Monday, March 16, 2015

วิธีทำให้ชีวิตให้โล่งและเบาขึ้น




สวัสดีครับ พี่น้องที่รักทุกท่าน  เพื่อเป็นการสลับเบาและหนักนะครับ วันนี้ขอนำเอาสิ่งดี ๆ ที่ทำให้พี่น้องรักษาสมดุลย์ของชีวิตได้ดีขึ้น คือสู้ทางการเมืองไป แล้วก็ดูแลตัวเองไปด้วย  ได้รับทิปนี้มาจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ส่งมาทางไลน์  เห็นว่าเป็นสิ่งดี เลยอยากเผยแพร่ และขอให้อานิสงฆ์ที่อาจเกิดจากการอ่านและเผยแพร่ครั้งนี้และต่อ ๆ ไป ทำให้ทุกท่านอยู่ดีมีสุขนะครับ  รวมทั้งขอขอบคุณท่านผู้ใหญ่ที่ส่งมาและผู้เขียน คือ ศ.ดร.นพ. วิทยา นาควัชระ ด้วยนะครับ

------------------------------------------------





วิธีทำให้ชีวิต
ให้โล่ง  และเบาขึ้น  

ศ. ดร. นพ. วิทยา  นาควัชระ

เมื่อเร็วๆ นี้ผมได้เปิดตู้เสื้อผ้าดูเห็นมีเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้เต็มตู้ไปหมด เคยนึกจะใช้เวลาเลือกเอาสิ่งที่เลิกใช้ไปแล้วไปบริจาคที่ไหนสักแห่งแต่ก็ยังไม่ได้ทำสักที เอาล่ะ....วันนี้เริ่มทำเสียที... ปรากฏว่า รื้อ ค้น ได้เสื้อ กางเกง เสื้อกันหนาวมากมายที่ไม่ได้ใช้แล้ว หรือไม่อยากใช้แล้วนับเป็นร้อยชิ้น เมื่อเอาของออกจากบ้านไปบริจาคแล้ว มีความรู้สึกว่าตู้เสื้อผ้าโล่งขึ้น ตัวเองก็เบาลง ใจก็สบายขึ้นอย่างประหลาด รู้แล้วล่ะ...สิ่งที่ผมทำไปแล้วนั้น คือการทำให้ชีวิตโล่งและเบาขึ้นนั่นเอง 
วันนี้เรามาคุยกันถึงวิธีทำให้ชีวิตเบาขึ้น โล่งขึ้น สบายขึ้นดีไหม? วิธีทำให้ชีวิตโล่ง และ เบาขึ้น เช่น  

1. เก็บของที่ไม่ใช้ เลิกใช้ เอาไปบริจาคให้ผู้เดือดร้อน เช่น เสื้อผ้า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์เก่าๆ อย่าไปเสียดายกับของที่ไม่ใช้แล้วเลย 

2. ลดงานที่เครียดๆ ลงบ้าง เช่นงานประชุมที่เอาจริงเอาจังงานที่แข่งขันและหวังผลสูงถ้าเลือกได้ ลาออกจากการเป็นกรรมการอะไรต่อมิอะไรเสียบ้างก็ได้บรรยากาศของการประชุมมักจะเครียดเสมอสารความเครียดก็หลั่งตลอดเวลา...รู้ไหม? 

3. เลือกไปงานที่สำคัญและควรจะไปเท่านั้น ไม่เช่นนั้น เราจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย  

4. อ่านหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารให้น้อยลง โดยเฉพาะข่าวอาชญากรรมหรือข่าวเครียดๆทุกวัน 5. เลิกดูรายการทีวี.ที่เครียด หรือรายการข่าวหนักๆ ที่ซ้ำๆ กันทุกวัน  


6. อย่ารับปากหรือสัญญาว่าจะทำอะไรให้ใครๆ ง่ายๆ ด้วยความเกรงใจเลยหัดปฏิเสธให้เป็น  

7. อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงคนอื่นเลย ทำได้ยากมากจะทำให้เราจมปลักอยู่กับความผิดหวังในตัวคนอื่น และเกลียดชังสังคมรอบตัว พยายามรักคนอื่น และยอมรับเขาตามความเป็นจริงเถิด 
ถ้ารักไม่ลง ก็มองข้ามเขาไป และลดความคาดหวังในตัวเขาลงด้วย เมื่อเวลาผ่านไป เราหันไปมองเขาใหม่ เราจะเข้าใจยอมรับและรักเขาตามความเป็นจริงได้มากขึ้น 

8. หัดไปไหนมาไหนคนเดียว เป็นเพื่อนตนเองได้จะลดขั้นตอนและความยุ่งยากใจ เวลา จะต้องทำอะไรหรือไปไหนได้มากขึ้น 9. ลดความบ้างาน บ้าเงิน บ้าอำนาจ บ้าเกียรติยศชื่อเสียงลงบ้างจะทำให้คุณไม่เครียดกับการเฆี่ยนตัวเองให้ทำงานหนัก และแข่งขันกับคนรอบข้างตลอดเวลาจนลืมสร้างมิตรและไม่เคยพอใจตัวเองเลยไม่ว่าจะได้มามากเท่าไร 

10. ถ้าจะรักใครสักคน อย่าหลงรักเขาทั้งหมดของชีวิตและอย่าเข้าไปก้าวก่ายชีวิต เขาด้วย จงคิดเพียงจะอยู่ข้างๆ เขาก็พอแล้ว การรักแบบนี้จะทำให้รักกันได้นานๆ 


11. ลองแบ่งเวลาวันละ 1 ชั่วโมง ล้างจิตใต้สำนึกที่ไม่ดีออกไปให้หมด ลองทำดูตามที่แนะนำมานะครับ เราจะรู้สึกว่าชีวิตโล่งและเบามากขึ้น เหมือนใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ไม่คับแคบ หรือรัดรึง อึดอัด เวลาตัวเองเบาๆ ใจสบายๆ ความคล่องตัวจะมีมากขึ้น จนคุณแปลกใจตัวเอง.ร่วมด้วยช่วยกัน สร้างสรรค์สังคมไทย

__________________

เมื่อจัดการกับตัวเองได้ดีแล้ว ก็เอาเวลาและพลังส่วนหนึ่ง มาทุ่มให้กับการช่วยกันปฏิวัติบ้านเมืองให้จงได้นะครับ เวลาสมองใส ใจเบาสบาย คิดจะทำอะไรก็จะได้ผลดียิ่ง ๆ ขึ้นครับ   อิ ๆ

ความคิดและคติดี ๆ จากเพื่อนถึงเพื่อน... อาจเปลี่ยนชีวิตคุณและเปลี่ยนโลกได้

มีหลายครั้ง ที่พี่น้องในแวดวงส่งอะไรดี ๆ ที่เป็นเหมือนจดหมายลูกโซ่ในอดีต ซึ่งคนรับก็มักจะรู้สึกว่าต้องส่งต่อ  และบางทีก็มีคำขู่ไว้ด้วยหากไม่ส่งต่อ ฮิ ๆ   แต่บางครั้ง เนื้อหาสาระดีมาก ๆ และควรค่าแก่การส่งต่อ  บางทีเป็นบทสรุปจากชีวิตของคน ๆ หนึ่งทั้งชีวิตเลยทีเดียว  

(ภาพประกอบ ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาเลยครับ ฮี่ ๆ)








ข้างล่างนี่เป็นตัวอย่างหนึ่ง ที่อ่านแล้วรู้ว่าคนเขียน หากไม่ไปรวบรวมจากแหล่งอื่นมา ก็ถือว่า เป็นคนเข้าใจชีวิต และน่าจะผ่านชีวิตมามาก  มีประโยชน์มากทีเดียว ลองอ่านแล้วคิดย้อนหาตัวเอง ว่ามีอะไรสอดคล้องหรือขัดแย้งกับแต่ละข้อหรือไม่  หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะครับ  

ขออานิสงฆ์ย้อนกลับไปยังผู้ร่างเนื้อความและผู้ส่งต่อทุกท่านด้วยครับ 




"โดนใจมาก"

1. อะไรก็ตาม ถ้าได้มาแล้ว รู้จักรักษา เชื่อว่าสิ่งนั้นๆ จะอยู่กับเรา ได้นานเสมอ
2. "คนเก็บขยะ" คือ คนที่เสียสละ เอาตัวเข้าไปแลกกับ ของเหม็นเน่า เพื่อเอาไปทิ้ง โลกนี้น่าอยู่ ก็เพราะพวกเขานะ
3. ถ้ายังไม่ปล่อยมือ จากอดีต แล้วจะเอามือไหน ไปคว้าอนาคต
4. อย่าใช้เวลาทั้งชีวิต หาเงิน   จงใช้เวลาส่วนหนึ่งของชีวิต หาเงิน เพื่อใช้ตลอดชีวิต
5. จงอย่า อิจฉาคนอื่น แต่จงใช้ชีวิต ให้คนอื่น อิจฉา
6. บางครั้ง สิ่งที่เราเห็น อาจจะ ไม่เป็นอย่างที่เราคิด ฉะนั้น อย่าตัดสินคนอื่นจาก ความรู้สึกส่วนตัว
7. ถ้าคุณตกหลุมรัก คนสองคน ในเวลาเดียวกัน จงเลือกคนที่สอง เพราะถ้าคุณรักคนแรก คุณจะไม่มีคนที่สอง อย่างแน่นอน
8. อย่าตกเป็นทาสของ กฏเกณฑ์นั่นคือ การใช้ชีวิต ตามความคิด ของคนอื่น อย่าปล่อยให้ เสียงของคนอื่น ดังกลบเสียงหัวใจ ของเราเอง
9. คนที่มีความคิด เป็นเถ้าแก่  จบ ป.4 ก็เป็นเถ้าแก่ได้คนที่จบปริญญาโท แต่คิดจะเป็นลูกจ้าง มันก็คือลูกจ้าง ทั้งชีวิต
10. สติ ทำให้เรื่องใหญ่ กลายเป็นเรื่องเล็ก
อคติ ทำให้เรื่องเล็ก กลายเป็นเรื่องใหญ่
11. ความสุข แม้จะอยู่กับเราได้ ไม่นาน แต่ความทรงจำที่ดี จะอยู่กับเราตลอดไป
12. ไม่จำเป็นต้องทำตัว ให้ใครชมว่าดี แค่รู้ว่าจิตสำนึก ที่เรามีมันดีก็พอแล้ว
13. หากพอมีกำลัง อย่าไปหวังพึ่งใคร ต่อหน้านั้นคือน้ำใจ ลับหลังไปคือ หนี้บุญคุณ
14. ร้องไห้ เอาชนะใจคนได้ บางคน แต่ยิ้มแย้ม เอาชนะใจคนได้ เกือบทั้งโลก
15. คุณอาจจะต้อง ทำความรู้จัก กับคนนับร้อย กว่าจะได้พบ เพื่อนแท้เพียงไม่กี่คน
16. อยู่ต่ำให้มองสูง อยู่สูงให้มองต่ำ
17. หนามแหลมคม ไม่ต้องเสี้ยม คนแหลมคม ไม่ต้องสอน
18. ไม่พูดไม่ได้ แปลว่าไม่รู้ เงียบไม่ได้แปลว่าโง่ แต่ฉลาดพอที่จะนิ่ง
19. ถ้าเรา วิ่งหนีปัญหาไม่พ้น ก็ลองวิ่งชน มันดูสักครั้ง
20. คนเรา ไม่วางแผนที่ยาวไกล ความทุกข์จะเกิดขึ้น ในไม่ช้า
21. อย่ากลัว การเริ่มต้นใหม่ และอย่าแคร์ สายตาใคร ตราบใดที่เรา ยังหายใจ ด้วยจมูกของเราเอง
22. คนอื่น ไม่ให้โอกาสเรา ยังไม่น่าเศร้า เท่ากับเรา ไม่ให้โอกาสตัวเอง
23. กระจก ไม่เคยดูถูกใคร มีแต่คนที่ไม่มั่นใจ ที่ดูถูกตัวเอง
24. คนฉลาด ไม่ใช่ผู้ที่ ชนะการโต้แย้ง แต่คนฉลาด คือผู้ที่ออกห่างจาก การโต้แย้ง ตั้งแต่เริ่มต้น
25. คนที่ใช้ชีวิตคุ้มค่า คือ คนที่ได้ทำ ในสิ่งที่อยากทำ ไม่ใช่เพราะได้ทำ ในสิ่งที่ คนอื่นอยากให้ทำ
26. อย่าเป็นคนเก่ง ที่แล้งน้ำใจ แต่จงเป็น คนธรรมดาทั่วไป ที่มีน้ำใจ และไม่เห็นแก่ตัว
27. มองปัญหา ให้เหมือนกับ เม็ดทราย ถึงจะเยอะมากมาย แต่เม็ดทราย ก็เล็กนิดเดียว
28. ไม่มีใครดีเลิศหรือ เพอร์เฟค หรอก เพราะขนาดดินสอ ยังต้องมียางลบ
29. ใครจะดูถูกเรา ก็ปล่อยให้เค้าดูถูกไป แต่จงท่องให้ขึ้นใจว่า เราจะไม่ดูถูกตัวเอง

ส่งต่อ
นะคนดีที่หนึ่งเลย




ผมเป็นแฟนตัวยงของ James Bond 007 และรอคอยตอน 24 ที่จะออกมาปีนี้ SPECTRE

Sยecial Executive for Counter-intelligence, Terrorism, Revenge and Extortion a.k.a. SPECTRE. Is the mastermind back?








ธรรมชาติด้านหนึ่งของผม ชอบจินตนาการถึงความท้าทาย การสอบสวน การแกะประเด็น หรือสอบสวน และการแก้ปัญหาที่ยากลำบาก  ด้วยแผนที่ลึกซึ้งและพุ่งเป้าตรงประเด็น  แต่ในชีวิตจริง ผมกลับใช้ชีวิตแบบสบาย ๆ รักและใฝ่สันติ แถมได้มาอยู่ในแวดวงวิชาการ จึงไม่ได้ใช้ชีวิตโลดโผนใด ๆ นอกจากในสนามฟุตบอลและการท่องเที่ยวไปตามประเทศต่าง ๆ ที่ภารกิจด้านการศึกษาพาไป   

ดังนั้น การดูหนังของผม เลยไม่เว้นเรื่อง  James Bond 007 ทุกตอน และ Mission Impossible ทุกตอนเช่นกัน James Bond 24 จะเข้าตอนตุลาปีนี้ ส่วน MI น่าจะฉายเดือนหน้านี้แล้ว  แฟน ๆ เตรียมควักกระเป๋าได้เลยครับ 

แต่ก็ไม่ได้แปลว่า ผมไม่ดูหนังสไตล์อื่น ๆ นะครับ จริง ๆ ผมชอบดูหนัง แล้วให้ตัวเองหลุดเข้าไปอยู่ในโลกนั้นสักสองชั่วโมง  ชอบหนังแบบตลก  heart-warming, romantic commedy และแม้แต่การ์ตูนเด็ก ๆ ฮิ ๆ ...

การดูหนัง นอกจากจะได้ความบันเทิงและฝึกภาษาอังกฤษแล้ว  หากดูแล้วสรุปบทเรียน แล้วหาแรงจูงใจให้ได้ แล้วเอามาใช้กับชีวิต  สองชั่วโมงที่ใช้ ก็จะคุ้มค่าทั้งเวลาและเงิน  



ความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง ของเผด็จการทหารและราชาธิปไตยไทย

เมื่อเผด็จการศักดินาราชาธิปไตยได้แพ้คู่แข่งทางการเมือง ที่สร้างนโยบาย ภาพลักษณ์ และผลงานได้ดีกว่าบนเวทีประชาธิปไตย คือผ่านการเลือกตั้ง  ที่อำนาจในการตัดสินใจเป็นของประชาชน พวกเขาจึงต้องทำลายกลไกและหลักการประชาธิปไตย ไปทีละนิด ๆ แต่เมื่อจัดการกับคู่แข่งตัวสำคัญนี้ไม่ได้สักที พวกเขาก็เล่นยาหนัก ไม้หนัก จนถึงกับใช้มาตรการที่แรงสุด ๆ อีกครั้ง นั่นคือการทำรัฐประหาร เพื่อกระชับกลไกอำนาจ  และเมื่อพวกเขาทำในเวลาที่คนไทยตาสว่างมากเกินไป มาตรการของพวกเขาจึงขัดกับหลักประชาธิปไตย ขัดกับหลักสิทธิมนุษยชนสากล และขัดธรรมชาติของคนไทยและสภาวะแวดล้อมแห่งโลกปัจจุบันอย่างร้ายแรง





การรัฐประหารเมื่อปี  2549 นั้น เริ่มบนฐานความคิดที่ผิด ๆ ว่า การกำจัดนักการเมืองที่กุมเสียงประชาชนได้เสียคนหนึ่ง ยึดอำนาจ แล้วเขียนกฎหมายให้นักการเมืองอ่อนแอ ทำผลงานอย่างเดิมไม่ได้อีก คือเขียนรัฐธรรมนูญ  2550 ป้องกันไว้อย่างรอบคอบ จะทำให้พวกเขาได้ดั่งใจ คือ ไม่ให้ประชาชนสามารถกำหนดตัวผู้นำเก่ง ๆ ได้ง่ายอีก หากนักการเมืองหน้าไหนบังอาจขัดใจเครือข่ายพวกเขา เขาก็ใช้เครือข่าย ซึ่งวันนี้เราก็รู้แล้วว่ามีใครบ้าง ในระดับต่าง ๆ เขาก็มีกลไกทั้งในสภา ในศาล (ศาลปกติ ศาลอิสระจากการคานอำนาจใด ๆ และศาลทหาร) และนอกสภานั้น ออกมาจัดการได้ดั่งใจนึก  โดยบันไดสี่ขั้นของพวกเขานั้น เน้นที่ทำลายทักษิณ ให้คนลืมทักษิณ เอาชนะเลือกตั้ง แล้วกำจัดอิทธิพลทักษิณและตระกูลชินวัตรเสียให้สิ้น แล้วต่อไป ประชาชนก็จะไม่มีพลังในการกำหนดตัวแทนในรัฐบาลอีก พวกเผด็จการเครือข่ายพระราชา ก็จะครอบงำประเทศได้อย่างสะดวกงานและหวานคอแร้งตลอดไป


การลอบสังหารทักษิณถึงเจ็ดครั้ง แสดงให้เห็นถึงเจตน์จำนงค์อันแน่วแน่ที่จะทำให้เป้าหมายของพวกเขาสำเร็จให้จงได้  เมื่อไม่สำเร็จ แผนแตก แมวตื่น และหนีกระเจิงไปหลบภัย พวกเขาก็ใช้การยัดคดีความ ซึ่งก็ทำได้ง่าย เพราะการหาหลักฐาน สร้างหลักฐาน คนชงคดี และคนตัดสินคดี อยู่ในการบงการของพวกเขาหมด  และพวกเขาก็ได้ทำทุกอย่างที่จำเป็นต้องทำ แถมหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นการประจานเครือข่ายพวกเขาเอง   เพราะการแสดงละครบนเวทีใหญ่ที่คนมองออกยากนั้น มันเริ่มสว่างจ้าคาตาคนไทยทั้งปวง  จนวลี "ตาสว่าง"  คือวลีแห่งยุคเลยก็ว่าได้

เผด็จการเมืองไทย เคยฉลาดล้ำลึก แต่เขาแพ้การเลือกตั้งมาตลอด ยิ่งกำจัดคู่ต่อสู้ทางการเมืองด้วยกลไกที่พวกเขามีล้นมือ ก็ยิ่งแพ้....การทำลายในสภา ตัวแทนพวกเขา คือ ประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย ก็แทบป่นปี้  การทำลายนอกสภา ก็เจอฤทธิ์กฎหมายซึ่งไม่ได้เขียนให้เว้นใครนั้นตามจองเวร ต่อให้ปลดแบบใช้สองมาตรฐานก็จะมีแต่เสียหายใหญ่หลวงในที่สุด เข็นเอาเครือข่ายองค์มนตรีและผู้ดีจอมปลอมทั้งหลายออกมากล่อมและชี้นำสังคม ก็ทำให้คนพวกนี้เสียสุนัข เสื่อมราคากันทั่วหน้า เนติบริกร กลายเป็นนิติฆาตกรทั่วหน้า


แล้วในที่สุดพวกเขาก็เป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือด ที่มีชนักติดหลังกันทั่วหน้า  การเข็นเอาทหารของพระราชาและคนดีของเครือข่ายเจ้าออกมากุมอำนาจโดยเบ็ดเสร็จเพื่อหวัง "ปฏิรวบ" ประเทศให้เป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ใหม่เล่า ทัศนคติล้าหลัง สมองและองค์ความรู้ที่ด้อยในมิติที่อยู่นอกหลักสูตรทหาร กับพฤติกรรมที่ขวางโลก ทำร้ายหลักการสากล ละเมิดสนธิสัญญานานาชาติ และทำลายสิทธิมนุษยชน ก็กำลังทำให้ทหารไทยและเครือข่ายพระราชา ต้องตอบโจทย์ชาวโลกแบบเหนียม ๆ  แต่ก็ไม่วายที่จะจ้องหยิบชิ้นปลามันทุกชิ้นแบ่งกันแดกอย่างเมามัน

การยัดคดีความวันนี้ เราเห็นกันชัดว่า ต้องการจัดการกับคู่แข่งทางการเมือง  พวกเขาต้องการไปให้ถึงที่สุด จะต้องปิดประเทศ แช่แข็งประเทศ ก็ยอม  เพราะพวกเขายังไงก็มีกิน มีใช้ ไม่ยากจน แถมเครือข่ายพระราชาจะได้โอกาสรวบเอาทรัพย์สินของชาติมาเป็นฐานความมั่งคั่งได้ง่ายขึ้น เพราะอำนาจที่เบ็ดเสร็จและเพราะความอ่อนแอของคู่แข่งทางธุรกิจต่างๆ   ดังนั้น การดำเนินคดีฝั่งชินวัตรและภาคีฯ​ จึงมีออกมาอย่างคึกคัก และผลการตัดสินก็เป็นการย้ำสองมาตรฐานชัดเจน  ทั้ง ๆ ที่จริงแล้ว คนที่ควรโดนคดีและโดนหนักที่สุด ไม่ใช่พวกที่หลบหนีหรือพวกที่พวกเขาพยายามยัดเยียดคดีให้ แต่เป็นพวกเขาเอง ที่ก่อกบฏ และทำผิดกฎหมายสากลอย่างโจ๋งครึ่ม


สิ่งที่พวกนี้เข้าใจผิดอย่างร้ายแรง มีหลายเรื่อง แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ
พวกเขาคิดว่า ศัตรูของพวกเขาคือทักษิณ และผู้มีอิทธิพลทางการเมืองฝั่งดร.ทักษิณ  แต่แท้จริงแล้วศัตรูของพวกเขา คือกิเลสที่ไม่ถูกควบคุม ความหลอกลวงในสันดานที่ไม่ยอมลด ความหลงผิดที่คิดว่าตนมีค่าความเป็นมนุษย์เหนือกว่าใคร วันนี้ พวกเขาจึงก้าวออกมาเกินความพอดี มายืนในที่แจ้งเป็นศัตรูต่อธรรมชาติของชีวิตมนุษย์ที่หมุนไปตามกระแสโลกาภิวัฒน์  เป็นศัตรูต่อหลักการประชาธิปไตย เป็นอริกับมาตรฐานอารยะของสากลโลก ในเรื่องการเคารพประชาชน การเคารพสิทธิมนุษยชน และการเคารพสนธิสัญญาต่าง ๆ ที่ได้ทำไว้กับชาวโลก

และวันนี้ ที่เข้าใจผิดและทำผิดที่สุดก็คือ พวกเขาคิดว่า การใช้อำนาจกดหัวประชาชน ไล่บี้ตัวหัว ๆ ให้หมดแล้ว พวกเขาจะชนะ      พวกเขาเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง  เพราะศัตรูของพวกเขาตัวจริง มันยิ่งใหญ่กว่าตัวบุคคลไม่กี่คนที่อยู่บนลิสต์ของทหาร!!! ส่องกระจกก็เห็น พิจดูสิ่งที่พวกเขาทำก็จะปรากฎศัตรูอยู่เต็มไปหมด และยังมีที่มองไม่เห็นอีกจำนวนมาก ล้วนเป็นศัตรูที่พวกเขาไม่มีทางเอาชนะได้เลย!!

Thailand needs radical changes! And the tyrants, unintentionally, are actually the agents of such changes.







ข่าวลับกรองแล้ว 16 มีนาคม 2558 โปรดใช้วิจารณญาณของท่านในการบริโภค

ข่าวลับกรองแล้ว 16 มีนาคม 2558  (เครดิต ส่งต่อมาจากพี่น้องร่วมขบวนประชาธิปไตยในแกนดิเนเวีย จึงขอนำเผยแพร่เพื่อสาธารณประโยชน์ครับ)

"ไขข่าวคุณลุงที่อินุงตุงนังออกข่าวจะกลับวังแต่ดันไม่ได้กลับเพราะอะไร?"

สืบความลับจับมาตีแผ่เผยแพร่เป็นประจำในขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนียเวียโดยกลุ่มเสียงประชาชนไทย(สปท.)  http://thaiscandemo.blogspot.com/

๐๐ข่าวพระราชสำนัก๐๐

*สลิ่มที่ขอเป็นฝุ่นใต้ตีนทุกชาติไปต่างปลาบปลื้มจนน้ำตาไหลเมื่ออยู่ๆก็เห็นภาพข่าวคุณลุงไปเลี้ยงหญ้าวัวที่วังสวนจิตรลดา...โอ้มายก๊อด...เป็นจริงอย่างที่ท่านบอกแล้วว่าท่านจะอยู่ถึงอายุ120ปี ...ต่อมา13มีนาช่วงบ่ายข่าวสะพัดเป็นพายุทอนาโดอีกว่าคุณลุงกับคุณป้าหายป่วยแล้วพร้อมจะเสด็จกลับไปอยู่วังสวนจิตที่ทิ้งร้างมานานเป็นการถาวรเพราะแข็งแรงยิ่งกว่าซุปเปอร์แมน...แต่ไม่ทันนกกระจอกกินน้ำพอ6โมงเย็นของวันเดียวกันสำนักพระราชวังก็ประกาศแจ้งงดเสด็จกลับบ้านสวนจิตรอย่างกระทันหันซะแล้ว...เกิดอะไรขึ้นตามมาตามมาจะไขข่าวให้กระจ่าง

*เรื่องเสด็จกลับวังสวนจิตรเป็นการถาวรทำกันเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนจริงยิ่งกว่าจริงถึงขนาดสำนักพระราชวังแจ้งเป็นทางการให้โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยแจ้งข่าวเพื่อให้ประชาชนออกมารับเสด็จจนพลโทสบโชค ศรีสาคร เลขานุการบริหารทรท.(อย่าไปเข้าใจว่าเป็นตัวย่อพรรคไทยรักไทยนะเดียวโดน112)ทำหนังสือด่วนถึงสถานีโทรทัศน์ทุกช่องให้เตรียมการถ่ายทอดโดยใช้ไทยพีบีเอสเป็นแม่ข่าย...และถือเป็นระเบียบปฏิบัติเคร่งครัดเพื่อไม่ให้ภาพปู่ออกมานั่งอ้าปากหวอ(เท่าที่จะทำได้ไม่ให้ภาพน่าเกลียดจนสลิ่มหมดกำลังใจ)พลโทสบโชคก็ระบุไว้ในหนังสือลับด่วนมากลงวันที่13มีนาคม2558ที่ทรท.143/2558ในข้อ3.2ว่า"ให้ทุกสถานีบันทึกภาพแล้วต้องส่งให้กับสถานีไทยพีบีเอส(แม่ข่าย)เพื่อดำเนินการตัดต่อร้อยเรียงก่อนและส่งสัญญานภาพและเสียงทันทีเมื่อตัดต่อเสร็จให้กับสถานีสมาชิก"...ก็ทำกันแข็งขันถึงขั้นนี้แล้วทำไมHeและSheถึงงดไปเฉยๆ??...แปลกแปลก!!

*ไม่ต้องแปลกใจเรื่องเพี้ยนๆอย่างนี้มีให้เห็นบ่อยๆในทุยแลนด์แดนตอแหลที่ไม่แคร์ค่าใช้จ่ายเงินภาษีประชาชนคงจำกันได้ทุกปีของวันที่5ธันวาในระยะหลังๆที่ป่วยหนักมักจะไม่ออกมหาสมาคมหรือพิธีสวนสนามแต่ทุกหน่วยงานต้องใช้จ่ายเงินจัดเตรียมให้พร้อมๆจะหมดเงินเท่าไรก็"ชั่งหัวมัน"ส่วนจะออกได้ไม่ได้ไม่เกี่ยวเรื่องของฉัน(เป็นอย่างนี้กันทั้งตระกูลขอให้รู้ไว้ไม่เลือกอ้วนเลือกผอมหรือชายหญิง)...วันเฉลิมล่าสุดเมื่อปี2557สำนักพระราชวังออกหมายกำหนดการลงวันที่2ธันวาเป็นจริงเป็นจังว่าคุณปู่ออกงานมหาสมาคมแน่ๆจนเกิดการพนันขันต่อกันไม่แพ้การแข่งขันฟุตบอลล์พรีเมียลีคว่า"ออกได้หรือออกไม่ได้"...สลิ่มที่เชื่อมั่นว่าท่านแข็งแรงก็ต่อสองหนึ่งจนไม่มีคนกล้ารองเพราะเห็นลงทุนจัดงานไปมากมายและหลอกกันว่าอีกนานตายแต่สุดท้ายตี2ก่อนเช้ามืดวันที่5ธันวาก็มีแถลงการณ์ออกมาเฉยสนิทว่า"งด"...จำไว้จำไว้หากอยากรู้ความจริงแท้อย่าคิดแค่ข่าวการลงทุนจัดงาน

*เรื่องจริงคุณลุงคงอยู่ไม่ยาวตามข่าวที่รู้ๆกัน...คอนเฟิร์มๆๆๆ...ส่วนคุณป้าก็บ้าไปแล้ว...คอนเฟิร์มอีกเหมือนกัน...ล่าสุดข่าววงในยืนยันว่าคุณลุงวันๆหลับมากกว่าตื่นแต่ช่วงนี้มีอาการบ่นว่าเบื่อปนกับปวดร้องโอดโอยๆทุกครั้งที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นแต่เมื่อหมอถามว่าปวดตรงตรงใหนก็บอกไม่ได้แต่ก็รำพันครึ่งหลับครึ่งตื่นว่า"ปวดไปหมด"...แต่อาการตื่นกับอาการหลับช่วงนี้แปลกๆบางวันหลับทั้งวันแต่บางวันกลับตื่นไม่ยอมหลับและเมื่อตื่นก็จะพูดว่า"เบื่อๆ...อยากกลับวังสวนจิตร"...และนี่คือสาเหตุที่เกิดหมายกำหนดการกลับสวนจิตรที่ทุกคนต้องถือปฏิบัติ...แต่สุดท้ายหมอที่แบ่งความเห็นเป็นสองฝ่าย"ให้กลับเพื่อฟื้นฟูจิตใจ..กับไม่ให้กลับเพราะอันตรายเนื่องจากเสี้ยววินาทีก็มีความหมายหากไกลเครื่องมือ"ก็มีมติร่วมกลัวและไม่กล้าให้กลับแต่ไม่กล้าพูดความจริงเลยนิ่งกันไปกับข่าวงดการเดินทางหายไปกับสายลมโดยไม่บอกสาเหตุ...อาการอย่างนี้ชาวบ้านเรียกว่า"เทียนเปล่งแสงวูปใกล้จะดับจึงคิดอยากจะกลับบ้าน"



*เรื่องของคุณป้าสปท.ขอยืนยันว่าอยู่คนละฝากตึกกับคุณลุงแต่ละวันก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร?หมอพญาบาลก็จะประคองพาไปหาคุณลุงแต่ก็จะมีอาการผวากลัวคนจะมาฆ่า...การมีชีวิตอยู่ของคุณป้าก็ชดใช้กรรมไปวันๆ

*การปรากฎตัวของคุณลุงแต่ละครั้งขอให้ทุกท่านเข้าใจตรงกันว่าท่านกำลังแสดงการโชว์ลมหายใจว่ายังมีอยู่และเพื่อจะบอกให้รู้ทั่วกันว่าเมื่อข้ายังไม่ตายรัชกาลใหม่ก็เกิดไม่ได้,บ้านเมืองระส่ำระสายวุ่นวายอย่างไรก็"ช่างหัวมัน"และเมื่อนานไปบ้านเมืองฉิบหายระบอบกษัตริย์ก็จะพังทะลายไปพร้อมกัน

*ประเด็นสำคัญวันนี้ความสามัคคีในวังยังเป็นปัญหาและยิ่งเป็นปัญหามากขึ้นเพราะทุกครั้งคราที่คุณลุง(ยกเว้นคุณป้า)ออกมาไม่มีลูกหลานมารับหน้าแม้แต่คนเดียวทั้งๆที่ไปเที่ยวเมืองนอกไกลๆได้บ่อยๆกันทุกคน...สปท.ยังยืนยันให้จับตาว่าจะมีภาพทอมขาถ่างถ่ายรูปคู่กับพ่อได้ใหมก่อนจะถึงวันเกิด2เมษา?ถ้าไม่มีก็แสดงว่า...แล้วจะไขให้ฟังต่อไป

๐๐ข่าวขี้ข้านอกราชสำนัก๐๐

*ป่าวประกาศเพื่อให้ประชาชนรู้จัก"หอกระจายข่าวเท็จกรุงเทพธุรกิจ"ลงวันที่13มีนาคม2558ตีพิมพ์คำโกหกเสียงไม่สั่นของนพ.อุดม คชินทร อธิการมหาวิทยาลัยมหิดล(ดารานกหวีดทองคำที่นำนักศึกษาข้าราชการออกมาล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ขณะเป็นคณบดีศิริราช)ที่แถลงว่า"สุขภาพในหลวงแข็งแรงดีไม่มีไข้ทานอาหารได้และพร้อมจะเสด็จกลับวังสวนจิตรได้...เช่นเดียวกับสมเด็จพระราชินีขณะนี้ร่างกายแข็งแรงเป็นปกติ ตลอดระยะเวลาที่ในหลวงประชวรพระราชินีได้ตามเสด็จเฝ้าอย่างใกล้ชิดเพื่อถวายกำลังใจ"...แต่เรื่องจริงผ่านจอต่อมาไม่ทันข้ามวันตัวมันท่านผู้นี้ก็ร่วมกันกลับคำใหม่ไม่อนุญาตให้คุณลุงคุณป้ากลับวังสวนจิตร...ตกลงนายอุดมคนนี้เป็นหมอคนหรือ"หมอดู"กันแน่...เมืองไทยจะไม่บ้ากันได้อย่างไรก็ในเมื่อคนระดับศาสตราจารย์และเป็นอธิการบดียังกล้าโกหกประชาชนกลางวันแสกๆ...ถ้าคุณลุงคุณป้าแข็งแรงดีก็ช่วยจัดให้มีภาพถ่ายทอดสดคู่กันสักทีไม่ดีหรือหลบๆซ่อนๆอยู่อย่างนี้ทำไม??


*ข่าววงในขี้ข้าอย่างประยุทธ์ใจยังเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะร.9ไม่ไปร.10ก็มาไม่ได้ยิ่งนานไประบบก็ยิ่งอ่อนแรงและหากเกิดร.10ขึ้นจริงไม่ว่าหญิงหรือชายยุทธ์เหล่ก็รู้ว่าบารมีไม่มีพอจะคุ้มหัวตัวเองได้จึงมอบหมายให้แม่น้ำ5สายสร้างระบบคุุ้มครองตัวเอง...สปท.บอกมาณ.ที่นี้ว่าอย่าได้หวังกับประชาธิปไตยในยุคนี้

*ไม่ต้องพิสูจน์อะไรกันแล้วสมาชิกสภาทั้งหลายที่คสช.ตั้งทุกสายงานล้วนแล้วแต่พวกนกหวีดทั้งนั้นและยิ่งทำงามหน้าตะกละตะกามเอาลูกเมียมากินเงินเดือนคนเดียวล่อสามสี่ตำแหน่งยิ่งกลายเป็นนกหวีดเน่า...ตัวอย่างพลเรือเอกธราธร ขจิตสุวรรณ สนช.ดันเอาเมียชื่อพลเรือตรีหญิงพวงพลอย ขจิตสุวรรณมากินเงินเดือนทั้งผู้ช่วยทั้งผู้ชำนาญการสามสี่ตำแหน่งจนเหม็นเน่า...สายข่าวทหารเรือรายงานว่านางนี้คือสาวชั่วในกองทัพเรือเป็นสาวกนกหวีดของแท้...คสช.มันจึงชั่วไม่มีที่ติตามคำขวัญสามัคคีปรองดองเน่าๆ

๐๐ข่าวศาสนพิธีณ.วัดวิชัยยุทธ๐๐

*เกิดข่าวว่อนเนตว่าเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ไปเวียนเทียนที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธจนผู้คนสะดุดข่าวแปลกว่าโรงพยาบาลได้แปรสภาพเป็นวัดไปตั้งแต่เมื่อไร?และจะสร้างเมรุประจำวัดหรือไม่?

*สปท.ขอรายงานข่าวจากการสืบค้นได้ความว่า(1)คุณเธอใช้โรงพยาบาลนี้เป็นที่พักกายสบายอารมมานานแล้วจริงถ้าไม่ไปเมืองนอก...ไม่รู้ไปติดใจหมอคนใหนอีก(2)มีพิธีกรรมประหลาดจริง...เมื่อตอนสองทุ่มของวันที่11มีนาคุณเธอ(ที่ชอบหลอกตัวเองว่าได้บำเพ็ญบุญถึงขั้นหลุดพ้น)มีจิตเมตตาต้องการไถ่บาปให้แก่หมอและพยาบาลที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธที่มีบาปมากเนื่องจากได้กระทำการทำร้ายต่อตัวเธอด้วยการใช้เข็มฉีดยากับเธอก็ดี,กระทำการถูกเนื้อต้องตัวเธอด้วยวิธีการต่างๆซึ่งเธอได้บำเพ็ญบุญถึงขั้นสูงเสมอเทพแล้วจึงถือเป็นบาป(หากไม่อโหสิกรรมบุคคลเหล่านี้จะได้รับอันตรายถึงชีวิตเหมือนหมอเก้งอดีตผัว)ซึ่งจะส่งผลกรรมถึงตัวเธอดังนั้นเพื่อความสบายใจและเพื่อไม่ให้เป็นบาปติดตัวเธอจึงจัดพิธีกรรมให้หมอและนางพยาบาลโรงพยาบาลวิชัยยุทธทำการขอขมาและองค์เทพเธอก็ทรงให้อภัยไม่เป็นบาปต่อกันแล้ว...เล่นเอาหมอและพยาบาลงงๆๆแต่ก็ต้องปฏิบัติเพื่อทดแทนบุญคุณแผ่นดิน...ขอให้เข้าใจตรงกันเรื่องในวังที่งี่เง่าเกินกว่าที่คนนอกวังเข้าใจได้ยังมีอีกมาก



๐๐ข่าวขบวนประชาชน๐๐

*กลุ่มพลเมืองโต้กลับกำลังมาแรงเดินทิศทางถูกต้องด้วยข้อเรียกร้องง่ายๆแต่กินใจ"พลเรือนต้องไม่ขึ้นศาลทหาร"...สปท.ขอให้กำลังใจ

*เจ็บปวดจริงพ่อน้องเฌอลูกสาวก็ถูกทหารฆ่า,เมื่อจะเรียกร้องความเป็นธรรมเดินคนเดียวก็ยังถูกทหารจับข้อหาชุมนุมเกิน5คน...พอเจ้าพุทธไถอิสระชุมนุมการเมืองเป็นร้อยประท้วงสังฆราชคสช.เสือกนิ่งไม่ว่าอะไร...ใช้กฎหมายสองมาตรฐานอย่างนี้จะปรองดองกับมันทำไม?

*เรื่องระเบิดหน้าศาลอาญาใครจะทำก็ช่างมันแต่ทุกเสียงบึ๊มของมันสั่นสะเทือนระบอบเผ็จการประยุทธ์ดีแท้ๆ...ขอให้แดงทั้งหลายที่อยากเปลี่ยนระบอบเข้าใจตรงกันว่าระบอบใหม่จะเกิดได้ระบอบเก่าต้องพังทะลายก่อนเป็นภาวะวิวัฒนาการธรรมชาติและในภาวะ"ร.9ใกล้จะตาย,ไทยก็ได้นายกเผด็จการที่โง่สุดๆ,เสียงระเบิดก็ไม่หยุด,สุดที่จะมันพะยะคะ555"...สถานการณ์กำลังดียิ่ง

*ขอน้อมคารวะจิตใจพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยในญี่ปุ่นที่ไม่ย่อท้อยกกำลังไปประท้วงประจานประยุทธ์เป็นรอบสองที่ยังหน้าด้านไปญี่ปุ่นอีกด้วยขึ้นป้าย"ไม่เอานายกฯเผด็จการ"...แล้วพบกันใหม่เมื่อได้ข่าวเจาะจากวังสปท.จะไม่นั่งเฉยๆแน่//
-----------จบ------------

Sunday, March 15, 2015

ความคืบหน้าอดีตพระเกษม วัดสามแยกนาย



นายเกษม คำแพงมาก ในวันที่เป็นอดีตพระเกษม ถือการเรียนตามพระไตรปิฎก ก็ดูน่าเชื่อถือ และน่าติดตามอยู่มาก แต่กิเลสตัณหามนุษย์ ใครอ้างว่าเหนือกว่าใคร คน ๆ นั้นแหละจะเป็นพวกตอแหล ซ่อนปมซะเอง  ตามหลักจิตวิทยา ซึ่งเป็นศาสตร์ทางตะวันตก เขาบอกว่า มนุษย์เรามี drive หรือสิ่งที่เป็นแรงขับดัน หรือสัญชาติญาณอยู่สองอย่างเป็นหลัก คือ sex drive และ death drive ไอ้ตัวแรกนี่แหละ ธรรมดาซะที่ไหน แม้แต่ในช่วงจะตรัสรู้ พระพุทธเจ้าก็ยังมีมารสำคัญเป็นสตรีแสนสวยมายั่วสวาท  แต่การเล่นลูกศิษย์เนี่ย ก็เป็นกิเลสตัณหาอีกแนวหนึ่ง เรื่องเท็จจริงอย่างไร คนที่รู้ก็คือเจ้าตัว



ผมเห็นข่าว ก็เลยมานั่งนึก วันนี้นายเกษม แต่งตัวดี ดูดี ท่าทางจะยังเตะปี๊บดัง แต่หวังว่าท่านจะไม่ทิ้งทางธรรม  การจะกลับไปบวชนั้น คงเป็นเรื่องทำไม่ไ้ด้ตามตัวบทบังคับของสงฆ์ แต่การแสวงหาธรรมชั้นสูง และการทำตัวให้ดีนั้น ใครก็แย่งไปจากอดีตพระเกษมไม่ได้

ผมหวังว่า จะเห็นอดีตพระเกษม เป็นพลเมืองที่มีประโยชน์กับสังคมรอบตัวท่านให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป


ข่าวลือวงลึก กองทัพกำลังทำระยำกับนักศึกษา นักการเมือง และ "สังหาร" พยานสำคัญ วัดปทุมฯ น้องแหวน!!! ???


ข่าวลับ ไม่ระบุแหล่งข่าว... จริง ลือ ลับ ลวงพราง...​ ท่านตัดสินใจกันเองเอง
ข่าวแจ้งเรื่องความเคลื่อนไหวของทหาร สำคัญมาก 

1. ทาง คสช.ได้สั่งประชุมด่วนในเรื่องรับมือกับสถานการณ์.. สั่งการให้ทหาร-ตำรวจคุมการเคลื่อนไหวของนักศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ ถ้าทำผิดก็ให้มีภาพจับกุมไปยังสถานีตำรวจ ทำประวัติขู่ขวัญแล้วปล่อยตัวไป พร้อมให้ติดตาม เพื่อคุกคามเด็กนักศึกษาคนนั้นให้กลัวจะได้ไม่ออกมาเคลื่อนไหวอีก สั่งฝ่ายความมั่นคงติดตามนักการเมืองพรรคเพื่อไทยทุกคน จับตาเป็นพิเศษบุคคลที่ให้สัมภาษณ์ทางสื่อเป็นพิเศษ จับตาการข่าวแกนนำของ. นปช.
2.ทางทีมโฆษก คสช.ถูกสั่งให้เพิกเฉยต่อการหายตัวไปของพยานสาวคนสำคัญในคดีทหารยิงคนตายที่วัดปทุมฯ 6 ศพ มีการสั่งการทางลับให้ทหารกลุ่มหนึ่งได้รับมอบหมายให้ไปควบคุมตัวนางสาวนัฎฐธิดา มีวังปลา หรือน้องแหวนไปจากบ้านพักของพี่ชายในเวลาตอนเย็นของวันที่ 12 มี.ค. 58 ทหารกลุ่มนี้ได้แจ้งต่อญาติน้องแหวนว่าจะนำตัวไปให้ปากคำไม่นานแล้วจะปล่อยตัวมา แต่วันนี้ได้ล่วงเลยมาหลายวันไม่มีการติดต่อกลับแต่อย่างไร จากการข่าวทางลับได้เบาะแสว่าน้องแหวนได้ถูกทหารคุมตัวปิดตา ขึ้นรถยนต์เข้าไปกักตัวอยู่ในค่ายทหารแห่งหนึ่งใน กทม.และได้เคลื่อนย้ายไปที่อื่นในเวลาต่อมา ตามคำสั่งของผู้ใหญ่ อ้างเพื่อความปลอดภัยทางการเมื่อข่าวนี้กระจายออกไป พวกทหารมีการรายงานข่าวกันระดับล่างว่าน้องแหวนน่าจะถูกทำให้หายไปแล้ว โดยมีทีมจ่ามือสังหารเป็นหัวหน้าชุดปฎิบัติการ


ข่าวล่าสุด 17 มีนาคม

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (17 มี.ค.2558) ทหารได้คุมตัว แหวน พยานปากสำคัญส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการสอบสวนขยายผล ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล หลังรับตัว เจ้าหน้าที่นำตัวเข้าห้องสอบสวน ก่อนจะมีการแถลงข่าวถึงรายละเอียดต่างๆต่อสื่อมวลชน ในเวลา 11.30 น. วันนี้


วันที่โพสข่าว : 17 มีค. 2558 เวลา 11:21 น.



หากมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2558 โดยไม่มีการลงประชามติ ท่านจะคิดหรือทำสิ่งที่ใกล้เคียงกับข้อใดที่สุด?


หากมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2558 โดยไม่มีการลงประชามติ ท่านจะคิดหรือทำตรงกับข้อใดมากที่สุด?

ดีใจ ฉลองชัย รอวันเลือกตั้ง
ก็โอเคนะ ไปสู้กันที่บู๊ตเลือกตั้ง จะได้สงบ ๆ
เฉย ๆ ไม่ยินดียินร้ายอยู่แล้ว
ไม่ยอมหรอก ต้องทำอะไรสักอย่าง
ยังไงก็ไม่ยอม และพร้อมลุกฮือ ล้มแม่งทั้งระบอบ ประชาชนต้องเป็นใหญ่เฟ้ย
Poll Maker


อเนก ซานฟราน กับ ข่าวลืออยู่เบื้องหลังระเบิดศาลอาญา จะมีเหตุจูงใจใดหรือ? วิเคราะห์โดย ดร.เพียงดิน รักไทย

อเนก ซานฟราน กับ ข่าวลืออยู่เบื้องหลังระเบิดศาลอาญา จะมีเหตุจูงใจใดหรือ? วิเคราะห์โดย ดร.เพียงดิน รักไทย




อเนก ซานฟราน กับ กรณีบึ้มศาลอาญา มีเหตุจูงใจใดหรือ? ชวนคิดชวนคุย โดย ดร.เพียงดิน รักไทย  16 มีนาคม  2558 http://youtu.be/yMC2lkVcnTI


     

การสู้เพื่อสิทธิชุมชน คือหน้าที่ตามระบอบปชต. การต่อต้าน ปตท. ที่ละเมิดสิทธิของท่าน เป็นสิ่งต้องทำ




การสู้เพื่อสิทธิชุมชน คือหน้าที่ตามระบอบปชต.
การต่อต้าน ปตท. ที่ละเมิดสิทธิของท่าน เป็นสิ่งต้องทำ
เพราะการเอาทรัพยากรของชาติให้ต่างชาติไปทำมาหากิน
โดยไม่โปร่งใส เป็นการปล้นประเทศ ปล้นประชาชน

ท่านต้องสู้เพื่อยึดอำนาจคืนมาจากพวก royal networks
และกบฏสางเขียวเพื่อระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ใหม่
แล้วใช้อำนาจนั้น จัดการทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องทรัพยากรชาติ




บางระจัน ที่ศักดินาไทยอยากให้คนคลั่งชาติ แต่กลายเป็นว่า หัวใจบางระจัน มันอยู่กับฝั่ง ปชต.


เพลงพรากรัก จากละครบางระจัน โดย ดร.เพียงดิน รักไทย by Piangdin Rakthai 

อีกเวอร์ชั่น ที่ปรับคีย์ให้สูงขึ้นนิดหนึ่งครับ ลองฟังดูนะครับ

บางระจัน ที่ศักดินาไทยอยากให้คนคลั่งชาติ แต่กลายเป็นว่า หัวใจบางระจัน มันอยู่กับฝั่ง ปชต. การรักชาติ ย่อมต้องการทำสิ่งที่ดีจริง ๆ เกิดผลดีจริง ๆ ให้กับประชาชนทุกคน ไม่ใช่การอ้างหลักการทุกอย่างด้วยคำพูด แต่ก็หักหลักการทุกเรื่องด้วยการกระทำ และไม่ใช่การอ้างว่าทำเพื่อประชาชน แต่เนื้อแท้นั้น กลับใช้อำนาจอันเป็นเผด็จการ ตรวจสอบไม่ได้ และมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ คิดจะครอบหัวประชาชนในวันที่ประชาชนตาสว่าง ใจสว่างแล้ว  สิ่งที่เผด็จการไทยทำอยู่ รังแต่จะนำไปสู่ความเสื่อมสูญ เสียหาย และรุนแรงในที่สุด  พวกเราที่กำลังสู้เพื่อหลักเพื่อเกณฑ์ทุกวันนี้ จึงไม่ต่างจากชาวระจัน ที่ทำทุกอย่างที่เราทำได้ เพื่อบ้านเมืองจริง ๆ แต่เราไม่ได้คลั่งชาติ แบบที่ศักดินาเมืองไทยอยากให้เป็น คือรักชาติ ต้องปกป้องในหลวง และเหี้ยที่ทำชั่วเพื่อรักษาระบอบสมบูรณาญาสิทธิมราชย์ใหม่





ภาพประกอบข้างล่าง  เป็นความเคลื่อนไหวของพี่น้องในญี่ปุ่น ต่อต้านนายกที่ปล้นอำนาจประชาชนด้วยกำลังทหารเพื่อพระราชา  ประยุทธ์ จันทร์โอชา










(คู่แฝดคุณอเนก ซานฟราน แห่งออสเตรเลีย) พี่นิค เมืองลุงแซม ตรง คม ชัด หนักจนสลิ่ม ต้องฟังแล้วกราบ

มีแฟน ๆ มหาวิทยาลัยประชาชนหลายท่าน ขอมา และเมื่อได้ฟังแล้ว ก็เห็นว่า เด็ดจริง ๆ มีสาระและเหตุผล แถมด้วยรสชาติแบบแมน ๆ ตรง ๆ ไม่ตอแหล  ฟังแล้วมีสติ จะได้คิดมาก ๆ



(คู่แข่งคุณอเนก ซานฟราน แห่งออสเตรเลีย) พี่นิค เมืองลุงแซม ตรง คม ชัด หนัก เข้มจนสลิ่ม ต้องฟังแล้วกราบ (ตามคำขอของพี่น้องทั่วสารทิศ) http://youtu.be/P1PhIUc99qM

หากฟังแล้ว น้อยใจ คับอก โกรธแค้น พี่นิค ก็ขอเชิญร่วมมือร่วมใจ สามัคคีกัน ทำตามป้ายเชิญชวนข้างล่างนี้นะครับ พี่น้องกปปส.  เป็นการแก้ปัญหาแบบวินวิน ฟินฟิน อิ ๆ




กปปส. ได้โอกาสแสดงความจงรักภักดีต่อพ่อหลวงแล้ว!!! ผมสนับสนุนทุกท่านเต็มที่เลยครับ!

ผมได้รับแผ่นโฆษณาไม่ทราบนามผู้จัดทำ ถูกส่งมาทางไลน์  เชิญชวนคนไทยในอเมริกาแสดงพลังเกลียดทักษิณ ชังอเมริกา และเทิดทูนบูชาพ่อหลวงของปวง กปปส. พากันคืนสัญชาติอเมริกันและใบเขียว พร้อมกับไม่ยอมเสียภาษีให้รัฐบาลสหรัฐ (สงสัยอเมริกาล่มสลายแน่ เพราะช่วงนี้ เป็นช่วง tax return คือยื่นเสียภาษีพอดี 

สงสัยงานนี้ ชาติไทยจะต้องรุ่งเรืองก้าวหน้า บนเส้นทางปฏิรูปแบบ กปปส. ที่จะร้องขอให้ทหารของพระราชา เพื่อพระราชา และความเป็นเผด็จการ ทำการกระชับระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อย่างย่ามใจและป่าเถื่อน จนสมใจคนรักพ่อทุกคน  ในขณะที่อเมริกาคงแย่แน่ ๆ เลย ชิมิ ชิมิ ๆ ๆ






คำทำนายพระพุทธโฆษาจารย์ ว่าด้วย รัชกาลที่10 และอนาคตประเทศไทย ตามคำทำนาย





คำทำนาย เป็นเรื่องที่ผมเชื่อครึ่งและไม่เชื่อครึ่ง และส่วนตัวยังเชื่อว่า กรรมสะสมจากปัจจะบัน จะเป็นตัวกำหนดสำคัญผลในอนาคต ดังนั้น การนำเสนอคลิปนี้ จึงอยากให้ทุกท่านรับไปพิจารณา แล้วจงเชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำร่วมกันทั้งชาติ เพื่อดันชาติให้พ้นจากวิถีมาร ที่ครอบงำประเทศอยู่ ณ วันนี้ ไปสู่ภาพฝันใหม่ที่คนไทยเราควรร่วมกันสร้างไว้ให้กับลูกหลานของพวกเรา รัชกาลที่ 10 จะมีหรือไม่มี หรือมีอย่างไร เราทั้งหลายนั่นแหละ เป็นผู้กำหนด

เมื่อได้ฟังคำทำนายของ
พระพุทธโฆษาจารย์ ตามคลิปนี้ หลายท่านอาจจะอยากทำความรู้จักพระพุทธโฆษาจารย์รูปที่ให้คำทำนายนี้   และคำทำนายที่ว่านี้ ก็มีรายละเอียดพอสมควร  ลองอ่านเนื้อหาที่มีการรวบรวม ไว้อย่างดีที่
https://symposium74.wordpress.com/2008/10/31/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C/
(ด้วยความขอบคุณยิ่ง สำหรับการค้นคว้าและสรุปเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์)

----------------------------------------------------
เห็นมีการนำเสนอเกี่ยวกับน้ำท่วมโลกในอนาคต เลยเกาะกระแสนำเสนอคำทำนายอนาคตของประเทศไทยมั่งจ้า
ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวฮือฮาเกี่ยวกับการนำคำทำนายเกี่ยวกับประเทศไทยของหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาเผยแพร่ (รู้สึกจะเริ่มมาจากทางเว็บเครือเนชั่น) ผมได้ลองค้นคว้าติดตามดู ปรากฏว่า บางส่วนเป็นเนื้อหาที่ผมได้เคยได้ยินมาเมื่อสัก 2-3 ปีก่อนหน้านี้ (จากรายการของ พตท. สรรเพชญ ธรรมาธิกุล ผู้นำการสร้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชใหม่ และ จตุคามรามเทพอันโด่งดัง) โดยเนื้อหาเป็นคำทำนายสถานการณ์ของประเทศไทยในยุครัตนโกสินทร์
หลวงพ่��ปาน วัดบางนมโค
หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
ที่มาของคำทำนายจากการค้นคว้าดู พบว่ามีที่มา 2 แหล่ง คือ
1. แหล่งหนึ่ง กล่าวว่า เป็นคำทำนายเขียนไว้ในสมุดข่อย โดยนามว่า พระพุทธโฆษาจารย์ (ลำใย) พระอริยสงฆ์ (เขาว่าเป็นพระอรหันต์) ในสมัยปลายยุคกรุงศรีอยุธยา โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยอ่านสมัยเมื่ออยู่กับอาจารย์ของท่าน (หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค) เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2480 โดย มีการทำนายเหตุการณ์บ้านเมืองของปลายยุคกรุงศรีฯถึงการเสียกรุง และ กรุงใหม่ (คือกรุงรัตนโกสินทร์) อีก 10 รัชกาล ซึ่งแบ่งเป็นยุคต่างๆ ตามรัชกาลตั้งแต่ 1-10 (บางคนตีความว่าจะมีเพียง 10 รัชกาล) ได้แก่
” ๑. มหากาฬผ่านมหายักษ์  ๒. รู้จักธรรม ๓. จำต้องคิด ๔. สนิทธรรม ๕. จำแขนขาด ๖. ราษฎร์ราชาโจร ๗. นั่งทนทุกข์ ๘. ยุคทมิฬ ๙. ถิ่นกาขาว ๑๐. ชาววิไล
รายละเอียดลองอ่านตามลิ้งค์นี้ เว็บไซต์วัดท่าซุง
2. อีกแหล่งหนึ่ง กล่าวว่า เป็นคำทำนายที่พบในกระดาษที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต ) พรหมรังษี เขียนทิ้งไว้ โดยพบเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2415 กล่าวถึงสถานการณ์ของไทยในยุคของแต่ละรัชกาลเช่นกัน ดังนี้
สมเด็จโต พรหมรังสี
สมเด็จโต พรหมรังสี
๑.มหากาฬ ๒.พาลยักษ์ (ภาณยักษ์) ๓.รักมิตร (รักบัณฑิต) ๔. สนิทธรรม ๕. จำแขนขาด ๖.ราษฎร์โจร (ราชโจร) ๗.ชนร้องทุกข์ ๘.ยุคทมิฬ ๙. ถิ่นตาขาว(ถิ่นกาขาว) ๑๐.ชาวศิวิไล
รายละเอียดลองอ่านตามลิ้งค์นี้ เว็บไซต์สามก๊กไทย 
จะเห็นได้ว่า ใกล้เคียงกันมากทีเดียว โดยเฉพาะเมื่ออ่านคำอธิบายของแต่ละยุค ก็ตรงกัน เช่น รัชกาลที่ 5 จำแขนขาด คือ จำต้องเสียดินแดนให้ต่างชาติ จะมีแตกต่างกันก็คือ ยุครัชกาลที่ 2และ 3 ความเห็นของผมเองคิดว่า คงมาจากแหล่งเดียวกัน คือ มีมาตั้งแต่สมัยปลายยุคอยุธยา แต่ผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่ที่ผมสนใจคือ คำทำนายในช่วงรัชกาลหลังๆ คือ ตั้งแต่รัชกาลที่ 9-10 ที่เป็นช่วงอายุของเรานี่แหละ (จะเห็นว่าตรงกันทั้ง 2 ตำรา)
หลวงพ่��ฤาษีลิงดำ
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ยุคที่ 8 “ยุคทมิฬ” คือ ยุคที่มีเรื่องเลวร้ายหลายประการ เช่น สงครามโลก การเสียชีวิตของ ร.8 และการครองอำนาจโดยเผด็จการทหาร ที่ต่อเนื่องไปถึงต้นยุครัชกาลที่ 9 จนเกิดกรณี 14 ตุลา 2516 และ 6 ตุลา 2519
ยุคที่ 9 “ยุคถิ่นกาขาว (ตาขาว)” คือยุครัชกาลปัจจุบันที่ได้รับอารยธรรมตะวันตกมามาก วิทยาการตะวันตกเฟื่องฟูในประเทศไทย รวมทั้งมีการติดต่อกับชาวต่างชาติอย่างกว้างขวาง
ยุคที่ 10 “ยุคชาวศิวิไล” คาดว่าเป็นยุครัชกาลที่ 10 ซึ่งประเทศไทยจะเจริญรุ่งเรื่องยิ่ง ทั้งทางวิยาการ เศรษฐกิจ และ จริยธรรม
สำหรับคำทำนายในยุคที่ 9 คือยุคถิ่นกาขาวนี้ มีคำทำนายละเอียด ที่กล่าวว่า ทำนายโดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2518 โดยข่าวว่า มีผู้นำคำทำนายมาแต่งเป็นกลอนดังนี้
(หมายเหตุ คำกลอนนี้ทางคณะศิษย์วัดท่าซุง แจ้งว่าหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ไม่ได้เป็นผู้แต่งขึ้น ส่วนเป็นผู้ใดแต่งนั้นไม่ทราบ)
คำทำนายที่เคยมีมาช้านานนัก เริ่มประจักษ์ให้เห็นเร้นไม่ได้หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยทำนาย เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามาประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง น้ำมันผุดขึ้นมาจนเห็นค่าพวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา เป็นประชาชนเต็มพระนครชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขรออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดินชาวประชาจะปีติยิ้มสดใส แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้นจะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน เพื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนาจะมีการต่อตีกันกลางเมือง ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้าคอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไรข้าราชการตงฉินถูกประณาม สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดีประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว ถ้วนทุกทั่วจะมุดขุดรูหนีไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี เกรงเป็นผีตายตกไปตามกันพุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญเกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน พายุลั่นน้ำถล่มดินทลายแผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสายเกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดินข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้นทั้งพฤฒาจารย์ลือระบิล จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลมความระทมจะถมทับนับเทวศ ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขมคนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อทำท่าดังจะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคทามุ่งสู่ดาวสร้างความหวังผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชาคนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหาประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพลองอ่านดูก็เป็นจริงแล้วหลายประการ น่าสนใจดี ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นจริงตามคำทำนายที่เหลือหรือไม่นะ


****ความคืบหน้า ทหารอุ้มพยานคดีวัดปทุม ****คดีทหารอุ้มน้องแหวน (นัฎฐธิดา มีหวังปลา) โปรดช่วยกันแชร์

****แจ้งข่าวด่วนมาก..


****เกิดคดีทหารอุ้มน้องแหวน (นัฎฐธิดา มีหวังปลา)


น้องแหวน (นัฎฐธิดา มีหวังปลา) พยานสาวคดีสำคัญฆ่า 6 ศพในวัดปทุมฯ ได้หายตัวไปจากบ้านญาติอย่างไร้การติดต่อกลับ ตอนนี้ได้ล่วงเลยเวลามาถึง 3 วันแล้ว ทำให้พ่อ-แม่ พี่-น้องและเพื่อนฝูงของน้องแหวนต่างตกอยู่ในอาการช็อค และวิตกกังวลถึงความปลอดภัยของน้องแหวนเป็นอย่างมาก ขอผู้ที่ห่วงใยน้องแหวนได้โปรดช่วยกันติดตามข่าวและช่วยกันค้นหาตัวน้องแหวนกันอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นให้กำลังใจครอบครัวน้องแหวนอีกแรง มีข่าวจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งบอกว่าน้องแหวนติดต่อการข่าวกับคนที่อ้างตนว่าเป็นทหารฝ่ายประชาธิปไตยทางเฟสบุ้คเป็นประจำ เพื่อนจึงกังวลว่าทางทหารจะต้องเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของน้องแหวนอย่างแน่นอน ทั้งหมดได้พุ่งเป้าไปที่คีย์แมนทีมทหารนายพลตัวใหญ่ๆสังหารโหดในคดี ฆ่า6 ศพในวัดปทุมฯที่มีผ่านมีอดีต ผบ.ทบ.พลเอกอนุพงศ์ พลเอกประวิตร พลเอกวลิต โรจนภักดี พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา พลโทกัมนาท รุดดิต และ ผบ.ทบ.พลเอกอุดมเดช สีตะบุตร รวมอยู่ด้วย ที่ตกเป็นจำเลยในการปฎิบัติการฆ่าเมื่อวันที่ 15-19 พฤษภาคม 2553

ช่วยความกรุณาแชร์ข่าวการหายตัวไปของน้องแหวนด้วยครับ•••














ข่าวที่เกี่ยวข้อง



คลังคำไทยที่มักสะกดผิด – สำหรับฝึกความจำให้คนไทยทุกรุ่น

ภาพประกอบชวนขำกลิ้ง คลังคำไทยที่มักสะกดผิด – สำหรับฝึกความจำให้คนไทยทุกรุ่น คลังคำไทยที่มักสะกดผิด ภาษาไทยน...