Thursday, October 22, 2015

เรื่องวุ่น ๆ พี่ชายน้องสาวในราชสำนัก เกิดอะไรขึ้นแน่??? มุมมอง จรรยา ยิ้มประเสริฐ

เรื่องวุ่น ๆ พี่ชายน้องสาวในราชสำนัก เกิดอะไรขึ้นแน่??? มุมมอง จรรยา ยิ้มประเสริฐ

----------------
สิ่งหนึ่งที่ผมใช้เป็นจุดในการตั้งคำถามกับการศึกษาประเด็นเรื่องการเมืองอันคลุมเครือที่หาข้อสรุปชัดเจนไม่ได้ คือ ใครได้ประโยชน์ ?

อาทิ 

กรณี การสังหาร ร. 8 ใครได้ประโยชน์ที่สุดจากการตายของ ร. 8? 
ซึ่งแน่นอนคือ ร. 9 และราชสำนัก ที่สามารถฟื้นฟูราชประเพณีและวิถีสมบูรณาญาสิทธิราชได้อย่างมาก อย่างย้อนกับกระแสโลกจนน่าตกตลึง

ซึ่งเมื่อดูกรณีฟ้าชาย

1. วิธีการจัดการกำจัดเมียและเครือข่ายของเมียของฟ้าชาย นี่ไม่ได้ทำให้ภาพฟ้าชายดีขึ้นเลย เพราะมันสะท้อนการไม่เป็นสุภาพบุรุษและไม่มีวุฒิภาวะมากๆ ของคนที่จะขึ้นมาเป็นกษัตริย์ 

2. พอมาถึงการจัดการกับหมอหยองและเครือข่ายฟ้าชายอีกระลอกนี้ ฟ้าชายมีแต่เสียกับเสียนะครับ

ประเด็นที่ชวนถกกันคือ 

1. ถ้าทั้งหมดนี่เป็นการกระทำตามคำสั่งของฟ้าชาย เพื่อล้างภาพเสียหาย ก็ต้องบอกว่า เป็นการกระทำที่ยิ่งทำให้เสียหายยิ่งขึ้นนะครับ 

2. ถ้าเป็นการกระทำเพื่อ discredit ฟ้าชาย ถ้ามันเป็นเช่นนั้นจริง ก็สะท้อนว่า ฟ้าชายแทบไม่เหลืออำนาจอะไรในราชสำนัก เพราะแม้คนใกล้ตัวขนาดนี้ ก็ยังถูกกำจัดอย่างเย้ยกฎหมายและป่าเถื่อนเช่นนี้

3. ดังนั้น คำถามคือ การกระทำการอย่างเย้ยกฎหมาย ที่มาพร้อมกับข่าวอื้อฉาว และโศกนาฎกรรมต่อเครือข่ายฟ้าชายครั้งนี้ 

ใครคือผู้ได้ประโยชน์ที่สุด?

การมีจุดอ่อนของ ร. 9 ในกรณีพัวพันกับคดีฆาตกรรม (ที่ยังไม่มีข้อสรุป) ของพี่ชาย ทำให้ ร. 9 ต้องเป็นคนดีของระบบสมบูรณญาสิทธิราชย์และอีลีตรอยัลลิสต์และสร้างความสัมพันธ์กับระบบเผด็จการทหารอย่างแนบแน่น

การจัดการกับเครือข่ายฟ้าชาย ณ ตอนนี้ ในช่วงการเปลี่ยนผ่านรัชสมัย และการขึ้นครองราชย์ของฟ้าชาย ... 

ถ้ามองในเชิงประวัติศาสตร์แบบนี้ ก็อาจจะมองได้ว่า เพื่อสร้างจุดอ่อนฟ้าชาย เพื่อให้ยอมเป็นตัวเล่นทางการเมืองของเครือข่ายราชสำนัก คนที่ราชสำนัก (และทหาร) คุมได้เช่นเดียวกับรุ่นพ่อ  

ซึ่งนี่เป็นภาพรวมการเมืองศักดินาสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ที่กษัตริย์ ไม่ได้มีเอกสิทธิ์อย่างแท้จริง แต่อยู่ในการเมืองต่อรองอำนาจกับกลุ่มผลประโยชน์อภิสิทธิชนมาโดยตลอด

ผมจึงสนใจปรากฎการณ์การเมืองราชสำนักปัจจุบันมาก เพราะเห็นการพยายามต่อรองอำนาจกันอย่างรุนแรงของขั้วอำนาจเก่าในทางการเมืองไทย ในสภาพความเสื่อมเสียตกต่ำของชื่อเสียงของราชสำนักอย่างมากจนยากจะยื้อยุดไว้ได้เช่นนี้ 

ซึ่งการเมืองราชสำนักตอนนี้ ไม่ว่าจะมองจากมุมมองไหน ก็เห็นชัดว่า ราชสำนักไม่อาจกุมศรัทธามหาชนได้ด้วยบารมีเช่นในยุครุ่งเรืองสุดได้อีกต่อไป ดังนั้น เพื่อความอยู่รอดของ ราชสำนัก พวกเขาจะตัดสินใจการเมืองแบบไหน... 

- ปรับตัวแบบราชสำนักตะวันตก 
หรือ?
- ย้อนกลับสู่การใช้อำนาจควบคุมประชาชน ด้วยกำลังทหาร 

และผมก็คิดว่า นี่ก็คืออนาคตของประเทศไทย ที่คนไทยควรจะได้มีโอกาสได้ศึกษาวิเคราะห์ ร่วมเจรจาต่อรอง กดดันด้วยเช่นกัน!!!

; จรรยา ยิ้มประเสริฐ

ไทยวืดเก้าอี้คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนยูเอ็น เผยคะแนนต่ำสุดในกลุ่มชาติเอเชีย (ข่าวสด)

ไทยวืดเก้าอี้คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนยูเอ็น เผยคะแนนต่ำสุดในกลุ่มชาติเอเชีย
Font Size  

วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 02:48 น.
จำนวนคนอ่านล่าสุด 18286664 คน


 เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ยูเอ็นนิวส์ เซ็นเตอร์รายงานว่า สมาชิกสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ จัดการเลือกตั้งสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือ UN HRC วาระปี ค.ศ. 2015-2017 จำนวน 15 ประเทศ ผลออกมา มีสมาชิกใหม่ ได้แก่ แอลเบเนีย บังกลาเทศ เอลซัลวาดอร์ กานา ลัตเวีย เนเธอร์แลนด์ ไนจีเรีย ปารากวัย โปรตุเกส และกาตาร์

 ส่วนสมาชิกเดิมที่จะหมดวาระแต่ได้รับเลือกให้ทำหน้าที่ต่อ มีโบลิเวีย บอตสวานา คองโก อินเดีย และอินโดนีเซีย

 ด้านเว็บไซต์ข่าวแร็ปเปลอร์ของฟิลิปปินส์รายงานว่า สำหรับประเทศไทยที่พยายามสมัครเป็นสมาชิกในคณะมนตรีนี้ได้คะแนนน้อยที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชีย 5 ประเทศ คือ 136 คะแนน เป็นรองกาตาร์ที่ได้ 142 คะแนน บังกลาเทศ 149 คะแนน อินโดนีเซีย 152 คะแนน และอินเดีย 162 คะแนน

 ก่อนหน้าการลงคะแนน กลุ่มสิทธิมนุษยชนกลุ่มต่างๆ เตือนรัฐบาลไทยหลายครั้งให้เร่งปรับปรุงด้านสิทธิมนุษยชน เช่น กลุ่มฮิวแมนไรต์วอตช์ในนิวยอร์ก กลุ่มสหพันธ์นานาชาติด้านสิทธิมนุษยชนในปารีส และกลุ่มยูเนียน ฟอร์ ซีวิล ลิเบอร์ตี้ ในกรุงเทพฯ เรียกร้องให้ไทยยกเลิกกฎอัยการศึก ที่ใช้มาตั้งแต่การยึดอำนาจในวันที่ 22 พ.ค. 

 นอกจากนี้กลุ่มฮิวแมนไรต์ วอตช์ยังทำหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่ 18 ต.ค. เตือนว่า คำสัญญาของไทยที่จะสนับสนุนสิทธิมนุษยชนยังไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจัง หากประเทศยังอยู่ภายใต้กฎทางทหาร จึงขอเรียกร้องให้ยุติการปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการประท้วงอย่างสันติ 

 ทั้งนี้ เมื่อปี 2010 ก่อนเหตุสลายการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง ไทยเคยได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนครั้งแรก วาระ 3 ปี ด้วยคะแนนเสียง 182 เสียง


Credit: http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE16a3lNVEV4TUE9PQ%3D%3D

สามคนอลเวง ตอน Single Gateway ในพระราชดำริ-มีหรือไม่มีกษัตริย์ดี; และรับมืออย่างไรกับภัยทาง Social Media (ดร.เพียงดิน ปิดท้าย)

มหาวิทยาลัยประชาชน นำเสนอ




สามคนอลเวง ตอน Single Gateway ในพระราชดำริ-มีหรือไม่มีกษัตริย์ดี; และรับมืออย่างไรกับภัยทาง Social Media (ดร.เพียงดิน ปิดท้าย)

อย่าลืมสมัครร่วมขบวนการมดแดงล้มช้าง เปลี่ยนระบอบโดยประชาชน ด้วยสันติวิธีของประชาชน ทางลิ้งค์ใต้วิดีโอของมหาวิทยาลัยประชาชนเท่านั้น เพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีทุกรูปแบบ เราต้องสถาปนาเครือข่ายที่สานต่อถึงกันได้ ด้วยการมีเครือข่ายจริงที่สานกันทั่วโลกได้ด้วยเทคโนโลยี  หากยังไม่ได้สมัคร เชิญที่ลิ้งค์ข้างล่าง ดร.เพียงดิน รักไทย ดูแลความลับให้ท่านแต่ผู้เดียว


Wednesday, October 21, 2015

ตัวแทน สนช. โจร ไปชี้แจงต่อสมัชชา สภาฯ​ระดับโลกห้องข่าวเล่าเรื่องเช้า 22-10-2015 B4

 ตัวแทน สนช. โจร ไปชี้แจงต่อสมัชชา สภาฯ​ระดับโลกห้องข่าวเล่าเรื่องเช้า 22-10-2015 B4

https://youtu.be/n0qj-L7dpCY

 

 

 

Download

ศึกษาพื้นที่ขุดคอคอดกระ

 

 ศึกษาพื้นที่ขุดคอคอดกระ

https://youtu.be/Fh_jDallUzk

Download

ห้องข่าวเล่าเรื่องเช้า 22-10-201

https://youtu.be/n0qj-L7dpCY

ห้องข่าวเล่าเรื่องเช้า 22-10-2015 B4

Download

ดร.เพียงดิน รักไทย ชวนคิดชวนลุย 21 ตุลาคม 2558 "ประเทศไทยใกล้วิบัติ เพราะคนไทยขาดมนุษยธรม" https://youtu.be/6kPqbxW27hc


ดร.เพียงดิน รักไทย ชวนคิดชวนลุย 21 ตุลาคม 2558 "ประเทศไทยใกล้วิบัติ เพราะคนไทยขาดมนุษยธรม"

https://youtu.be/6kPqbxW27hc


ขบวนปฏิวัติประชาชน จะเอา ดร.ทักษิณ ไว้ตรงไหน? ชวนคิดชวนคุย โดย ดร.เพียงดิน รักไทย 20 ต.ค. 2558


ขบวนปฏิวัติประชาชน จะเอา ดร.ทักษิณ ไว้ตรงไหน? ชวนคิดชวนคุย โดย ดร.เพียงดิน รักไทย 20 ต.ค. 2558
https://youtu.be/sU8e6NEXw3A


กลุ่มต้านซิงเกิลเกตเวย์นัดกดเอฟ 5 ถล่มเว็บรัฐอีก 22 ต.ค. 10.00 น.

กลุ่มต้านซิงเกิลเกตเวย์นัดกดเอฟ 5 ถล่มเว็บรัฐอีก 22 ต.ค. 10.00 น.

Tuesday, October 20, 2015

กรณีหมอหยอง...เขาว่า พระเทพ ตบหน้า พี่ชาย เสี่ยโอ!!!

หมอหยอง คนของเสี่ย (หัวงาน bike for mom) โดนข้อหา 112 จับเข้าราบ11 กระทืบจนอ้วกเป็นเลือด งานนี้คอยดูเสี่ยจะช่วยได้หรือไม่ ฝ่ายน้องสาวตบหน้าพี่ชายเต็มๆ  หมอหยอง ไปจ้างช่างปั้น ปั้นรูปเสี่ย ราคา 800,000 ทีนี้ช่างปั้นปั้นเสร็จ หมอหยองบอกเสี่ยว่าไม่สวยให้แก้งาน พอแก้งานเสร็จ หมอหยองยังไม่จ่ายตังค์ คนปั้นเป็นศิลปินที่สังกัดในค่ายน้องสาว เลยเอาเรื่องไปฟ้อง หมอหยองเลยถูกลากคอเข้าไปซ้อมที่ราบ11 พร้อมด้วยข้อหา112

----------

ศาลทหาร พิจารณาอนุมัติหมายจับที่ 27 / 2558 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2558 ให้จับกุม "นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง 

และหมายจับที่ 28 / 2558 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2558 ให้จับ "พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา" สว.กก.1 บก.ปอท. 

ในข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

----------

Monday, October 19, 2015

Facebook เตรียมเพิ่มฟีเจอร์แจ้งเตือนเมื่อรัฐบาลแอบดูบัญชีผู้ใช้งาน

Facebook เตรียมเพิ่มฟีเจอร์แจ้งเตือนเมื่อรัฐบาลแอบดูบัญชีผู้ใช้งาน


วันที่: 20 October 2015 
หมวดหมู่: Business, Social Media 
ป้ายคำ: facebook, government, hack

41
shares
+
โซเชียลเน็ตเวิร์กรายนี้ออกมาประกาศว่าจะมีการส่งแบนเนอร์แจ้งเตือนผู้ใช้งานที่แอคเคาท์ของเขาเหล่านั้นถูกแอบตรวจสอบโดยรัฐบาล หรือเมื่อ Facebook สงสัยว่ามีคนพยายามจะแฮ็กมันอยู่ 

เป็นที่รู้กันดีว่าบัญชีผู้ใช้งาน Facebook ถูกแฮ็กกันอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเพราะการตั้งรหัสผ่านที่เดาได้ง่ายๆ หรือการ Phishing แต่การมอบความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานก็ยังคงเป็นสิ่งที่ Facebook ให้ความสำคัญ

12107890_10153611010246886_3935073197580215636_n

เรื่องนี้ถูกเขียนไว้ในบล็อกของ Facebook เอง ซึ่งก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ต้องมาเป็นอันดับ 1 เสมอ หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ จะมีแต่ Facebook เท่านั้นที่ควรรู้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน

ทาง Facebook ได้ชี้แจงเอาไว้ในบล็อกดังกล่าวว่า ตัดสินใจเพิ่มฟีเจอร์นี้เข้ามาก็เพราะการโจมตีในโลกไซเบอร์ลักษณะนี้มีความก้าวหน้าไปมาก และอันตรายกว่าแบบอื่นๆ แต่ก็ย้ำว่าผู้ใช้งานควรจะใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กโดยนึกถึงความเป็นส่วนตัวเป็นสำคัญ

หวังว่าจะไม่มีใครได้รับการแจ้งเตือนลักษณะนี้จาก Facebook แต่ถ้าคุณได้รับมัน ก็แปลว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนรหัสผ่านแล้วล่ะ

ที่มา : The Next Web

หมอหยองโดน 112 เพราะเมียประยุทธ์สั่งเก็บ นราพรเคยตัวเสียแล้ว

Copy: ขอแซงหน้าทุกข่าว 
หมอหยองโดน 112 เพราะเมียประยุทธ์สั่งเก็บ นราพรเคยตัวเสียแล้ว

เที่ยวไปจุ้นคดี 112 ทหารจับตัวไปยัดคดีนี้ สังคมรู้กันมีหลายคน อย่างจักรภพ  พ.อ.อภิวันท์มาถึงปวิน รวมพวกเสื้อแดงด้วยไม่ไหวจะหารายชื่อ โดนเพราะนราพรสั่งเล่นเองทั้งหมด ทหารรู้ๆกันอยู่ปิดยังก็ไม่มิด นราพรเป็นตัวเชื่อมกับเครือข่ายองค์กรเก็บขยะของหมอเหรียญทอง เอาคดี 112 มาจับคนเข้าคุกเอาหน้า ทำกันเป็นขบวนการ แต่เมื่ออำนาจทหารไม่จีรังความจึงมาแตกเอาตอนประยุทธ์ถูกเมียสั่งให้กองทัพเล่น 112 กับหมอหยอง เจอคนจริงหมอหยองนี่ไม่ธรรมดา ไม่งั้นไม่อยู่ยืนยงมาถึงทุกวันนี้ กล้าลุกสู้ สมเป็นคนกระบี่ มีองค์มีอะไรไม่รู้แต่หมอหยองรู้ว่าประยุทธ์ตกอยู่ในวงล้อมของคนชั่วหากินทางการเมือง ก็น่าจะเป็นนราพรเป็นคนอยู่เบื้องหลัง. ประยุทธ์ทำบ้านเมืองพังจริง 
งานนี้ประยุทธ์ถึงกับเครียดหนักหลายวัน ฝ่ายตำรวจจักรทิพย์ต้องปิดข่าวไม่มีการเอ่ยชื่อหมอหยองที่โดนเลยเห็นกันแล้ว ตอนแรกตำรวจชุดแรกประชุมเตรียมจับตัว แต่พอเรื่องแดงเป็นข่าว แนวหน้า และสื่ออีกหลายแห่งรีบลบข่าว จักรทิพย์ออกมาใหม่ บอกแค่มีคนกระทำต่อทำผิดสถานบัน ไม่เปิดเผยชื่อ ตั้งศรีวราห์สอบไปตามหน้าที่ .                                  /////////////////////////////มาแล้วๆๆศึกแม่หยิง 2 นาง ที่สมาคมแม่บ้านท.บ.มีเรื่องเล่ามาเสมอ นราพรอยู่เบื้องหลังคอยตามดิสเครดิตน้องสะใภ้ประยุทธ์ เมียพลเอกปรีชา จันทร์โอชา หาว่านางผ่องพรรณทำตัวเลวมากที่ยักยอกเงินกองทัพ 3 ให้เสียหายถึงพลเอกประยุทธ์ คู่สะใภ้คู่นี้ เกาเหลาไม่กินเส้นกันเมียทหารรู้ทิศทางอารมณ์ขอวสองคนนี้ดี ต่างมีอีกาเลี้ยงคาบข่าวส่งเรื่องสะใภ้ใหญ่ตามจิกดับรัศมีสะใภ้เล็ก สะใภ้เล็กก็ไช่ย่อย ไม่ปล่อยพี่สะใภ้ชั่วลอยนวล เบาเสียทีไหนตามปล่อยข่าวนราภรอยู่เบื้องหลังใช้อำนาจของสามีทำให้สถาบันเสื่อมลง เล่นของสูง ตั้งองค์กรลับเก็บขยะ 112 ตามกลั่นแกล้งคนเพื่ออยากได้หน้า ... พวกเมียๆ.. ยุ่งเหลือเชื่อ

เมืองไทยเปลี่ยนไป ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกแล้ว...!!??

คุยกับเพื่อนสนิท ที่เป็นครูประถมแถวเชียงใหม่ เคยหลงเจ้าชนิดที่เถียงกันจนแทบเสียเพื่อน แล้ววันนี้ ผ่านมาปีกว่า กลับมาคุยกันอีกครั้ง เธอกลายเป็นพวกตาสว่าง แถมรู้ทฤษฏีมดแดงล้มช้าง แถมเข้าใจคำว่า เปลี่ยนระบอบด้วย (ฮา)

เฮ้ย หลวงตาชูกับเณรน้อย ก็ดังไม่หยอก...
แล้ววันนี้ ยังมีดาวรุ่งทั้งวัยสูงและวัยกลาง รวมถึงเอ๊าะ ๆ อีกหลายท่าน

หรือยุคประชาพาไป...สู่แดนศิวิไลซ์ มันใกล้มากแล้วจริง ๆ

มันถึงได้มีข่าวอะไรทำนองแบบข้างล่างนี้ถี่ขึ้นเนาะ
http://www.dailynews.co.th/politics/355320

Sunday, October 18, 2015

สิ่งที่เหล่าทัพนกหวีด ลืมคิดแบบย้อนแย้งตนเอง

น้องสาวคนสวยโปรดฟังทางนี้หน่อยนะ


ถ้า "ทักษิณ" เอาเงินหลวงใส่บัญชีคุณหญิงพจมาน
ถ้า "ยิ่งลักษณ์" ซื้อไมโครโฟนตัวละแสนห้า แต่ราคาจริงแค่ 95,000
แล้วบอกว่าแค่ส่วนต่างเยอะ
ถ้า "ณัฐวุฒิ" เอาบริษัทตัวเอง มารับงานพีอาร์ ขณะนั่งเป็นรัฐมนตรี
โดยไม่ผ่านการประมูล
ถ้า "จตุพร" บวช แล้วเอาวัดเป็นที่ซ่องสุมทางการเมือง อ้างว่าเทศนาสอนธรรมะ แต่แท้จริงคือการชุมนุมทางการเมืองของเสื้อแดงในวัด
ถ้า "ปลอดประสพ" สั่งตัดถนนผ่านเขาใหญ่ โดยไม่มีรายงาน EHIA หรือการทำประชาพิจารณ์ อ้างว่าเพื่อให้สัตว์มีทางเดิน
ถ้า "ชัชชาติ" เสนอแผนงาน 3 ล้านล้าน แพงขึ้น แต่ได้แค่รถไฟรางคู่กระจอกๆ ความเร็วแค่ 160 km/hr. แบ่งสัมปทานให้จีนกับญี่ปุ่น เข้ามาทำเอง
ถ้า "คำรณวิทย์" เป็น ผบ.ตร. แล้วจับแพะเกาะเต่า โยนความผิดให้พม่าว่าฆ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ
ถ้า "พรรคเพื่อไทย" แก้รัฐธรรมนูญ นิรโทษกรรมให้ตัวเองจากความผิดทุกอย่าง ไม่ว่าอดีต ปัจจุบัน อนาคต
ถ้า "นิวัฒน์ธำรง" สั่งจำนำยุ้งฉาง ให้ชาวนาเอาข้าวเก็บไว้ในยุ้งฉางตัวเอง ทั้งๆที่ชาวนาส่วนใหญ่ไม่มียุ้งฉาง แต่คนที่มีคือพวกโรงสีและนายทุนค้าข้าว
ถ้า "สุรนันท์" สั่งห้ามสื่อเขียนวิพากษ์วิจารณ์ การทำงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และห้ามนำเสนอข่าวของประชาธิปัตย์
ถ้า "กิตติรัตน์" สั่งแจกเงินชาวนา และสวนยาง ไร่ละ 1,000 บาท แล้วบอกว่าไม่ใช่ประชานิยม #(หยุดดัดจริตประเทศไทย)
ถ้าเป็นแบบนี้น้องสาวคงนอนอยู่บ้านไม่ติด ออกมาเป่านกหวีดขับไล่ ใช่ป่าว
พี่น้องกปปส.คร้บ ผมเข้าใจแล้วที่ผ่านมา ดัดจริต ไว้มาก
ออกมาเถอะ ผมให้อภัยแล้ว อย่ามัวมุดท่อน้ำอยู่เลย
ออกมาเป่านกหวีด เหมือนที่เคยเป่าเถอะ
คิดถึงนะนกหวีด กปปส กะโหลก กะลา ปรี๊ดดดดด กรั่กๆๆๆๆ

Saturday, October 17, 2015

ระบบกษัตริย์ไทย และระบอบราชาธิปไตย ไม่เคยรักประชาชนจริง

คงไม่มีใครอยากเห็นภาพ "ยายเฒ่า" 

นั่งร้องไห้มองดูเจ้าหน้าที่ตัดฟันต้นยางพารา ซึ่งปลูกมากับมือ เพราะภาพนั้นมันไม่ได้สร้างผลงาน "เชิงบวก" ให้กับภาครัฐ คสช.อย่างแน่นอน

ปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เครือข่ายไทบ้านผู้ไร้สิทธิสกลนคร ร่วมผูกแขนเอิ้นขวัญให้นางจันทรา บังทอง วัย 82 ปี ชาวบ้านหนองแวง อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก พร้อมด้วยกำลังทหารบุกเข้าตัดฟันต้นยางพาราไปกว่า 2,000 ต้น

ยายจันทรามีสิ่งเดียวที่เป็นความหวังของครอบครัว ก็คือสวนยางแปลงนี้ แต่ก็มาถูกตัดทิ้งไปแบบไม่ทันตั้งตัว "ขอบใจลูกๆหลานๆ ที่ยังเป็นห่วงและมาปลอบขวัญให้กำลังใจ แม้จะมีความรู้สึกเศร้า เจ็บปวด และสะเทือนใจที่มาถูกทหารและป่าไม้ตัดฟันต้นยางทิ้งไปอย่างไร้ความปราณี" ยายจันทราพูดปนสะอื้นไห้

อย่างไรก็ตาม วันที่ 1 มิ.ย.2558 คือวันดีเดย์ในภารกิจ "ทวงคืนผืนป่า" ของ ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คสช. ที่พุ่งเป้า "สวนยางพารา" ที่รุกป่าเป็นอันดับแรก โดยตั้งเป้ายึดคืน 6 แสนไร่ ในปี 2558 และอีก 9 แสนไร่ ในปี 2559

คำสั่ง คสช. ฉบับที่ 66/2557 เน้นย้ำว่าการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่จะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ยากไร้ และให้มีกระบวนการเจรจาเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาในกรณีที่มีความสืบเนื่องต่อกันมา แต่เนื่องจากมาตรการหลักของคำสั่ง คสช. คือการใช้กำลังเข้าจับกุม และทวงคืนพื้นที่เป็นหลัก ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตป่าและกำลังอยู่ในระหว่างกระบวนการแก้ไขปัญหากับภาครัฐ จึงได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ไปด้วย"

หากความจริง พบว่าชาวบ้านที่ถูกข่มขู่คุกคาม ไล่รื้อ ตัดฟันทำลายพืชผล และจับกุมดำเนินคดี จากนโยบายดังกล่าว มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 681 รายทั่วประเทศ

"คำสั่ง คสช. ได้สร้างความเดือดร้อนอย่างมากให้กับประชาชนที่อาศัยและทำกินในเขตป่า …อีกทั้งเมื่อมีการเจรจาในระดับขบวนการภาคประชาชนกับตัวแทนรัฐบาลเพื่อหาทางออกร่วมกัน คำสั่ง คสช.ก็ยังเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติ ดำเนินการตามที่ตัวเองเห็นสมควร ซึ่งได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนมากขึ้นไปอีก"

ด้านกระบวนการ  "แผนแม่บทป่าไม้นั้นจัดทำโดยกลุ่มคนเพียง 17 คน (ที่ปรึกษา 5 คน, คณะผู้จัดทำ 12 คน) ในจำนวนนี้ มีเจ้าหน้าที่ทหารถึง 11 นาย ไม่มีสัดส่วนของตัวแทนภาคประชาชนและนักวิชาการสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง …ไม่มีกระบวนการมีส่วนร่วม กระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่อย่างใด"

ยังมีอีกหลายนโยบายที่ คสช. หรือข้าราชการริเริ่ม ซึ่งกำลังเผชิญกับเสียงคัดค้าน และผู้คัดค้านก็นำเสนอเหตุผลและทางเลือก แต่ผู้มีอำนาจไม่สนใจ อาทิ โครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ เปิดเหมืองทองคำทั่วประเทศ เปิดเหมืองโปแตซ และโครงการพัฒนาริมฝั่งเจ้าพระยา เป็นต้น

เมื่อโลกทัศน์ของ "รัฐราชการ+อำนาจรวมศูนย์+เอื้อประโยชน์นายทุน+เศรษฐกิจมาก่อน" เช่นนี้ แปลกแยกแตกต่างอย่างรุนแรงกับโลกทัศน์ของประชาชน ผู้ไม่ได้ติดอยู่ในวิธีคิดแบบเก่า

ในเมื่อโลกทัศน์ระหว่าง "ข้าราชการ+เทคโนแครต" กับ "ประชาชน" โดยรวมกำลังขัดแย้งแตกต่างกันเช่นนี้ กระบวนการปฏิรูปใดๆ ก็ตาม ที่ไม่วาง "ประชาชน" เป็นหัวใจ จึงไม่มีทางที่จะลงหลักปักฐานได้เลย

ด้วยเหตุนี้ การปฏิรูปอะไรก็ตาม คือการปฏิรูป "โลกทัศน์" ของผู้ถืออำนาจการปฏิรูป
จากโลกทัศน์แบบอำนาจนิยมที่เชื่อว่าคนดี-คนเก่งรู้ดีที่สุด มาเป็นโลกทัศน์แบบประชาธิปไตย ให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

หาก คสช. ยังยึดมั่น "โลกทัศน์" ของอำมาตย์นิยม ที่ใช้ ม. 44 และอำนาจจากปากกระบอกปืน ดังเช่นทุกวันนี้ 

ผลก็คือ แรงสะท้อนที่ไม่ได้แค่พลังต้องการประชาธิปไตยสะสมของประชาชน แต่มันจะทวีความรุนแรงด้วยความอดอยาก และความจนของพี่น้อง ประชาชน อีกด้วย


ประชาชน

คงไม่มีใครอยากเห็นภาพ "ยายเฒ่า" 

นั่งร้องไห้มองดูเจ้าหน้าที่ตัดฟันต้นยางพารา ซึ่งปลูกมากับมือ เพราะภาพนั้นมันไม่ได้สร้างผลงาน "เชิงบวก" ให้กับภาครัฐ คสช.อย่างแน่นอน

ปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เครือข่ายไทบ้านผู้ไร้สิทธิสกลนคร ร่วมผูกแขนเอิ้นขวัญให้นางจันทรา บังทอง วัย 82 ปี ชาวบ้านหนองแวง อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก พร้อมด้วยกำลังทหารบุกเข้าตัดฟันต้นยางพาราไปกว่า 2,000 ต้น

ยายจันทรามีสิ่งเดียวที่เป็นความหวังของครอบครัว ก็คือสวนยางแปลงนี้ แต่ก็มาถูกตัดทิ้งไปแบบไม่ทันตั้งตัว "ขอบใจลูกๆหลานๆ ที่ยังเป็นห่วงและมาปลอบขวัญให้กำลังใจ แม้จะมีความรู้สึกเศร้า เจ็บปวด และสะเทือนใจที่มาถูกทหารและป่าไม้ตัดฟันต้นยางทิ้งไปอย่างไร้ความปราณี" ยายจันทราพูดปนสะอื้นไห้

อย่างไรก็ตาม วันที่ 1 มิ.ย.2558 คือวันดีเดย์ในภารกิจ "ทวงคืนผืนป่า" ของ ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คสช. ที่พุ่งเป้า "สวนยางพารา" ที่รุกป่าเป็นอันดับแรก โดยตั้งเป้ายึดคืน 6 แสนไร่ ในปี 2558 และอีก 9 แสนไร่ ในปี 2559

คำสั่ง คสช. ฉบับที่ 66/2557 เน้นย้ำว่าการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่จะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ยากไร้ และให้มีกระบวนการเจรจาเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาในกรณีที่มีความสืบเนื่องต่อกันมา แต่เนื่องจากมาตรการหลักของคำสั่ง คสช. คือการใช้กำลังเข้าจับกุม และทวงคืนพื้นที่เป็นหลัก ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตป่าและกำลังอยู่ในระหว่างกระบวนการแก้ไขปัญหากับภาครัฐ จึงได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ไปด้วย"

หากความจริง พบว่าชาวบ้านที่ถูกข่มขู่คุกคาม ไล่รื้อ ตัดฟันทำลายพืชผล และจับกุมดำเนินคดี จากนโยบายดังกล่าว มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 681 รายทั่วประเทศ

"คำสั่ง คสช. ได้สร้างความเดือดร้อนอย่างมากให้กับประชาชนที่อาศัยและทำกินในเขตป่า …อีกทั้งเมื่อมีการเจรจาในระดับขบวนการภาคประชาชนกับตัวแทนรัฐบาลเพื่อหาทางออกร่วมกัน คำสั่ง คสช.ก็ยังเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติ ดำเนินการตามที่ตัวเองเห็นสมควร ซึ่งได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนมากขึ้นไปอีก"

ด้านกระบวนการ  "แผนแม่บทป่าไม้นั้นจัดทำโดยกลุ่มคนเพียง 17 คน (ที่ปรึกษา 5 คน, คณะผู้จัดทำ 12 คน) ในจำนวนนี้ มีเจ้าหน้าที่ทหารถึง 11 นาย ไม่มีสัดส่วนของตัวแทนภาคประชาชนและนักวิชาการสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง …ไม่มีกระบวนการมีส่วนร่วม กระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่อย่างใด"

ยังมีอีกหลายนโยบายที่ คสช. หรือข้าราชการริเริ่ม ซึ่งกำลังเผชิญกับเสียงคัดค้าน และผู้คัดค้านก็นำเสนอเหตุผลและทางเลือก แต่ผู้มีอำนาจไม่สนใจ อาทิ โครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ เปิดเหมืองทองคำทั่วประเทศ เปิดเหมืองโปแตซ และโครงการพัฒนาริมฝั่งเจ้าพระยา เป็นต้น

เมื่อโลกทัศน์ของ "รัฐราชการ+อำนาจรวมศูนย์+เอื้อประโยชน์นายทุน+เศรษฐกิจมาก่อน" เช่นนี้ แปลกแยกแตกต่างอย่างรุนแรงกับโลกทัศน์ของประชาชน ผู้ไม่ได้ติดอยู่ในวิธีคิดแบบเก่า

ในเมื่อโลกทัศน์ระหว่าง "ข้าราชการ+เทคโนแครต" กับ "ประชาชน" โดยรวมกำลังขัดแย้งแตกต่างกันเช่นนี้ กระบวนการปฏิรูปใดๆ ก็ตาม ที่ไม่วาง "ประชาชน" เป็นหัวใจ จึงไม่มีทางที่จะลงหลักปักฐานได้เลย

ด้วยเหตุนี้ การปฏิรูปอะไรก็ตาม คือการปฏิรูป "โลกทัศน์" ของผู้ถืออำนาจการปฏิรูป
จากโลกทัศน์แบบอำนาจนิยมที่เชื่อว่าคนดี-คนเก่งรู้ดีที่สุด มาเป็นโลกทัศน์แบบประชาธิปไตย ให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

หาก คสช. ยังยึดมั่น "โลกทัศน์" ของอำมาตย์นิยม ที่ใช้ ม. 44 และอำนาจจากปากกระบอกปืน ดังเช่นทุกวันนี้ 

ผลก็คือ แรงสะท้อนที่ไม่ได้แค่พลังต้องการประชาธิปไตยสะสมของประชาชน แต่มันจะทวีความรุนแรงด้วยความอดอยาก และความจนของพี่น้อง ประชาชน อีกด้วย


ประชาชน

อย่าหลงว่า “สหรัฐเข้าข้างกัมพูชา” แล้วปล่อยให้ไฟชาตินิยมเผาทั้งการทูตและประชาธิปไตย

คันฉ่องส่องไทย • เตือนภัย “เรื่องเล่า” ที่ทำให้เราอ่านเกมผิด อย่าหลงว่า “สหรัฐเข้าข้างกัมพูชา” แล้วปล่อยให้ไฟชา...