Friday, August 19, 2016

ซุบซิบ... การลอบสังหารผู้นำ(ไทย) ???? พวกเอ็งจะดึงชาติไปล่มจมกันถึงไหน????

Edit
เกมส์เหนือเมฆจึงเข้าสู่ช่วงอำมหิต
ปรเมสเหลือทางเดียวคือลอบสังหารผู้นำ
ศัตรูที่ขวางเส้นทางความเป็นใหญ่ตนสมรภูมินี้เริ่มขมวดปมตั้งแต่ปลายเดือนที่
แล้ว ฝ่ายปชต.จึงเก็บตัวไม่ยอมเป็นเหยื่อ
รัศมี7สค.  
"ช่วงเวลาของยามนี้"
๑ทำลายโกงด้วยหลักฐานย้อนทวนเชิงประจักษ์ นี่คือเหตุหนึ่งที่รัฐเสือโห่เบี่ยงเบนโกง ไปที่ดร._แดง 
๒เสรีภาพ ปล่อยไผ่_เสรีภาพสื่อฝ่ายปชต.
๓ความยุติธรรมคดี_และขบวนจัดการเลือกตั้ง.
ออกมาในรูปที่สามคือใช้โกงสุดๆผ่านประชามติ อาจเป็นผลดีในเบื้องหน้า
มีผู้คนอีกมากที่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
สถานการณ์ต้องยืดยาวเศรษฐกิจยิ่งมีผล
ต่อปากท้อง หากยื้อถึงหน้าฝนปี60ยิ่งยับชัดเจน..
เทียบ
ครั้งรัฐบาลพอเอกถนอมยามถึงคราวอภิปรายซักฟอก จะยุบสภาหนีและทำรปห.รัฐบาลตัวเองหนีอภิปราย
ครั้งรัฐบาลพลเอกเปรมก็เช่นกันยุบสภาหนีอภิปรายทั้ง2ครั้ง..
ขุนศึกมีจุดอ่อนหากปล่อยให้ปากซักตรง
มันจะกลัวมาก เพราะคนพวกนี้ถือศักดิ์ปืน
ถือยศ_มีศาลของตัวเองคุมปืนทั้งกองทัพจึงเพาะเลี้ยงความโอหังและหลงตัวเอง
ห้ามใครแตะเพราะเส้นทางการกระทำของคนพวกนี้หักดิบมาตลอดทางจึงตอบสังคมไม่ได้ เบื้องหน้าหากพลเอกประวิทย์เป็นนายกคนนอกจะสาหัสกว่า2นายพลก่อนนี้
เพราะ2นายพลนั้นวางตัวสุภาพพูดจาไพเราะ แต่วิดมิใช่..นี่คือจุดตายของวิด
หากเส้นปทท.ไปถึงจุดนั้น ในเวลายาวนานนี้อาจจะล้มซ่ะก่อนถึงจุดนั้น
อาจมีเหตุการณ์พลิกผันตลอดสถานการณ์จะเปลี่ยนไปเรื่อยพวกคุณไม่ได้เดินหมากเพียงข้างเดียว
Edit

ชาญวิทย์พยากรณ์นองเลือด-ธำรงศักดิ์ชี้ไทยเป็นรัฐทหารตลอด 84 ปี

Edit
ชาญวิทย์พยากรณ์นองเลือด-ธำรงศักดิ์ชี้ไทยเป็นรัฐทหารตลอด 84 ปี  



Edit

ชาญวิทย์พยากรณ์นองเลือด-ธำรงศักดิ์ชี้ไทยเป็นรัฐทหารตลอด 84 ปี

Edit
ชาญวิทย์พยากรณ์นองเลือด-ธำรงศักดิ์ชี้ไทยเป็นรัฐทหารตลอด 84 ปี  



Edit

เครือข่ายเจ้า มีอิทธิพลต่ออำนาจและผลประโยชน์ของชาติมาตลอด!!!

Edit
บทความท่ีส่งให้นี้มีนักวิชาการสี่ท่านได้สรุปสถานะการณ์ประเทศไทยช่วง2475-2559ได้ดีชัดเจนมาก. คนท่ีไม่รู้ไม่เข้าใจสังคมไทยท่ีตนเกิดมา. ควรใช้เวลาอ่านให้เข้าใจว่า 84ปีช่วงเปลี่ยนผ่านจากระบบราชาธิปไตยจะไปสู่ระบบประชาธิปไตยมันยังไปไม่ถึงไหนไม่เป็นประชาธิปไตยเพราะเหตุใด 84ปีนอกจากเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านระบบแล้วยังมีช่วงปลายรัชกาลมาทับซ้อนอีก. ผู้อ่านจะได้เข้าใจสภาวะสังคมไทยท่ีแท้จริงได้จากการอ่านบทความสรุปย่อนี้
ถ้าไม่อ่านก็จะงงกับสังคมไทยต่อไป.สาธุ.


จิตร ภูมิศักดิ์ นักเปิดโปงศักดินาไทย
ชีวประวัติโดยย่อของจิตร ภูมิศักดิ์ 
เจ้าของหนังสือโฉมหน้าศักดินาไทย
คนไม่สนใจประวัติศาสตร์คือคนตาบอดข้างหนึ่ง
คนไม่อ่านประวัติศาสตร์เหมือนคนตาบอดสองข้าง
และเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา
คนไม่สนใจประวัติศาสตร์คือคนตาบอดข้างหนึ่ง
คนไม่อ่านประวัติศาสตร์เหมือนคนตาบอดสองข้าง


จิตร ภูมิศักดิ์ นักเปิดโปงศักดินาไทย
ชีวประวัติโดยย่อของจิตร ภูมิศักดิ์ เจ้าของหนังสือโฉมหน้าศักดินาไทย
และเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา
คนไม่สนใจประวัติศาสตร์คือคนตาบอดข้างหนึ่ง
คนไม่อ่านประวัติศาสตร์เหมือนคนตาบอดสองข้าง

อรุณสว่างอรุณสวัสดิ์
วันศุกร์ที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๙
รัฐประหารทำความเสียหายให้ประชาชนตลอด ๗๐ ปี ที่ผ่านมา
ใครคือผู้สั่งทำรัฐประหารอ้างเพื่อปกป้อง......
เรามี.....ไว้เพื่ออะไร?
#ข้อมูลย้อนหลังรัฐประหาร2500 ,2501, 2557 
=========================
รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557
เป็นส่วนหนึ่งของ วิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557
พลเอกประยุทธ์ประกาศยึดอำนาจ22 พฤษภาคม 2557.png
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ประกาศยึดอำนาจการปกครองประเทศ ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย
วันที่  22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
สถานที่  ไทย ราชอาณาจักรไทย
ผลลัพธ์  

    จัดตั้งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
    คณะรัฐมนตรีและวุฒิสภาสิ้นสุดลง
    รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 สิ้นสุดลง
    รัฐธรรมนูญชั่วคราวใช้บังคับ
    ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรี

คู่ขัดแย้ง
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ  รัฐบาลยิ่งลักษณ์
ผู้บัญชาการหรือผู้นำ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล
 วิกิซอร์ซ มีงานต้นฉบับเกี่ยวกับ:
ประกาศกองทัพบก ฉบับที่ 1/2557 (เรื่อง การประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก)
 วิกิซอร์ซ มีงานต้นฉบับเกี่ยวกับ:
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 1/2557 (เรื่อง การควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ)

รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เวลา 16:30 น. โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อันมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้าคณะ โค่นรัฐบาลรักษาการนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นับเป็นรัฐประหารครั้งที่ 13 ในประวัติศาสตร์ไทย รัฐประหารดังกล่าวเกิดขึ้นหลังวิกฤตการณ์การเมืองซึ่งเริ่มเมื่อเดือนตุลาคม 2556 เพื่อคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ และอิทธิพลของดร.ทักษิณ ชินวัตร ในการเมืองไทย

ก่อนหน้านั้นสองวัน คือ วันที่ 20 พฤษภาคม 2557 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่เวลา 3.00 น. กองทัพบกตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) และให้ยกเลิกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ตั้งขึ้น กอ.รส. ใช้วิธีการปิดควบคุมสื่อ ตรวจพิจารณาเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ต และจัดประชุมเพื่อหาทางออกวิกฤตการณ์การเมืองของประเทศ แต่การประชุมไม่เป็นผล จึงเป็นข้ออ้างรัฐประหารครั้งนี้

หลังรัฐประหาร มีประกาศให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 สิ้นสุดลงยกเว้นหมวด 2 คณะรัฐมนตรีรักษาการหมดอำนาจ ตลอดจนให้ยุบวุฒิสภา จนเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2557 มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ซึ่งให้มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่แทนสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐสภา วันที่ 21 สิงหาคม 2557 สภาฯ มีมติเลือกพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรี

หลายประเทศประณามรัฐประหารครั้งนี้ รวมทั้งมีการกดดันต่าง ๆ เช่น ลดกิจกรรมทางทหารและลดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่คนไทยจำนวนหนึ่งแสดงความยินดี โดยมองว่าเป็นทางออกของวิกฤตการณ์การเมือง แต่ก็มีคนไทยอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากไม่เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตย
=========================================
รัฐประหาร 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 เกิดขึ้นหลังจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ รัฐประหารในปี พ.ศ. 2500 ล้มรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม แล้วได้มอบหมายให้พจน์ สารสิน เอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อจัดการเลือกตั้ง มีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2500 ต่อมา วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2501 พลโท ถนอม กิตติขจร จึงขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ทว่า การเมืองในรัฐสภาไม่สงบ เนื่องจากบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเรียกร้องเอาผลประโยชน์และมีการขู่ว่าหากไม่ได้ตามที่ร้องขอจะถอนตัวจากการสนับสนุนรัฐบาล เป็นต้น[ต้องการอ้างอิง] พลโท ถนอม กิตติขจรก็ไม่อาจควบคุมสถานการณ์ได้ ประกอบกับจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ หัวหน้าคณะปฏิวัติ ก็ได้เดินทางไปต่างประเทศเพื่อรักษาโรคประจำตัว เมื่อเดินทางกลับมา ในเช้าวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 พลเอก[1] ถนอม กิตติขจรจึงประกาศลาออกในเวลาเที่ยงของวันเดียวกัน แต่ยังไม่ได้ประกาศให้แก่ประชาชนทราบโดยทั่วกัน จากนั้นในเวลา 21.00 น.[2] จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ประกาศยึดอำนาจอีกครั้ง โดยอ้างถึงเหตุความมั่นคงของประเทศ ซึ่งมีลัทธิคอมมิวนิสต์กำลังคุกคาม[3] โดยมีคำสั่งคณะปฏิวัติให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2495 ที่ใช้อยู่ขณะนั้น ยุบสภา ยกเลิกสถาบันทางการเมือง ได้แก่ พรรคการเมือง เป็นต้น[4]

จากนั้นตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 จนถึงวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2502 คณะปฏิวัติได้มีประกาศคณะปฏิวัติออกมาทั้งหมด 57 ฉบับ มีสภาร่างรัฐธรรมนูญมาจากการแต่งตั้งไม่ใช่เลือกตั้ง มีการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2502 ซึ่งมีเพียงสั้น ๆ 20 มาตราเท่านั้น ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2502 ก็มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเพียง 14 คนเท่านั้น โดยไม่มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง

รัฐประหารครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็น การยึดอำนาจตัวเอง ก็ว่าได้ ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ส่งผลให้จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์สามารถใช้อำนาจในตำแหน่งได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จากรัฐธรรมนูญ มาตรา 17 ที่ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีจัดการกับบุคคลที่ก่อความไม่สงบได้ทันที แล้วจึงค่อยแจ้งต่อสภา ซึ่งจอมพลสฤษดิ์ก็ได้ใช้อำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่ในการควบคุมสถานการณ์ของประเทศ เช่น การปราบปรามฝิ่น มีการเผาฝิ่นที่ท้องสนามหลวงเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2502 และเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ปีเดียวกัน มีเหตุเพลิงไหม้ติดกันถึง 3 ครั้ง เป็นที่ฝั่งธนบุรี 2 ครั้ง และที่บางขุนพรหมอีก 1 ครั้ง ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ จอมพลสฤษดิ์เป็นผู้อำนวยการดับเพลิงเอง ต่อมาได้มีการจับกุมผู้วางเพลิงได้ทั้งหมด 3 ราย เป็นคนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งทั้งหมดยอมรับว่ารับจ้างมาเพื่อวางเพลิง จึงมีคำสั่งตามมาตรา 17 ให้ประหารชีวิตบุคคลทั้ง 3 ในที่สาธารณะ

จากมาตรา 17 นี้ ได้ประหารบุคคลที่สงสัยว่าจะก่อความไม่สงบหลายรายหรือข้อหาคอมมิวนิสต์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสาน เช่น ศิลา วงศ์สิน และศุภชัย ศรีสติ ในข้อหาผีบุญ, ครอง จันดาวงศ์ และทองพันธ์ สุทธิมาศในข้อหาเดียวกัน ที่สนามบินอำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร เป็นต้น ซึ่งจากเหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลให้เป็นการกดดันชาวบ้าน ประชาชนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างจากรัฐบาล จึงทำให้ชาวบ้านหลายคนต้องหลบเข้าป่าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) จนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า "วันเสียงปืนแตก" เมื่อผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (พกค.) ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยปืนเป็นครั้งแรกที่อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2508

คณะปฏิวัติสิ้นสุดลงเมื่อสภาร่างรัฐธรรมนูญเสนอชื่อจอมพลสฤษดิ์เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2502
=========================================
รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2500
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2500
Salit thanarat.jpg
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการทหารบกหัวหน้าคณะรัฐประหาร
วันที่  16 กันยายน 2500
สถานที่  ไทย ราชอาณาจักรไทย
ผลลัพธ์  

    คณะรัฐมนตรีสิ้นสุดลง
    จอมพล ป. พิบูลสงคราม ลี้ภัยไป ญี่ปุ่น
    พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ ลี้ภัยไป สวิตเซอร์แลนด์

คู่ขัดแย้ง
กองทัพบก
กองทัพเรือ
กองทัพอากาศ  คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 26
ผู้บัญชาการหรือผู้นำ
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์  จอมพล ป. พิบูลสงคราม
พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์
ภาพเหตุการณ์ขณะที่ จอมพลสฤษดิ์ นำคณะนักศึกษาเข้าพบจอมพล ป. ที่ทำเนียบรัฐบาล

รัฐประหาร 16 กันยายน พ.ศ. 2500 เป็นรัฐประหารในประเทศไทย ถือได้ว่าพลิกโฉมหน้าการเมืองไทยไปอีกรูปแบบหนึ่งเช่นเดียวกับรัฐประหารใน พ.ศ. 2490[1]

สาเหตุ

สืบเนื่องจากความแตกแยกกันระหว่างกลุ่มทหาร ที่นำโดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการทหารบก กับ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจ ที่ค้ำอำนาจของรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม

ประชาชนไม่ยอมรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2500 เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งที่ถือว่าโกงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ นับแต่ใช้เครื่องบินโปรยใบปลิวโจมตีฝ่ายตรงข้าม ข่มขู่ชาวบ้าน ประชาชน ให้เลือกแต่ผู้สมัครของพรรคเสรีมนังคศิลา คือ พรรครัฐบาล หรือการเวียนเทียนมาลงคะแนน การสลับหีบบัตร การแอบหย่อนบัตรคะแนนเถื่อนเข้าไปในหีบ และต้องใช้เวลานับคะแนน 7 วัน ด้วยกัน ผลการเลือกตั้ง พรรคเสรีมนังคศิลาของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้เสียงข้างมาก ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 30 ที่นั่ง

วันที่ 2 มีนาคม นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและประชาชนร่วมกันเดินขบวนประท้วงการเลือกตั้ง มีการลดธงเหลือแค่ครึ่งเสาเป็นการไว้อาลัย และเรียกร้องให้ พล.อ.ท.มุนี มหาสันทนะ เวชยันต์รังสฤษฎ์ ซึ่งเป็น ส.ส.สังกัดพรรคเสรีมนังคศิลา ลาออกจากตำแหน่งอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จอมพล ป. นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2500 และแต่งตั้งให้ จอมพลสฤษดิ์ เป็นผู้ปราบปรามการชุมนุม แต่เมื่อฝูงชนเดินทางมาถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์แล้ว จอมพลสฤษดิ์กลับเป็นผู้นำเดินขบวน พาฝูงชนข้ามสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยกล่าวว่า ทหารจะไม่มีวันทำร้ายประชาชน และเมื่อถึงหน้าทำเนียบรัฐบาลได้เป็นผู้เปิดประตูทำเนียบ นำพาประชาชนเข้าพบ จอมพล ป. พิบูลสงคราม จนกระทั่งจอมพล ป. ต้องลงมาเจรจาด้วยตนเองที่บันไดหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เมื่อได้เจรจากันแล้ว จึงได้ข้อสรุปว่า จอมพล ป. ยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ชอบมาพากลและจะจัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่ จึงได้พูดผ่านโทรโข่งขอให้ผู้ชุมนุมสลายตัวไปอย่างสงบ และขอให้อัญเชิญธงขึ้นสู่ยอดเสาตามปกติ ซึ่งก็ได้เป็นไปตามอย่างที่ จอมพลสฤษดิ์ ร้องขอทุกประการ ซึ่งการเดินขบวนประท้วงครั้งนี้นับเป็นการชุมนุมทางการเมืองครั้งแรกของชาวไทยนับตั้งแต่การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475[2]

ฝ่ายจอมพลสฤษดิ์ ที่ได้มีท่าทีเช่นนี้ ได้สร้างความนิยมขึ้นอย่างมากในหมู่ประชาชน แต่ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ท้าทายอำนาจจอมพล ป. เพราะหลังจากนี้ จอมพลสฤษดิ์ยังได้ประกาศด้วยตนเองผ่านทางวิทยุกร
Edit

อ. ชาญวิทย์ ทำนาย ประเทศไทยนองเลือดแน่

Edit
Edit

อ. ชาญวิทย์ ทำนาย ประเทศไทยนองเลือดแน่

Edit
Edit

แม่ไผ่ดาวดิน คุกเข่าทั้งน้ำตา ขอให้เจ้าหน้าที่เรือนจำ...

Edit
PEACE TV
Page Liked · 3 hrs · Edited ·
 
"แม่ไผ่ดาวดิน คุกเข่าทั้งน้ำตา ขอให้เจ้าหน้าที่เรือนจำอนุญาติใ...มารดานายจตุภัทร บุญภัทรรักษา และน้องสาว คุกเข่า ทั้งน้ำตาขวางรถเรือนจำฯที่จะอายัดตัวนายจตุภัทร ในคดี ขัดคำสั่ง คสช. ไปยังจังหวัดขอนแก่น ขอให้นายจตุภัทร เซ็นต์เอกสารลงทะเบียนเรียนก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต ภายหลัง ศาลจังหวัดภูเขียว อนุญาติปล่อยตัวชั่วคราว ไผ่ ดาวดินแล้ว โดยใช้ตั๋วทนายของบิดา และ เงินสดอีก 30,000 บาท ในคดีผิด พรบ.ประชามติ

เช้าวันนี้ ภายหลังนายจตุภัทรถูกนำตัวจากเรือนจำมายังศาลจังหวัดภูเขียว พนักงานอัยการจังหวัดภูเขียวได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดภูเขียวในทันที โดยฟ้องนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา เป็นจำเลยที่ 1 และนายวศิน พรหมณี เป็นจำเลยที่ 2 ในข้อหาตามพ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 61 วรรค 2 โดยทั้งสองเป็นนักศึกษาและสมาชิกของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ในภาคอีสาน และได้ร่วมกันแจกเอกสารเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ในบริเวณตลาดสดภูเขียวเมื่อวันที่ 6 ส.ค.59

ต่อมา นายจตุภัทร์ได้ถูกนำตัวมายังห้องเวรชี้ และทนายจำเลยได้แถลงว่าคดีจะครบกำหนดส่งตัวจำเลยที่ 2 ในวันที่ 22 ส.ค.59 จึงขอให้ศาลสอบคำให้การจำเลยทั้งสองคนพร้อมกัน ศาลพิเคราะห์เห็นว่าเมื่อจำเลยที่ 2 ไม่มาศาล จึงให้เลื่อนไปสอบคำให้การจำเลยทั้งสองพร้อมกันในวันที่ 22 ส.ค.59 เวลา 9.00 น.

ขณะเดียวกันทนายจำเลยยังยื่นคำร้องคัดค้านการขังระหว่างพิจารณา แต่ศาลจังหวัดภูเขียวได้พิเคราะห์เห็นว่าโจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสอง และศาลประทับฟ้องแล้ว ศาลจึงมีอำนาจออกหมายขังจำเลยที่ 1 ไว้ระหว่างพิจารณาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 71 และมาตรา 88 จึงให้ออกหมายขังจำเลยที่ 1 ไว้ เว้นแต่มีประกัน
นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา ทนายความ และ บิดาของนายจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน เปิดเผยช่วงเที่ยงนี้ว่า คดีของนายจตุภัทร เป็นคดีประวัติศาสตร์ ที่ทำคดีได้เร็วขนาดนี้ ฝากขังเพียงผัดเดียว พนักงานสอบสวนก็จะส่งฟ้องต่ออัยการแล้ว ต่างจากคดีทั่วไป เบื้องต้นได้เตรียมคัดค้านการฝากขังผัดที่ 2 ไว้จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลง ทางทีมทนายได้เจรจาขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ แต่ศาลไม่อนุญาต เรียกวงเงินประกัน 50,000 บาท พร้อมทั้งตั๋วทนายของนายวิบูลย์ แต่ทางทีมทนายได้ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้เพียงตั๋วทนายของนายวิบูลย์เท่านั้น หลังจากนี้ รอศาลพิจารณาว่าจะมีการอนุญาติให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายจตุภัทร หรือไม่

ล่าสุด นายอานนท์ นำภา ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ค แจ้งว่า ศาลจังหวัดภูเขียวมีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายจตุภัทร โดยใช้ตั๋วทนายของนายวิบูลย์ และ เงินสดเพิ่มอีก 30,000 บาท และปล่อยตัวที่เรือนจำกลางภูเขียว แต่เจ้าหน้าที่ได้อายัดตัวนายจตุภัทรในหมายจับคดีขัดคำสั่ง คสช. จากการจัดกิจกรรม พูดเพื่อเสรีภาพ ที่จังหวัดขอนแก่น โดยจะนำตัวนายจตุภัทรส่งไปที่ จังหวัดขอนแก่น แต่ขณะที่รถเรือนจำฯกำลังจะถอยออก นางพริ้ม บุญภัทรรักษา มารดาของนายจตุภัทร และน้องสาวนั่งคุกเข่าขวางทางไม่ให้รถออกไป เนื่องจากขออนุญาตเจ้าหน้าที่ให้นายจตุภัทรได้เซ็นต์เอกสารลงทะเบียนเรียนก่อน เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่อนุญาต ทำให้นางพริ้มและบุตรสาว นั่งร้องไห้ อ้อนวอน และคุกเข่าอยู่อย่างนั้น ไม่มีทีท่าว่าจะลุกหนี ท่ามกลางฝนลงเม็ด แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการต่อไปอย่างไร
Edit

(The 2nd National Conference on Volunteerism) "อาสาสมัครกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน" ว28 – 29 กันยายน 2559 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

Edit
"งานประชุมระดับชาติด้านการอาสาสมัคร ครั้งที่ 2"
ลงทะเบียนและชำระเงินได้ตั้งแต่วันนี้ - ถึง 15 กันยายน 2559

อ่านรายละเอียดทั้งหมด และกรอกใบสมัครออนไลน์ได้ที่

(The 2nd National Conference on Volunteerism)
ในธีมงาน "อาสาสมัครกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน"
วันที่ 28 – 29 กันยายน 2559 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

งานประชุมฯที่จะช่วยยกระดับความเข้าใจและตระหนักรู้ของสังคมเกี่ยวกับคุณค่าของงานอาสาสมัครต่อการพัฒนาประเทศ ความร่วมมือจากองค์กรร่วมจัด และเครือข่ายองค์กร ทำให้เกิดชุดความรู้และตัวอย่างปฏิบัติการด้านงานอาสาสมัคร ซึ่งสร้างประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ และสร้างเครือข่ายให้เกิดความร่วมมือระหว่างองค์กรภาคส่วนต่างๆในการขับเคลื่อนงานอาสาสมัครในประเทศไทย

ลงทะเบียนได้ที่ http://www.volunteerspirit.org/?p=28778
*** หมดเขตลงทะเบียนวันที่ 15 กันยายน 2559

++++++++++++
เครือข่ายจิตอาสา งานอาสาสมัคร จิตอาสา อาสาสมัคร กิจกรรมเพื่อสังคม และบทความ สาระน่ารู้เ�
จิตอาสา งานอาสาสมัคร อาสาสมัคร รวมงานจิตอาสา จากองค์กรเครือข่าย องค์กร หน่วยงาน อาสาสมัคร หรือกลุ่มผู้มีจิตอาสา เว็บไซต์แหล่งรวมช่องทางหางานจิตอาสา งานอาสาสมัคร ข่าวสารข้อมูล สาระความรู้ด้านอาสาสมัคร และประชาสัมพันธ์ได้ ฟรี!
Edit

Thursday, August 18, 2016

///ลักษณะ!!! การทำงานของอิสลามมุสลิม จะเห็นได้ชัดเจนครับ ว่าวางแผนอย่างเป็นระบบ.

Edit
///ลักษณะ!!! การทำงานของอิสลามมุสลิม จะเห็นได้ชัดเจนครับ ว่าวางแผนอย่างเป็นระบบ...

1.ทีมระดับมันสมอง หรือคลังสมองคอยวางแผน และกำหนดทิศทางของอิสลามในอนาคตที่จะปกครองไทย!!!
(ทีมก็อยู่ใน คณก.กลางอิสลามแห่งประเทศไทย, เงินที่สนับสนุนก็มาจากเงินสินค้า ทุกชนิด ที่มีเครื่องหมายฮาลาล)

2.ทีมอิสลามที่ เป็นนักสื่อข่าว!!!,คอยปล่อยข่าว สัมภาษณ์ชี้นำ สังคม
(กรณี เชิญ พล.ต.ต.มุสลิม สุรินทร์ ปาลาเร่ มาสัมภาษณ์ ซึ่งทั้งคนสัมภาษณ์ และคนให้สัมภาษณ์ เป็นนักข่าว จัดตั้งขึ้นมา)
ชี้นำสังคม...
 ///ประเทศไทย ไม่มีกฎหมายลงโทษ อย่างรุนแรงกับผู้สื่อข่าว ที่ลงข่าวไม่เป็นจริง...
(ไม่ได้จำกัดสิทธินักข่าว คุณเขียนข่าวก็เขียนไป.! แต่ถ้าพิสูจน์แล้วไม่เป็นความจริง ลงข่าวเท็จต้องจำคุก 10 ปี)
ผมยกตัวอย่าง นักข่าวมุสลิม ของ Manager ใส่ความกล่าวหา พระมหาอภิชาติ ปุณณจันโท..
นักข่าวมุสลิม ของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ  เขียนข่าวเท็จ!!
3.ที่ผ่านมา คณะของ จุฬาราชมนตรี ช่วงนี้จะทำหนังสือเยี่ยมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธฯ และเยี่ยม พล.อ.ประวิตรฯ บ่อยๆ  ทั้งทำเนียบรัฐบาล และ อาคารรับรอง กองทัพบก เกษะโกมล
จากนั้น เสนอข่าว ด้วยการถ่ายรูป (เป็นการโฆษณาโดยจิตวิทยา ตัวบุคคล ทำให้บุคคลอื่นเกรงใจมุสลิม เห็นว่าสนิทกับ นายกฯ และ รมว.กลาโหม ซึ่งเรื่องทั้งหมด ทั้งนายกฯ และ รมว.กลาโหม ก็ไม่รู้ว่า นี่เป็นแผนถ่ายรูป เพื่อจิตวิทยา) 
4.หลังจากนั้น ทีมกฎกมายของอิสลาม
จะเสนอกฎหมา (ย) ฉบับใดที่เป็นประโยชน์ต่ออิสลาม เข้าสภา สนช. ก็ไม่มีใครกล้าคัดค้าน เพราะกลัวตนเองจะเดือดร้อน กลัวนายกฯ  เพราะเห็นในภาพสนิทกันแค่ไหน!!! เมื่อทุกคนกลัวหมด ก็ไม่มีใครกล้าที่จะออกมารักษาพระพุทธศาสนา และ ประโยชน์ของชาติบ้านเมือง...
ท่านทั้งหลาย อย่าได้นิ่งนอนใจ ????
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาแล้วที่อินโดนีเซีย ในอดีต...
///แต่เดิมอินโดนีเซีย ประชากรส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา เจริญรุ่งเรืองมาก มีหลักฐานที่ มหาสถูปเจดีย์บุโรพุทโธ
สร้างขึ้นใน พ.ศ.1293
แต่ต่อมาชาวพุทธในอินโดซีเซีย ถูกมุสลิมออกกฎกมาย 
ควบคุม.. ตอนแรกก็บอกว่าใช้บังคับเฉพาะคนอิสลามด้วยกัน!!!! แต่ต่อมาคนมุสลิมอินโด มีเรื่องกับคนพุทธอินโด
ศาลโต๊ะอีหม่าม ก็ตัดสินให้คนพุทธแพ้ทุกครั้ง...ทำให้คนพุทธต้องหันมานับถืออิสลาม เพื่อเอาตัวรอด...
/// เวลาที่กฎหมายมุสลิมใช้บังคับ## ต่อให้คำสอน ของศาสนาพุทธดีแค่ไหน ทุกคนก็ต้องเอาตัวรอด
ดังเช่นเกิดในอินโดนีเซีย!!
///ซึ่งเหตุการณ์นี้ กำลังเกิดกับไทยในอนาคต ถ้าคนไทยทำเฉย ไม่ใช่เรื่องของตน!!
- คนไทยผู้รักษาชาติ ทั้งหลาย ตามที่
อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาล พูดไว้ไม่มีผิดครับ..

"ท่านทั้งหลายเอ๋ย!!!
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กว่าพระองค์ ทรงค้นพบทางที่เป็นอิสระจากสังสารวัฏ
หรือวัฏสงสาร อันมี สัตว์นรก, สัตว์เดรัจฉาน, เปรตวิสัย, มนุษย์โลก, เทวโลก, พรหมโลก  ทางที่พ้นจากภพภูมินี้เรียกว่า"พระนิพพาน"
//พระนิพพาน ไม่ได้ใช้เวลา ภพชาติเดียวที่จะค้นพบ
แต่ต้องใช้เวลา บำเพ็ญโพธิสัตว์ หลายภพชาติ 
ตามลำดับญาณของแต่ละพระองค์นั้น!!!

//ท่านเป็นอิสระแล้ว จากกฎของวัฏสงสาร...

เราจะปล่อยให้พระพุทธศาสนาต้องมาสูญสิ้น ให้พวกเดียรถีย์ พวกยักษ์ นอกศาสนา มาทำลายพระพุทธศาสนาในยุคของเราอย่างนั้นหรือ...
หลวงปู่อะคะนิมิต
Edit

อาการบอกโรค 32 ข้อ ที่ไม่ควรมองข้าม ใครไม่อยากป่วยจนสายเกินแก้ รีบอ่านด่วน!!

Edit
อาการบอกโรค 32 ข้อ ที่ไม่ควรมองข้าม ใครไม่อยากป่วยจนสายเกินแก้ รีบอ่านด่วน!!

การสังเกตอาการที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันอาจบ่งบอกถึงความผิดปกติต่างๆ เบื้องต้นได้ แต่ควรหาสาเหตุที่แท้จริง จึงจะแก้ปัญหาได้ถูกจุด อาการบางอย่าง อาจเกิดจากสาเหตุต่างกัน แต่มีอาการเหมือนกัน เช่น... 

1. อาการนอนไม่หลับ อาจเกิดจากถุงน้ำดีข้น หรือ กระดูกคอข้อที่ 1 เคลื่อน หรือเลือดไม่ค่อยเลี้ยงหัวใจ เนื่องจากเป็นคนตื่นเต้นบ่อย

2. ผิวหยาบ มีขี้แมลงวัน มีติ่ง หูด ตาปลา สาเหตุมาจากลำใส้ใหญ่สกปรก

3. ปัสสาวะมีกลิ่นแรง กลิ่นฉุนมาก เกิดจากไตไม่ดี ต่อมลูกหมากโต มีปัสสาวะคั่งค้าง ให้กินแกนสัปปะรด 3 แกน ทุกวันเป็นเวลา 7 วัน และดื่มน้ำกระชาย 4. ปวดนิ้วก้อย บอกถึงระบบความร้อนบกพร่อง ร่างกายถูกความเย็นตอน 3 – 5 ทุ่ม เช่นอาบน้ำเย็น ตากแอร์ เพราะเป็นเวลาที่ร่างกายต้องการความอบอุ่น

5. ปวดใต้ฝ่าเท้า หมายถึงปอดไม่แข็งแรง

6. ปวดเข่า

- ปวดด้านนอก ขึ้นมาถึงสะโพก หรือโคนขา หมายถึง ถุงน้ำดีข้น ดื่มน้ำน้อยไปหรือระบบดูดซึมไม่ดี อันมาจาก การกินของผัดน้ำมันพืช น้ำมันพืชที่ถูกความร้อนจะแปรสภาพเหนียวเกาะที่ลำไส้ ทำให้สารอาหารและน้ำซึมผ่านไม้ได้

-ปวดด้านหน้า หมายถึง กระเพาะอาหารไม่ดี กินอาหารไม่ตรงเวลา หรือมีความวิตกกังวลบ่อย

- ปวดด้านใน (ด้านที่เข่าชนกัน) หมายถึงปัญหาจาก ม้าม / เบาหวาน / อ้วน / ตับ / กินหวาน / ขี้โมโห / มีสารพิษ / ไต / กินรสจัด / หรือกินอาหาร ผัดน้ำมัน

- ปวดตามข้อ ปวดเข่า ให้ตื่นเช้าเอาน้ำเย็นรดตามข้อ สลายหินปูนเกาะได้กระตุ้นการขับถ่ายด้วย

7. ปวดสะบัดหลัง ปวดเอว หมายถึงถุงน้ำดีข้น ต้องล้างระบบดูดซึม

8. ปวดกล้ามเนื้อหน้าอก อาจเกิดจากปัญหา หัวใจ หรือไต หรือกระเพาะอาหารไม่แข็งแรง

9. มีอาการตึงใต้ราวนมขวา หมายถึงน้ำเหลืองไม่ดี สาเหตุมาจากมีอุจจาระตกค้างมาก หรือถ่ายไม่หมดเป็นประจำ ให้หาทางระบายและกินขมิ้นชันตอนเช้า 9 โมง ช่วยเรื่องน้ำเหลืองให้ดี

10. ปวดหลังมาจาก ท่านั่งไม่ถูกต้อง หรือ ความชื้นเข้าผิวหนัง หรือเพราะความวิตกกังวล หรือ เป็นนิ่ว ลมในท้องเยอะ ดันกรวยไตให้งอ

11. ปวดด้านข้างนอกฝ่าเท้า เป็นอาการของตับไม่ดี ถุงน้ำดีข้น นอนไม่หลับ ปวดหู ไมเกรน

12. กดกลางฝ่ามือ ถ้าเจ็บ หมายถึง หัวใจโต เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ

13. กดใต้นิ้วชี้ ถ้าเจ็บ หมายถึง ระบบย่อย ตับ กระเพาะไม่ดี

14. กดใต้ร่องนิ้วนาง กับก้อย ตรงเส้นหัวใจ ถ้าเจ็บ หมายถึง กล้ามเนื้อหัวใจไม่แข็งแรง

15. นิ้วกลางล็อค หมายถึงมีไขมันในเลือดมาก ต้องกินน้ำกระเจี๊ยบ-พุทราจีน เกิดจาก ตื่นเต้นบ่อย กินอาหารคอเลสเตอรอลสูง กินของหวานที่มีน้ำตาลมาก

16.ปวดข้อมือใต้นิ้วโป้ง หมายถึงการมีอุจจาระค้างในลำใส้ใหญ่มาก ควรแก้ใขด้านการขับถ่าย การมีอุจจาระค้างมากอยู่เสมอยังเป็นสาเหตุของกลิ่นปาก กลิ่นตัว และอาจจะไปรบกวนการทำงานของตับอ่อนในการผลิตอินซูลิน อันเป็นต้นเหตุหนึ่งของเบาหวาน

17. ตากุ้งยิง แก้โดยการดูที่แผ่นหลังจะมีเม็ดคลายหัวสิวเกิดขึ้น ให้สกิดอ่อนแล้วตากุ้งยิงจะหายไปเอง

18. มือสั่น เกิดจากมีน้ำมันเกาะลำไส้มาก ซึ่งอาจเกิดจากกินอาหารผัดน้ำมันพืช หรือตื่นเต้นบ่อย

19. เล็บ มีดอก หมายถึงเลือดจาง

20. เหงื่อออกง่าย เหงื่อออกฝ่ามือ ตัวเย็น เกิดจากหัวใจไม่แข็งแรง หรือฮอร์โมนไม่ปกติ ดื่มน้ำกระชาย กินหัวใจหมูต้ม ข้าวเหนียวกับลำไยแห้ง ช่วยบำรุงหัวใจ 21. ขี้ร้อน เกิดจาก ไตซ้ายเสื่อม กระทบถึง สมองซีกขวา ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับการจินตนาการ ศิลปะหรือขาด ฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือถูกความเย็นตอน 3 ทุ่ม – 5 ทุ่มระบบความร้อนในร่างกายบกพร่อง

22. ขี้หนาว หมายถึง ไตขวาเสื่อม จะกระทบถึงการทำงานของสมองซีกซ้ายที่ทำหน้าที่เก็บความจำ คำนวณ จับประเด็น สาเหตูจากถูกความเย็นตอน 3 – 5ทุ่ม

23. ถ้าหิวแล้ว มีอาการหิวจัด ทนไม่ได้ อาจกำลังจะเป็นเบาหวาน

24. เหน็บชา ตามแขน ขา เกิดจากเลือดไหลเวียนไม่ดี หรือมีพยาธิ เลือดน้อย หรือไม่กินข้าวซ้อมมือ น้ำชีวภาค ดีกว่ากระชาย

25. ตะคริว สาเหตุมาจากหัวใจไม่แข็งแรง ให้งดกิน ถั่ว ข้าวเหนียว ของดอง

- ตะคริวบก ขาดโปรแตสเซียม ให้กินผลไม้สดมากๆ

- ตะคริวน้ำ ให้ดื่มน้ำเกลือ (เกลือแกงป่น 1 ช้อนชา ละลายน้ำอุ่นดื่ม)

26. ไม่กินอาหารเช้า จะทำให้ สมองเสื่อม ผมร่วงง่าย หน้าแก่เร็ว คออักเสบง่าย ร้อนใน ปวดไหล่ กล้ามเนื้อเหลว กระดูกคอ กระดูกสะโพกเคลื่อนง่าย เข่าไม่ดี น่องเหลว น่องทู่ ปวดข้อเท้า วิตกง่าย ขี้โมโห

27. กลิ่นตัว เกิดจากลำใส่ใหญ่สกปรก มีสิ่งตกค้างมาก ซึมเข้าระบบเลือด และออกทางเหงื่อ ปาก และลมหายใจ

28. อัมพฤษ อัมพาต ส่วนใหญ่เกิดจากท้องผูก การขับถ่ายไม่ดี ประกอบกับเส้นเลือดตีบ เวลาเบ่งอุจจาระจะเพิ่มอันตรายจากการคั่งของเลือด ทำให้เกิดเส้นเลือดตีบตัน หรือแตกหมดความรู้สึกและล้มลง (มักเข้าใจผิดว่าหกล้มก่อนแล้วเส้นเลือดแตก) ควรป้องกันด้วยการดื่มน้ำกระเจี๊ยบ พุทราจีน ขยายหลอดเลือด หรือกินข้าวต้มน้ำมะละกอ 7-10 วัน อาการจะดีขึ้น (วิธีการทำข้าวต้มน้ำมะละกอ นำมะละกอดิบครึ่งลูกตัดจุกออก เอาเม็ดออก หั่นพร้อมเปลือกเหมือนฟัก ต้มน้ำเคี่ยวจนนิ่ม เอาแต่น้ำมาต้มข้าวต้ม ถ้าใช้ข้าวกล้องยิ่งดี จะใส่ใบเตยด้วยก็ได้ กิน 3 มื้อทุกวัน)

29. อวัยวะที่สัมพันธ์กัน ริมฝีปากกับม้าม ถ้าใช้ลิปสติกที่มีสารเคมี จะทำให้ม้ามไม่แข็งแรง ผลิตไขมันมาก ทำให้อ้วน

30. หูกับไต หูไม่ดี ไม่คอยได้ยิน เป็นการแสดงถึงไตไม่แข็งแรง

31. ลิ้นกับหัวใจ อาการของลิ้น บ่งบอกถึงความไม่แข็งแรงของหัวใจ

32. สายตา กับตับ รวมถึงเส้นผม และเส้นเอ็น ตับไม่แข็งแรงจะทำให้สายตาเสื่อมโทรม ผมหงอก และเส้นเอ็นหย่อนยาน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Edit

บทสะท้อนเชิงหลักการต่อรัฐไทยในความขัดแย้งไทย–กัมพูชา

บทสะท้อนเชิงหลักการต่อรัฐไทยในความขัดแย้งไทย – กัมพูชา บทนำ : การเลือกข้างที่ไม่ละทิ้งหลักการ ในความขัดแย้งระหว่างรัฐ การ “ ไม่เลือกข้าง ”...