ผมไปอ่าเจอบทความนี้.... จึงได้เห็นมุมมอง สหรัฐที่มองไทย.
-
จริงอยู่ อาจจะเป็นเรื่องเก่าและ อาจจะยาวไปหน่อย แต่ ทุกตัวอักษร มีคุณค่าควรแก่การศึกษา เพราะ ภาพเมื่อปี 2554 กับ 2559 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย กับ อนาคตของ ประชาธิปไตย ในไทย
------------------------------------
"ประชาธิปไตยที่นี่ยังเปราะบาง ต้องการให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วม" - ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (๒๕๕๔)
-
"ดิฉันพยายามเต็มที่เช่นกันในการแสดงให้ราชสำนักเห็น แต่ว่าต้องยอมรับ ประชาธิปไตยที่นี่ยังเปราะบาง เราต้องการให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วม"
-
ความเป็นไปได้เบื้องหน้า
-
พรรคเพื่อไทยมีเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภาผู้แทนราษฎร ๒๖๕ จาก ๕๐๐ เช่นนี้พรรคยังคงเป้นรัฐบาลต่อไปได้ แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะถอนตัวออกไปจากยิ่งลักษณ์ อีกทั้งการเป็นปราการเสริมความมั่นคงให้แก่รัฐบาล (อย่างน้อยในขณะนี้) (โดยที่เป็นเรื่องตลกร้าย) เกิดจากท่าทีของผู้บัญชาการทหารบกประยุทธ์ จันทร์โอชา (ก่อนหน้านี้เป็นคู่ห้ำหั่นกันกับเสื้อแดงและทักษิณ) ประยุทธ์แสดงออกมาบ่อยครั้งว่ากองทัพ (สถาบันที่ยอมรับกันว่ามีผลงานดีในช่วงวิกฤต) ยังคงอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของรัฐบาล อีกทั้งเป็นข้อผูกมัดให้ทุกภาคส่วนให้การสนับสนุนรัฐบาลในยามวิกฤต และการปฏิวัติรัฐประหารเป็นไปไม่ได้ ยิ่งลักษณ์บอกฉันว่าเธอได้กระทำมากเสียยิ่งกว่าที่จำเป็นในการให้ความร่วมมือแก่ประยุทธ์ แล้วดูเหมือนประยุทธ์จะเข้าใจและพอใจกับความซื่อสัตย์มุ่งมั่นทำงานหนักของเธอ
-
ในวังก็เหมือนกัน มิได้แสดงอะไรให้เห็นว่าจะฉวยโอกาสระหว่างวิกฤตโค่นล้มรัฐบาล พระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระบรมราชานุญาติให้นายกฯ ยิ่งลักษณ์เข้าเฝ้าสามครั้ง (ที่ประกาศทางการ) นับแต่เธอเข้ารับตำแหน่ง (ในโลกทึบแสงแห่งสถาบันกษัตริย์ไทย นี่เป็นกุญแจไขไปสู่การสร้างความคุ้นเคย) นอกจากนี้พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นในได้เปิดให้นายกน ยิ่งลักษณ์เข้าเฝ้าช่วงไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา (ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ) รวมถึงสยามมกุฏราชกุมารและเจ้าฟ้าหญิงสองพระองค์ กระนั้นที่น่าเอ่ยถึงอยู่ที่การประกาศแต่งตั้งคนโปรดของราชสำนักสองท่าน ดร.สุเมธ และ ดร.วีรพงษ์ เข้าสู่คณะกรรมการฟื้นฟูและบริหารจัดการน้ำ สุเมธผู้ซึ่งถวายคำปรึกษาต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมาช้านาน แล้วยังเป็นประธานมูลนิธิหนึ่งของพระราชวัง ไม่น่าที่จะสนองรับการแต่งตั้งหากพระเจ้าอยู่หัวฯ มิได้ทรงให้ความเห็นชอบ กรรมการอีกสองท่านในคณะก็เป็นผู้ใกล้ชิดเบื้องยุคลบาทเช่นกัน
-
ยิ่งกว่านั้น ในขณะที่ความนิยมของยิ่งลักษณ์เริ่มจะตกลง พรรคเพื่อไทยของเธอยังทำคะแนนได้ดีกว่าพรรคประชาธิปัตย์คู่แข่ง ที่คนชอบน้อยกว่า และไม่อาจหาเพื่อนใหม่ได้จากการที่เอาวิกฤตมาใช้ฉกฉวยผลประโยชน์ทางการเมืองให้แก่ตนเอง "คุณไม่อาจที่จะเอาชนะบางสิ่งบางอย่างด้วยความว่างเปล่า" ดังที่มีคนว่าไว้ ถ้าไม่มีรัฐประหาร ยิ่งลักษณ์กับเพื่อไทยเท่านั้นที่เป็นเครื่องเล่นของชาติ
-
นั่นแหละ นี่คือประเทศไทย ซึ่งหมายความว่าอย่าได้ละเลยคำนึงถึงรัฐประหารเป็นอันขาด แล้วที่ยิ่งลักษณ์พูดไว้ถูกต้องทีเดียว อย่างดีที่สุดประชาธิปไตยในประเทศไทยแค่เปราะบาง ในขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ดูเหมือนดั่งจริงใจที่ว่าไม่สนใจการรัฐประหาร แต่ด้วยระดับดีกรีของการที่กองทัพสามารถเรียกกลับภาพลักษณ์คืนได้ระหว่างวิกฤต ในมาดวีรบุรุษขณะที่นักการเมืองดูเหมือนดั่งหมดประสิทธิภาพ อาจเป็นแนวโน้มอันตรายต่อประเทศไทยซึ่งติดเชื้อรัฐประหารฝังใน ยิ่งกว่านั้น ในขณะที่ในวังวางขลึม แถมมีท่าน่าฉงนว่าสนับสนุนรัฐบาลละหรือ ประมวลการสำรวจระยะสั้นๆ ในโลกของเว็บบล็อกและเฟชบุ๊ค ก็ปรากฏความจงเกลียดจงชัง และการต่อต้านไม่ย่นย่อต่อดาวพระเคราะห์ทักษิณ อย่างคึกคักในหมู่ผู้ลากมากดีของกรุงเทพฯ
-
ที่ซึ่งนำเราไปสู่ประเด็นพี่ชายใหญ่ ผู้ที่ยังคงได้รับความเคารพนบนอบอย่างสูงจากคณะรัฐมนตรีในแวดวงพรรคเพื่อไทย และท่ามกลางผู้สนับสนุนในกลุ่มเสื้อแดง เขาทำตัวสงบเสงี่ยมได้อย่างชาญฉลาดในช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาในขณะที่น้องสาวคนเล็กต่อสู้กับอุทกภัย แต่ว่าประเด็นเกี่ยวกับสถานะของเขา และความมุ่งมาดปรารถนาที่จะได้กลับประเทศไทยนั้นครอบคลุมไปเสียหมด ยิ่งลักษณ์บอกฉันว่าการเจรจากับในวังไม่หยุดยั้งของพี่ชายอยู่ในเกณฑ์ที่เรียกว่า "ได้ผลดี" และแสดงให้เห็นผลลัพท์ในทางเยียวยาต่อการลี้ภัยห้าปีที่เต็มไปด้วยนาฏกรรมของเขา ไม่ว่าจะโดยผ่านทางการมีพระราชโองการอภัยโทษ หรือทางกฎหมายนิรโทษกรรมในรัฐสภาที่ราชสำนักให้ไฟเขียว อย่างดีที่สุดนี่เป็นจังหวะเต้นที่ต้องระวังยิ่งยวด การจัดการพลาดหรือคาดคะเนผิดโดยทักษิณจะก่อให้เกิดนาฏกรรมการเมืองแก่ยิ่งลักษณ์อีกครั้ง
-
เธอจำเป็นต้องเร่งมือดำเนินงานโครงการฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปราศจากการคอรัปชั่นหรือเรื่องอื้อฉาวใหญ่โต เพื่อที่จะทำให้พวกต่อต้านเงียบเสียงและผู้สนับสนุนเป็นปึกแผ่น ในขณะนี้ อุทกภัยได้กวาดซัดเอาความเชื่องมงายเรื่องเธอเป็น 'ตุ๊กตาจำลอง' ของพี่ชาย เนื่องเพราะเธอไม่มีประสบการณ์หรือสัญชาติญานอย่างพี่ชาย อย่างน้อยยังมาไม่ถึง ทว่าเธอมีในสิ่งที่พี่ชายไม่มี รวมถึงเสน่ห์และความสง่าและความจริงใจที่เห็นได้ กับการรำลึกอยู่เสมอที่จะโอบรับสถาบันกองทัพและราชสำนัก ด้วยการมีเทคโนแครทรุ่นใหม่ซึ่งทรงพลังอยู่เคียงข้าง เสียงข้างมากแน่นหนาในรัฐสภา ด้วยการวางมือของกองทัพและราชสำนักดังที่ปรากฏ (อย่างน้อยในขณะนี้) และไม่มีลูกเล่นอื่นๆ ออกมาอีก ยิ่งลักษณ์ผู้มุ่งมั่นมีเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองได้
-
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.