการมีส่วนร่วมและการใช้เสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนก็ยังถูกจำกัด
-
ดังจะเห็นได้จากการที่ผู้มีอำนาจออกมาข่มขู่อยู่เสมอๆ อาทิ การห้ามไม่ให้ใส่เสื้อ Vote No หรือขู่ว่าจะดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้ทำการรณรงค์ในทางที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เป็นต้น
-
รวมไปถึงการควบคุมตัว นายวัฒนา เมืองสุข เมื่อวันที่ 18 เมษายน
-
จึงเรียกร้องต่อรัฐบาลและทรราช คสช. ให้ปล่อยตัวนายวัฒนาโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข
-
เคารพและคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกซึ่งความเชื่อและความคิดเห็นโดยสันติวิธี สนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดทำรัฐธรรมนูญ
-
ยุติการคุกคาม ข่มขู่ แทรกแซงและปิดกั้นการใช้เสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนทุกกลุ่ม
-
ในบรรยากาศที่ฝ่ายหนึ่งเข้มขึง อีกฝ่ายหนึ่งยืนกราน
-
โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ "น้ำผึ้ง" เป็นไปได้มากน้อยเพียงใด
-
น่าสนใจและชวนระทึกใจ



อย่าหลงว่า “สหรัฐเข้าข้างกัมพูชา” แล้วปล่อยให้ไฟชาตินิยมเผาทั้งการทูตและประชาธิปไตย

คันฉ่องส่องไทย • เตือนภัย “เรื่องเล่า” ที่ทำให้เราอ่านเกมผิด อย่าหลงว่า “สหรัฐเข้าข้างกัมพูชา” แล้วปล่อยให้ไฟชา...