Thursday, July 14, 2016

รังสิมันต์ โรม เล่าประสบการณ์ในคุกและการพันธนาการด้วยกุญแจเท้า ยืนยันรณรงค์ไม่รับรัฐธรรมนูญต่อไป

รังสิมันต์ โรม เล่าประสบการณ์ในคุกและการพันธนาการด้วยกุญแจเท้า ยืนยันรณรงค์ไม่รับรัฐธรรมนูญต่อไป

รังสิมันต์ โรม นักศึกษาปริญญาโท คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักกิจกรรมกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ เล่าประสบการณ์ในเรือนจำ 12 วัน ว่าสิ่งที่น่าห่วงที่สุดก็คือสุขภาพของคนในเรือนจำ ซึ่งมีโอกาสจะป่วยด้วยโรคติดต่อได้ง่าย เนื่องจากถูกขังรวมกันจำนวนราว 40 คนต่อ ห้องขัง 1 ห้อง และมีเพียงผ้าห่ม 3 ผืนให้ใช้สำหรับปูนอน หนุน และห่ม ซึ่งไม่เพียงพอต่อการทำให้ร่างกายอบอุ่นโดยเฉพาะในเวลาที่อากาศหนาวเย็นและเปียกชื้น แม้ว่าเรือนจำจะมีมาตรการดูแลสุขภาพผู้ต้องขัง แต่จำนวนบุคลากรก็อาจจะไม่เพียงพอ

ผลการตรวจสุขภาพของเขาและเพื่อนๆ หลังออกจากเรือนจำ พบว่า 6 คนมีสุขภาพแข็งแรง ขณะที่อีกหนึ่งคน แพทย์ตรวจพบลักษณะเหมือนลิ่มเลือดในปอด ต้องรอเวลาอีก 2 เดือนเพื่อตรวจซ้ำอีกครั้งว่ามีอาการของโรคระบบทางเดินหายใจหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่า แม้จะถูกจับกุมและกล่าวหาว่ากระทำผิดมาตรา 61 พระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญ 2559 ซึ่งกำหนดโทษจำคุกไว้ถึง 10 ปี ปรับไม่เกินสองแสนบาท และศาลอาจสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดไม่เกิน 5 ปี เขาและเพื่อนก็จะรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญต่อไป และยืนยันว่าสิ่งที่เขานำเสนอไม่ใช่การบิดเบือน แต่เป็นการตีความตามหลักกฎหมาย และเสนอความเห็นแย้งซึ่งเป็นสิ่งที่ควรกระทำได้ และทางที่ดีหากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหรือ กรธ. เห็นว่ากลุ่มของเขาเข้าใจคลาดเคลื่อนในจุดไหน ก็ควรจะได้อภิปรายกันด้วยหลักวิชาการ

สำหรับความเคลื่อนไหวของ กรธ. วันนี้คณะอนุกรรมการด้านเนื้อหา จะประชุมหารือโดยเชิญนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมหารือเกี่ยวกับเอกสารของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ และเอกสารอื่นๆ ที่ กรธ. เห็นว่าเป็นการบิดเบือนเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อหาแนวทางต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไร

มาตรา 61 วรรคสอง พระราชบัญญัติประชามติ เป็นบทบัญญัติที่ถูกหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีเนื้อหาคลุมเครือและอาจจะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงออก โดยมีเนื้อหาว่า "ผู้ที่ดําเนินการเผยแพร่ข้อความ ภาพ เสียง ในสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือในช่องทางอื่นใด ที่ผิดไปจากข้อเท็จจริงหรือมีลักษณะรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่โดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง หรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่ออกเสียง ให้ถือว่าผู้นั้นกระทําการก่อความวุ่นวายเพื่อให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย"

อย่างไรก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าเนื้อหาของบทบัญญัตินี้ไม่ขัดกับหลักสิทธิเสรีภาพที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ

Wednesday, July 13, 2016

สงครามระหว่างโลกตะวันตก กับ จีน ต่อกรณีพิพาทหมู่เกาะแถวใกล้ ๆ บ้านเรา ทะเลจีนใต้ กำลังระอุขึ้นเรื่อย ๆ

สงครามระหว่างโลกตะวันตก กับ จีน ต่อกรณีพิพาทหมู่เกาะแถวใกล้ ๆ บ้านเรา ทะเลจีนใต้
กำลังระอุขึ้นเรื่อย ๆ 




สงครามระหว่างโลกตะวันตก กับ จีน ต่อกรณีพิพาทหมู่เกาะแถวใกล้ ๆ บ้านเรา ทะเลจีนใต้ กำลังระอุขึ้นเรื่อย ๆ

สงครามระหว่างโลกตะวันตก กับ จีน ต่อกรณีพิพาทหมู่เกาะแถวใกล้ ๆ บ้านเรา ทะเลจีนใต้
กำลังระอุขึ้นเรื่อย ๆ 




อุปสรรคสำคัญที่คนสีแดงต้องก้าวข้ามให้ได้

เขียนไว้เมื่อราว 6 ปีที่แล้ว
..............................................

Piangdin Rakthai
July 27, 2010 · 

@*_*@' ช้างบ้าหน้าบาปหยาบหนา 
บีฑาเรือกไร่ไพรสวน 
แดงแตกแยกทัพปรับกระบวน 
เราชวนมาสร้างทางแท้ 
มดแดงแฝงกายไม้สูง 
เดินจูงมือจับกระชับแน่ 
รอฝันวันพบครบแล 
โดดกัดซัดแน่ช้างม้วย ...

มาเป็นมดแดงกันนะฮ๊าบ....


Piangdin Rakthai Piangdin RakthaiJuly 30, 2010 at 11:54pm
Subject: ข้อคิดสำหรับพี่น้องร่วมขบวนการแดง
หมายเหตุ: เขียบทความนี้มานานเกือบปีแล้วครับ แต่วันนี้ ความคิดเหล่านี้ก็ยังนำมาปรุงต่อและเสริมกับแนวทางมดแดงล้มช้างได้ครับ ขอฝากพิจารณานะครับ

อุปสรรคสำคัญที่คนสีแดงต้องก้าวข้ามให้ได้

ในขณะที่คนหัวใจสีแดงได้ต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยมาต่อเนื่องตั้งแต่
รัฐประหาร 49 และขยายตัวจนแดงไปทั่วแผ่นดินในขณะนี้นั้น คนเสื้อแดงได้
เรียนรู้และปรับเปลี่ยนความคิดรวมถึงแนวทางการเคลื่อนไหวมากมาย
และยังมีอะไรอีกมากมายที่พวกเราจะต้องทำเพิ่มอีกมากมาย เพราะกลุ่ม
เผด็จการที่แย่งอำนาจมาครองเกือบทุกระบบภายใต้ระบอบเผด็จการนั้น
ท่าทางจะไม่ยอมหยุด และคงจะปล่อยพิษออกมาอีกหลายยก...

สิ่งที่สำคัญที่สุดต่อความสำเร็จของคนสีแดง คือจำนวนคนไทยมหาศาล
ที่ตื่นแล้วจากความหลง 
ตื่นแล้วจากความหลอกลวง 
ตื่นแล้วจากความเป็นไทยแบบผิด ๆ 
ตื่นแล้วจากการแบ่งแยกชนชั้น 
ตื่นแล้วจากการเป็นทาสของระบอบที่ตอแหล
หากจำนวนคนไทยที่ตื่นแล้วนี้ เกินครึ่งของประชาชนที่มีสิทธิในการเลือกตั้ง
หากมีการเลือกตั้งหรือลงประชามติระดับชาติหรือระดับท้องถิ่น พรรคของประชาชนก็จะชนะทุกครั้ง
หากมีการแสดงพลังต่อต้านสิ่งใด ก็จะเป็นผลสมเจตนา
อยากเปลี่ยนสีฟ้าก็จะทำได้ อยากเปลี่ยนหน้าดินก็จะทำได
และพลังมหาศาลที่พิสูจน์รู้ได้ชัดเจนนี้เอง หากมีการจัดการให้ดี
ก็จะเป็นชัยชนะกว่าครึ่งหนี่งของการต่อสู้
เพราะใครก็ได้ที่มานำฝูงชน จะทำอะไรก็จะได้ดั่งใจ

แต่อุปสรรคสำคัญของคนเสื้อแดงก็คือ คุณภาพในหัวใจและความคิดของคนเสื้อแดงเอง
หากหนทางประชาธิปไตย คือการเคารพในเสรีภาพ ความเสมอภาค และการสร้างภราดรภาพ
คนเสื้อแดงต้องแสดงออกในคุณลักษณะเหล่านี้ให้ประจักษ์
เพราะความเชื่อที่เป็นอุดมการณ์และนำไปสู่การแสดงออกอย่างกลมกลืนแท้จริงเท่านั้น
ที่จะดลใจให้คนที่ยังไม่ตื่น ไม่รู้ ไม่เลิกหลง กลับตัวได้
และคนสีแดง จำเป็นต้องทำให้คนอีกมากมายกลับตัวให้ได้
แล้วหันมามองคุณค่าประชาธิปไตย ร่วมทางเดินเดียวกัน สู่เป้าหมายเดียวกันกับพวกเรา

เมื่อเราสามารถดึงคนไทยมาร่วมใจ ร่วมแนวทางได้เพิ่มขึ้นแล้วนั่นแหละ
ที่เราจะทำในสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้เกิดสิ่งที่ต้องเกิด ก่อนการได้มาซึ่งเสรีประชาธิปไตย

คนมหาศาลเหล่านี้ จะเริ่มทำสิ่งต่าง ๆ เช่น
ถือไฟฉาย จุดตะเกียง หรือแม้แต่เทียน พร้อมส่องไปยังเจ้าของลัทธิเผด็จการ
จนคนถูกส่องไฟอายต้องยอมถอดหน้ากากยอมแพ้

แค่ส่งเสียงพร้อมกัน ทหารก็ต้องถอยทัพกลับ

แค่เลิกทำงานพร้อมกัน ก็ทำให้ประเทศไทยเป็นอัมพาตได้

แค่พร้อมใจกันเลิกสนับสนุนกิจการใด ก็ทำให้กิจการนั้นล่มจมได้ 

แค่กระซิบเสียงพร้อมกัน ก็ทำให้เสียงสะท้านไปทั่วแผ่นดินได้ ฯลฯ

เมื่อใดก็ตามเราก้าวถึงจุดนี้ ประเทศไทยจะถูกจารึกว่า 
เป็นประเทศแรก ที่ได้มาซึ่งเสรีประชาธิปไตยฉบับเต็ม 
โดยไม่นองเลือด เช่นเดียวกับการเลิกทาส ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

วันนี้ คุณอดทนที่จะอยู่ร่วมและเรียนรู้กับคนสีอื่นบนพื้นฐานภราดรภาพ 
และการเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นคน เสรีภาพ และความเสมอภาคของการแสดงออกได้หรือไม่?

วันนี้ คุณอดทนที่จะอธิบายและรับฟังความเห็นต่างได้ดีหรือไม่?

วันนี้ คุณพูดเหตุผลให้คนหลงได้เข้าใจเจตนาดีและผลดีที่ทุกฝ่ายจะได้
ด้วยความอดทนและด้วยเหตุผลที่แท้จริงหรือไม่?

และมีอีกหลายคำถาม ที่คนเสื้อแดงต้องถามตัวเอง
เพื่อให้แน่ใจว่า เราเป็นและทำตัวสอดคล้องกับสิ่งที่เราเรียกร้องหามาตลอ

อุปสรรคสำคัญที่สุด ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล
... อยู่ส่วนบนสุดของร่างกาย ระหว่างสองไหล่นั่นเอง

วันนี้...
ประชาชนต้องผันตัวเป็นเหมือนมดแดงจำนวนมหาศาล ที่เกิดจากแต่ละตัวที่มุ่งมั่นด้วยความเชื่อว่า มดแดงตัวน้อย ๆ นี้ หากรวมตัวกัน หากมีเป้าหมายเดียวกัน หากไม่ย่อท้อ หากวิ่งไปหาจุดตายช้างอย่างไม่ย่อท้อ วันหนึ่ง เราล้มช้างได้....
 — in Stanford, California.

อุปสรรคสำคัญที่คนสีแดงต้องก้าวข้ามให้ได้

เขียนไว้เมื่อราว 6 ปีที่แล้ว
..............................................

Piangdin Rakthai
July 27, 2010 · 

@*_*@' ช้างบ้าหน้าบาปหยาบหนา 
บีฑาเรือกไร่ไพรสวน 
แดงแตกแยกทัพปรับกระบวน 
เราชวนมาสร้างทางแท้ 
มดแดงแฝงกายไม้สูง 
เดินจูงมือจับกระชับแน่ 
รอฝันวันพบครบแล 
โดดกัดซัดแน่ช้างม้วย ...

มาเป็นมดแดงกันนะฮ๊าบ....


Piangdin Rakthai Piangdin RakthaiJuly 30, 2010 at 11:54pm
Subject: ข้อคิดสำหรับพี่น้องร่วมขบวนการแดง
หมายเหตุ: เขียบทความนี้มานานเกือบปีแล้วครับ แต่วันนี้ ความคิดเหล่านี้ก็ยังนำมาปรุงต่อและเสริมกับแนวทางมดแดงล้มช้างได้ครับ ขอฝากพิจารณานะครับ

อุปสรรคสำคัญที่คนสีแดงต้องก้าวข้ามให้ได้

ในขณะที่คนหัวใจสีแดงได้ต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยมาต่อเนื่องตั้งแต่
รัฐประหาร 49 และขยายตัวจนแดงไปทั่วแผ่นดินในขณะนี้นั้น คนเสื้อแดงได้
เรียนรู้และปรับเปลี่ยนความคิดรวมถึงแนวทางการเคลื่อนไหวมากมาย
และยังมีอะไรอีกมากมายที่พวกเราจะต้องทำเพิ่มอีกมากมาย เพราะกลุ่ม
เผด็จการที่แย่งอำนาจมาครองเกือบทุกระบบภายใต้ระบอบเผด็จการนั้น
ท่าทางจะไม่ยอมหยุด และคงจะปล่อยพิษออกมาอีกหลายยก...

สิ่งที่สำคัญที่สุดต่อความสำเร็จของคนสีแดง คือจำนวนคนไทยมหาศาล
ที่ตื่นแล้วจากความหลง 
ตื่นแล้วจากความหลอกลวง 
ตื่นแล้วจากความเป็นไทยแบบผิด ๆ 
ตื่นแล้วจากการแบ่งแยกชนชั้น 
ตื่นแล้วจากการเป็นทาสของระบอบที่ตอแหล
หากจำนวนคนไทยที่ตื่นแล้วนี้ เกินครึ่งของประชาชนที่มีสิทธิในการเลือกตั้ง
หากมีการเลือกตั้งหรือลงประชามติระดับชาติหรือระดับท้องถิ่น พรรคของประชาชนก็จะชนะทุกครั้ง
หากมีการแสดงพลังต่อต้านสิ่งใด ก็จะเป็นผลสมเจตนา
อยากเปลี่ยนสีฟ้าก็จะทำได้ อยากเปลี่ยนหน้าดินก็จะทำได
และพลังมหาศาลที่พิสูจน์รู้ได้ชัดเจนนี้เอง หากมีการจัดการให้ดี
ก็จะเป็นชัยชนะกว่าครึ่งหนี่งของการต่อสู้
เพราะใครก็ได้ที่มานำฝูงชน จะทำอะไรก็จะได้ดั่งใจ

แต่อุปสรรคสำคัญของคนเสื้อแดงก็คือ คุณภาพในหัวใจและความคิดของคนเสื้อแดงเอง
หากหนทางประชาธิปไตย คือการเคารพในเสรีภาพ ความเสมอภาค และการสร้างภราดรภาพ
คนเสื้อแดงต้องแสดงออกในคุณลักษณะเหล่านี้ให้ประจักษ์
เพราะความเชื่อที่เป็นอุดมการณ์และนำไปสู่การแสดงออกอย่างกลมกลืนแท้จริงเท่านั้น
ที่จะดลใจให้คนที่ยังไม่ตื่น ไม่รู้ ไม่เลิกหลง กลับตัวได้
และคนสีแดง จำเป็นต้องทำให้คนอีกมากมายกลับตัวให้ได้
แล้วหันมามองคุณค่าประชาธิปไตย ร่วมทางเดินเดียวกัน สู่เป้าหมายเดียวกันกับพวกเรา

เมื่อเราสามารถดึงคนไทยมาร่วมใจ ร่วมแนวทางได้เพิ่มขึ้นแล้วนั่นแหละ
ที่เราจะทำในสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้เกิดสิ่งที่ต้องเกิด ก่อนการได้มาซึ่งเสรีประชาธิปไตย

คนมหาศาลเหล่านี้ จะเริ่มทำสิ่งต่าง ๆ เช่น
ถือไฟฉาย จุดตะเกียง หรือแม้แต่เทียน พร้อมส่องไปยังเจ้าของลัทธิเผด็จการ
จนคนถูกส่องไฟอายต้องยอมถอดหน้ากากยอมแพ้

แค่ส่งเสียงพร้อมกัน ทหารก็ต้องถอยทัพกลับ

แค่เลิกทำงานพร้อมกัน ก็ทำให้ประเทศไทยเป็นอัมพาตได้

แค่พร้อมใจกันเลิกสนับสนุนกิจการใด ก็ทำให้กิจการนั้นล่มจมได้ 

แค่กระซิบเสียงพร้อมกัน ก็ทำให้เสียงสะท้านไปทั่วแผ่นดินได้ ฯลฯ

เมื่อใดก็ตามเราก้าวถึงจุดนี้ ประเทศไทยจะถูกจารึกว่า 
เป็นประเทศแรก ที่ได้มาซึ่งเสรีประชาธิปไตยฉบับเต็ม 
โดยไม่นองเลือด เช่นเดียวกับการเลิกทาส ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

วันนี้ คุณอดทนที่จะอยู่ร่วมและเรียนรู้กับคนสีอื่นบนพื้นฐานภราดรภาพ 
และการเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นคน เสรีภาพ และความเสมอภาคของการแสดงออกได้หรือไม่?

วันนี้ คุณอดทนที่จะอธิบายและรับฟังความเห็นต่างได้ดีหรือไม่?

วันนี้ คุณพูดเหตุผลให้คนหลงได้เข้าใจเจตนาดีและผลดีที่ทุกฝ่ายจะได้
ด้วยความอดทนและด้วยเหตุผลที่แท้จริงหรือไม่?

และมีอีกหลายคำถาม ที่คนเสื้อแดงต้องถามตัวเอง
เพื่อให้แน่ใจว่า เราเป็นและทำตัวสอดคล้องกับสิ่งที่เราเรียกร้องหามาตลอ

อุปสรรคสำคัญที่สุด ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล
... อยู่ส่วนบนสุดของร่างกาย ระหว่างสองไหล่นั่นเอง

วันนี้...
ประชาชนต้องผันตัวเป็นเหมือนมดแดงจำนวนมหาศาล ที่เกิดจากแต่ละตัวที่มุ่งมั่นด้วยความเชื่อว่า มดแดงตัวน้อย ๆ นี้ หากรวมตัวกัน หากมีเป้าหมายเดียวกัน หากไม่ย่อท้อ หากวิ่งไปหาจุดตายช้างอย่างไม่ย่อท้อ วันหนึ่ง เราล้มช้างได้....
 — in Stanford, California.

Monday, July 11, 2016

คนต้องเท่าคน 8 กค 59 ตอน "คนเท่ากับคน ไม่มีอภิสิทธิ์ชนบนหัวเรา" โดยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์การเสรีไทย

คนต้องเท่าคน 8 กค 59   ตอน "คนเท่ากับคน ไม่มีอภิสิทธิ์ชนบนหัวเรา"

โดยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์การเสรีไทย

ประจำวันที่ 8 กรกฎาคม 2559   https://www.youtube.com/watch?v=YNlHxLiCECw&feature=youtu.be

ข้อคิดสำหรับมดแดงล้มช้าง:::> ชาวยิวนับพัน ถูกคุมตัวไปรมแก๊ส โดยทหารนาซีเพียง 4 คน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ชาวยิวนับพัน ถูกคุมตัวไปรมแก๊ส โดยทหารนาซีเพียง 4 คน
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 




ชาวยิวนับพันคน ถูกควบคุมตัวเดินไปเข้าห้องรมแก๊ส โดยทหารนาซี ที่ควบคุมตัว มีเพียงแค่ 4 คน การควบคุมตัวเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย ชาวยิวนับล้านคนถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหด แต่ระหว่างที่เดินเข้าไปยังห้องรมแก๊ส กลับไม่มีชาวยิว ที่รวมตัวกันต่อต้านทหารนาซีเลย (ชาวยิวตายนับล้านนี่พูดในภาพรวม แต่ข้อมูลคือ ในบางค่ายกักกัน มีทหารเพียงแค่ไม่กี่นายที่ควบคุมชาวยิวนับหมื่นและไม่มีชาวยิวต่อต้าน)

เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะชาวยิวเหล่านั้นโดนหลอก บ้างก็ว่าจะพาไปอาบน้ำ บ้างก็ว่าจะพาไปเปลี่ยนสถานที่ เขาถูกหลอกให้มี "ความหวัง" แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย ซึ่งการมีความหวังมันทำให้พวกเขายังมีชีวิตอยู่ได้

ชาวยิวเหล่านั้นถูกหลอกให้มีความหวัง คิดถึงวันที่ตัวเองจะรอดออกไป และส่วนใหญ่ล้วนแต่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องของตัวเอง ไม่ได้คิดจะร่วมมือกันต่อต้านทหารนาซีเลย มีแต่คนกลัว และอยากที่จะเอาตัวรอด ชาวยิวเหล่านั้นจึงใช้ชีวิตตามคำสั่ง โดยมีเพียงความหวังเล็กน้อย ที่ทหารนาซีคอยพร่ำล้างสมอง จนค่อยๆ เชื่อง 

เมื่อไม่มีใครมีความคิดต่อต้านทหารนาซี 
ด้วยกำลังทหารเพียง 4 คน นั้น จึงควบคุม 
พาคนนับพันไปฆ่าได้อย่างสบายใจ

ทั้งที่ หากคนนับพันนั้นลุกฮือขึ้นมาสู้ ไม่มีทางที่ทหารเพียงหยิบมือในแต่ละค่ายกักกัน จะจัดการกับพวกเขาได้ แน่นอน มันอาจจะเกิดการสูญเสียในการลุกฮือ แต่ ณ เวลานั้น ไม่มีใครยอมเสียสละชีวิตของตัวเอง  

เปรียบชัดๆ เลยคือ ใน ตอนนี้ คนไทย ก็ไม่ต่างจากคนยิวเหล่านั้น อยู่ได้ด้วยความหวังเล็กน้อย เขาหลอกให้ดีใจกับเรื่องเล็กๆ น้อย  เชื่อในสิ่งที่ คสช.หลอกลวง ว่าจะนำพาประเทศไปสู่สิ่งที่ดีกว่า (แต่ด้วยวิธีที่เลวร้ายกว่า คือเอาปืนปล้นอำนาจมา) 

คนไทยนับล้านกำลังเดินเข้าห้องรมแก๊ส โดยมีทหารไทย ภายใต้ชื่อ คสช.ควบคุมไป คนนับล้าน ยอมเดินไปตาย เชื่องเยี่ยงสัตว์เลี้ยง และมีความหวังว่า คสช.จะมาจัดการปัญหาต่างๆ ของประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง (มีคนเชื่อแบบนั้นจริงๆ) 

แต่ทว่า หากมองด้วยสายตาที่เป็นธรรม เราจะพบว่า คสช.กำลังทำทุกอย่าง ในสิ่งที่เขากล่าวอ้าง เช่น 

- เขาจะมากำจัดคอรัปชั่น ตรวจสอบนักการเมือง แต่ตัวเขาเอง เหล่า คสช. กลับไม่กล้าเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของตนเอง เพราะเขากลัวการโดนตรวจสอบ 

- เขาจะมาบริหารประเทศ ให้คนไทยมีอยู่มีกิน บ้านเมืองสงบสุข 3 เดือนแล้ว ที่เศรษฐกิจ การท่องเที่ยวเงียบเหงา ราคาผลผลิตภาคเกษตรตกต่ำ เขามัวแต่ตั้งหน้าตั้งตา "จับกุมคุมขังคนเห็นต่าง" และ วุ่นวายกับการออกประกาศ/ คำสั่ง เพื่อควบคุมคนในประเทศ ไหนล่ะ ทางออกทางเศรษฐกิจ 

- เขาตั้งธงว่าจะตรวจสอบการคอรัปชั่นของรัฐบาลก่อนหน้า หาว่าโครงการรัฐบาลก่อนหน้านั้นไม่ดี จะมีการโกงกิน แต่ เขากลับนำโครงการเหล่านั้นมาสานต่อ ด้วยวงเงินที่สูงขึ้น และไม่มีใครตรวจสอบเขาได้ 

นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ที่จะชี้ให้ท่านเห็น 

ถึงเวลาหรือยังพี่น้องชาวไทย ที่จะสลัดความกลัวออกไปจากจิตใจของท่าน แล้วเริ่มรวมกลุ่มเพื่อต่อต้าน คสช.อย่างเป็นรูปธรรม เริ่มจากท่านกับเพื่อนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ทำสิ่งที่ท่านทำได้ง่ายๆ เช่น เขียนผนัง แปะป้ายด่า หรือโปรยใบปลิว 

เตรียมกิจกรรมของท่านให้ปิดลับ ทำอย่างปิดลับ และเผยแพร่ผ่านช่องทางที่สืบค้นยาก เช่น ไลน์ แชทเฟส อินสตราแกรม หรือแม้แต่แค่การเปลี่ยนภาพโปรไฟล์ของท่าน ให้แสดงออกถึงการต่อต้าน คสช. เป็นช่วงเวลาสั้นๆ  

ลองคิดดูว่า หากคนพันคน หมื่นคน ทำพร้อมๆกัน 
คสช. จะจับท่านหมดไหม มันจะกล้าจับไหม 
คุก คงไม่มีที่ว่าง สำหรับคนไทย
ที่มีใจรักประชาธิปไตยนับหมื่น นับแสนคน 
แต่ที่สำคัญ คือ "ต้องพร้อมใจกัน" 

อย่ายอมให้ ทหาร 4 คน พาเราเดินไปตายในห้องรมแก๊ส 
อย่ามีความหวัง กับเผด็จการ ที่บริหารประเทศภายใต้กระบอกปืน 

ปล. ขอไม่เรียกนายทหารเป็นนาย เพราะทหารไม่ใช่นายใคร 
มันก็คนคนหนึ่ง เท่ากันกับเรา

- ช่วยกันส่งสารนี้ออกไปยังเพื่อนของท่าน ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะสนับสนุนทหารหรือไม่ก็ตาม ขอให้เขาได้ทบทวน และคิดดูสักนิด ก่อนจะสายเกินไป

- ถ้าอ่านจนจบ " ไม่ต้องกดไลค์ " แต่ให้  "กดแชร์"

ข้อคิดสำหรับมดแดงล้มช้าง:::> ชาวยิวนับพัน ถูกคุมตัวไปรมแก๊ส โดยทหารนาซีเพียง 4 คน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ชาวยิวนับพัน ถูกคุมตัวไปรมแก๊ส โดยทหารนาซีเพียง 4 คน
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 




ชาวยิวนับพันคน ถูกควบคุมตัวเดินไปเข้าห้องรมแก๊ส โดยทหารนาซี ที่ควบคุมตัว มีเพียงแค่ 4 คน การควบคุมตัวเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย ชาวยิวนับล้านคนถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหด แต่ระหว่างที่เดินเข้าไปยังห้องรมแก๊ส กลับไม่มีชาวยิว ที่รวมตัวกันต่อต้านทหารนาซีเลย (ชาวยิวตายนับล้านนี่พูดในภาพรวม แต่ข้อมูลคือ ในบางค่ายกักกัน มีทหารเพียงแค่ไม่กี่นายที่ควบคุมชาวยิวนับหมื่นและไม่มีชาวยิวต่อต้าน)

เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะชาวยิวเหล่านั้นโดนหลอก บ้างก็ว่าจะพาไปอาบน้ำ บ้างก็ว่าจะพาไปเปลี่ยนสถานที่ เขาถูกหลอกให้มี "ความหวัง" แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย ซึ่งการมีความหวังมันทำให้พวกเขายังมีชีวิตอยู่ได้

ชาวยิวเหล่านั้นถูกหลอกให้มีความหวัง คิดถึงวันที่ตัวเองจะรอดออกไป และส่วนใหญ่ล้วนแต่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องของตัวเอง ไม่ได้คิดจะร่วมมือกันต่อต้านทหารนาซีเลย มีแต่คนกลัว และอยากที่จะเอาตัวรอด ชาวยิวเหล่านั้นจึงใช้ชีวิตตามคำสั่ง โดยมีเพียงความหวังเล็กน้อย ที่ทหารนาซีคอยพร่ำล้างสมอง จนค่อยๆ เชื่อง 

เมื่อไม่มีใครมีความคิดต่อต้านทหารนาซี 
ด้วยกำลังทหารเพียง 4 คน นั้น จึงควบคุม 
พาคนนับพันไปฆ่าได้อย่างสบายใจ

ทั้งที่ หากคนนับพันนั้นลุกฮือขึ้นมาสู้ ไม่มีทางที่ทหารเพียงหยิบมือในแต่ละค่ายกักกัน จะจัดการกับพวกเขาได้ แน่นอน มันอาจจะเกิดการสูญเสียในการลุกฮือ แต่ ณ เวลานั้น ไม่มีใครยอมเสียสละชีวิตของตัวเอง  

เปรียบชัดๆ เลยคือ ใน ตอนนี้ คนไทย ก็ไม่ต่างจากคนยิวเหล่านั้น อยู่ได้ด้วยความหวังเล็กน้อย เขาหลอกให้ดีใจกับเรื่องเล็กๆ น้อย  เชื่อในสิ่งที่ คสช.หลอกลวง ว่าจะนำพาประเทศไปสู่สิ่งที่ดีกว่า (แต่ด้วยวิธีที่เลวร้ายกว่า คือเอาปืนปล้นอำนาจมา) 

คนไทยนับล้านกำลังเดินเข้าห้องรมแก๊ส โดยมีทหารไทย ภายใต้ชื่อ คสช.ควบคุมไป คนนับล้าน ยอมเดินไปตาย เชื่องเยี่ยงสัตว์เลี้ยง และมีความหวังว่า คสช.จะมาจัดการปัญหาต่างๆ ของประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง (มีคนเชื่อแบบนั้นจริงๆ) 

แต่ทว่า หากมองด้วยสายตาที่เป็นธรรม เราจะพบว่า คสช.กำลังทำทุกอย่าง ในสิ่งที่เขากล่าวอ้าง เช่น 

- เขาจะมากำจัดคอรัปชั่น ตรวจสอบนักการเมือง แต่ตัวเขาเอง เหล่า คสช. กลับไม่กล้าเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของตนเอง เพราะเขากลัวการโดนตรวจสอบ 

- เขาจะมาบริหารประเทศ ให้คนไทยมีอยู่มีกิน บ้านเมืองสงบสุข 3 เดือนแล้ว ที่เศรษฐกิจ การท่องเที่ยวเงียบเหงา ราคาผลผลิตภาคเกษตรตกต่ำ เขามัวแต่ตั้งหน้าตั้งตา "จับกุมคุมขังคนเห็นต่าง" และ วุ่นวายกับการออกประกาศ/ คำสั่ง เพื่อควบคุมคนในประเทศ ไหนล่ะ ทางออกทางเศรษฐกิจ 

- เขาตั้งธงว่าจะตรวจสอบการคอรัปชั่นของรัฐบาลก่อนหน้า หาว่าโครงการรัฐบาลก่อนหน้านั้นไม่ดี จะมีการโกงกิน แต่ เขากลับนำโครงการเหล่านั้นมาสานต่อ ด้วยวงเงินที่สูงขึ้น และไม่มีใครตรวจสอบเขาได้ 

นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ที่จะชี้ให้ท่านเห็น 

ถึงเวลาหรือยังพี่น้องชาวไทย ที่จะสลัดความกลัวออกไปจากจิตใจของท่าน แล้วเริ่มรวมกลุ่มเพื่อต่อต้าน คสช.อย่างเป็นรูปธรรม เริ่มจากท่านกับเพื่อนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ทำสิ่งที่ท่านทำได้ง่ายๆ เช่น เขียนผนัง แปะป้ายด่า หรือโปรยใบปลิว 

เตรียมกิจกรรมของท่านให้ปิดลับ ทำอย่างปิดลับ และเผยแพร่ผ่านช่องทางที่สืบค้นยาก เช่น ไลน์ แชทเฟส อินสตราแกรม หรือแม้แต่แค่การเปลี่ยนภาพโปรไฟล์ของท่าน ให้แสดงออกถึงการต่อต้าน คสช. เป็นช่วงเวลาสั้นๆ  

ลองคิดดูว่า หากคนพันคน หมื่นคน ทำพร้อมๆกัน 
คสช. จะจับท่านหมดไหม มันจะกล้าจับไหม 
คุก คงไม่มีที่ว่าง สำหรับคนไทย
ที่มีใจรักประชาธิปไตยนับหมื่น นับแสนคน 
แต่ที่สำคัญ คือ "ต้องพร้อมใจกัน" 

อย่ายอมให้ ทหาร 4 คน พาเราเดินไปตายในห้องรมแก๊ส 
อย่ามีความหวัง กับเผด็จการ ที่บริหารประเทศภายใต้กระบอกปืน 

ปล. ขอไม่เรียกนายทหารเป็นนาย เพราะทหารไม่ใช่นายใคร 
มันก็คนคนหนึ่ง เท่ากันกับเรา

- ช่วยกันส่งสารนี้ออกไปยังเพื่อนของท่าน ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะสนับสนุนทหารหรือไม่ก็ตาม ขอให้เขาได้ทบทวน และคิดดูสักนิด ก่อนจะสายเกินไป

- ถ้าอ่านจนจบ " ไม่ต้องกดไลค์ " แต่ให้  "กดแชร์"

หรือดีเจซุนโฮ จะเสียชีวิตแล้ว?? เมื่อทหารออกมาให้ข่าวปฏิเสธรับรู้

มาแล้ว ข่าว ดีเจ ซุนโฮ ลงสื่อหลัก 1 สื่อ ทหารเผด็จการปฏิเสธ ตามสเต็บ เผด็จการโฉด
Military Denies Knowledge of Missing Anti-Monarchy Dissident



หรือดีเจซุนโฮ จะเสียชีวิตแล้ว?? เมื่อทหารออกมาให้ข่าวปฏิเสธรับรู้

มาแล้ว ข่าว ดีเจ ซุนโฮ ลงสื่อหลัก 1 สื่อ ทหารเผด็จการปฏิเสธ ตามสเต็บ เผด็จการโฉด
Military Denies Knowledge of Missing Anti-Monarchy Dissident



ข่าวหลุด เรื่องอาการป่วยของ พลตรี จำลอง ศรีเมือง

 ข่าวหลุดมาจาก ร.พ.ทหารค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี ว่าผล ct scan ของพลตรีจำลอง ศรีเมือง เปนมะเร็งที่ปอดค่ะ แกทำตัวสมถะ กินมังสวิรัต นอนเสื่อ ไม่นอนกับเมีย เป็นผู้นำการเมืองที่เคยอยู่ฝ่าย ปชต.ตอนพฤษภา
ทมิฬปี 2535 ตอนหลังมาช่วยอำมาตย์ล้มรัฐบาลเลือกตั้ง น่าเสียดายคับ คนดีต้องประสพชะตากรรมชีวิต เห็นว่าเป็นหนักมาตอนนี้ย้ายมาเข้าเป็นผู้ป่วยหนักที่ร.พ.พระมงกุฎแล้วที่กรุงเทพแล้วคับ

Thursday, July 7, 2016

ประยุทธ์ กับ การผลาญงบประมาณแผ่นดินอีกสองกรณี!!!

เมื่อวานมีข่าวใหญ่สำหรับผู้ห่วงใยการใช้งบประมาณของประเทศสองเรื่อง เรื่องแรกคือรองนายกด้านความมั่นคงยืนยันเดินหน้าซื้อเรือดำน้ำจากจีน
เรื่องที่สองคือรองนายกคนเดียวกันบอกว่าอาจซื้อรรถถังจากจีนเพิ่มด้วย และดูเหมือนท่านจะไม่เข้าใจว่าคนไทยที่ไม่สบายใจกับเรื่องนี้มีมากจริงๆ

วันนี้คอลัมนิสท์อาวุโส "แม่ลูกจันทน์" แห่งไทยรัฐตั้งคำถามที่คนไทยจำนวนมากอยากถาม นั่นคืองบซื้อเรือดำนำสามลำ 36,000 ล้านบาท เอาไปทำทางด่วนให้คนใช้ได้วันละ 100,000 คน เอาไปทำโรงพยาบาลบริการประชาชนได้ปีละ 1 ล้านคน และเอาไปทำอุโมงค์ระบายน้ำให้คนกรุงเทพได้ 3 อุโมงค์ และคำถามคืออะไรให้ประโยชน์กับประชาชนมากกว่ากัน?

จริงๆ ถ้ารองนายกอยากซื้อทั้งรถถังทั้งเรือดำน้ำก็ง่ายนิดเดียว ตอนนี้กลาโหมได้งบปีละสองแสนกว่าล้าน กองทัพบกกวาดงบก้อนนี้ไปเกือบครึ่ง ถ้ารถถังและเรือดำน้ำสำคัญจริงๆ ลองตัดงบกองทัพบกไปให้กองทัพเรือก็ได้ เท่านี้ท่านก็ได้ซื้ออย่างที่อยากซื้อ ทัพเรือก็ได้เรือดำน้ำอย่างที่อยากได้ เสียสละงบกองทัพบกปีละ 4-5 พันล้าน ให้เหล่าทัพด้วยกันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ดีกว่าเบียดเบียนเงินทองจากประชาชนที่ยากจนลงทุกวัน

ว่าแต่กองทัพบกพร้อมหรือไม่ที่จะเสียสละเพื่อกองทัพเรือ? ‪#‎WakeUpNews‬‪#‎VoiceTV21‬ ‪#‎sirotek‬ ‪#‎ซื้อเรือดำน้ำ‬

ดร. เพียงดิน 7 ก.ค. 2559 พร้อมจะแตกหัก กับ เผด็จการทหารและเครือข่ายราชาธิปไตยหรือยัง?

ดร. เพียงดิน 

7 ก.ค. 2559    พร้อมจะแตกหัก กับ เผด็จการทหารและเครือข่ายราชาธิปไตยหรือยัง?



https://www.youtube.com/watch?v=HWFEMjGeiIM 


https://www.youtube.com/watch?v=Km4aEUKwnk4 


https://www.youtube.com/watch?v=BwX63xyMkhc

 

https://www.youtube.com/watch?v=Nk1sGgbDo2A


https://www.youtube.com/watch?v=bzvL6nZNWtU 


mp3;

http://www.mediafire.com/?p86e7ayl5n1m0tq 

——————————

Wednesday, July 6, 2016

ประเด็น... ให้ ส.ว.แต่งตั้ง เลือกนายกฯ ดีไหม? ###################### @ โดย นิติภูมิ นวรัตน์ ท่านผู้ใหญ่ถามผมว่า ถ้าการเมืองถอยหลัง ยอมให้ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีได้ ประเทศไทยและคนไทยจะเป็นยังไง? ผมเรียนท่านว่า ไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ล้าหลัง เศรษฐกิจไทยจะลงเหว คนไทยจะอดอยากยากแค้น อีกไม่เกินยี่สิบปี ลูกหลานไทยจะต้องไปเป็นคนใช้ คนงานในเวียดนาม กัมพูชา และเมียนมา ท่านผู้

ประเด็น... ให้ ส.ว.แต่งตั้ง เลือกนายกฯ ดีไหม?

######################

@ โดย นิติภูมิ นวรัตน์

ท่านผู้ใหญ่ถามผมว่า
ถ้าการเมืองถอยหลัง
ยอมให้ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีได้
ประเทศไทยและคนไทยจะเป็นยังไง?

ผมเรียนท่านว่า

ไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ล้าหลัง

เศรษฐกิจไทยจะลงเหว

คนไทยจะอดอยากยากแค้น
อีกไม่เกินยี่สิบปี ลูกหลานไทยจะต้องไปเป็นคนใช้ คนงานในเวียดนาม กัมพูชา และเมียนมา

ท่านผู้ใหญ่เถียงว่า ประเทศจะดีหรือจน คนจะเจริญหรือตกต่ำ มันขึ้นอยู่กับคุณภาพ? ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรม ว่าแข็งหรืออ่อน? ไม่ใช่เรอะ?

ผมเรียนถามว่า ท่านรู้จักเกาหลีไหมครับ?

ท่านผู้ใหญ่ผงกหัวกึกๆ

ผมพูดต่อว่า อ้า ทั้งคนเกาหลีใต้และคนเกาหลีเหนือ เมื่อก่อนอยู่ในประเทศเดียวกัน มีมาตรฐานชีวิตแบบเดียวกัน

วันหนึ่งประเทศถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน

คือสาธารณรัฐเกาหลี หรือเกาหลีใต้ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี หรือเกาหลีเหนือ

แม้จะแยกประเทศออกจากกันไปแล้ว

แต่คนเกาหลีทั้งสองประเทศก็ใช้ชื่อนามสกุลเหมือนกัน พูดและเขียนภาษาเดียวกัน มีวัฒนธรรมประเพณีคล้ายกัน?

ทุกอย่างเหมือนกันเกือบหมด ต่างกันแต่เพียงอย่างเดียว คือเกาหลีเหนือเป็นเผด็จการ เกาหลีใต้เป็นประชาธิปไตย มีระบบเลือกตั้งที่เป็นสากล

ผลก็คือ...

เกาหลีใต้เป็นประเทศเศรษฐกิจดี ผู้คนแฮปปี้มีความสุข

แต่เกาหลีเหนือเป็นประเทศยากจนข้นแค้น ผู้คนไม่มีอะไรจะกิน มีภาพและข่าวเล็ดรอดออกมาบ่อยๆ ว่า เกาหลีเหนืออดยากจนขนาดบางหมู่บ้าน ผู้คนกินหญ้าแทนข้าว

ความแตกต่างของสองประเทศนี้ก็คือ 'การเมืองการปกครอง' ที่เป็นประชาธิปไตย และที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

ขอกราบเรียนถามท่านหน่อย ว่า ส.ว.แต่งตั้งยึดโยงกับประชาชนตรงไหน?

ไม่ได้มาจากประชาชนเลยนะครับ คนกลุ่มไหนแต่งตั้ง ก็ต้องไปรับใช้คนกลุ่มนั้น

การให้ ส.ว.แต่งตั้งเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นการพาบ้านเมืองลงนรก ท่านก็รู้ผลอยู่แล้ว ว่าถ้าบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์และสากล คนทั้งโลกก็จะไม่ยอมรับ สถานะของประเทศจะตกต่ำย่ำแย่แน่ ทั้งท่านทั้งผมก็พอมองออก ทำไมท่านยังถึงยังกล้าที่จะสนับสนุนให้ประเทศของเราเดินไปสู่นรกขุมนั้นเล่าครับ?

ท่านผู้ใหญ่นิ่ง
ผมจึงรุกต่อ....

55 ปีที่แล้ว

ในทวีปเอเชีย 47 ประเทศ เมียนมาเป็นประเทศที่มีความเจริญอยู่แถวหน้า มีมหาวิทยาลัยที่ได้มาตรฐาน มีระบบการปกครองที่เป็นประชาธิปไตย

ถึงคราวที่ทุกประเทศสมาชิกสหประชาชาติจะเลือกผู้นำเบอร์หนึ่งของตน ซึ่งคราวนั้นเป็นวาระของเอเชีย เกือบทุกประเทศเลือกนายอู ถั่น คนเมียนมา ท่านเป็นเบอร์หนึ่งของโลกนี้อยู่นานถึง 10 ปี (30 พฤศจากายน 2504 - 31 ธันวาคม 2514)

ต่อมา เมียนมามีปฏิวัติรัฐประหาร เผด็จการยึดบ้านยึดเมือง เมียนมาจึงตกต่ำไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้ตัว

จนกระทั้งถึงจุดที่ลูกหลานเหลนโหลนคนเมียนมาต้องเข้ามาเป็นคนใช้ตามบ้านเรือนคนไทย ในปั๊ม ตามโรงงาน ท่านไปดูซี คนเมียนมาทั้งนั้น

สิบกว่าปีมานี้ เกาหลีใต้เป็นประเทศมาแรงแซงโค้งหลายประเทศ เศรษฐกิจเกาหลีใต้ดีมาก การเมืองการปกครองของเกาหลีใต้ก็นิ่งและเป็นประชาธิปไตยสากลสมบูรณ์

1 มกราคม 2550 คนเกาหลีใต้ คือนายบัน คีมุน ก็ได้รับเลือกจากประเทศสมาชิกสหประชาชาติให้เป็นเลขาธิการ เป็นเบอร์หนึ่งขององค์กรที่ใหญ่ที่สุดของโลก

ในขณะที่คนเกาหลีเหนือ 25 ล้าน ที่ใช้ชื่อนามสกุลเดียวกัน พูดจาภาษาเดียวกัน มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาเหมือนกัน กลับแทบไม่มีอาหารจะกิน

ความแตกต่างทั้งหลายนี้ มาจากระบบการเมืองการปกครอง คนเกาหลีเหนือจะเก่งอย่างไร คิดนี่ได้ คิดโน่นได้ คิดดีวิเศษเพียงไหน แต่คนข้างบนสุด คือ นายคิม จ็อง-อึน ไม่เอาด้วย ทุกอย่างก็จบ ที่ทำสร้างและพัฒนามา ก็มีค่าเป็นศูนย์

คณะผู้นำเกาหลีเหนือไม่ยึดโยงกับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดี สมาชิกสมัชชาประชาชนสูงสุด นายกรัฐมนตรี ฯลฯ

หน้าที่ของคนไทยในปัจจุบัน เราต้องค้นหาคนที่...
1. แพ้เป็น
2. รู้จักพอ
แบบพลเอก เต็ง เส่ง อดีตประธานาธิบดีเมียนมาที่เพิ่งลงจากตำแหน่งไป ให้เจอ

หลังจากที่คนเมียนมาทั้งประเทศเลือก ส.ส.จากพรรคของนางซูจีท่วมท้น พรรคของพลเอกเต็ง เส่ง แพ้หมดรูป ท่านก็ไปบวชเป็นพระภิกษุ

คนใกล้ชิดเล่าให้ฟัง ท่านเห็นว่าคนเมียนมาทุกข์ทรมานยากจนข้นแค้นแสนสาหัสจากระบบเผด็จการมานาน ท่านจึงวางรากฐานเอาไว้ในระหว่างท่านที่เป็นผู้นำ ให้คนเมียนมามีสิทธิเสรีภาพ

พลเอก เต็งเส่ง เสียสละ

เมียนมาจึงทะยานบิน เป็นประเทศขาขึ้น.

ส่วนไทย เพราะไม่ยึดโยงกับประชาชน

เราจึง...
เป็นประเทศขาลง.
_____________

วิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมของคุณนิติภูมินี้จะรู้คนเดียวทำไมล่ะครับ ส่งต่อเยอะๆนะครับ...คนไทยจะได้ตาสว่างเสียที

ที่มา... https://mobile.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1174939669207326&id=226245487410087&_rdr

อย่าหลงว่า “สหรัฐเข้าข้างกัมพูชา” แล้วปล่อยให้ไฟชาตินิยมเผาทั้งการทูตและประชาธิปไตย

คันฉ่องส่องไทย • เตือนภัย “เรื่องเล่า” ที่ทำให้เราอ่านเกมผิด อย่าหลงว่า “สหรัฐเข้าข้างกัมพูชา” แล้วปล่อยให้ไฟชา...