ยินดีต้อนรับ

พลเมืองที่รอบรู้เท่าทัน คือ พลังประชาธิปไตยที่แท้จริง
Well-informed citizens are the true democratic forces.

Sunday, November 16, 2025

ความสัมพันธ์การค้าไทย-สหรัฐ: ความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในเสาหลักของเศรษฐกิจไทย โดยสหรัฐเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุด คิดเป็นกว่า 18% ของการส่งออกทั้งหมดของไทยในปี 2025 สินค้าส่งออกหลักจากสหรัฐมายังไทย ได้แก่ เชื้อเพลิงแร่ธาตุ อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักร ขณะที่สินค้านำเข้าหลักจากไทยไปสหรัฐคือ สินค้าทุน (เช่น เครื่องจักรและอุปกรณ์) สินค้าอุปโภคบริโภค (เช่น โทรศัพท์มือถือและเสื้อผ้า) และยานยนต์กับชิ้นส่วน การค้านี้ส่งผลให้ไทยมีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐสูงถึง 45.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 ซึ่งคิดเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยการค้าทั้งหมด (ส่งออกและนำเข้ากับทุกคู่ค้า) คิดเป็นประมาณ 137% ของ GDP ไทยในปี 2024 แสดงให้เห็นว่าการค้าต่างประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของไทย

ในทางตรงกันข้าม การค้าของสหรัฐกับไทยคิดเป็นสัดส่วนน้อยมาก น้อยกว่า 1% ของ GDP สหรัฐ โดยการค้ากับกลุ่มอาเซียนทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 571.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 ซึ่งเป็นเพียงเศษเสี้ยวของเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ข้อมูลเหล่านี้มาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น สำนักสำมะโนประชากรสหรัฐและตัวแทนการค้าสหรัฐ
เมื่อมองไปยังความสัมพันธ์กับจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดโดยรวมของไทย จีนครองสัดส่วนนำเข้าถึง 26.2% ของนำเข้าทั้งหมดในปี 2024 โดยไทยนำเข้าจากจีนสูงถึง 69.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ส่งออกไปจีนอยู่ที่ 35.2-44.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้ากับจีนกว้างขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การพึ่งพาจีนที่เพิ่มขึ้นนี้ (นำเข้าเติบโต 29.98% ในช่วงล่าสุด) ทำให้เศรษฐกิจไทยเสี่ยงต่อความผันผวนจากจีน เช่น การแข่งขันจากสินค้าจีนราคาถูกที่คุกคามอุตสาหกรรมไทย
ในบริบทของความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐ-จีน คนไทยควรตระหนักว่าการรักษาสัมพันธภาพอันดีกับสหรัฐเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพื่อกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ สร้างสมดุลการค้า และรักษาตำแหน่งของไทยในห่วงโซ่อุปทานโลก หากละเลย ไทยอาจตกอยู่ในภาวะพึ่งพาจีนมากเกินไป ซึ่งอาจกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.