Monday, March 14, 2016

หัวใจสำคัญ ของทฤษฎีปฏิวัติปวงชน มดแดงล้มช้าง


หนึ่ง การพัฒนาศักยภาพประชาชน คือหัวใจสำคัญที่สุดของกระบวนการปฏิวัติ (ปัจจัยสู่ชัยชนะ) และผลของการปฏิวัติ (ชัยชนะ) ที่ยั่งยืน โดยปัจจัยที่เอื้อให้การพัฒนาและการประสพชัยชนะได้อย่างแท้จริงและรวดเร็ว คือ ความไม่กลัว ความฉลาดเท่าทันเกมเผด็จการ และการใช้ความได้เปรียบทุกรูปแบบในการสร้างความเปลี่ยนแปลง

สอง ต้องเน้นการใช้จุดแข็งสู้จุดอ่อนของเผด็จการ กล่าวคือ ต้องใช้ความได้เปรียบเช่น จำนวนอันมหาศาลของประชาชนผู้ถูกกดขี่ ความชอบธรรมของประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง หลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก สันติวิธีที่จะทำให้อำนาจปืนและอำนาจเถื่อนเสื่อมสมรรถภาพ เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดที่ช่วยเผยแพร่ความรู้ ความจริง ข่าวสาร และการประสานงาน ตลอดจนความได้เปรียบทางชัยภูมิ

สาม ต้องยืนบนหลักการสากล อันได้แก่ หลักประชาธิปไตยที่แท้จริงและสมบูรณ์ หลักสิทธิมนุษยชน สันติวิธี และความจริง คือสิ่งดีที่ปวงชนปฏิวัติต้องยึดถือและพัฒนาตัวเองให้สอดคล้อง ในขณะที่จะต้องต่อต้าน ขจัด หรือทำลายสิ่งที่ตรงข้ามในทุกมิติที่ทำได้ บนสติและความหยั่งรู้ว่า ปวงชนต้องทำตัวหรือยกระดับคุณภาพของตนให้สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นเป้าหมายของการปฏิวัติด้วย (เทียบเคียงได้กับหัวใจของศาสนาพุทธ คือ ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำใจให้ปราศจากกิเลส)

สี่ ประชาชนจะต้องเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง (ระบอบ) ที่ครอบงำ เอารัดเอาเปรียบ กดขี่ ข่มเหง และยัดเยียดความทุกข์ให้พวกเขาในทุกมิติ คือ การเมืองการปกครอง การทหาร เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา ศาสนา สาธารณสุข และการต่างประเทศ โดยต้องเข้าใจว่า ตัวบุคคล โครงสร้างองค์กรหรือสถาบันต่าง ๆ กลไกและเครื่องมือต่าง ๆ ความเชื่อและวิถีปฏิบัติที่ครอบงำ (วัฒนธรรม) และจิตสำนึกที่ถูกสร้างขึ้นโดยชนชั้นที่ได้เปรียบหรือเอาเปรียบ และจะต้องช่วยกันยกระดับคนรอบข้าง ให้เป็นผู้รู้และเข้าใจอย่างเท่าทันต่อการกดขี่และเอารัดเอาเปรียบเชิงโครงสร้างเหล่านั้น เพื่อเป็นฐานสำหรับการเคลื่อนไหวต่อสู้ในทุกมิติ

ห้า ความสำเร็จของการปฏิวัติประชาชนในยุคปัจจุบัน ต้องอยู่บนความพร้อมของปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่สานสอดกัน คือ มวลชนที่พร้อมทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ อุดมการณ์ร่วมและแนวทางที่เป็นเอกภาพ ขบวนนำที่มีความชอบธรรมและจริงจังต่อระบอบประชาธิปไตย กองทัพที่ต้องรับใช้ประชาชน และมหามิตรประเทศที่พร้อมช่วยเหลืออย่างจริงจัง

หก เป้าหมายของการปฏิวัติ เป็นไปตามยุทธศาสตร์รับ ยัน รุก และรุกฆาต ในแต่ละมิติตามภาววิสัยที่เป็นจริง แต่จะต้องมุ่งให้ประชาชนตาสว่างทั้งแผ่นดิน ต่อต้านขัดขืนสิ่งชั่วร้ายในทุกมิติ แล้วไม่ยอมรับให้ผู้ปกครองเถื่อนปกครองอีกต่อไป และเมื่อความพร้อมมาถึง ประชาชนจะยึดอำนาจคืนมา เพื่อจัดการสร้างชาติใหม่บนหลักการในข้อ สาม ข้างต้น (ล้มช้าง สร้างชาติ)

เจ็ด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ต้องยึดหลักการใช้พลังธรรมอันมหาศาลขับไล่อธรรม หรือเอาน้ำดีมหาศาลไล่น้ำเสีย เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียอย่างควบคุมไม่ได้และยืดเยื้อเกินไป เช่นการสังหารประชาชนมือเปล่าอย่างโหดร้าย หรือสงครามกลางเมือง หรือการแทรกแซงของต่างประเทศ บนความเสียหายของชาติอันใหญ่หลวง

แปด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ถือเป็นการแก้ปัญหาในบ้านของคนไทยทุกคน ที่เป็นพี่น้องร่วมชาติ ไม่ใช่ศัตรูต่างด้าวที่ต้องเข่นฆ่ากันให้อาสัญ ดังนั้น เป้าหมายจึงอยู่ที่การสร้างสภาวะที่ทำให้คนที่ทำผิดได้เกิดสำนึกแล้วกลับตัว เพื่อก้าวร่วมกันต่อไป ดังนั้น การคิดสร้างสรรค์ การปรับจิตสำนึก การให้ความเป็นธรรม การเคารพหลักสิทธิมนุษยชน และการใช้อารยวิธี จึงเป็นสิ่งที่ขบวนปฏิวัติต้องยึดถือด้วยความรับผิดชอบต่อชะตากรรมของบ้านเกิดเมืองนอนร่วมกันของประชาชนทุกคน

เก้า การลุกขึ้นประกาศจุดยืนไม่ยอมรับการปกครองอันมิชอบของเครือข่ายเผด็จการทรราชย์โดยคนไทยทั่วประเทศในทุกจังหวัด คือวันดีเดย์ของการรุกฆาตต่อระบอบเผด็จการ และวันนั้น จะถูกกำหนดด้วยความพร้อมของทั้งขบวนในข้อห้า และภาววิสัยที่เอื้อให้เกิดความสำเร็จที่ยั่งยืนบนความเสียหายที่น้อยที่สุด

สิบ ชัยชนะที่แท้จริงที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน คือการเปลี่ยนให้ประชาชนเป็นผู้รู้และเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง แล้วยกตนขึ้นเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ด้วยวิถีปฏิวัติในแต่ละวันที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อประชาชนคือผู้ที่ทำตัวสอดคล้องกับหลักการการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนได้จนเป็นนิสัยประจำชาติแล้ว ความสำเร็จที่ยั่งยืนจึงจะได้รับการประกันในที่สุด

ลิ้งค์สำหรับดาวน์โหลดเพื่อเผยแพร่ pdf: http://tinyurl.com/jpsbcvn

ดร. เพียงดิน รักไทย 25 กุมภาพันธ์ 2559 (สรุปและพัฒนาจากความคิดเดิม เมื่อปี 2554)

หัวใจสำคัญ ของทฤษฎีปฏิวัติปวงชน มดแดงล้มช้าง


หนึ่ง การพัฒนาศักยภาพประชาชน คือหัวใจสำคัญที่สุดของกระบวนการปฏิวัติ (ปัจจัยสู่ชัยชนะ) และผลของการปฏิวัติ (ชัยชนะ) ที่ยั่งยืน โดยปัจจัยที่เอื้อให้การพัฒนาและการประสพชัยชนะได้อย่างแท้จริงและรวดเร็ว คือ ความไม่กลัว ความฉลาดเท่าทันเกมเผด็จการ และการใช้ความได้เปรียบทุกรูปแบบในการสร้างความเปลี่ยนแปลง

สอง ต้องเน้นการใช้จุดแข็งสู้จุดอ่อนของเผด็จการ กล่าวคือ ต้องใช้ความได้เปรียบเช่น จำนวนอันมหาศาลของประชาชนผู้ถูกกดขี่ ความชอบธรรมของประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง หลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก สันติวิธีที่จะทำให้อำนาจปืนและอำนาจเถื่อนเสื่อมสมรรถภาพ เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดที่ช่วยเผยแพร่ความรู้ ความจริง ข่าวสาร และการประสานงาน ตลอดจนความได้เปรียบทางชัยภูมิ

สาม ต้องยืนบนหลักการสากล อันได้แก่ หลักประชาธิปไตยที่แท้จริงและสมบูรณ์ หลักสิทธิมนุษยชน สันติวิธี และความจริง คือสิ่งดีที่ปวงชนปฏิวัติต้องยึดถือและพัฒนาตัวเองให้สอดคล้อง ในขณะที่จะต้องต่อต้าน ขจัด หรือทำลายสิ่งที่ตรงข้ามในทุกมิติที่ทำได้ บนสติและความหยั่งรู้ว่า ปวงชนต้องทำตัวหรือยกระดับคุณภาพของตนให้สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นเป้าหมายของการปฏิวัติด้วย (เทียบเคียงได้กับหัวใจของศาสนาพุทธ คือ ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำใจให้ปราศจากกิเลส)

สี่ ประชาชนจะต้องเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง (ระบอบ) ที่ครอบงำ เอารัดเอาเปรียบ กดขี่ ข่มเหง และยัดเยียดความทุกข์ให้พวกเขาในทุกมิติ คือ การเมืองการปกครอง การทหาร เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา ศาสนา สาธารณสุข และการต่างประเทศ โดยต้องเข้าใจว่า ตัวบุคคล โครงสร้างองค์กรหรือสถาบันต่าง ๆ กลไกและเครื่องมือต่าง ๆ ความเชื่อและวิถีปฏิบัติที่ครอบงำ (วัฒนธรรม) และจิตสำนึกที่ถูกสร้างขึ้นโดยชนชั้นที่ได้เปรียบหรือเอาเปรียบ และจะต้องช่วยกันยกระดับคนรอบข้าง ให้เป็นผู้รู้และเข้าใจอย่างเท่าทันต่อการกดขี่และเอารัดเอาเปรียบเชิงโครงสร้างเหล่านั้น เพื่อเป็นฐานสำหรับการเคลื่อนไหวต่อสู้ในทุกมิติ

ห้า ความสำเร็จของการปฏิวัติประชาชนในยุคปัจจุบัน ต้องอยู่บนความพร้อมของปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่สานสอดกัน คือ มวลชนที่พร้อมทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ อุดมการณ์ร่วมและแนวทางที่เป็นเอกภาพ ขบวนนำที่มีความชอบธรรมและจริงจังต่อระบอบประชาธิปไตย กองทัพที่ต้องรับใช้ประชาชน และมหามิตรประเทศที่พร้อมช่วยเหลืออย่างจริงจัง

หก เป้าหมายของการปฏิวัติ เป็นไปตามยุทธศาสตร์รับ ยัน รุก และรุกฆาต ในแต่ละมิติตามภาววิสัยที่เป็นจริง แต่จะต้องมุ่งให้ประชาชนตาสว่างทั้งแผ่นดิน ต่อต้านขัดขืนสิ่งชั่วร้ายในทุกมิติ แล้วไม่ยอมรับให้ผู้ปกครองเถื่อนปกครองอีกต่อไป และเมื่อความพร้อมมาถึง ประชาชนจะยึดอำนาจคืนมา เพื่อจัดการสร้างชาติใหม่บนหลักการในข้อ สาม ข้างต้น (ล้มช้าง สร้างชาติ)

เจ็ด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ต้องยึดหลักการใช้พลังธรรมอันมหาศาลขับไล่อธรรม หรือเอาน้ำดีมหาศาลไล่น้ำเสีย เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียอย่างควบคุมไม่ได้และยืดเยื้อเกินไป เช่นการสังหารประชาชนมือเปล่าอย่างโหดร้าย หรือสงครามกลางเมือง หรือการแทรกแซงของต่างประเทศ บนความเสียหายของชาติอันใหญ่หลวง

แปด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ถือเป็นการแก้ปัญหาในบ้านของคนไทยทุกคน ที่เป็นพี่น้องร่วมชาติ ไม่ใช่ศัตรูต่างด้าวที่ต้องเข่นฆ่ากันให้อาสัญ ดังนั้น เป้าหมายจึงอยู่ที่การสร้างสภาวะที่ทำให้คนที่ทำผิดได้เกิดสำนึกแล้วกลับตัว เพื่อก้าวร่วมกันต่อไป ดังนั้น การคิดสร้างสรรค์ การปรับจิตสำนึก การให้ความเป็นธรรม การเคารพหลักสิทธิมนุษยชน และการใช้อารยวิธี จึงเป็นสิ่งที่ขบวนปฏิวัติต้องยึดถือด้วยความรับผิดชอบต่อชะตากรรมของบ้านเกิดเมืองนอนร่วมกันของประชาชนทุกคน

เก้า การลุกขึ้นประกาศจุดยืนไม่ยอมรับการปกครองอันมิชอบของเครือข่ายเผด็จการทรราชย์โดยคนไทยทั่วประเทศในทุกจังหวัด คือวันดีเดย์ของการรุกฆาตต่อระบอบเผด็จการ และวันนั้น จะถูกกำหนดด้วยความพร้อมของทั้งขบวนในข้อห้า และภาววิสัยที่เอื้อให้เกิดความสำเร็จที่ยั่งยืนบนความเสียหายที่น้อยที่สุด

สิบ ชัยชนะที่แท้จริงที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน คือการเปลี่ยนให้ประชาชนเป็นผู้รู้และเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง แล้วยกตนขึ้นเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ด้วยวิถีปฏิวัติในแต่ละวันที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อประชาชนคือผู้ที่ทำตัวสอดคล้องกับหลักการการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนได้จนเป็นนิสัยประจำชาติแล้ว ความสำเร็จที่ยั่งยืนจึงจะได้รับการประกันในที่สุด

ลิ้งค์สำหรับดาวน์โหลดเพื่อเผยแพร่ pdf: http://tinyurl.com/jpsbcvn

ดร. เพียงดิน รักไทย 25 กุมภาพันธ์ 2559 (สรุปและพัฒนาจากความคิดเดิม เมื่อปี 2554)

สิ่งควรรู้ว่าด้วย ทะเลจีนใต้ ------- /

  • Dhanatchai Chatchai

    ทะเลจีนใต้ ------- ///////// ก)เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก มีขนาดใกล้เคียงกับทะเลเมดิเตอเรเนียน ข)ความยาวตั้งแต่เกาะไต้หวันถึงเกาะสุมาตรา ๑๘๐๐ ไมล์ทะเล ความลึกของน้ำทะเลสูงสุด ๕๕๑๔ เมตร ค)ประเทศตามชายฝั่งทะเลจีนใต้ ประกอบด้วย จีน ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน อินโดนิเซีย สิงคโปร์ ไทย กัมพูชา และเวียดนาม โดยจีนมีแนวคิดว่า ทะเลจีนใต้เป็นอาณาจักรทางทะเลของตน ซึ่งทำให้จีนต้องการที่จะขยายอาณาจักรไปทั่วทะเลจีนใต้ ง)ทะเลจีนใต้จะมี เกาะ แก่ง แนวปะการัง หินโสโครก สันทรายใต้น้ำและโขดหินกระจายอยู่หลายเกาะ ตามบริเวณพื้นที่ในทะเล แบ่งออกเป็น หมู่เกาะพาราเซล หมู่เกาะสแปรตลี หมู่เกาะปราตัส และหมู่เกาะแมคเคิลฟิลด์แบงค์ จ)ปัญหาการอ้างสิทธิเป็นเจ้าของหมู่เกาะสแปรตลี มีการอ้างซ้ำซ้อนกันอยู่ นั้น ประกอบด้วยประเทศ จีน ไต้หวัน เวียดนาม บรูไน ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ง)ในเดือนกุมภาพันธุ์ ๒๕๓๖ จีนได้ผ่านกฎหมายฉบับหนึ่ง ระบุให้หมู่เกาะสแปรตลีเป็นเขตอธิปไตยของตน มีสิทธิที่จะขับไล่ผู้บุกรุกได้ทันที จ)จีนยังได้ลงนามในข้อตกลงตามช่วงเวลาดังกล่าวกับบริษัทน้ำมันแห่งหนึ่งของสหรัฐ เพื่อสำรวจขุดเจาะน้ำมันในบริเวณหมู่เกาะสแปรตลี ฉ)นับตั้งแต่นั้นมา จีนใช้อำนาจกำลังรบทางเรือเข้ารุกคืบคลานคืบหน้าไปทีละเกาะ เริ่มจากสร้างอาคารพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะ mischief reef เดิมที่มีอยู่แล้ว ขยายไปเรื่อยๆจนเข้ายึดหมู่เกาะสแปรตลี ทั้งหมดในที่สุดจน ณ ขณะนี้ จนจีนสามารถควบคุมจุดยุทธศาสตร์ที่สำคญที่สุด และมีศักยภาพทางเศรษฐกิจมากที่สุดเอาไว้ด้วย

  • ๑)ทะเลจีนใต้ เป็นทางคมนาคมทางทะเลที่สำคัญสายหนึ่งของโลก โดยเชื่อมระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิก คือเชื่อมภูมิภาคตะวันออกกลาง เอเชียใต้ เอเซียตะวันออกเฉียงใต้กับเอเซียตะวันออกเฉียงเหนือ ๒)เส้นทางคมนาคมในทะเลจีนใต้ที่สำคัญคือ เส้น NE/SW ที่ผ่านด้านตะวันตกของหมู่เกาะสแปรตลี ที่มีระหว่างห่างประมาณ ๑๕๐ ไมล์ อีกเส้นหนึ่งที่ผ่านด้านตะวันออกของหมู่เกาะสแปรตลี การขนส่งสินค้าทางทะเลทั่วทั้งโลกนี้ ประมาณ ๙๕ % เป็นการขนส่งทางทะเลในทะเลจีนใต้ถึงราวๆ ๕๑ % ทั่วทั้งโลก ๓)การเดินทางทางทะเลหรือการขนส่งทางทะเลที่ผ่านเข้าออกด้านทะเลจีนใต้ในทางด้านเหนือนั้น คือเส้นทางทางทะเลที่ผ่านระหว่างไต้หวันกับฟิลิปปินส์ โดยมีเส้นทางการเดินทางหรือการขนส่งสินค้าทางทะเลด้านใต้นั้น จะมีเส้นทางทางทะเลที่ผ่านช่องแคบที่สำคัญ ๓ ช่องทาง คือ --๓/๑)ช่องแคบมะละกา ///// เป็นช่องทางหลักระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับทะเลจีนใต้ ยาวประมาณ ๖๐๐ ไมล์ทะเล กว้าง(ทางด้านตะวันตก)ประมาณ ๓๐๐ ไมล์ทะเล แล้วค่อยๆแคบลงมากขึ้นเมื่อผ่านเข้าไปยัง PHILLIP CHANNEL และช่องแคบสิงคโปร์ จนเหลือความกว้างน้อยที่สุดเพียง ๓ ไมล์ทะเล แต่มีช่องทางเดินเรือเพียง ๑.๕ ไมล์ทะเล ซึ่งช่องแคบมะละกานี้มีความยาว ๗๕ ไมล์ทะเล และความลึกของน้ำทะเลนี้โดยเฉลี่ยค่อนข้างตื้น บางแห่งลึกเพียง ๗๒ ฟุต ซึ่งองค์การสหประชาชาติถึงกับกำหนดไม่ให้เรือที่กินน้ำลึกเกิน ๖๕ ฟุต(หรือประมาณ ๒๐ เมตร) ผ่านช่องแคบมะละกา เส้นทางทางทะเลนี้จะไปผ่านเส้นทางทะเลด้านฝั่งตะวันตกของเกาะบอร์เนียวแล้วขึ้นเหนือไปหมู่เกาะสแปรตลี ***(หมายเหตุตรงนี้ การขุดคลองกระ ต้องขุดบนบกอย่างน้อย ๕ ไมล์ทะเล เพราะจะเหลือช่องทางลงครึ่งหนึ่ง โดยจะต้องให้เรือสวนทางกันได้อย่างปลอดภัย และสองผั่งคลองก็เป็นที่พักเรือจอดเรือ ปัญหาคือเรื่องความลึก หากต้องการความลึกเท่าหรือใกล้เคียงกับร่องน้ำช่องแคบสิงคโปร์ ต้องวิเคราะห์เปรียบเทียบกันอย่างละเอียดว่าประเทศไทยจะได้ผลประโยชน์มากน้อยเพียงไร หรือต้องการให้มีความลึกในระดับที่เรือขนาดใหญ่ที่กินน้ำลึกมากมาผ่าน สมมติว่าประมาณ ๑๐๐ เมตรหรือ ๓๐๐ ฟุตขึ้นไป จะต้องมีการขุดลอกลงไปที่พื้นดินในอ่าวไทยไปอีก(อ่าวไทยมีความลึกอยู่ที่ประมาณ ๑๐-๕๐ เมตร หรือ ๓๐-๑๕๐ฟุต ปัญหาอีกอย่างคือ หากเรือจอดแวะที่ท่าเรืองคลองกระไทย ยังคงได้รับประโยชน์ แต่ถ้าแล่นผ่านไปเฉยๆ ประเทศไทยจะได้เพียงค่าผ่านทางเล็กน้อย ไม่ได้ประโยชน์อะไรมากนัก และปัญหาที่น่าคิดคือคลองกระจะเป็นสถานที่มาของแขกที่ไม่ได้รับเชิญคือกองกำลังทางเรือนานาชาติจะมีท่าทีและแสดงออกอย่างไร)*** --๓/๒)ช่องแคบซุนดา ////// ยาวประมาณ ๕๐ ไมล์ทะเล มีกระแสน้ำแรง และมีความลึกของน้ำไม่มากนัก สามารถร่นระยะทางได้เพียง ๑๕๐ ไมล์ทะเล(เมื่อเปรียบเทียบกับเส้นทางที่ผ่านช่องแคบลอมบ็อค) ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของช่องแคบซุนดา(ระหว่างเกาะสุมตรากับเกาะชวา) มีความกว้าง ๑๕ ไมล์ทะเล มีเกาะแก่งจำนวนมาก และค่อนข้างอันตราย เรือสินค้าขนส่งทางทะเลจะใช้ช่องแคบซุนดาน้อยมาก โดยเฉพาะเรือขนาดใหญ่ที่มีขนาด ๑๐๐๐๐๐ ตันขึ้นไป จะไม่ใช้เส้นทางช่องแคบนี้ การเดินเรือเส้นทางนี้ผ่านช่องแคบซุนดาไปผ่านเส้นทางทะเลด้านฝั่งตะวันตกของเกาะบอร์เนียวแล้วขึ้นไปทางเหนือไปยังหมู่เกาะสแปรตลี --๓/๓)ช่องแคบลอมบ็อค ///// อยู่ระหว่างเกาะบาหลี(ด้านตะวันตก)กับเกาะลอมบ็อค(ด้านตะวันออก) เป็นช่องแคบที่มีขนาดความกว้างต่ำสุดประมาณ ๑๑.๕ ไมล์ทะเล และมีความลึกกว่า ๑๕๐ เมตร ซึ่งใช้เป็นเส้นทางเดินเรือทางทะเลสำรองที่สำคัญ จากช่องแคบลอมบ็อคขึ้นไปทางเหนือผ่านช่องแคบมากัสซ่าร์ อยู่ระหว่างเกาะบอร์เนียว(ด้านตะวันตกของเส้นทางเดินเรือ)กับซาราวาสี(ด้านตะวันออกของเส้นทางเดินเรือ) ขึ้นไปทางเหนือออกได้ ๒ เส้นทาง คือ เส้นทางทะเลตะวันออกของฝั่งประเทศบรูไนแล้วออกไปที่หมู่เกาะสแปรตลี อีกเส้นทางแยกออกไปทางใต้ของหมู่เกาะตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ออกทะเลฟิลิปปินส์

  • ปัญหาในทะเลจีนใต้ --------- ประกอบด้วย // 1)ความขัดแย้งจากการที่อาณาเขตทางทะเลของประเทศชายฝั่งเหลี่ยมทับกัน 2)ความขัดแย้งจากการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือเกาะหรือหมู่เกาะของรัฐชายฝั่ง --ก)ความขัดแย้งจากการที่อาณาเขตทางทะเลของประเทศชายฝั่งเหลี่ยมทับกัน (๑)บริเวณอ่าวตังเกี๋ย เป็นความขัดแย้งระหว่างจีนกับเวียดนาม มีสาเหตุ (๑/๑)การอ้างแนวเขตแดนทางทะเลของเวียดนามตามอนุสัญญาระหว่างจีนกับฝรั่งเศส พ.ศ. ๒๔๓๐ ที่กำหนดให้เส้นลองติจูด ๑๐๘ องศา ๓ ลิปดา ๑๓ ฟิลิปดาตะวันออก เป็นเส้นแบ่งเขตแดน และเวียดนามอ้างว่าอ่าวตังเกี๋ยเป็นอ่าวประวัติศาสตร์ (๑/๒)จีนยืนยันว่าไม่เคยมีการแบ่งอ่าวตังเกี๋ยและเส้นเขตแดนที่เวียดนามอ้างนั้น และได้ล้ำเขตเข้าไปทางเกาะไหลหลำของจีน นอกจากนี้เขตไหล่ทวีปของเวียดนามยังยาวไปจรดทะเลอาณาเขตของจีนด้วย ทำให้เกิดพื้นที่ขัดแย้งประมาณ ๒๔๐๐๐ ตารางไมล์ (๑/๓) จีนและเวียดนามได้มีการเจรจากันถึง ๓ ครั้ง เมื่อ ๑๐ มิถุนายน และ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ โดยทางจีนเสนอให้พื้นที่สี่เหลี่ยมตอนกลางอ่าวเป็นเขตปลอดการสำรวจจนกว่าจะมีการตกลงเกี่ยวกับเส้นเขตแดนทางทะเล (๑/๔) เมื่อ ๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ จีนมีข้อเสนอให้แบ่งพื้นที่อ่าวตังเกี๋ยออกเป็นสองส่วนในลักษณะครึ่งต่อครึ่ง แต่ผลการเจรจาไม่คืบหน้าเพราะเวียดนามยืนกรานตามอนุสัญญาเดิม ซึ่งเหตุก็คือเวียดนามได้ครอบครองพื้นที่เกือบ ๒ ใน ๓ ของอ่าวตังเกี๋ย (๑/๕) จีนได้แสดงท่าทีก้าวร้าวต่อปัญหาอ่าวตั๋งเกี๋ย และได้ดำเนินการสำรวจปิโตรเลียม เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๒—พ.ศ. ๒๕๒๓ ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ และ พ.ศ. ๒๕๓๕ --- พ.ศ.๒๕๓๖ (๑/๖) นอกจากนี้ จีนยังได้ออกกฎหมาย(น่าจะเป็นกฎหมายภายใน)รับรองการประกาศทะเลอาณาเขต เมื่อ ๒๕ กุมภาพันธุ์ พ.ศ.๒๕๓๕ ซึ่งได้ประกาศปิดกั้นการเดินเรือบริเวณที่จีนทำการสำรวจแหล่งปิโตรเลียม /////////// ***(( หมายเหตุ ขยายความ เรื่องกฎหมายภายใน หลังจากที่ประเทศต่างๆได้ลงนามในกฎบัตรสหประชาชาติ กฎหมายระหว่างประเทศ แล้วนั้น ประเทศเหล่านั้นจะต้องไปดำเนินการออกหรือตรากฎหมายภายในประเทศของตนรองรับการลงนามนั้น เพื่อให้มีผลบังคับการใช้กฎหมาย และจะมีผลไปถึงกฎหมายระหว่างประเทศ ในกรณีที่เกิดอนุโญตุลาการ หรือมีการละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามทั้งกฎหมายภายในและสิ่งที่ได้ลงนามไปแล้ว ในทำนองเดียวกัน กับกรณีของประเทศไทยคือ หลังจากประกาศใช้รัฐธรรมนูญแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามบทบัญญัติในข้อต่างๆที่ตราไว้ในรัฐธรรมนูญ จักต้องไปดำเนินการออกกฎหมายต่างๆออกมารองรับหรือที่เราเรียกกันว่า กฎหมายลูก อย่าว่าแต่รัฐธรรมนูญปี ๕๐ เลยที่ไม่มีกฎหมายลูก แม้แต่ในรัฐธรรมนูญปี ๔๐ ก็ยังออกหรือตรายังไม่ครบเลย ดังนั้นจึงเกิดการตีความแบบไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมาย ทำให้การวินิจฉัยกฎหมายไม่มีมาตรฐานพูดง่ายคือวินิจฉัยแบบมั่วๆ อย่างกรณีคดีคุณสมัคร และมักจะตีความกฎหมายรัฐธรรมนูญแบบเข้าข้างตัวเอง เห็นได้จากที่มีการวินิจฉัยตัดสินคดีความในหลายกรณีที่ไม่สามารถอ้างเหตุผลทางกฎหมายได้เลย ))***
  • (๒)บริเวณตอนเหนือของหมู่เกาะนาตูนา เป็นปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับอาณาเขตไหล่ทวีป ระหว่างเวียดนามกับอินโดนิเซีย มีสาเหตุมาจากการกำหนดเส้นฐานของเวียดนามเหลี่ยมทับซ้อนกับแนวเขตแดนทางทะเลของอินโดนิเซีย ทำให้มีพื้นที่ที่เป็นปัญหาประมาณ ๑๑๗๓๗ ตารางไมล์ทะเล ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณแอ่งน้ำมันขนาดใหญ่ ๒ แห่ง และอยู่ใกล้กับแหล่งก๊าซธรรมชาติใหญ่ของอินโดนิเซีย เวียดนามและอินโดนิเซียได้เคยเจรจากันเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๔ แต่ต้องชะงักไปเมื่อเวียดนามได้รวมประเทศใน ปี พ.ศ.๒๕๑๘ ต่อมาภายหลังได้มีการปรับปรุงความสัมพันธ์ในขั้นปกติขึ้นมาใหม่ระหว่างเวียดนามกับอินโดนิเซีย และได้มีการเจรจากันอีกครั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นต้นมา แต่ปัญหานี้ก็กลับมีท่าทีจะยุ่งยากขึ้นมาอีก เนื่องจากอาณาบริเวณพื้นที่ในทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนได้อ้างกรรมสิทธิ์ภายใต้เส้น U --- SHAPE LINE นั้น โดยจีนได้รวมส่วนหนึ่งของแหล่งก๊าซธรรมชาติของอินโดนิเซียที่บริเวณหมู่เกาะนาตูนาด้วย ----- (๓)บริเวณตะวันออกของอ่าวไทย เป็นปัญหาเขตแดนทางทะเลระหว่างไทย กับกัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งบริเวณตะวันออกของอ่าวไทยมีพื้นที่ขัดแย้งประมาณ ๒๔๒๒๑ ตารางไมล์ทะเล แยกเป็นพื้นที่เหลี่ยมทับซ้อนระหว่างกัมพูชากับเวียดนามประมาณ ๑๔๕๘๐ ตารางไมล์ทะเล พื้นที่เหลี่ยมทับซ้อนระหว่างไทยกับกัมพูชาประมาณ ๕๗๙๘ ตารางไมล์ทะเล และพื้นที่เหลี่ยมทับซ้อนระหว่างไทยกับเวียดนามประมาณ ๑๗๗๑ ตารางไมล์ทะเล เหตุแห่งปัญหาที่เกิดขึ้นนี้เนื่องมาจากคือไทย กัมพูชา และเวียดนาม ต่างฝ่ายต่างก็กำหนดอาณาเขตทางทะเลของตนเองโดยลำพัง ไม่ได้มีการเจรจากันมาก่อน ---- ไทยกับเวียดนามได้มีการเจรจากันอย่างเป็นทางการต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายเวียดนามเห็นพ้องกันว่าควรจะเน้นการแบ่งเขตระหว่างกัน บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ(ว่าด้วยเรื่องทะเล) ก่อนที่จะมีการเจรจาเรื่องการพัฒนาร่วม --- ไทยกับกัมพูชาได้เริ่มมีการเจรจากันตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งไม่มีความคืบหน้าใดๆ เพราะทางกัมพูชาต้องการจะจัดทำเป็นพื้นที่พํฒนาร่วมในเขตไหล่ทวีปที่อ้างการทับซ้อนกันโดยไม่ยอมปฏิบัติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่ให้พิจารณาแบ่งเขตทางทะเลก่อน จึงทำให้การเจรจาไม่บรรลุผล ***((การเจรจาที่เป็นไปได้และมีแนวโน้มในผลสัมฤทธิ์คือ ในสมัยนายกฯทักษิณ ที่สามารถเจรจาและสามารถตกลงกันได้ในหลักการกันได้ แต่หลังรัฐประหารของสนธิบัง ก็กลับไปยังที่เดิม เรื่องนี้มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาเล่าให้ฟังว่า เมื่อมีการนำปัญหานี้เข้าไปเสนอนายกฯทักษิณในตอนแรกๆนั้น นายกฯทักษิณไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไรเพราะว่าไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายทะเลมาก่อน แต่บังเอิญเป็นโชคของนายกทักษิณที่ช่วงนั้นมีผู้ที่จบด้านนี้มาโดยตรงและทำงานอยู่กับในทีมการเมืองของท่าน จึงได้ดำเนินการจัดทำเอกสารสรุปให้ท่านอ่านและก็บรรยายสรุปให้ท่านฟัง นายกฯทักษิณไปนั่งทำความเข้าใจด้วยอาการมึนนานอยู่หลายวัน จนถึงบางอ้อ เลยทำให้รู้ว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน เหตุผลที่ดำเนินการเจรจาแล้วสำเร็จ เพราะ หนึ่ง ท่านศึกษาจนรู้ว่าปัญหามันคืออะไร และอยู่ตรงไหน สอง ท่านไม่มีความรู้เรื่องดังกล่าวนี้ซึ่งท่านก็ยอมรับ แต่ท่านว่างเมื่อไหร่ท่านก็มานั่งทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ สาม ท่านรู้จักหาและใช้คนที่มีความรู้ในด้านนั้นๆ ไม่อวดตัวว่ารู้ เพราะท่านเคยกล่าวเสมอว่ามันเป็นเรื่องอันตรายในการแก้ปัญหาหากเราไม่รู้จริง ))***

  • วิพากษ์ดวงเมืองไทย

  • Dhanatchai Chatchai

    วิพากษ์ดวงเมืองไทย ////// วิถีของสรรพสิ่ง ย่อมมีจุดกำเนิด โดยวิถีของคนก็จะมีเส้นทางชะตาชีวิตของแต่ละคน โดยผ่านมุมมองของการวางดวงชะตาตามหลักโหราศาสตร์ หากเป็นสรรพสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ชีวิตก็มีการวางดวงชะตาเช่นกัน อย่างการวางศิลาฤกษ์ เป็นต้น หรือเรื่องเกี่ยวกับเมือง ปกครอง สังคม คือ การวางดวงเมือง ทั้งหมดมันบ่งบอกถึง ทุน(หากเป็นคนคือทุนของชีวิต) กรรมคือการถือกำเนิดขึ้นมาที่มาพร้อมกับเรื่องในอดีตชาติว่ากระทำอะไรมา และเรื่องในวันข้างหน้า(ดี เลว รุ่ง ฟุบ) ว่าจะต้องปฏิบัติอะไร อย่างไร เรื่องที่ไม่ควรกระทำ(นี่คือจุดเริ่มต้นของศาสตร์พยากรณ์ ที่เรียกแบบเป็นทางการว่า โหราศาสตร์) พิเคราะห์ดวงเมืองจากรูปดวงชะตา ///////// (๑)เริ่มต้นจากราศีแรกคือราศีเมษ(จะเห็นลัคนา ย่อด้วยตัว ล และมีเลข ๑ ) วนไปทางซ้าย ถัดไปคือราศีพฤษก เมถุน กรกฎ สิงห์ กันย์ ตุล พิจิก ธนู มังกร กุมภ์ และมีน ราศีสุดท้าย --------- (๒)ในราศีเมษ จะมีดาว อาทิตย์(๑) และลัคนา(เหตุผลมีความเชื่อตามพราหมณ์ว่าจุดเริ่มต้นอยู่ที่เขาพระสุเมรุ อาทิตย์ให้พลังหรือสร้างพลังกับเจ้าของดวงชะตา คือความเป็นใหญ่ หากเป็นคนคือผู้เป็นใหญ่ และหมายถึง ผู้ชาย)------ (๓)ในราศีพฤษก จะมีดาวอังคาร(๓) และดาวเกตุ(๙) (อังคารหมายถึงทหาร)------- (๔)ในราศีเมถุน จะมีดาวมฤตยู(๐)------ (๕)ในราศีกรกฎ จะมีดาวจันทร์(๒) (จันทร์หมายสตรีหรือผู้หญิง)------ (๖)ในราศีธนู จะมีดาวพฤหัส(๕) และดาวเสาร์(๗)------- (๗)ในราศีมีน จะมีดาวพุธ(๔) ดาวศุกร์ (๖) และดาวราหู(๘)------- เหตุการณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับดวงเมือง /////// (1)มีงูตัวเล็กๆ 4 ตัว อยู่ในหลุม (2)บรรดานักปราชญ์ผู้รู้ทั้งปวงต่างก็ให้ความเห็นสอดคล้องต้องกันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จัดว่าอยู่ในจำพวกอวมงคลนิมิต (3)เกิดเหตุการณ์ที่ถือว่าเป็นอาเพท คือเกิดฟ้าผ่าไฟไหม้พระที่นั่งอมรินทร์มหาปราสาท (4)เหตุที่ชะตากรุงเทพมหานครตั้งแต่ฝังเสาหลักเมืองนั้น ชะตาเมืองอยู่ในเกณฑ์ร้ายถึง 7 ปี 7 เดือน เป็นอันเสร็จสิ้นพระเคราะห์เมืองไป และจะถาวรลำดับกษัตริย์ไป 150 ปี (5)พิธีฝังเสาหลักเมืองในวันนั้น เป็นเรื่องไม่ธรรมดา เพราะในหลุมลึกที่ฝังเสาหลักเมืองที่กรองก้นหลุมไว้ด้วยผ้าขาวและสรรพคาถาอาคมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย พร้อมกับงูเล็ก 4 ตัว (6)งูในหลุม 4 ตัวนั้น โบราณทราบกันว่า มันบอกถึงการสิ้นสุดของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ว่าเป็นการสิ้นสุดของระบอบ ในระยะนั้น เจ้านาย 4 พระองค์เป็นผู้รับผิดชอบกิจการของบ้านเมือง ทั้งฝ่ายนอกฝ่ายในคือ (1) พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (2) สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิจ (3) กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน (4) สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินทร ซึ่งทุกพระองค์ทรงมีพระราชสมภพในปีเดียวกันทั้ง 4 พระองค์คือ ปีมะเส็งซึ่งหมายถึง งูเล็กหรืองูทั้ง 4 ตัวที่ตายอยู่ในหลุมฝังเสาหลักเมือง (7) ดังนั้นเจ้าฟ้าทั้ง 4 พระองค์นี้ได้ทำบุญแก้เคล็ดหรือสะเดาะเคราะห์ ด้วยการร่วมกันสร้างตึกขึ้นหลังหนึ่งที่เรียกว่า ตึกสี่มะเส็ง ที่บริเวณโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์หรือที่สถานเสาวภาทุกวันนี้ (8) อย่างไรก็ตาม เรื่องของขนบประเพณีในการสร้างบ้านสร้างเมืองหรือหลักการสร้างบ้านสร้างเมืองตามพิธีนครฐานนั้น เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์ร้อยแปดที่จะต้องการนั้น ประกอบด้วยเหตุสองประการคือ (ก) จะต้องมีอาถรรพ์หรือคำสาปแช่งนานาประการที่จะป้องกันเสนียดจัญไรหรืออันตรายทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นแก่บ้านเมือง (ข) ให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ไม่ให้ผู้คนอดอยากและได้รับเวรภัยใดๆ ให้ประสบแต่ความสมบูรณ์พูนสุขทั้งบ้านเมือง ________ ทั้ง 4 มุมเมืองของกรุงเทพมหานครนั้น คนโบราณเล่ากันว่าได้มีการฝังอาถรรพ์ไว้ทั้งทิศเหนือ ทิศใต้ ตะวันออกและตะวันตก เพื่อป้องกันคนชั่วและคนที่มีความประสงค์ร้ายต่อบ้านเมืองอย่าได้มีโอกาสเข้ามาพ้นจากมุมที่ท่านฝังอาถรรพ์เหล่านั้นไว้เป็นอันขาด (9)ในความจริงที่แน่นอนคือ มีการอัญเชิญท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 เข้ามาประกอบพิธีด้วย โดยให้ปลูกโรงศาลโรงพิธีขึ้นใกล้ๆ กับหลุมที่จะขุด เพื่อจะปักเสาหลักเมืองนั้น ตั้งศาลจตุโลกบาลทั้ง 4 ทิศขึ้น 4 ศาล( ซึ่งเป็นการฝังอาถรรพ์ทั้ง 4 มุมเมือง)

  • Dhanatchai Chatchai
    3/8, 5:11am
    Dhanatchai Chatchai

    ดวงเมืองประเทศไทย:ว่าตามหลักการทางโหราศาสตร์ --------------- ดูตามดวงชาตาแล้ว ดวงเมืองมีลัคนาสถิตอยู่ที่ราศีเมษ ถูกขนาบด้วยราศีพฤษกที่มีดาวบาปเคราะห์คือ อังคาร(๓) และราศีมีนที่มีดาวบาปเคราะห์คือ ราหู(๘) /// ในราศีธนู ดาวพฤหัสบดี(๕)เป็นดาวศุภเคราะห์ ถูก(เบียด)เบียนด้วยดาวเสาร์(๗) และยังเล็งกับดาวมฤตยู(๐)ที่อยู่ในราศีเมถุน อันเป็นดาวบาปเคราะห์ทั้งคู่ /// ดวงเมืองของประเทศไทยมีจุดเสื่อมอยู่ 3 จุดที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและเป็นไปตามหลักการแห่งโหราศาสตร์อย่างเข้มงวด ดังนี้ จุดที่ ๑) จุดที่เป็นตำแหน่งร่วมของดาวพฤหัส(๕) กับดาวเสาร์(๗)ในราศีธนู ซึ่งหลักการของโหราศาสตร์ในเรื่องการวางเรือนหรือภพ (พูดง่ายๆก็คือบ้าน) ซึ่งราศีธนูนี้เป็นเรือนศุภะ เป็นเรือนที่ให้ประโยขน์ โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องเป็นไปตามปกติของการโคจร แต่ในความเป็นจริง ดาวสองดวงนี้พักร์องศา (คือเดินหรือโคจรถอยหลัง) ก็กลับเป็นผลเสียมากกว่า จุดที่ ๒) ในเรือนหรือภพที่ ๑๒ ราศีมีน ที่เป็นเรือนวินาศน์กับลัคนา(ซึ่งเป็นเรือนที่หนึ่ง) เรือนวินาศน์นี้มีดาวพุทธ(๔) ดาวศุกร์(๖) และดาวราหู(๘) มาอยู่ร่วมกัน ดาวพุทธ(๔)มีลักษณะเป็นประคือแบบครึ่งๆกลางๆ และมีความหมายในทางวาจา รวมๆก็คือพูดไม่ครบเรื่องราวต่างๆหรือพูดไม่หมด เมื่อมาร่วมกับดาวราหู(๘)ในทางศัตรูหรือคู่แข่งแล้ว ภายในประเทศมีแต่คนพูดเต็มไปหมด(ทั้งใส่ร้ายใส่ความ) ภายนอกประเทศก็มีเรื่องการใช้วาจาโต้ตอบกันหรือทะเลาะกับต่างประเทศ ดาวศุกร์(๖) มีความหมายในเรื่องการเงินหรือทรัพย์สิน เมื่อมารวมกับดาวราหู(๘)ในความหมายเชิงศัตรูหรือคู่ปรับกัน จะให้ความหมายในเชิงเงินเป็นศัตรู ก็คือ การกู้เงิน จุดที่ ๓) คือจุดที่ดาวอังคาร(๓) ที่อยู่ในราศพฤษกได้ส่งกำลังไปถึงดาวเสาร์(๗) ที่อยู่ในราศีธนู ชนิดเต็ม ๑๐๐ % เพราะดาวอังคาร(๓)เป็น ๘ กับดาวเสาร์ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางโหราศาสตร์ (ให้นับ ๑ ที่ดาวอังคารในราศีพฤษก แล้วนับแบบเวียนไปทางซ้าย คือนับ ๒ ในราศีเมถุน จนถึงนับ ๘ ในราศีธนู เพิ่มเติม ตามหลักเกณฑ์ทางโหราศาสตร์ หากนับได้เลขคี่ ส่วนใหญ่จะดี แต่หากนับได้เป็นเลขคู่แล้ว ส่านใหญ่จะไม่ค่อยดี) ดาวอังคาร(๓)กับดาวเสาร์(๗) หากเป็น ๘ กันแล้ว ส่วนใหญ่มักจะเกิดพวกภัยพิบัติ //// ตอนนี้มาลองพิจารณาเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้อง-------------------- ๑)ดาวพฤหัส(๕) เป็นดาวประจำประเทศไทย ตำแหน่งของดาวในดวงชาตา ตั้งอยู่ในจุดอันถูก(เบียด)เบียนอย่างรุนแรงมาก คือถูกดาวเสาร์(๗)กุม (ครอบงำ) และเล็ง (ทางโหราศาสตร์จีน คือ ชง )กับดาวมฤตยู(๐) เมื่อพิจารณาดาวเสาร์(๗) (เบียด)เบียนดาวพฤหัส(๕)ในราศีธนู ซึ่งกุมในภพหรือเรือนที่ ๑ แล้ว ดาวราหู(๘) ซึ่งเป็นจุดคราสเบียนในภพที่ ๔ ในราศีมีน ดาวมฤตยู(๐)เบียนในภพที่ ๗ อยู่ในราศีเมถุน นี่ย่อมแสดงว่าประเทศไทย(ดาวพฤหัสคือดาว ๕ ) ภายใต้ราชวงส์จักรี จะมีภัยที่ต้องผจญและเผชิญทุกรอบข้าง อันได้แก่ จีน (ดาวเสาร์) ญี่ปุ่น(ดาวมฤตยู) พม่า(ดาวเสาร์) กัมพูชา(ดาวพุธ) และลาว(ดาวพุธ) ๒)ดาวมฤตยู(๐) บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ๓)เหตุการณ์บางเรื่องบางอย่างจะบ่งบอกถึงอาเพทที่กำลังจะเกิดขึ้น อันได้แก่ ปรากฎการณ์ผีพุ่งไต้หรืออุกกาบาต ดาวตก ดาวหาง สุริยคราส ท้องฟ้าอากาศวิปริตอย่างฉับพลัน อาเพทในลักษณะอย่างนี้อาจจะมีการเกิดการสิ้นชีวิตของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง

  • นายกฯทักษิณ กับการพัฒนาการท่องเที่ยวของไทย ๑)เป้าประสงค์เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวในบางพื้นที่อยู่ในระดับเกรด A รองรับลูกค้า high class จากต่างประเทศ ๒)เรื่องมีอยู่ว่า อาจารย์ พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ได้ไปที่เกาะช้าง จังหวัดตราด ขณะกำลังเดินที่บริเวณชายหาด ได้พูดออกมาลอยๆว่า “ money money “ แล้วนำเรื่องนี้กลับมาบอกนายกทักษิณ ๓)จากนั้นก็มีการตั้งหน่วยงานที่มีชื่อว่า องค์การการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือเรียกย่อๆว่า อพท. (ณ ขณะนี้การทำงานน่าจะผิด concept จากของเดิมไปมาก) และขานยผลการดำเนินงานออกไป ๔)พื้นที่แรกที่เข้าโครงการนี้คือ เกาะช้างและเกาะบริเวณใกล้เคียง รวมพื้นที่บางส่วนของจังหวัดตราด ๕)ในภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี พืชสวนโลก monorailที่เชื่อมโยงกับระบบการท่องเที่ยวทั่วเชียงใหม่แบบครบวงจร และอุทยานช้างหรือเรียกกันว่า ปางช้าง (concept คือ พัฒนาพื้นที่ในบริเวณเขา หุบเขา และป่า ไปตามธรรมชาติ จะนำช้างทั้งเร่ร่อน และไม่เร่ร่อนมาไว้ที่ปางช้าง โดยเน้นการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย ให้นักท่องเที่ยวนั่งหลังช้างโดยมีควานช้างด้วย สร้างก

    นายกฯทักษิณ กับการพัฒนาการท่องเที่ยวของไทย 

    ๑)เป้าประสงค์เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวในบางพื้นที่อยู่ในระดับเกรด A รองรับลูกค้า high class จากต่างประเทศ ๒)เรื่องมีอยู่ว่า อาจารย์ พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ได้ไปที่เกาะช้าง จังหวัดตราด ขณะกำลังเดินที่บริเวณชายหาด ได้พูดออกมาลอยๆว่า " money money " แล้วนำเรื่องนี้กลับมาบอกนายกทักษิณ ๓)จากนั้นก็มีการตั้งหน่วยงานที่มีชื่อว่า องค์การการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือเรียกย่อๆว่า อพท. (ณ ขณะนี้การทำงานน่าจะผิด concept จากของเดิมไปมาก) และขานยผลการดำเนินงานออกไป 
    ๔)พื้นที่แรกที่เข้าโครงการนี้คือ เกาะช้างและเกาะบริเวณใกล้เคียง รวมพื้นที่บางส่วนของจังหวัดตราด 
    ๕)ในภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี พืชสวนโลก monorailที่เชื่อมโยงกับระบบการท่องเที่ยวทั่วเชียงใหม่แบบครบวงจร และอุทยานช้างหรือเรียกกันว่า ปางช้าง (concept คือ พัฒนาพื้นที่ในบริเวณเขา หุบเขา และป่า ไปตามธรรมชาติ จะนำช้างทั้งเร่ร่อน และไม่เร่ร่อนมาไว้ที่ปางช้าง โดยเน้นการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย ให้นักท่องเที่ยวนั่งหลังช้างโดยมีควานช้างด้วย สร้างกระท่อมสำหรับให้นักท่องเที่ยวเข้าพักแบบต้องการค้างคืน ที่กระท่อมนี้จะมีบริการแบบให้นักท่องเที่ยวทำกับข้าวเองหรือให้แม่บ้าน ทำให้ก็ได้) 
    ๖)ในภาคเหนือ ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประกอบด้วย อำเภอเมือง และที่ปาย(ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม) 

    ๗)ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรืออิสาน ประกอบด้วย สร้างกระเช้าขึ้นลงภูกระดึง (เพื่อลดเวลาสำหรับในการเดินทางให้แก่นักท่องเที่ยวบางคนที่ไม่อยากเดินทาง ด้วยเท้า โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ในเรื่องนี้มีเจ้าหน้าที่อุทยานภูกระดึงให้ความเห็นว่าการมีกระเช้านี้จะ ช่วยให้การกำจัดขยะบนภู แต่เดิมต้องใช้เวลาประมาณ 6 เดือน เมื่อมีกระเช้าจะลดเหลือไม่เกินสองอาทิตย์(แต่มีพวกต่อต้านจนได้ ทราบมาว่าพวกนี้ไม่ใช่คนในพื้นที่) ) การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ภูกระดึงและบริเวณใกล้เคียง โดยสร้างกระเช้าลอยฟ้าเชื่อมโยงระหว่างขุนเขา อาจต้องมีการตัดต้นไม้บ้างเล็กน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับนายทุนบางคน ในภาคอิสานตอนใต้จะพัฒนาพื้นที่ป่าบางส่วนในการนำสัตว์จากเชียงใหม่ไนท์ ซาฟารีมารักษษหรือพักฟื้น รวมทั้งเพาะพันธุ์สัตว์แทนการนำเข้า ตรงนั้นมีชื่อพื้นที่จักราช ในโคราช 

    ๘)ในภาคกลาง เริ่มต้นที่กรุงเทพมหานคร คือ การพัฒนาพื้นที่พิเศษถนนราชดำเนิน เพราะถนนมีมีประวัติศาสตร์หลายเรื่อง และยังเชื่อมโยงไปถนนข้าวสาร ภูเขาทอง มหานาค สวนสัตว์ดุสิต 

    ๙)ในภาคตะวันออก นอกจากเกาะช้างจุดเริ่มต้นแล้วยังมีเกาะเสม็ดและพื้นที่บางส่วนบนจังหวัด ระยอง เกาะล้าน 

    ๑๐)ในภาคตะวันตก จุดเริ่มต้นคือแหลมถั่วงอก กาญจนบุรี และพื้นที่บริเวณรอบๆ (ในความจริงจังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในเรื่องของการท่อง เที่ยวมากที่สุดของประเทศไทย) 
    ๑๑)ลงไปทางใต้ เริ่มที่เพชรบุรี เป็นการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และเมืองขนมไทย ประจวบคีรีขันธ์ เป็นการท่องเที่ยวทัศนียภาพและชายหาด ชุมพร เป็นการท่องเที่ยวทัศนียภาพและชายหาด ไม่ผ่านไม่แวะและไม่เข้าสุราษฎร์ เลี้ยวไปยังระนอง เป็นการท่องเที่ยวเชิงสปาจากน้ำพุร้อน สี่จังหวัดที่กล่าวมานี้รองนายกครั้งนั้นคือ สุวัฒน์ ลิปปตะพัลลพ จะใช้เป็นสนาสแข่งรถแบบกรังปรีย์ด้วย 

    ๑๒)ภาคใต้ ผลกระทบจากภัยพิบัติจากซึนามิ จังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ จังหวัดพังงา แทบยกจังหวัดแถบตลอดชายฝั่งเลยก็ว่าได้ ผลดังกล่าวนี้ทำให้ที่บ้านม่วง(ที่นี่แหละคือเรือของตำรวจน้ำไปจอดทอดสมอบน เขาของอีกฟากของถนน)คิดจะสร้างสนามบินเลยทีเดียว อีกที่ที่น่าสนใจคือที่เขาหลัก โดนหนักที่สุดก็ว่าได้เพราะดูตามรูปภาพแผนที่ทางภูมิศาสตร์แล้วมันขวางรับ ทางการมาของน้ำในทะเล แต่ที่นี่มีหาดที่สวยเหมือนมัลดีฟ และมีการนำเสนอขอสร้างสนามบินบนเกาะคอเขา โดยให้เหตุผลว่าสนามบินระนองเล็ก ใช้ประโยชน์ได้น้อยมากไม่สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ได้ หากจะมาที่พังงาต้องขึ้นเครื่องบินไปลงภูเก็ตก่อนแล้วต่อรถมาที่พังงาอีกต่อ หนึ่งซึ่งความจริงก็เป็นเช่นนี้ เชื่อหรือไม่ว่ายังมีสนามบินอีกแห่งที่มีขนาดใหญ่ระดับมาตรฐานแต่ไม่มีการ ใช้ประโยชน์เลยคือสนามบินในจังหวัดสุราษฎร์ 

    ๑๓)ภาคใต้ที่อื่นๆ ประกอบด้วย ทะเลน้อยในจังหวัดพัทลุง พัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดสตูลเพื่อเชื่อมการท่องเที่ยวชายแดนไทยมาเลเซีย พัฒนาการท่องเที่ยวตามเกาะต่างๆนอกจากของเดิมที่มีอยู่แล้วจะขายผลไปยังเกาะ อื่นๆ (((ระบบการท่องเที่ยวเชื่อมกับระบบ multi-tranportation โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการประเทศไทย 2020 และโครงการ Thailand corridor ต้องมีผู้วิสัยทัศน์เท่านั้น)))

    ทรราช คสช. พวกมึงจะต้องชดใช้

    -

    แม้...มีเหี้ย สุวิทย์ สร้างเกราะคุ้ม
    แม้...มีบุญช่วย หนุนนำ ค้ำเสมอ
    แม้...มีของขลัง ใส่แขน มาบำเรอ
    แม้...สติ แตกเสมอ อย่าเผลอใจ

    -
    กูจะรอ วันพระ สละหาย
    กูจะรอ วันบุญคลาย ละลายไหม้
    กูจะรอ วันมึงเสื่อม เหี้ยจังไร
    กูจะรอ วันเผลอไผล ไร้หลักยืน

    -
    ด้วยแรงเวร จองกรรม นำกระแส
    ดั่งมหรรณ์ เปลี่ยนแปร ท้าลมคลื่น
    เหมือนไฟโชติ โหมต่อ ก่อด้วยฟืน
    ไม่อาจฝืน ฟื้นชะตา ฝ่าแรงกรรม

    -
    ทรราช คสช. พวกมึงต้องชดใช้ ทั้งวงศ์ตระกลูของพวกมึง ถึงจะสาสม ที่ได้ฆ่าพี่น้องกู กว่าหมื่นคน และ ทำชาติ ฉิบหายอยู่อย่าง ทุกวันนี้ 

    -
    กูไม่กล้วมึง

    -
    เสรีชน



    แด่ ทรราช ประยุทธ์ จันทรโอชา เนื่องในวัน 14 มีค. 2559

    แด่ ทรราช ประยุทธ์ จันทรโอชา

    เนื่องในวันคล้ายวันใกล้ตายของมึง  14 มีค. 2559

    +++

    ประยุทธ์เอ๋ย คุ้นเคย เชยสนิท
    ไม่เคยคิด มิตรหมาง ล้างความหลัง
    สร้างรอยร้าว ราวมีด กรีดเข้าจัง
    น้ำตาหลั่ง ดังเลือดอาบ ทาบแผ่นดิน

    ++++

    ความเป็นเหี้ย ครอบงำ  ประยุทธ์คลั้ง
    ความสิ้นหวัง แสร้งลิขิต คนใจหมา
    ให้ฉกฉวย ใช้โอกาส  เอื้อมระอา
    หมดสัทธา  ลิ้นหลอก พ่อมึงตาย

    ++++

    เอาดีเข้า ข้างตัว ชั่วโยนออก
    แสนสำรอก กลอกกลับ สลับสลาย
    ไม่เคยพบ คนปากหมา   สมองควาย
    จ้องทำร้าย ป้ายสี  ประชาชน

    ++++

    ขอสาปแช่ง ประยุทธ์  ไอ้ฉิบหาย
    ให้จบสิ้น ชีวาวาย จึงสาสม
    ให้พินาศ ย่อยยับ ดั่งเรือจม
    ให้คารม ชั่วเฉก เสกเข้าตัว

    ++++

    ให้อีใฝ่ หักหลัง ทรยศ
    ให้เงินทอง กองหมด ต้องเกลือกกลั้ว
    ให้ลูกแฝด ของมึง  เศร้าหมองมัว
    ให้ความชั่ว มัวสุม รุมระกำ

    ++++

    ให้ตายตก ลงนรก สัตว์ดิรัจฉาน
    ให้ทนทุกข์ ทรมาน ทุกเช้าค่ำ
    ให้สำนัก ความผิด คิดกระทำ
    ให้มองย้อน ชอกช้ำ ด้วยฆ่าคน (ปี 53-53)

    *****

    กูไม่กลัวมึง ทรราช คสช.

    เสรีชน


    เวลา (TIME) อาจจะไม่ได้เกิดและเป็นอยู่ อย่างที่เราเข้าใจ

    เวลา อาจจะไม่ได้เกิดและเป็นอยู่ อย่างที่เราเข้าใจ 



    เวลา (TIME) อาจจะไม่ได้เกิดและเป็นอยู่ อย่างที่เราเข้าใจ

    เวลา อาจจะไม่ได้เกิดและเป็นอยู่ อย่างที่เราเข้าใจ 



    ทหารทรราช คสช. สั่งลุย นรา ยะลา ปัตตานี

    นายพลผังล้มเจ้าปี 53 สถุนสรรเสริญ เหี้ยกำเนิด 

    โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีทรราช คสช. เปิดเผยถึงกรณีที่มีคนร้ายก่อความไม่สงบในพื้นที่ จ.นราธิวาส และจ.ยะลา ตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงค่ำวันนี้ ว่า ทรราช คสช. ตัวพ่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีโจร ได้สั่งการด่วนให้เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับประชาชน ตรวจเข้มพื้นที่เสี่ยง เช่น จุดจอดรถ หรือบริเวณที่มีประชาชนจำนวนมาก และให้หน่วยรักษาพยาบาลต่างๆ ให้ความช่วยเหลือและดูแลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ รวมทั้งได้กำชับให้ติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดให้ได้โดยเร็ว
    -
    "รัฐบาลทรราช คสช.ยอมไม่ได้กับพฤติกรรมที่อยู่เหนือกฎหมาย โดยจะเร่งปราบปรามผู้ก่อการร้าย ผู้มีอิทธิพล ผู้ค้ายาเสพติด น้ำมันเถื่อน และค้ามนุษย์ ให้เห็นผลภายใน 6 เดือน เพื่อคืนความสงบสุขสู่สังคม ขจัดปัญหาความรุนแรงหรือการทำลายล้างชีวิตผู้อื่น ผู้ที่กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีโดยเร็ว"
    -
    สถุน สรรเสริญ เหี้ยกำเนิด ยังเห่าต่อว่า นายกรัฐมนตรีทรราช คสช.ขอให้พี่น้องประชาชนร่วมมือกับรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ เพื่อนำสันติสุขกลับคืนมา ทุกฝ่ายจะร่วมกันยุติความรุนแรงและการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยผู้ที่มีเบาะแสเกี่ยวกับผู้กระทำผิดให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบโดยด่วน หรือส่งข้อมูลถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรง ทั้งนี้ รัฐบาลจะไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้แจ้ง และหากข้อมูลเป็นความจริง และนำไปสู่การทำลายขบวนการได้ รัฐบาลจะมอบรางวัลพิเศษให้กับผู้ที่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง
    -

    -
    ถุย................. แหย็ดแหม่ หัวดอ
    -
    ปัญหาของ ยะลา นรา ปัตตานี เกิดจาก ทหารเหี้ย ๆ อย่างพวกมึงหรือ ที่ฆ่า พี่น้องกู ตายไปกว่า หมื่นคน  ไม่ใช่หรือ 
    -
    ทหารกระจอกๆ อย่าง คสช. กูถามตรงๆ เลยนะว่า ตลอดระยะเวลาที่ พวกทหารเปรตใจสัส อย่างพวกมึง ยึดอำนาจมา ทำค.......ย อะไรอยู่ หากครบ 6 เดือนแล้วยังไม่สงบ พวกทหารทรราช  คสช.อย่างมึงจะรับผิดชอบใหม ...... ส้นตีนเถอะแม่งก็ทำลืม เหมือน ๆ ดั่งที่ผ่านมา ...............สัส
    -
    ใครเชื่อพวกทหารทรราช คสช. พวกมึงก็ควายแล้ว 
    -
    ตอนยึดอำนาจ บอกจะให้มีการเลือกตั้ง ภายใน 15 เดือน วันนี้ เลย 15 เดือน วิ่งใกล้เข้าไป 2 ปี กูไม่เห็นมีเลือกตั้ง  แถมยังจะ สืบทอด อำนาจ ใน ร่างทรง สว. ลากตั้งอีก 
    -
    คำพูดของ ทรราช คสช. เชื่อไม่ได้ สักตัว
    -

    -
      กูไม่กลัวมึงทรราช คสช.

    -
    เสรีชน


    ประชาชนต้องจับมือกัน ไม่ยอมให้ ทรราช คสช.มีอำนาจ


    'วัฒนา' วอน ปชช.จับมือกัน ไม่ยอมให้คนมีอำนาจ เสวยสุขโดยไม่รับผิดชอบอีกต่อไป

    วันนี้ (14 มีนาคม) นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทยแสดงความคิดเห็นถึงสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ระบุว่า

    สิ่งที่เป็นอันตรายต่อระบอบเสรีประชาธิปไตยมากที่สุด ในสายตาของนักรัฐศาสตร์ที่ถือเป็นบิดาแห่งนโยบายสาธารณะอย่าง Harold Lasswell คือ การรวมตัวกันของบุคคล 3 กลุ่ม เพื่อขัดขวางพัฒนาการของระบอบประชาธิปไตย บุคคลทั้ง 3 กลุ่มดังกล่าวประกอบด้วย กลุ่มชนชั้นนำ ผู้นำทางการทหาร และนักวิชาการหรือผู้ที่มีการศึกษาสูงทั้งหลายที่ยอมก้มหัวรับใช้เผด็จการเพื่อแลกกับอำนาจหรือผลประโยชน์ หากพวกเขาเหล่านี้รวมตัวกันสำเร็จ ก็จะสามารถปิดกั้นการตรวจสอบของประชาชนผ่านตัวแทนที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งตัวแทนเหล่านี้คือเครื่องมือสำคัญของประชาชน ในการตรวจสอบความโปร่งใสของการทำงานภาครัฐเพื่อรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมนั่นเอง

    วิบากกรรมที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศชาติเกิดจากการที่คนไทยทะเลาะกันเอง จนถูกทหารนำไปเป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจการปกครอง จากนั้นทหาร กลุ่มชนชั้นนำ และผู้ที่มีการศึกษาสูงทั้งหลายซึ่งรวมถึงเนติบริกรได้ตั้งรัฐบาล สภาและองค์กรต่างๆ ที่เรียกว่าแม่น้ำ 5 สายใช้อำนาจรัฐโดยไม่ยอมให้ประชาชนตรวจสอบ โดยใช้กองกำลังและกฎหมายที่พวกเค้าสถาปนาขึ้นเป็นเครื่องมือควบคุม เมื่อต้องคืนอำนาจก็ร่วมกันออกกฎหมายล้างผิดให้กันทั้งหมด ทั้งยังจะควบคุมประเทศต่อไปอีก 5 ปีโดยผ่าน ส.ว. ที่จะแต่งตั้งขึ้นเอง ด้วยข้ออ้างว่าเป็นระยะเปลี่ยนผ่านแต่แท้ที่จริงคือการสืบทอดอำนาจ ทำให้ตัวแทนที่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามาไม่มีอำนาจ ต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลไกต่างๆ ที่ถูกสร้างขึ้นแล้วก่อนการคืนอำนาจ

    กลุ่มเผด็จการเข้าใจดีว่าหากประชาชนมีความสามัคคี ก็สามารถรวมพลังขับไล่พวกเค้าให้ออกไปได้อย่างไม่ยากเย็น ดังที่เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อเดือนตุลาคม 2516 และพฤษภาคม 2535 พวกเค้าจึงใช้ประโยชน์จากความขัดแย้งรวมถึงการใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือแบ่งประชาชนออกเป็นฝักฝ่าย จากนั้นทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามโดยใช้กฎหมายและกลไกของรัฐ ส่วนฝ่ายตนหลีกเลี่ยงการตรวจสอบโดยออกกฎหมายนิรโทษกรรมและกำลังจะล้างผิดให้กับพรรคพวกทั้งหมด จึงไม่มีใครต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่ทำไว้ทั้งสิ้น แม้ภายหลังตัวแทนที่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามาก็ไม่สามารถตรวจสอบคนเหล่านี้ได้เพราะถูกล้างผิดไปหมดแล้ว ซึ่งตรงกับคำกล่าวของ Lasswell ทุกประการ

    เมื่อคนพวกนี้ยึดอำนาจรัฐสำเร็จ ก็ได้แต่งตั้งตัวเองและพรรคพวกมาเป็นผู้บริหารมีทั้งเงินเดือนและตำแหน่ง มีการอนุมัติวันเวลาทวีคูณและสองขั้นให้ตัวเองพรรคพวกเป็นโบนัสการยึดอำนาจ ส่วนประชาชนเป็นเพียงเหยื่อที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือ จึงต้องผจญกับความยากลำบากเองไม่ว่าจะเกิดจากการไม่มีน้ำทำนา ขายข้าวหรือยางไม่ได้ราคา หรือต้องตกงาน ทั้งยังถูกทวงบุญคุณแบบรายวันอีกด้วย ผมจึงอยากวิงวอนให้พี่น้องจากทุกสีและทุกกลุ่มการเมืองให้หยุดทะเลาะกัน แล้วหันมาจับมือเรียกร้องรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นสากล อยู่บนหลักนิติธรรมและเคารพอำนาจของประชาชน เชื่อผมเถิดว่าประชาธิปไตยที่แท้จริงเท่านั้นที่จะทำให้พวกเราจะยอมรับและอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ วันใดที่พวกเราสามัคคีกันวันนั้นอำนาจจะกลับคืนมาเป็นของพวกเราทันที จากนั้นจับมือกันเอาพวกที่สร้างความเสียหายมารับกรรมที่พวกเค้าก่อขึ้นไม่ดีกว่าหรือ จะทะเลาะให้คนพวกนี้เสวยสุขโดยไม่ต้องรับผิดชอบไปเพื่ออะไร



    Sunday, March 13, 2016

    ช่วยแบ่งปันโพสต์นี้ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

    ช่วยแบ่งปันโพสต์นี้ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

    การกินผลไม้ในตอนท้องว่าง

    สิ่งนี้จะเปิดดวงตาของคุณ! อ่านให้จบ และส่งมันให้กับ รายชื่อ e-list ของคุณ ทั้งหมด ฉันเพียงทำมัน !

    ดร. สตีเฟ่น หมาก ทำการรักษาผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายโดยวิธีการ "Un-Orthodox"และผู้ป่วยจำนวนมากฟื้นตัว

    ก่อนที่เขาได้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อกำจัดการเจ็บป่วยของผู้ป่วยของเขา เขาเชื่อในการรักษาโดยทางธรรมชาติในร่างกายต่อความเจ็บป่วย ช่วยดูบทความของเขาด้านล่าง

    มันเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ในการรักษาโรคมะเร็ง

    เมื่อเร็วๆนี้ อัตราความสำเร็จของฉันในการรักษาโรคมะเร็งคือประมาณ 80%

    ผู้ป่วยโรคมะเร็งไม่ควรตาย การรักษาโรคมะเร็งถูกค้นพบแล้ว – มันอยู่ในวิธีที่เรากินผลไม้

    ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่

    ฉันขอโทษสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งหลายร้อยคนที่ตายภายใต้การรักษาธรรมดาทั่วไป

    การกินผลไม้

    เราทุกคนคิดว่าการกินผลไม้หมายถึงเพียงแค่ การซื้อผลไม้ ตัดมัน และก็ ใส่มันเข้าไปในปากของเรา

    มันไม่ง่ายอย่างที่คุณคิด มันสำคัญที่จะทราบวิธีการและ * เมื่อไหร่* ที่ จะกินผลไม้

    วิธีที่ถูกต้องของการกินผลไม้อะไร?

    มันหมายถึง ไม่กินผลไม้หลังมื้ออาหารของคุณ!

    ผลไม้ควรกินในตอนท้องว่าง

    ถ้าคุณกินผลไม้ในตอนท้องว่าง มันจะมีบทบาทสำคัญในการล้างพิษในระบบของคุณ, ให้การจัดการที่ดีของพลังงาน เพื่อลดน้ำหนัก และกิจกรรมในชีวิตอื่น ๆ แก่คุณ

    ผลไม้เป็นอาหารที่สำคัญที่สุด

    สมมติว่าคุณกินสองชิ้นของขนมปังแล้วชิ้นหนึ่งของผลไม้

    ชิ้นของผลไม้พร้อมที่จะผ่านตรงไปสู่กระเพาะลงไปในลำไส้  แต่มันถูกขัดขวางจากการทำเช่นนั้น เนื่องจากขนมปังถูกกินก่อนผลไม้

    ในระหว่างนั้น อาหารทั้งมื้อของขนมปังและผลไม้นั้นจะเน่าเปื่อยและบูดและเปลี่ยนเป็นกรด

    ในนาทีที่ผลไม้เข้ามาสัมผัสกับอาหารในกระเพาะอาหารและน้ำย่อย, มวลอาหารทั้งหมดเริ่มที่จะเปื่อยเน่า

    ดังนั้นโปรดกินผลไม้ของคุณในตอน *ท้องว่าง* หรือก่อนมื้ออาหารของคุณ!

    คุณเคยได้ยินคนบ่น:

    ทุกครั้งที่ ฉันกินแตงโมฉันเรอ เมื่อฉันกินทุเรียนท้องของฉันพองขึ้น เมื่อฉันกินกล้วยฉันรู้สึกเหมือนวิ่งเข้าห้องน้ำ ฯลฯ .. ฯลฯ ..

    จริงทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้น ถ้าคุณกินผลไม้ตอนท้องว่าง

    ผลไม้ผสมกับการเน่าเปื่อยของอาหารอื่น ๆ และผลิตก๊าซและด้วยเหตุนี้ตัวคุณจะขยาย!

    ผมสีเทา, หัวล้าน, การระเบิดทางประสาท และรอยคล้ำใต้ดวงตา ทั้งหมดเหล่านี้จะ* ไม่* เกิดขึ้นถ้าคุณกินผลไม้ตอนท้องว่าง

    ไม่มีสิ่งเช่นนั้นหรอก ที่ผลไม้บางอย่าง เช่นส้มและมะนาวเป็นกรด เพราะผลไม้ทั้งหมดกลายเป็นด่างในร่างกายของเราตามที่ ดร. เฮอร์เบิร์ด เชลตัน ผู้ทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้

    ถ้าคุณได้เข้าใจถ่องแท้วิธีที่ถูกต้องของการกินผลไม้ คุณมี * ความลับ*  ของความงาม อายุยืน สุขภาพ พลังงาน ความสุข และน้ำหนักที่ปกติ

    เมื่อคุณต้องการดื่มน้ำผลไม้ - ดื่มเพียงแค่ น้ำผลไม้* สด*  เท่านั้น ไม่ใช่จากกระป๋อง แพ็ค หรือขวด

    อย่าแม้แต่จะดื่มน้ำผลไม้ที่ผ่านการทำให้ร้อนขึ้น

    อย่ากินผลไม้ปรุงสุกเพราะคุณไม่ได้รับสารอาหารทั้งหมด

    คุณจะได้รับรสชาติของมัน

    การปรุงสุกทำลายวิตามินทั้งหมด

    แต่กินผลไม้ทั้งผลจะดีกว่าการดื่มน้ำผลไม้

    หากคุณควรดื่มน้ำผลไม้สด ดื่มมันคำหนึ่งโดยคำหนึ่งช้าๆ เพราะคุณต้องปล่อยให้มันผสมกับน้ำลายของคุณก่อนที่จะกลืนกินมันลงไป

    คุณสามารถดำเนินต่อไปในการกินมังสวิรัติผลไม้ 3 วัน เพื่อทำความสะอาดหรือล้างพิษในร่างกายของคุณ

    เพียง แต่กินผลไม้และดื่มน้ำผลไม้สดตลอดทั้ง 3 วัน

    และคุณจะต้องแปลกใจเมื่อเพื่อนของคุณบอกคุณว่าคุณดูเปล่งประกายอย่างไร!

    กีวี:

    เล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่

    นี้เป็นแหล่งที่ดีของโพแทสเซียม, แมกนีเซียม, วิตามินอี และไฟเบอร์

    ปริมาณวิตามินซีของมันคือสองเท่าของส้ม

    แอปเปิ้ล:

    แอปเปิ้ล 1 ผล ต่อวัน ช่วยให้ห่างไกลจากแพทย์?

    แม้ว่าแอปเปิ้ลมีปริมาณวิตามินซีต่ำ แต่ก็มีสารต้านอนุมูลอิสระและ flavonoids ซึ่งจะช่วยเพิ่มการทำงานของวิตามินซีจึงช่วยในการลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่หัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง

    สตรอเบอร์รี่:

    ผลไม้ป้องกัน

    สตรอเบอร์รี่มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงสุดในบรรดาผลไม้ที่สำคัญ และป้องกันร่างกายจากโรคมะเร็ง หลอดเลือดอุดตัน และอนุมูลอิสระ

    ส้ม:

    ยาที่หวานที่สุด

    กินส้ม 2-4 ผลต่อวันอาจช่วยขจัดโรคหวัดออกไป, ลดคอเลสเตอรอล, ป้องกันและละลายนิ่วในไต,  และลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่

    แตงโม:

    ดับกระหายที่ยอดที่สุด ประกอบด้วยน้ำ 92% มันถูกบรรจุด้วยปริมาณกลูตาไธออนจำนวนมากมายซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของเรา

    พวกเขายังเป็นแหล่งสำคัญของไลโคปีนอนุมูลอิสระที่ต่อสู้กับโรคมะเร็ง

    สารอาหารอื่น ๆ ที่พบในแตงโมคือวิตามินซีและโพแทสเซียม

    ฝรั่งและมะละกอ:

    รางวัลสูงสุดสำหรับวิตามินซี พวกเขาเป็นผู้ชนะที่ชัดเจนสำหรับปริมาณวิตามินซีสูงของพวกเขา

    ฝรั่งยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการท้องผูก

    มะละกออุดมไปด้วยแคโรทีน; นี้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับดวงตาของคุณ

    ##################

    การดื่มน้ำเย็นหรือเครื่องดื่มเย็นหลังอาหาร = มะเร็ง

    คุณสามารถเชื่อสิ่งนี้หรือไม่?

    สำหรับผู้ที่ชอบดื่มน้ำเย็นหรือเครื่องดื่มเย็น, บทความนี้เหมาะสมกับคุณ

    มันดีที่จะมีน้ำเย็นซักแก้วหรือเครื่องดื่มเย็นหลังมื้ออาหาร

    อย่างไรก็ตาม น้ำเย็นหรือเครื่องดื่มเย็นจะทำให้ของมันที่คุณเพิ่งจะได้กินเข้าไปแข็งตัว

    จะทำให้การย่อยอาหารช้าลง

    ครั้งหนึ่ง "ตะกอน" นี้จะทำปฏิกิริยากับกรด จะแยกตัว และถูกดูดซึมโดยลำไส้เร็วกว่าอาหารที่เป็นของแข็ง

    จะเรียงตัวที่ลำไส้

    ในไม่ช้า จะกลายเป็นไขมันและนำไปสู่โรค​​มะเร็ง!

    มันดีที่สุดที่จะดื่มน้ำซุปร้อนหรือน้ำอุ่นหลังอาหาร

    หมายเหตุที่สำคัญเกี่ยวกับหัวใจวาย

    กระบวนการหัวใจวาย: (สิ่งนี้ไม่ตลก!)

    ผู้หญิงควรจะทราบว่าไม่ใช่ทุกอาการหัวใจวายจะเป็นการเจ็บปวดที่แขนซ้าย

    โปรดระวังความเจ็บปวดที่รุนแรงในแนวกรามขากรรไกร

    คุณอาจจะไม่เคยเจ็บหน้าอกเป็นอันดับแรกระหว่างในช่วงของหัวใจวาย

    อาการคลื่นไส้และเหงื่อออกมากคืออาการทั่วไปด้วย

    หกสิบเปอร์เซ็นต์ของคนที่มีอาการหัวใจวายขณะที่พวกเขานอนหลับ จะไม่ตื่นขึ้นมา

    อาการปวดกรามสามารถให้คุณตื่นขึ้นมาจากการหลับสนิท

    โปรดระมัดระวังและเฝ้าระวัง  ยิ่งเรารู้ เรายิ่งมีโอกาสที่ดีกว่าที่เราสามารถอยู่รอดได้

    แพทย์โรคหัวใจพูดว่า:

    ถ้าทุกคนที่ได้รับอีเมล์นี้ โปรดส่งมันให้กับ 10 คน คุณสามารถแน่ใจได้ว่าเราจะรักษาอย่างน้อยที่สุดหนึ่งชีวิตไว้

    ดังนั้นช่วยทำ อย่างน้อยที่สุด  1 งานที่ดี ในวันนี้

    8 เหตุผลทำไมไม่ควรรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย!!!

    Credit: http://thaienews.blogspot.com/2016/03/8.html?m=1

     8 เหตุผลทำไมไม่ควรรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย!!!




    BY BOURNE
    ON MARCH 11, 2016

    ช่วงนี้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุด ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธานกรรมาธิการยกร่าง(กรธ.) ถือว่ามีอยู่อย่างต่อเนื่องทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะโดยนักการเมือง นักวิชาการ นักกิจกรรม หรือแม้แต่ประชาชน โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องของการสืบทอดอำนาจของคณะคสช. และการมีส่วนร่วมของประชาชน

    ซึ่งแม้ร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวยังต้องผ่านการปรับปรุงตามคำแนะนำของครม. สนช. และสปท. แต่เนื้อหาสาระก็ดูไม่ได้มีความเป็นประชาธิปไตยเพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด วันนี้ทีมงาน iSpace Thailand จึงขอนำเสนอ 8 เหตุผลที่ประชาชนไทยควรพิจารณาก่อนที่จะลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้



    1. ที่มาขอนายกรัฐมนตรี ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาตรา 83,153 และ 154 กำหนดให้พรรคการเมืองต้องแจ้งชื่อผู้ที่จะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ กกต. เพื่อประกาศให้ประชาชนรับทราบ แต่มิได้กำหนดให้ผู้ที่ถูกเสนอชื่อต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ สมาชิกพรรคการเมือง จึงเป็นการเปิดช่องให้นายกรัฐมนตรีนั้นมาจากคนนอกซึ่งไม่ต้องลงสมัครรับ เลือกตั้งแต่อย่างใด

    2. ที่มาของสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 102 กำหนดให้ที่มาของสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 200 คน มาจากการเลือกกันเองของกลุ่มบุคคลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะหรือประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งไม่แตกต่างจากการแต่งตั้ง เนื่องจากกลุ่มบุคคลที่จะเข้าไปเลือกสมาชิกวุฒิสภาก็มาจากการสรรหาไม่ใช่การ เลือกตั้งของประชาชน ทำให้สมาชิกวุฒิสภาไม่ยึดโยงกับประชาชน และถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการสืบทอดอำนาจของคณะคสช.

    3. สิทธิด้านสาธารณสุข เดิมทีรัฐธรรมนูญ 2540 ในมาตรา 52 และรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 51 กำหนดให้บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับบริการทางสาธารณสุขที่เหมาะสมและ ได้มาตรฐาน และผู้ยากไร้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลจากสถานบริการสาธารณสุขของรัฐโดย ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยนั้น มาตรา 51 ได้มีการตัดสิทธิของผู้ยากไร้ในการรักษาพยาบาลกับสถานพยาบาลของรัฐโดยไม่ เสียค่าใช้จ่ายออกไป

    4. การตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจรัฐโดยองค์กรอิสระไม่มีความยึดโยงกับประชาชน เนื่องจากที่มาขององค์กรอิสระต่างๆ ทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาจากการแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา แต่ที่มาของวุฒิสภาตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีที่มาจากการเลือกกันเองของ กลุ่มบุคคล ไม่ใช่จากการเลือกตั้งของประชาชน ดังนั้นกระบวนการตรวจสอบอำนาจรัฐ จากองค์กรอิสระจึงไม่มีความยึดโยงกับประชาชน

    5. อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ตามมาตรา 205(2) ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และ อำนาจของ ส.ส. ส.ว. รัฐสภา คณะรัฐมนตรี และองค์กรอิสระ ซึ่งทำให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจเหนือกว่าอำนาจบริหาร และนิติบัญญัติ
    การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ยาก เพราะมาตรา 253(3) ในขั้นตอนการออกเสียงลงคะแนนแก้ไข

    6. รัฐธรรมนูญในขั้นรับหลักการต้องมีสมาชิกวุฒิสภาเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมด ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงไม่สามารถทำได้ หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมาจากการเลือกกันเองของกลุ่ม บุคคล

    7. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย อาจเปิดช่องให้มีการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร ผ่านช่องทางการคัดเลือกกลุ่มบุคคลเพื่อมาเลือกสมาชิกวุฒิสภา และองค์กรอิสระ

    8. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีการนิรโทษกรรมคณะคสช. และกำหนดให้ประกาศ คำสั่ง การกระทำ รวมถึงการปฏิบัติตามประกาศ คำสั่งของคณะคสช. นั้นชอบด้วยร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ตามมาตรา 270




    จะเห็นได้ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยนี้ มีหลายบทบัญญัติที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ยึดโยงกับประชาชน ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเปิดช่องให้มีการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร รวมทั้งมีการนิรโทษกรรมคณะรัฐประหาร คำถามคือเมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ประชาชนไทยยังควรที่จะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่???

    Reference

    http://www.posttoday.com/politic/413073

    ดาอยากด่า ตอน .. " คนในคอก กับ คนนอกคอก"

    |||   
    ดาอยากด่า ตอน .. " คนในคอก กับ คนนอกคอก"

    ขอบคุณเจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกา ที่แยกแยะ มนุษย์ควาย กับมนุษย์คน
    ออกจากกันได้ช้าาาาดดดดด เจนนนน สุดๆ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2016
    ที่หน้าสถาบันนโยบายโลก(WORLD POLICY INSTITUTE)
    ที่พณฯ ท่าน พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 
    ของประเทศไทย.. (ยืนยันว่าตั้งใจเขียนคำนำหน้าชื่อท่าน เพราะท่านยังคงดำรงตำแหน่งนี้อยู่ในสายตาโลกและถูกต้องตามกฏหมาย) ได้เดินทางมาปาฐกถา ในงาน "สนทนาส่วนตัวกับ ทักษิณ ชินวัตร" (THAKSIN SHINAWATRA IN PRIVATE DISCUSSION)
    พวกสลิ่มเหลืองนกหวีด ที่มาประท้วงถูกต้อนให้อยู่ในคอกเหล็กกั้น
    ส่วนชาวไทยใจเสรีในสหรัฐ ที่มาให้กำลังใจและต้อนรับ ท่านนายกทักษิณ
    ก็ได้รับอนุญาติยืนเรียงรายชูป้ายอย่างเสรีมีระเบียบสวยงามเป็นคนนอกคอก
    นอกกะลา 55555


    *************************


    ดาอยากด่า ตอน .. " คนในคอก กับ คนนอกคอก"

    |||   
    ดาอยากด่า ตอน .. " คนในคอก กับ คนนอกคอก"

    ขอบคุณเจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกา ที่แยกแยะ มนุษย์ควาย กับมนุษย์คน
    ออกจากกันได้ช้าาาาดดดดด เจนนนน สุดๆ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2016
    ที่หน้าสถาบันนโยบายโลก(WORLD POLICY INSTITUTE)
    ที่พณฯ ท่าน พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 
    ของประเทศไทย.. (ยืนยันว่าตั้งใจเขียนคำนำหน้าชื่อท่าน เพราะท่านยังคงดำรงตำแหน่งนี้อยู่ในสายตาโลกและถูกต้องตามกฏหมาย) ได้เดินทางมาปาฐกถา ในงาน "สนทนาส่วนตัวกับ ทักษิณ ชินวัตร" (THAKSIN SHINAWATRA IN PRIVATE DISCUSSION)
    พวกสลิ่มเหลืองนกหวีด ที่มาประท้วงถูกต้อนให้อยู่ในคอกเหล็กกั้น
    ส่วนชาวไทยใจเสรีในสหรัฐ ที่มาให้กำลังใจและต้อนรับ ท่านนายกทักษิณ
    ก็ได้รับอนุญาติยืนเรียงรายชูป้ายอย่างเสรีมีระเบียบสวยงามเป็นคนนอกคอก
    นอกกะลา 55555


    *************************