Tuesday, October 13, 2015

ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดยประชาชนมดแดงท่านหนึ่ง...1

ดร.ผมร่างรัฐธรรมนูญ เสร็จแล้ว 10 เปอร์เซนต์ อยากให้ฟังก่อน (ปล.เห็นแล้วเซฟข้อมูลแล้วดีลิฟแชททั้งหมดด้วยครับ เพื่อความปลอดภัยทั้งสองฝ่าย) ดร. ผมร่างได้ หมวด 1 ได้ เดี๋ยวต่อให้นะครับ ลองฟังก่อนนะครับ รัฐธรรมนูญไทย (สาธารณรัฐไทย) บทนำ ประชาชนไทยขอประกาศเป็นทางการถึงการยึดมั่นในสิทธิมนุษยชนและหลักอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน ไม่ใช่อยู่ที่ผู้ใดผู้หนึ่ง มาตรา ๑ รัฐธรรมนูญไทย ประกาศใช้เมื่อวันที่...................................................... ผู้ใดกระทำการฉีกรัฐธรรมนูญ ก่อกบฏ ก่อปฏิวัติรัฐประหาร ถือว่าผู้นั้นได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรง มีโทษตามกระบวนการทางอาญา หมวดที่ ๑ อำนาจอธิปไตย มาตรา ๒ ประเทศไทยเป็นสาธารณรัฐอันจะแบ่งแยกมิได้ เป็นสาธารณรัฐทางโลก เป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยและสังคม สาธารณรัฐมุ่งประกันให้มีความเสมอภาคตามกฎหมาย โดยมิคำนึงถึงความแตกต่างกันในแหล่งกำเนิด เชื้อชาติ หรือศาสนา สาธารณรัฐเคารพการถือศาสนาทุกศาสนา มาตรา ๓ บรรดาพรรคและกลุ่มการเมืองมีส่วนในการใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง สิทธิในการจัดตั้งพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองขึ้น และดำเนินกิจกรรมของตนได้โดยเสรีจะจากัดมิได้ พรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองต้องเคารพหลักการอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนและหลักการแห่งประชาธิปไตย มาตรา ๔ อำนาจอธิปไตยแห่งชาติเป็นของปวงชน ปวงชนใช้อำนาจอธิปไตยโดยทางผู้แทน และโดยวิธีการออกเสียงประชามติ คณะบุคคลใดหรือเอกชนใดจะอ้างว่ามีสิทธิใช้อำนาจอธิปไตยหาได้ไม่ การออกเสียงเลือกตั้งกระทำได้โดยตรงและโดยอ้อมตามเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งในทุกกรณีต้องเป็นการทั่วไปเสมอภาคและลับ บุคคลผู้มีสิทธิเลือกตั้งคือชาวไทยบรรลุนิติภาวะทั้งสองเพศ และมีสิทธิสมบูรณ์ในสิทธิทางแพ่งและสิทธิในทางการเมืองตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

ย้ำกันอีกรอบ..ใครเผาบ้านเผาเมือง!!!!!

*******************************************************
ย้ำกันอีกรอบ..ใครเผา!!!!!
*************************************************************************
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง 2 แนวร่วม นปช. คดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ เหตุพยานยังให้การไม่ชัด

ที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้ วันที่ 5 ก.ย. เวลา 09.30 น. ศาลอ่านคำพิพากษาวางเพลิงเผาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ คดีหมายเลขแดงที่ 1424/2556 ที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสายชล แพบัว อายุ 32 ปี ชาว จ.ชัยนาท การ์ด นปช. และนายพินิจ จันทร์ณรงค์ อายุ 30 ปี เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ โรงเรือนที่เก็บสินค้า เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้อง อัยการยื่นอุทธรณ์ คดีนี้โจทก์ฟ้องและนำสืบในศาลชั้นต้นว่า

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 เวลากลางวัน จำเลยทั้งสองกับพวก ร่วมกันชุมนุม และมั่วสุมกันบริเวณสี่แยกราชประสงค์ กทม. ซึ่งอยู่ในระยะเวลาที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และได้เข้าไปในบริเวณอาคารห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ใช้กำลังทำลายบานกระจก ผนังอาคารบานกระจกประตู อาคารเซ็นทาวเวอร์ อาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณห้างสรรพสินค้าดังกล่าว จนแตกเสียหายเป็นการกีดขวางการจราจร ขัดขวางต่อการประกอบกิจการของห้าง ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเสียหาย และเกรงกลัวอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และจำเลยทั้งสองกับพวกได้ร่วมกันเข้าไปภายในบริเวณอาคารเซ็นทาวเวอร์ และอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ที่เป็นทรัพย์โรงเรือนที่เก็บสินค้าของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และจำเลยกับพวกได้ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ จนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ ลุกลามเผาอาคารเซ็นทาวเวอร์ และไฟไหม้เผาทรัพย์สินต่างๆ ของผู้เสียหาย ที่มี 270 ราย รวมค่าเสียหาย 8,890,578,649.61 บาท และเป็นเหตุให้ นายกิติพงษ์ หรือกิตติพงษ์ สมสุข ที่อยู่ภายในอาคารดังกล่าวถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่แขวงและเขตปทุมวัน กทม. ขอให้ลงโทษและพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ โจทก์นำสืบว่า ระหว่าง มี.ค.-พ.ค. 2553 กลุ่ม นปช.ได้จัดชุมนุมทางการเมืองที่แยกราชประสงค์เขตปทุมวัน กทม. ซึ่งมีผลทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าไปซื้อสินค้าและบริการภายในห้างสรรพสินค้าเซน และเซ็นทรัลเวิลด์ที่ได้ปิดบริการชั่วคราว แต่ยังจัดให้มีการรักษาความปลอดภัย 24 ชม.เพื่อดูแลความเรียบร้อยรวมทั้งป้องกันเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวรัฐบาลได้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยห้ามชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยหลังจากที่แกนนำประกาศยุติการชุมนุมแล้วได้มีกลุ่มคนร้ายใช้ไม้ และเหล็กทุบกระจกเข้าไปในห้างเซน และใช้ขวดเครื่องดื่มชูกำลังที่บรรจุน้ำมันเป็นเชื้อเพลิงจุดไฟแล้วโยนเข้าไปในบริเวณชั้น 1 ของห้าง

ศาลชั้นต้นพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 ทำผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า โจทก์มี รปภ.ซึ่งเป็นประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์ และถ่ายภาพจำเลยที่ 1 ขณะถือถังดับเพลิงสีเขียวของห้างไว้ได้ เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 19 พ.ค. เบิกความ เห็นจำเลยกับกลุ่มคนร้าย 5-6 คน ใช้ไม้ทุบกระจกเข้ามาภายให้ห้าง ซึ่งตนเกิดความหวาดกลัวจึงได้หลบไปอยู่ชั้น 3 ระหว่างนั้นได้ถ่ายภาพจำเลยไว้ด้วย ขณะที่ พงส.ชนะสงคราม ได้ขอหมายศาลจับกุมจำเลยที่ 1 ได้ ศาลเห็นว่าแม้โจทก์มีพยานเป็น รปภ.ซึ่งเป็นผู้ถ่ายภาพของจำเลยที่ 1 ได้ในที่เกิดเหตุ แต่ก็อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 30 เมตร และเห็นเพียงว่าจำเลยที่ 1 ถือถังดับเพลิง ซึ่งไม่ใช่อุปกรณ์ที่จะใช้ในการวางเพลิง แม้จะอนุมานไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 จะเข้าไปช่วยดับเพลิงหรือไม่ ประกอบกับพยานโจทก์ปากนี้ก็ไม่สามารถตอบคำถามทนายจำเลยได้ว่าเห็นจำเลยที่ 1 เป็นผู้วางเพลิงหรือไม่ นอกจากนี้ โจทก์ยังไม่มีพยานปากอื่นที่จะมาเบิกความชี้ชัดถึงพฤติการณ์จำเลยที่ 1 ในการวางเพลิง หรือสนับสนุนการวางเพลิงแต่อย่างใด นอกจากภาพถ่ายเพียงใบเดียวที่แสดงให้เห็นเพียงช่วงเวลาหนึ่ง แต่ไม่มีใครเห็นว่าจำเลยที่ 1 จะทำอย่างไรต่อไป พยานโจทก์จึงยังมีเหตุสงสัยว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนร้ายที่ร่วมทำผิดในคดีนี้หรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย แต่จำเลยคงมีความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินเท่านั้น และลงโทษในฐานนี้ 9 เดือน ซึ่งจำเลยถูกขังมาจนครบอัตราโทษแล้ว

ส่วนจำเลยที่ 2 นั้น โจทก์มีพนักงานห้างเบิกความว่า ขณะเกิดเหตุเห็นคนร้ายประมาณ 40-50 คน มีชาย 4-5 คน เดินนำหน้าใช้หนังสติ๊กยิงใส่เป็นระยะพนักงานจึงหลบหาที่กำบัง และเห็นชายชุดดำลายพรางสวมหมวกปีก ใช้ระเบิดโยนใส่มีคนเจ็บ 9 คน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายภายในห้างได้จำนวน 9 คน มีจำเลยที่ 2 รวมอยู่ด้วย จึงพาไปคุมตัวที่ลานจอดรถ อย่างไรก็ตาม คำเบิกความของพยานโจทก์กลุ่มนี้ที่สามารถจดจำรูปพรรณสัณฐานจำเลยที่ 2 ได้ตรงกันหมด ยกเว้นเพียงสีเสื้อที่ไม่ตรงกับภาพที่ปรากฏ ทั้งที่ระหว่างพยานต้องคอยหลบลูกหินที่กลุ่มคนร้ายยิงเข้าใส่ อีกทั้งพยานอยู่ห่างไปกว่า 30 เมตรนั้น น่าสงสัยว่าจะสามารถจำคนร้ายได้จริงหรือไม่ นอกจากนี้โจทก์ยังไม่นำเจ้าหน้าที่ซึ่งจับกุมจำเลยที่ 2 มาเบิกความถึงการจับกุมจับจำเลยว่าจับกุมได้ที่ชั้นไหน มีวัสดุ หรืออุปกรณ์ หรือมีร่องรอยหลักฐานตามตัวในการวางเพลิงหรือไม่อย่างไร พยานโจทก์ที่นำสืบมานั้นยังมีเหตุสงสัยว่าจำเลยที่ 2 จะกระทำผิดตามฟ้องจริงหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย จึงพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสองในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า พยานโจทก์ยังไม่พอฟังว่า จำเลยที่ 1 กระทำผิด จึงไม่จำต้องพิจารณาถึงจำเลยที่ 2 ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย จึงพิพากษายืน ให้ยกฟ้องข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ นอกจากนั้นให้คงเป็นไปตามศาลชั้นต้น

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความจำเลยเผยว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยเป็นการวินิจฉัยในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นการยกฟ้องสองศาล ต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิอาญามาตรา 220 และอาจขอให้อัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกาได้ตามมาตรา 221


Monday, October 12, 2015

ใครสั่งฆ่านักศึกษา 13-14 ตุลาคม 2516????

มีมิตรสหายส่งข้อมูลมาครับ... น่านำไปพูดคุยและขยายต่อครับ


____________________

ในคืนที่13ตค16 ท่านผู้นำได้ตกลงยอมลงจากอำนาจ ในคืนวันนั้นเวลาตีหนึ่งไม่ถึงดี รถขนทหารเข้ามาในปรานบุรี รับนายทหารโดยไม่บอกเหตุผลมีคำสั่งแค่ขึ้นรถ ผู้สั่งคือหน่วยรบพิเศษพลร่มลพบุรี หรือป่าหวายหมวกแดง เมื่อใกล้รุ่งเช้าได้สั่งยิงอย่างเดียวไม่มีคำสั่งอื่น ชุดนี้คือชุดบนตึกสูง ที่ท่านณรงค์สั่งสอบสวน ฝ่ายตำรวจที่สั่งกัดจึงไม่ทราบ สรุปคือหน่วยรบพิเศษที่เคยนอนเปลในป่ามานานแสนนานมีชุดเดียวเท่านั้น
(ปล.ทุกท่านเหล่านั้นโดนข้อหากบฏแต่ไม่ปลดจากราชการเป็นสาเหตุของความดำมืดเพราะถ้าสำเร็จจะได้ติดยศข้ามชั้น แต่โดนหลอกใช้เท่านั้นเอง เป็นแผนซ้อนแผน)
หวังว่าจะเป็นข้อมูลไปเชื่อมให้สมบูรณ์ได้ในความกว้างขวางของท่าน คนสั่งเป็นคนตัวเล็กๆผมหยิกชอบดูดาวจากผนัง


ด้วยความเคารพอย่างสูง

จดหมายเปิดผนึกยิ่งลักษณ์ ถึงประยุทธ์ จันทร์โอชา

Open Letter
To: General Prayuth Chan-ocha,
Head of the National Council for Peace and Order


Open Letter


To:    General Prayuth Chan-ocha,

Head of the National Council for Peace and Order

I am writing an open letter to you because I haven't had the opportunity to communicate with or meet you in person since you came into power as the Head of the National Council for Peace and Order (NCPO) and the Prime Minister over a year ago on 22 May 2014.  Since then, I have been continuously mistreated related to the "Rice Subsidy Scheme", which I had declared to the parliament on many occasions;

1.     National Legislative Assembly (NLA) impeached and removed me from the position of Prime Minister although at the time I was not in that position because I had already resigned and also was disqualified of the position by the Constitutional Court.

2.     The Attorney General held a press conference stating his decision to indict and prosecute me to the Supreme Court's Criminal Division for Persons Holding Political Positions just a mere "one hour" before NLA's impeachment.

You may reject an issue and state that these are not relevant to your responsibility since these two matters are in the hands of the NLA and the Attorney General. However, the following matter will be in your direct authority.

Regarding the Order no.448/2558 signed by you and the Minister of Finance dated April 3rd, 2015 under the subject of "the Appointment of the Fact Finding Committee", you have appointed a committee to find out whether anybody must be responsible to pay compensation to the government for the damages incurred from the Rice Subsidy Scheme. In this matter, you spoke to the press insisting that if someone was found responsible for damages, compensations must be claimed.

You also emphasized that "if the fact finding indicates that if someone is guilty, then the conclusion is guilty. If the fact finding suggests otherwise, then the conclusion would be not guilty. If guilty, the due process shall be followed in filing for civil claim. Single standard is applied for all parties to ensure justice in an equitable manner." 

I sincerely hope you assigned the Fact Finding Committee to investigate the case under due process of law to provide "Justice" and adhere strictly to the due process without any unnecessary acceleration to conclude the findings. I hope that you will ensure fair and just opportunity for related persons to present evidences.  

I feel worried because one of your legal advisors had publicly stated that it was conducive to claiming damages in the civil case which would cost enormous court fees to the government although the way normally used to claim for damages and to bring the case to the court is the best way to maintain justice.

However, your legal advisor tried to "misinterpret the law and legal mechanism" to claim for damages by advising you to issue administrative order, forcing me to pay for damages and to seize my asset just to avoid the court fees. By exercising the Administrative Order, you do not even have to consult the cabinet. It means that you are using your power as if you were a judge while the criminal case trial is still under the legal process in court.          

I am making this statement as the former Prime Minister who was in charge of the Rice Subsidy Scheme that was aimed at enhancing the living conditions of the Thai farmers, who are responsible for the production of our nation's commodity. The scheme was also vital in addressing issues in the rice price and market mechanism. I performed my duties with the utmost dedication to ensure that it led to the economic and social advancement of the nation. The scheme was managed under the position of Chairman of National Rice Policy's Committee during my term as it is with you in the same position today. 

I believe all people are entitled to a fair trial in court which is fundamental to the rule of law. The Rice Subsidy Scheme was a public policy that was declared to the parliament and the implementation of the scheme was compulsory administrative act. The Scheme legally binds all related government departments to its execution. Therefore, the claim process of civil charge must be transparent and fair. You, as the Prime Minister and as the Chairman of National Rice Policy Committee, are currently addressing rice issues in disagreement of my rice policy. This means that you are a "stakeholder" and cannot possibly offer "unbiased" views on the matter. Therefore, exercising the Prime Minister power as a judge to order a civil claim without the court's decision is definitely against the rule of law.

To proceed in accordance to the rule of laws, I propose to you as follow: 

1.     Reconsider and terminate any executions regarding the Rice Subsidy Scheme's civil claim proposed by your legal advisors and signed by the Prime Minister and the Chairman of the National Rice Policy Committee at the present which are unfair and is subject to conflicts of interest. 

2.     After the court's ruling in the criminal case, the government should file a civil claim through the court in order to be just to the accused if found guilty.

3.     The trial at the Supreme Court's Criminal Division for Persons Holding Political Positions is still not final. Your legal advisor stated that the case's statute of limitation still have enough ongoing time. The government should not accelerate or shortcut the fact finding procedure for the case. To be fair and just, you should provide sufficient opportunities for related persons to testify and present their evidences. I have sent many requests to you and the Fact Finding Committee asking for the opportunity to present evidences but many requests have not been considered and examined.
 

Finally, I have asked my lawyer to submit the formal letter in this matter to you on Tuesday October 13th, 2015 at 10.00 a.m. at the government's Information and Complaint Channel. I sincerely hope that when you receive this letter, you would not simply ignore it but consider my request in a just manner since you have always claimed that you will ensure equal justice for all. 

 

Thank you.

 

Yingluck Shinawatra

Former Prime Minister of Thailand 

12th October 2015

Sunday, October 11, 2015

เผยคลิปตำรวจไล่ล่าผู้ต้องสงสัยที่ถลาง ตำรวจพุ่งชนสกัดเสียชีวิต หรือขับหนีจนล้มชนเอง

เผยคลิปตำรวจไล่ล่าผู้ต้องสงสัยที่ถลาง ตำรวจพุ่งชนสกัดเสียชีวิต หรือขับหนีจนล้มชนเอง https://www.facebook.com/ceclip/videos/1745893028864693/

Saturday, October 10, 2015

ทุบโต๊ะข่าว : สภายุโรป แถลงจี้ไทยคืน ปชต. - ปึ้งเตือนรับฟัง หวั่นถูกคว่ำบาตรทำชาติพัง 09/10/58

ทุบโต๊ะข่าว : สภายุโรป แถลงจี้ไทยคืน ปชต. - ปึ้งเตือนรับฟัง หวั่นถูกคว่ำบาตรทำชาติพัง 09/10/58

ทักษิณ..โกงอะไร_ผมจะอธิบายให้ฟังนะ ดร.โสภณ (โต้ง )พรโชคชัย"

ทักษิณ..โกงอะไร_ผมจะอธิบายให้ฟังนะ
********************************
 : ที่ดินที่คุณหญิงพจมาน ณ.ป้อมเพชร ประมูลมามันเป็นหนี้เสียในสมัยวิกฤติ ต้มยำกุ้งปี 40 เป็นที่ดินแปลงใหญ่ ของเอราวัณทรัส ชึงเป็นหนี้เสียอยู่ 1400ล้าน

ขณะนั้น #‎อดีตนายกทักษิณ จะเคลียหนี้ IMF เพื่อที่จะเอาดอกเบี้ย ที่ต้องจ่ายให้กับ IMFปีละเกือบ 6000ล้าน มาเป็นจ่ายให้กับ พันธบัตร์กู้ชาติ ซึ่งก็คือ เงินก้อนนี้จะสะพัดในชาติ
>> #‎ส่วนมากคนที่ซื้อพันธบัตรจะเป็นผู้เกษียรอายุจากการทำงาน

แต่IMF ยื่นเงื่อนไข เพราะหนี้เสียของชาติยังล้างเป็นหนี้ดีไม่หมด เพราะที่ดินของเอราวัณ ทรัส ยังค้างอยู่ #‎เพราะไม่มีใครประมูล เป็นที่ดินติดวัดและ #‎เป็นที่ทางสามแพร่ง #‎ท่านทักษิณจึงสั่งการให้แบงค์ชาติดำเนินการด่วน
>> หลังจากนั้น ทางแบงค์ชาติ มีการประชุม ผลสรุป ให้แบงค์ที่เป็น 3 แปลง แปลงนึงมอบให้วัด อีก 2 แปลงให้นำประมูลแบบ อีอ๊อกชั้น คือประมูลในคอม
#‎ราคาเริ่มประมูลอยู่ที่แปลงละ 700ล้าน
#‎แปลงแรกสวย มี บ.ใหญ่ ประมูลไปได้ในราคา 820 ล้าน

#‎ส่วนอีกแปลงไม่สวย นานมากก็ยังไม่มีใครมายื่น #‎คุณหญิงพจมาน ไม่ทราบว่าจะช่วยชาติ #‎หรือเห็นว่าที่ดินแปลงนั้นสวย จึงยื่นประมูล และชนะมาด้วยราคา780 ล้าน
>> ตอนหลังมี บ.อื่น เข้ายื่นด้วย 3 ราย #‎ในฐานะคูสมรส #‎ท่านทักษิณจึงต้องเซ็นไป และแบงค์ฃาติ ก็ถือว่าเป็นองค์กรอิสระ ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของนายก #‎อยากถามว่าโกงยังไง และชาติเสียหายตรงไหน เข้าใจมั้ยครับ คุณคนดี รักชาติ ทั้งหลาย ....!!!!

 : คืออย่างนี้นะ กรณีชินคอร์ปและที่ดินรัชดาผมมองทักษิณไม่ผิด โพสต์อธิบายเหตุผลคงเป็นสิบๆรอบแล้ว

ทักษิณอาจผิด อาจโกงเรื่องไหนผมไม่รู้ แต่ในฐานะนักกฏหมาย ในฐานะที่รักความเป็นธรรม คุณต้องแยกแยะ สิ่งไหนผิดก็จงว่าผิด สิ่งไหนเขาไม่ผิดก็ยกประโยชน์ให้จำเลย คนไม่ผิดจะยัดเยียดให้ผิดได้อย่างไร เอาผิดไม่ได้ก็ต้องปล่อย ไม่ใช่จะเอาผิดกันให้ได้ ระบบกฏหมายซึ่งควรเป็นหลักให้ประเทศก็แปรปรวน นักลงทุนเขาก็ขยาด ใครจะกล้าลงทุนในประเทศที่กฏหมายพิกลพิการเช่นนี้

คนไม่ผิดจะให้ผิด แบบนี้คุยกันไม่รู้เรื่อง นัดไปต่อยหลังห้องน้ำตอนเลิกเรียนกันดีกว่า

ทักษิณไม่ได้โกงที่ดินรัชดา
1 ทักษิณซื้อตามราคาที่สมควร
2 ไม่ได้แก้กฎหมายก่อสร้างเพื่อเพิ่มมูลค่าที่
3 ไม่ได้สั่งเลื่อนวันโอนเพื่อตัวเอง
4 ที่ว่าผิดเป็นการเล่นงานเทคนิคกฎหมาย
อ่านได้ที่นี่: http://www.area.co.th/thai/area_announce/area_anpg.php

ปล ทักษิณและพวกใกล้แพ้แล้ว ผมจะไปเข้าข้างเขาทำไม แต่ผมไม่ชอบการใส่ร้าย จึงอยากบอกให้ทุกคนได้กระจ่างครับ -

ดร.โสภณ (โต้ง )พรโชคชัย"
"ทักษิณ" โกงอะไร??? ขออนุญาตโพสต์ความเห็นของ "ดร.โสภณ (โต้ง) พรโชคชัย" "ผมจะอธิบายให้ฟังนะ ที่ดินที่คุณหญิงพจมาน ณ.ป้อมเพชร ประมูลมามันเป็นหนี้เสียในสมัยวิกฤติ ต้มยำกุ้งปี 40 เป็นที่ดินแปลงใหญ่ ของเอราวัณทรัส ชึงเป็นหนี้เสียอยู่ 1400ล้าน ขณะนั้น #อดีตนายกทักษิณ จะเคลียหนี้ IMF เพื่อที่จะเอาดอกเบี้ย ที่ต้องจ่ายให้กับ IMFปีละเกือบ 6000ล้าน มาเป็นจ่ายให้กับ พันธบัตร์กู้ชาติ ซึ่งก็คือ เงินก้อนนี้จะสะพัดในชาติ >> #ส่วนมากคนที่ซื้อพันธบัตรจะเป็นผู้เกษียรอายุจากการทำงาน แต่IMF ยื่นเงื่อนไข เพราะหนี้เสียของชาติยังล้างเป็นหนี้ดีไม่หมด เพราะที่ดินของเอราวัณ ทรัส ยังค้างอยู่ #เพราะไม่มีใครประมูล เป็นที่ดินติดวัดและ #เป็นที่ทางสามแพร่ง #ท่านทักษิณจึงสั่งการให้แบงค์ชาติดำเนินการด่วน >> หลังจากนั้น ทางแบงค์ชาติ มีการประชุม ผลสรุป ให้แบงค์ที่เป็น 3 แปลง แปลงนึงมอบให้วัด อีก 2 แปลงให้นำประมูลแบบ อีอ๊อกชั้น คือประมูลในคอม #ราคาเริ่มประมูลอยู่ที่แปลงละ 700ล้าน #แปลงแรกสวย มี บ.ใหญ่ ประมูลไปได้ในราคา 820 ล้าน #ส่วนอีกแปลงไม่สวย นานมากก็ยังไม่มีใครมายื่น #คุณหญิงพจมาน ไม่ทราบว่าจะช่วยชาติ #หรือเห็นว่าที่ดินแปลงนั้นสวย จึงยื่นประมูล และชนะมาด้วยราคา780 ล้าน >> ตอนหลังมี บ.อื่น เข้ายื่นด้วย 3 ราย #ในฐานะคูสมรส #ท่านทักษิณจึงต้องเซ็นไป และแบงค์ฃาติ ก็ถือว่าเป็นองค์กรอิสระ ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของนายก #อยากถามว่าโกงยังไง และชาติเสียหายตรงไหน เข้าใจมั้ยครับ คุณคนดี รักชาติ ทั้งหลาย ....!!!! --------------------------- คืออย่างนี้นะ กรณีชินคอร์ปและที่ดินรัชดาผมมองทักษิณไม่ผิด โพสต์อธิบายเหตุผลคงเป็นสิบๆรอบแล้ว ทักษิณอาจผิด อาจโกงเรื่องไหนผมไม่รู้ แต่ในฐานะนักกฏหมาย ในฐานะที่รักความเป็นธรรม คุณต้องแยกแยะ สิ่งไหนผิดก็จงว่าผิด สิ่งไหนเขาไม่ผิดก็ยกประโยชน์ให้จำเลย คนไม่ผิดจะยัดเยียดให้ผิดได้อย่างไร เอาผิดไม่ได้ก็ต้องปล่อย ไม่ใช่จะเอาผิดกันให้ได้ ระบบกฏหมายซึ่งควรเป็นหลักให้ประเทศก็แปรปรวน นักลงทุนเขาก็ขยาด ใครจะกล้าลงทุนในประเทศที่กฏหมายพิกลพิการเช่นนี้ คนไม่ผิดจะให้ผิด แบบนี้คุยกันไม่รู้เรื่อง นัดไปต่อยหลังห้องน้ำตอนเลิกเรียนกันดีกว่า ทักษิณไม่ได้โกงที่ดินรัชดา 1 ทักษิณซื้อตามราคาที่สมควร 2 ไม่ได้แก้กฎหมายก่อสร้างเพื่อเพิ่มมูลค่าที่ 3 ไม่ได้สั่งเลื่อนวันโอนเพื่อตัวเอง 4 ที่ว่าผิดเป็นการเล่นงานเทคนิคกฎหมาย อ่านได้ที่นี่: http://www.area.co.th/thai/area_announce/area_anpg.php?strquey=area_announcement627.htm
ปล.ผมไม่ชอบการใส่ร้าย จึงอยากบอกให้ทุกคน
ได้กระจ่างครับ - ดร.โสภณ (โต้ง )พรโชคชัย"

Thursday, October 8, 2015

ปฏิวัติประเทศไทย # 69 อ.สุรชัย แซ่ด่าน ตอน:พวกเอ็งไม่ต้องนิรโทษกรรมให้ข้า

ปฏิวัติประเทศไทย # 69 อ.สุรชัย แซ่ด่าน  ตอน:พวกเอ็งไม่ต้องนิรโทษกรรมให้ข้า
https://www.youtube.com/watch?v=8JXNA56lVmA&feature=youtu.be


คนไทยเพิ่งรู้ความจริง ทำไมพวกชนชั้นสูงให้ทหารมายึดอำนาจประเทศเพื่อไล่ที่ดินให้กษัตริย์ ฯลฯ

ตอนนี
÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷÷
คนไทยเพิ่งรู้ความจริง ทำไมพวกชนชั้นสูงให้ทหารมายึดอำนาจประเทศไปได้นั้น เหตุผลหลักๆข้อสำคัญก็เพื่อจะใช้ปืนของทหารเป็นเครื่องมือเข้ามาช่วยไล่ที่ดินให้สำนักทรัพย์สินฯ และกรมธนารักษ์ ทำกันเป็นทีมเป็นขบวนการมีเบื้องหลังคือให้พลเอกประยุทธ์ประกาศใช้ ม.44 จัดการริบที่ดินย่านคนจนอาศัยเพื่อความรวดเร็วทันใจคนโลภมาก ที่อยากได้ที่ดินไปสร้างศูนย์การค้ารองรับคนจีนมาเที่ยว เมื่อก่อนนั้นมี ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ผู้ว่าฯกทม.ที่ตั้งมามีแผนเฉพาะกิจ ชนชั้นสูงลงทุนโกงเลือกตั้งให้มาไล่ที่ดิน ไปให้สำนักทรัพย์สินฯหาประโยชน์ ได้ไปหลายแปลงแล้ว มีปากคลองตลาด ยาวไล่มากินเวิ้งท่าเตียน สะพานขาว ตลาดโบ้เบ๊ไปเป็นของเขาหมดดอนเมืองก็ไปแล้ว พอได้ทหารมามีอำนาจ งานเข้ารุกหนักเร่งรื้อคลองถม สะพานเหล็ก ประตูน้ำ และอีกหลายๆที่ออกไปได้ง่ายขึ้น ที่ดินชาวบ้านบางคน ครอบครัวอยู่ร่วมกันมานับเป็นร้อยๆปีก็มี แต่สำนักทรัพย์สินฯไม่สนใจความเป็นมา จะไล่ท่าเดียว จ้องจะรับทรัพย์เอาที่ดินไปพัฒนาเพื่อสร้างศูนย์การค้าแห่งใหม่ รับกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่มีนโยบายขนคนจีน เข้ามาใช้บริการศูนย์การค้าของสำนักทรัพย์สิน เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่สนใจความเป็นไปของคนในประเทศ ที่กำลังอดยาก ไม่มีจะกินกันอยู่แล้ว ทรัพย์สินไม่ได้เดือดร้อน กับคนไทยที่จนลงทุกวัน ทางสำนักทรัพย์สินฯคิดแต่จะได้เงินจากคนจีนเท่านั้น ทรัพย์สินฯจะสิ้นคิด ไม่นึกถึงคนไทยส่วนใหญ่ ลำพังแค่จิรายุทำอะไรไม่ได้เลย ต้องมีคนสั่งมันอีกที ประเทศนี้จะมีแต่ทหารและสำนักทรัพย์สินฯที่ได้ผลประโยชน์เต็มๆจากการทำ รัฐประหารเท่านั้น คนไทยคนไหน ใครคิดสู้กับทรัพย์. ทหารจะให้อมลูกปืนแทนข้าวแน่ๆ ข่าว[ม็อบพ่อค้า แม่ค้าปิดถนนถูกไล่ที่ตลาดเฉลิมลาภ: ข่าวสดออนไลน์] http://m.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1444228265(

คมวาทะ เลขาธิการองค์การเสรีไทยฯ






iLaw รวมผลงานการใช้อำนาจ ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว

iLaw รวมผลงานการใช้อำนาจ ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว http://ilaw.or.th/node/3679
นับตั้งแต่การใช้อำนาจพิเศษครั้งแรกเมื่อ 25 ตุลาคม 2557 จนถึงครั้งล่าสุด 5 ตุลาคม 2558 มีคำสั่งหัวหน้าคสช. ออกด้วยอำนาจมาตรา 44 แล้ว 29 ฉบับ
หากจะแบ่งคร่าวๆ จะเห็นว่ามาตรา 44 ถูกใช้ในการบริหารราชการแผ่นดินไปกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการต่างๆ รวมถึงการให้ระงับการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น และสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ทั้ง ป.ป.ช. กสทช. และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
ด้านความมั่นคง มาตรา 44 อาจเป็นที่รู้จักในฐานะเป็นคำสั่ง ที่ออกมาใช้แทนกฎอัยการศึก เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวต่อต้านคสช. และให้ทหารเข้ามาดูแลคดีทางการเมือง
มาตรา 44 ยังโดดเด่นเป็นแก้วสารพัดนึกในการจัดการปัญหาสังคมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การแก้ป้ญหาเด็กแว้น การทำประมงผิดกฎหมาย การขายสลากกินแบ่งเกินราคา การควบคุมหาบเร่แผงลอย การปราบปรามยาเสพติด รวมทั้งการควบคุมการบุกรุกพื้นที่ป่า
ซึ่งแน่นอนว่าคำสั่งหัวหน้าคสช.ตามมาตรา 44 หลายฉบับเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน การปฏิบัติตามคำสั่งเหล่านี้ก่อให้เกิดข้อถกเถียงตามมามากมาย เช่น ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ปัญหาทางเศรษฐกิจ และจนถึงทุกวันนี้ปัญหาหลายอย่างก็ยังไม่อาจแก้ไขได้สำเร็จ แม้มีคำสั่งเหล่านี้ออกมา

ข่าวลับกรองแล้ว 9 ตุลาคม 2558 "วังเหมือนจะลงตัวแต่น่ากลัวเพราะตัวเทพถ่างยังไม่นิ่ง” + ฯลฯ

ข่าวลับกรองแล้ว 9 ตุลาคม 2558 

"วังเหมือนจะลงตัวแต่น่ากลัวเพราะตัวเทพถ่างยังไม่นิ่ง"

สืบความลับจับมาตีแผ่เผยแพร่เป็นประจำในขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนียเวียโดยกลุ่มเสียงประชาชนไทย(สปท.)  http://thaiscandemo.blogspot.com/

*วังก็แตกทหารก็ปริมาดูกันซิว่าประเทศนี้จะมีทิศทางอย่างไร?

*ใครบอกว่าศึกชิงราชบัลลังก์ระหว่างพี่ชายกับน้องสาวยุติแล้วโปรดดูหน้าหนึ่งเดลินิวส์7ตุลาคมพาดหัวเพียงฉบับเดียว"เทิดพระเกียรติในหลวง-พระเทพฯ จัดยิ่งใหญ่ที่เจนีวาแพร่พระเกียรติคุณ" เป็นข่าวใหญ่ที่แทรกมากลบข่าว"Bice for Dad"ของฟ้าชายที่จะจัดในเดือนธันวา

*กอ.รมน.ชอบอ้างขบวนการล้มเจ้าสร้างข่าวโจมตีว่าพี่กับน้องขัดแย่งกันจะเป็นรัชกาลที่10ก็ช่วยตอบคำถามหน่อยซิว่าทำไมไม่มีพาดหัวหนังสือพิมพ์ให้เป็นหนึ่งเดียวแสดงความไม่แย่งกันบ้างว่าว่า"เทิดพระเกียรติในหลวง-พระบรมฯจัดยิ่งใหญ่ที่เจนีวาแพร่พระเกียรติคุณ"บ้างละเพคะ???แถมหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ก็แสดงตัวเป็นสื่อหัวเหลืองถือหางพระเทพฯตรงข้ามกับไทยรัฐสื่อกึ่งแดงถือหางพระบรมฯ

*หากจะมีพาดหัวทุกฉบับในประเทศไทยอย่างนี้พร้อมกันเมื่อไรรับรองว่าจะไม่มีพสกนิกรคนใดสงสัยเรื่องแย่งชิงราชบัลลังก์แน่นอน"พระเทพเป็นประธานจัดงานเทิดพระเกียรติ์ในหลวง-พระบรมฯ จัดยิ่งใหญ่ที่เจนีวาแพร่พระเกียรติคุณ"...คิดได้แล้วทำเลย...สปท.ขอท้าว่าไม่มีทางเกิดได้555

*กิจกรรมเกทับบลัฟแหลกระหว่างค่ายพี่กับค่ายน้องรับรองต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้านายแน่นอนไม่เช่นนั้นขี้ข้าไม่กล้าเพยอแน่..เพราะแต่ละกิจกรรมทั้งพี่ทั้งน้องกระโดดร่วมแสดงเต็มตัว

*กิจกรรมพระเทพฯเกษียนอายุยืนรับความเคารพจากนักเรียนนายร้อยจปร.สวนสนามดูเป็นเรื่องธรรมดาแต่ตามมาด้วยพระเทพประกาศคืนเงินเดือนจากการเป็นอาจารย์ให้ทั้งหมดเพราะเห็นว่าที่ผ่านมากินแต่เงินเดือนแต่ไม่ได้ให้เวลากับการสอนได้เต็มที่(แสดงว่าคุณป้าเทพถ่างชอบอู้งาน)...ทำอย่างนี้เสด็จพี่ชายจะเอาหน้าไว้ที่ใหนเพราะรับราชการทหารยศพลเอกเป็นผู้บัญชาการกองบัญชาการถวายความจงรักภักดีอายุเกิน60ปีแก่กว่าน้องสาวแต่กลับไม่เกษียนอายุแถมใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่เยอรมันไม่ได้นั่งทำงานเลยใครๆก็รู้และก็ไม่ยอมประกาศคืนเงินเดือนให้กองทัพ


*ส่วนเรื่องความป่วยของเสด็จพ่อคุณหมอและสำนักพระราชวังก็ช่างแถลงจริงๆว่าสุขภาพภูมิพลเป็นปกติจะอยู่จนถึง120ปีแน่นอน...แต่ทำไมปีนี้ทั้งพี่ทั้งน้องจึงเคลื่อนไหวเร่งหาคะแนนนิยมถี่เหลือเกินและช่วงชิงคะแนนอย่างด้านๆอ้างเอาดื้อๆขนาดที่กงสุลไทยในแอลเอจัดงานส่งเสริมภาษาไทยโดยอาศัยวันเกิดฟ้าชายเมื่อ28สิงหาที่วัดไทยในแอลเอแต่ดันจัดเนื้อร้องเพลงเชียร์พระเทพให้เด็กร้องประสานเสียงไปเสียอย่างนั้น555

*สายข่าวภายในยืนยันมาตลอดว่าสุขภาพภูมิพลหนักมากตั้งแต่กลับเข้าศิริราชครั้งล่าสุดและวันนี้ก็ได้รับรายงานว่าอาการไม่มีดีขึ้นมีแต่ทรงกับทรุด มีไข้ทุกวันแต่ดันหาสาเหตุไม่ได้ ต้องใช้หน้ากากให้ออกซิเย่นถี่ขึ้น คณะหมอก็แบ่งความเห็นในการวินิจฉัยโรคเป็นสองฝ่ายและวิธีการรักษาก็ขัดแย้งกันรุนแรงขึ้น...ข้อมูลนี้ก็สนับสนุนปรากฎการณ์เกทับบลัฟแหลกระหว่างพี่กับน้องที่จัดกันถี่ขึ้นในช่วงปลายปีนี้


*วังก็แตกกองทัพก็ปริมีให้เห็นเป็นรูปธรรมคือก่อนพลเอกอุดมเดชจะเกษียนอายุ1วันก็รีบแต่งตั้งลูกน้อง3พันเอกสีเหลืองที่รับใช้งานแบบถวายชีวิตไปกินตำแหน่งพันเอกพิเศษเพื่อจ่อเป็นนายพลซึ่งหนึ่งในนั้นคือหลานชายแท้ๆพลเอกเปรมแต่พอวันรุ่งขึ้นเริ่มปีงบประมาณใหม่1ตุลา,ธีรชัยนั่งกินตำแหน่งผบ.ทบ.ก็เซนต์ย้าย3พันเอกนั้นทันทีเข้าทำนองว่า"เมื่อมึงไม่เอากู กูก็ไม่เอาลูกน้องมึง เพราะลูกน้องมึงก็ไม่ใช่ลูกน้องกู"

*จะไม่ให้ธีรชัยแค้นฝังหุ่นได้อย่างไรก็ในเมื่อ "มึง(อุดมเดช)เป็นเพื่อนกูเป็นเตรียมทหารรุ่น14ด้วยกันปีก่อนกูก็ให้มึงขึ้นผบ.ทบ.ไปแล้วเพราะอายุมึงแก่กว่ากูหนึ่งปีแต่ปีนี้แทนที่มึงจะเสนอชื่อกูเป็นผบ.ทบ.มึงดันไปเสนอชื่อปรีชา จันทร์โอชา น้องประยุทธ์ข้ามหน้ากู แล้วกูก็เหลือปีเดียวจะเกษียนอายุ แล้วมึงกับกูก็มีนาย'ป้อม'คนเดียวกันแล้วนายเขาก็เชียร์กูแล้วทำไมมึงยังไม่เอากู เมื่อเป็นอย่างนี้กูก็ไม่เอามึง"...จบข่าว

*1ใน3ลูกน้องอุดมเดชที่ถูกอักฉีดจากตำแหน่งผบ.ป.1(ผู้บังคับการปืน1)ขึ้นเป็นผบ.มทบ.11เป็นหน่วยที่คุมกำลังทหารทหารมากที่สุดในกรุงเทพ1,000กว่าคนเป็นน้องเณรทหารเกณฑ์ที่ส่งไปรับใช้นายพลทุกบ้านในกรุงเทพ,แม้จะไม่ใช่กำลังรบสำคัญแต่เป็นกำลังลับ(สืบความลับ)สำคัญนะจะบอกให้

*1ใน3คือหลานชายพลเอกเปรมจะไปจ่อขึ้นนายพลที่ภาคใต้,กูก็ให้ไปภาคเหนือเสียอย่างงั้นจะว่าไง?

*ข่าวทั้งสองนายทหารชอบกินเกาเหลาเป็นมานานเพราะแข่งกันเติบโตแม้จะเป็นทหารเสือราชินีมาด้วยกันแต่สั่งกินก๋วยเตี๋ยวทีไรไม่เคยใส่เส้นสักที แต่อุดมเดชมีราศรีดีกว่าหน่อยตรงที่เป็นหัวหน้านักเรียนนายร้อยและตอนท้ายก่อนขึ้นผบ.ทบ.เป็นผู้การราบ21ขุมกำลังใหญ่ในกรุงเทพ

*ณ.เวลานี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า 'ประยุทธ์ขาลอย' ต้องคอยเอาใจป๋าประวิทตือโป๊ยก่าย..แต่ก็วางใจไม่ได้ในความขัดแย้งในกองทัพที่จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเพราะไทยได้กลายเป็นระบอบเผด็จการสมบูรณ์แบบ,กองทัพจึงกลายเป็นศูนย์กลางอำนาจตัวจริงที่ไม่มีองค์กรอื่นใดมาแบ่งเบา,ใครอยากมีอำนาจการเมืองมีช่องทางเดียวคือต้องยึดกองทัพแล้วจะยึดทุกอย่างได้,โปรดติดตามก่อนเมษาหน้าโยกย้ายกลางปีเพื่ออนาคตของธีรชัยไม่ให้ตกเป็นหมาน้อยเหมือนอุดมเดชมีทางเดียวต้องจัดคนรับไม้ไม่ให้พลาด...จับตาความขัดแย้งในกองทัพจะถูกถ่างออกด้วยรูปการต่างๆจากสายที่ตกขอบถนนไม่เว้นแม้แต่เสียงระเบิดที่จะตามมาอีก


*และแล้วก็เกิดสัญญาณทแม่ง..ทแม่ง..เรื่องเวลาเลือกตั้ง...หลังจากคสช.สาย3ป.เล่นลครคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ,พิษณุคนนั่งเรือแป๊ะก็ออกมาบอกว่าต้องใช้เวลา20เดือนจึงจะมีเลือกตั้ง..ยุดเหล่ก็รับลูกไปอ้าปากป่าวประกาศให้บันคีมูนทราบว่าปีพ.ศ.2560จะมีเลือกตั้ง..แต่ปรากฎว่าหน้าหนึ่งนสพ.ทุกฉบับวันที่7ตุลาพาดหัวตรงกันว่าประธานผีดิบมีชัยกระหายเลือดบอกมกรา2559รัฐธรรมนูญร่างเสร็จแน่นอน..มองได้อย่างเดียวว่าพลเอกเปรมกดปุ่มให้ผีดิบมีชัยทำอะไรก็ได้ให้รัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์อยู่ไม่สบายเริ่มจากตีกินง่ายๆเพราะรู้ว่าคนไทยอยากเห็นการเลือกตั้งเร็วๆแต่รัฐบาลประยุทธ์อยากอยู่นานๆ...ก็ตรงกันที่สมาชิกสภาสายป๋าทั้งหมดโหวตให้ผ่านร่างรัฐธรรมนูญ(แต่ไม่ผ่าน)ตั้งแต่พลเรือเอกพระจุน จนถึงอลงกรณ์ณ.ประชาธิปัตย์ กปปส.

*คำตอบว่าทิศทางการเมืองไทยจะไปอย่างไรท่ามกลางวังก็แตกทหารก็ปริ...ก็ไปแบบดูเชิงกันและรอจังหวะพลาดเมื่อใดก็ใช้มีดสั้นเสียบหลัง..เรื่องดังๆอย่างนี้มีสัญญาณไปถึงต่างประเทศอย่าได้หวังว่าใครจะหอบเงินมาลงทุน..คนไทยก็อย่าได้หวังว่าจะมีสตางค์เหลือใช้เหมือนอย่างแต่ก่อนยกเว้นลูกหลานคสช.ที่มีเหลือใช้ไม่ขาดแคลน

*ก็เมื่อรัฐบาล3ป.(ป.ประยุทธ,ป.ประวิท,ป.ป๊อก)แสดงออกชัดว่าถือหางวชิราลงกรณ์เป็นเอกภาพ ป.เปรมก็ไม่มีเยื่อใยอะไรที่ต้องให้รัฐบาล3ป.อยู่อย่างสุขสบาย

*การเมืองไทยนับแต่นี้ไปสนุกอย่าบอกใคร...คุณลุงก็ใกล้จะตาย..คุณป้าก็บ้าเป็นปกติ..อยู่ในศิริราชวันๆก็ต้องมีคนจูงคนบอกตลอดเวลาให้ทำโน่นทำนี่เหมือนเด็กๆหัดเดินหัดพูดและที่ขาดไม่ได้เป็นไฟท์บังคับคือต้องพาคุณป้าไปสวัสดีให้กำลังคุณลุงบ่อยๆ

*วันนี้ไทยสิ้นแล้วที่จะมีระบบการเมืองดีที่มีเสถียรภาพ..รอแต่ให้มันต้องพังพาบแล้วสร้างใหม่..แล้วพบกัน
--------จบ---------

★จับตาอำนาจ ขุมกำลังในมือ บิ๊กหมู จุดเปลี่ยนชิ้อนาคต ความมั่นคงของชาติ

★จับตาอำนาจ ขุมกำลังในมือ บิ๊กหมู จุดเปลี่ยนชิ้อนาคต ความมั่นคงของชาติ

     มันเป็นเรื่องอ่อนไหวที่ต้องจับตาเป็นอย่างยิ่งสำหรับสัญญาณรอยร้าวลึก ระหว่าง พล.อ.ธีรชัย นาควานิช หรือ บิ๊กหมู ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) คนใหม่ กับ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร หรือ บิ๊กโด่ง  อตีด ผบ.ทบ.ที่เพิ่งเกษียณอายุราชการและ รมช.กลาโหม ทั้งนี้ต้องจับตาบทบาทของ พล.อ.ธีรชัย ให้ดี เพราะจะมีบท บาทเป็นตัวแปรสำคัญ ต่ออนาคตความมั่นคง และทิศทางการเมืองของชาติ สัญญาณแห่งรอยร้าว ที่ปรากฎ สะท้อนจากการที่ บิ๊กหมูหลังจากที่ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งนายทหารระดับคุมกำลัง ทั่วประเทศ ลอตใหญ่เกือบ 40 นาย แต่ที่สำคัญคือย้ายนายทหาร ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของ บิ๊กโด่ง โดยเฉพาะ พ.อ.คชาชาต บุญดี นายทหารคนสนิมที่ บิ๊กโด่ง เพิ่งมีคำสั่งแต่งตั้ง ให้ไปเป็นรอง ผู้บังคับการมณฑลทหารบกที่ 11 (รอง ผบ.มทบ.11) ก่อนตัวเองจะเกษียณอายุราชการเพียงไม่กี่วัน แต่ บิ๊กหมู กลับมีคำสั่งย้าย พ.อ.คชาชาต กลับหน่วยเดิม โดยมีตำแหน่งเป็นนายทหาร ฝ่ายเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 3 ศึกงัดข้อ ระหว่าง 2 บิ๊กสีเขียวและต่างก็เป็นแกนนำของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ บิ๊กป้อม รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ในฐานะพี่ใหญ่ถึงกับต้องออกมา ไกล่เกลี่ย โดยกล่าว กับ บิ๊กหมู ว่า หมูใจเย็นๆ
     ปูมหลังของ พล.อ.ธีรชัย นั้น ในอตีดเมื่อสมัยยังเป็นนายทหารหนุ่ม เคยเป็นผู้ติดตามของ บิ๊กป้อม ตั้งแต่ สมัย บิ๊กป้อม ยังเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 2 ดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่ง บิ๊กป้อม พยายามผลักดัน ส่งเสริม บิ๊กหมู มาตลอด สำหรับอุปนิสัยของ บิ๊กหมู นั้นเป็นนายทหารประเภทนักรบ ที่ดุดันเฉียบขาด อาจ เปรียบได้ใกล้เคียงกับ พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร อตีดนายทหารยังเติร์ก จปร.7 โดยนายทหารทั้งสอง ต่าง เคยประกอบวีรกรรมรบอันลือลั่น ในอตีดด้วยการนำกำลังบุกตะลุยเข้าไป ในยังดินแดนของฝ่ายตรงข้าม เพื่อไล่ล่าสังหารข้าศึก ได้เป็นจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ บิ๊กหมู จะได้รับแต่ตั้งเป็น ผบ.ทบ.ก็เคยเกิดข่าวคู่แข่ง ชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ.ระหว่าง บิ๊กหมู กับ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ซึ่งช่วงแรกข่าว พล.อ.ปรีชา จะขึ้นเป็น ผบ.ทบ.มาแรงมากแต่ในที่สุด บิ๊กหมู ก็แซงโค้งสุดท้ายได้เป็น ผบ.ทบ.
     จากปรากฎศึกงัดข้อระหว่าง บิ๊กหมู กับ บิ๊กโด่ง ที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงปรากฎการณ์ส่วนหนึ่ง ที่สะท้อน ให้เห็นถึงรอยร้าว แห่งอำนาจในวงการสีเขียว ซึ่งต้องจับตาดูแนวโน้มอันอ่อนไหวนี้ต่อไป ว่าจะบานปลาย หรือไม่ แต่ทีสำคัญกว่าคือจุดยืนในมือของ บิ๊กหมู ในฐานะที่คุมอำนาจกองทัพบก อันเป็นหน่วยกำลังรบ ที่เป็นตัวแปรสำคัญ ที่จะกำหนดอนาคตความมั่นคงของชาติ ประชาชน รวมทั้งอาจจะ เป็นตัวแปรกำหนดอนาคต ของกลุ่มอำนาจเก่า ที่จะมีโอกาสกลับมามีอำนาจ ยึดครองประเทศ อีกหรือไม่
[10/8/15, 4:10:17 AM] Mana-song: เรื่องเน่าๆในกองทัพบกที่ไม่มีอ่านในสื่อภาษา พูดถึง ผบ.ทบ. คนใหม่พลเอกธีรชัยพอขึ้นมาก็เซ็นต์ได้ยกเลิกคำสั่งทิ้งทวนคำสั่งเก่าพลเอกอุดมเดชเซ็นต์แต่งตั้งหลานพลเอกเปรม  และลูกน้องของตนพุ่งเป็น รองผบ. มทบ. 11  แต่พลเอกธีรชัยแต่งตั้งกลับให้ไปเป็นเสนาธิการภาค 3 กลับบ้านนอกที่เดิม นอกจากนั้นยังยกเลิกการโฆษณาเพื่อเรี่ยไรหาเงินบริจาคผ่านทางช่อง 5 เพื่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ทั้งที่ ได้ขนเอางบกองทัพบกไป 1000 ล้านแต่ ผบ.ทบ. คนเก่าอ้างว่ายังไม่พอให้คนใกล้ชิดหาเงินบริจาคเพิ่มจากคนภายนอกได้ และปิดกั้นไม่ยอมให้ ผบ.ทบ คนปัจจุบันเข้ามีส่วนร่วมในโปรเจ็คของตน ที่คิดขึ้นมาทำอย่างรีบเร่งระหว่างอยู่ในตำแหน่ง ผบ.ทบ.แค่ปีเดียวเท่านั้น อนุมัติเงินพันล้านทุ่มไปกับโปรเจ็คไม่โปร่งใส พร้อมทั้งกีดกันไม่ให้ใครไปรู้เห็นการใช้เงิน1000 ล้าน พลเอกอุดมเดชอ้างใช้ไปแค่ 900 ล้านเพราะไปเรี่ยไรไปกับทางเอกชนได้อีกมาก ( เบียร์สิงห์ให้ 300 ล้าน เบียร์ช้าง ดีเทค และอื่นๆ ฯลฯรวมกันมากกว่า 1000 ล้านแทบไม่ต้องใช้เงินกองทัพก็ได้)เป็นเงินจำนวนมหาศาล ตอนจะไปเหลือติ่งทิ้งไว้ไม่ให้มีพิรุธไว้100 ล้าน ผบ.ทบ.จัดการเลิกเงินทอนของพลเอกอุดมเดชไปแล้ว เรื่องเด่นขึ้นชื่อในการละลายงบของพลเอกอุดมเดชมีอีกมากมาย เช่น ทำที่จอดรถใน บก.ทบ.สร้างกำแพงหลังพระรูป ร.5 ติดตั้งน้ำพุหรูหรา เพื่อให้ ผบ.ทบ. ให้เป็นพื้นที่ที่ ผบ.ทบ.คนเก่าพลเอกอุดมเดชนั่งชมการสวนสนามได้ ฯลฯ หัวข้อข่าวตบท้าย ข่าวตบท้ายด้วยเรื่องการ ผบ.ทบคนใหม่สั่งยกเลิกเครื่องแบบทหาร ที่พลเอกอุดมเดชสั่งให้ออกแบบใช้ อ้างเพื่อความสวยงามและคล่องตัวในการสวมใส่มากขึ้น แม้ว่านายทหารต่างๆจะได้ทำการตัดเครื่องแบบใหม่นี้ไปในราคา 2,000 บาทไปแล้วก็ตาม รายงานข่าวจากวงในทหารบอกว่าแนวคิดทางการละเลงเงินทองมากมายของพลเอกอุดมเดชทที่นำงบจากกองทัพบกมาใช้ ทำให้ ผบ.ทบ.คนใหม่ขัดใจ การอยู่ในตำแหน่ง 1 ปีของพลเอกอุดมเดช วันๆคนใกล้ชิดได้ออกแต่โปรเจ็คเพื่อใช้เงินหลวง ทางรัฐบาล คสช. พยายามปกปิดข่าวแพร่สื่อไทย กลัวกระทบภาพการคอร์รัปชั่นครั้งใหญ่ของพลเอกอุดมเดช แต่ไปโผล่เป็นข่าวโพสท์ทูเดย์ ภาคภาษาอังกฤษแทน http://m.bangkokpost.com/news/718672?refer=http://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=gen%2520udomdej%2520sitabutr%2520use%2520tv%2520chanal%25205%2520corupted&source=web&cd=2&ved=0CBIQFjABahUKEwimjICKlbHIAhXLI44KHVKeCS0&url=http%253A%252F%252Fwww.bangkokpost.com%252Fnews%252Fpolitics%252F718672%252Farmy-chief-undoing-predecessor-initiatives&usg=AFQjCNGkDvBzltmHZd7xXNRHmUYpprTjXg

อย่าหลงว่า “สหรัฐเข้าข้างกัมพูชา” แล้วปล่อยให้ไฟชาตินิยมเผาทั้งการทูตและประชาธิปไตย

คันฉ่องส่องไทย • เตือนภัย “เรื่องเล่า” ที่ทำให้เราอ่านเกมผิด อย่าหลงว่า “สหรัฐเข้าข้างกัมพูชา” แล้วปล่อยให้ไฟชา...