ยินดีต้อนรับ

พลเมืองที่รอบรู้เท่าทัน คือ พลังประชาธิปไตยที่แท้จริง
Well-informed citizens are the true democratic forces.

Thursday, January 5, 2017

"Five Steps To Tyranny." The bbc documentary(full) that educators should view





ผมไม่เชื่อว่าเมืองไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริง โดย เอนก ซานฟราน




คนไทยทุกคนเมื่อเกิดมา ทุกคนถูกหล่อหลอมให้มีความเชื่อถือเรืองไสยศาสตร์ เรื่องโชคลางของขลัง ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ผู้ใหญ่มักยัดเยียดความเชื่อของตัวเอง แล้วถ่ายทอดสู่ลูกหลานของตัวเอง และคนรุ่นใหม่ ความเชื่อถือที่ยึดเหนี่ยวมาตามยุคตามสมัยที่ถ่ายทอดจากยุคสู่ยุค ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน โดยไม่นำหลักวิทยาศาสตร์ และความเจริญทางเทคโนโลยีมาเปรียบเทียบกับความงมงายของตัวเอง เป็นที่น่าสังเกตว่า คนไทยส่วนใหญ่มักมีความเชื่อถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และบุคคล ที่ตัวเองคิดว่าเป็นผู้วิเศษหรือเทวดา ซึ่งยังคงปรากฎให้เห็นตามพิธีการต่างๆ ตลอดทั้งมีความเลื่อมใสต่อบุคคลที่ตัวเองคิดว่า เขาคือผู้วิเศษ ที่สามารถทำให้ชีวิตพวกเขาประสพแต่สิ่งที่ดี อยู่ดี กินดี แต่ก็ไม่เคยปรากฎให้เห็นความคิดเยี่ยงนี้เป็นความคิดที่แตกต่างไปจากคนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในประเทศอื่น ซึ่งปรากฎชัดเจนว่า คนที่อาศัยอยู่ในประเทศอื่น เขามีความเจริญก้าวหน้ามากกว่า และเขาก็มีความเชื่อว่ากฎหมายเท่านั้น คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาต้องเคารพบูชา และเป็นกติกาในการดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี เพราะฉะนั้น หากใครมาถามผมว่าคนไทยบางคนยังมีความงมงายเชื่อเรื่องที่ไม่สมควรเชื่อหรือไม่?ผมก็ตอบว่าใช่ สาเหตุที่คนไทยยังไม่มีความเจริญ สาเหตุที่สำคัญนั้นเกิดจากความงมงายที่เชื่อถือในสิ่งที่ไม่สมควรเชื่อ จึงทำให้คนไทยมีความคิดล้าหลัง ไม่มีการพัฒนาตามสิ่งที่ปรากฎให้เห็นเป็นหลักฐานกลับเชื่อถือตามคำพูดที่ขัดต่อหลักความจริงและก็ไม่ปรากฎหลักฐานให้เห็นเพื่อเป็นการพิสูจน์ ตามหลักการที่ถูกต้อง และก็ตามหลักสากลที่คนในสังคมโลกยอมรับ ?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:office:office" /

โดยเฉพาะความเชื่อเรื่องวัตถุ หรือพระต่างๆที่คนในชาตินำมาเป็นที่พึ่งเพื่อให้ช่วยในการแก้ไข หรือปกป้องคนดีๆ หรือลงโทษคนที่ทำร้ายบ้านเมือง หรือกลุ่มคนที่โกงกินบ้างเมือง หรือกลั่นแกล้งบุคคลผู้บริสุทธิ์ หรือการใช้อำนาจของตัวเองทำร้ายคู่ต่อสู้ก็ตาม สิ่งที่ปรากฎให้เห็นนั้น จึงพอมอง และสรุปได้ว่าหากประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเหล่านั้นต้องลุกขึ้นมาปกป้องคนดีๆ เพื่อให้เกิดความยุติธรรม ตามหลักที่ว่า "ทำดีต้องได้ดี"แต่สิ่งที่ปรากฎให้พวกเราได้เห็นก็คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่สามารถคุ้มครองคนดีๆ ได้เช่นประชาชนที่ด้อยโอกาส แต่กับปล่อยให้คนชั่วๆ ทั้งหลายที่มีอำนาจยังคงทำลายความยุติธรรมและรังแกคนที่ด้อยโอกาสกว่า เป็นเรื่องที่ทำให้คนที่มีสำนึกอย่างผม ต้องนำเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาวิจารณ์ให้เห็นกันบ้างว่า ประเทศที่เจริญแล้วนั้นไม่ได้อยู่ได้ด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่อยู่ได้ด้วยหลักของความยุติธรรมต่างหาก ที่เป็นกรอบกำหนดให้เราอยู่ร่วมกันอย่างสันติ          วันนี้พวกเราเลิกพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว เลิกงมงายกันเสียทีมันไม่ศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไปแล้ว เพราะคนที่มีอำนาจนั้นสามารถทำอะไรก็ได้ และก็ทำตัวเหนือกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสียด้วยซ้ำเช่น ช่วยคนผิดให้เป็นถูกเช่นเรื่องคดีกล้ายางที่มีพวกนายเนวินคนขี้โกงประเทศที่เล่นแทงพนันฟุตบอลคู่ละเป็นล้านทุกวัน ได้รับอิสระเพราะอำนาจมาจากใคร? รัฐบาลที่เป็นพวกเดียวกัน เพราะนายเนวินยอมให้ความร่วมมือกับพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาล  ยอมทรยศพรรคพวกที่เคยให้ความช่วยเหลือ เอาตัวรอดมา ผลจึงออกมาเป็นในรูปนี้ แต่คดีของนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งเป็นเพียงคดีเรื่องเล็กน้อยที่ไปสอนทำอาหาร(ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม) กลับถูกลงโทษ แต่ไม่ลงโทษคนที่มีพฤติกรรมเหมือนกันเช่นนายวิชา มหาคุณ หรือนายจรัญ ภักดีธนากุล ที่ไปรับจ้างสอนหนังสือเหมือนกัน หรือคดีคุณหญิงพจมาน ที่ไปประมูลที่ดินสามีกลับมีความผิด แต่พลเอกสุรยุทธิ์ยึดที่ดินของประเทศไปฟรีๆเป็นสมบัติตัวเองกลับไม่มีความผิด 

อำนาจที่รัฐบาลชุดนายอภิสิทธิ์ที่กำลังบริหารประเทศอยู่ทุกวันนี้นั้นได้มาเพราะใคร? ประชาชนหรือก็ไม่ใช่เพราะเสียงส่วนใหญ่คนในประเทศก็ไม่ได้เลือกพรรคประชาธิปัตย์แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นมา เป็นแบบนี้นั้นก็เป็นเพราะเขาได้รับอำนาจจากใครเป็นคนแต่งตั้ง? เพราะฉะนั้นอำนาจที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ที่ได้ผลบังคับใช้นั้นเป็นอำนาจที่มาคนๆ นี้ ที่ไม่ใช่อำนาจของประชาชน วันนี้เรายังคงรอคอยสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ช่วยเหลือพวกเราอยู่อีกหรือ? กลุ่มพันธมิตรยึดสนามบินยึดทำเนียบรัฐบาล ประเทศชาติเดือดร้อน ไม่เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลุกขึ้นมาลงโทษคนที่ทำชั่วเลย ไหนบอกว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วไง เราเลิกงมงายกันได้แล้วไปมัวนับถือเรื่องโง่ๆอยู่ทำไมเรียนแบบคนต่างชาติดีกว่าที่พวกเขาไม่เคยโง่งมงายเหมือนพวกเราเลย พวกเขาเชื่อถือเพียงการเคารพต่อกฎหมาย และปฎิบัติตนให้เป็นคนดีของครอบครัวและสังคมเพียงเท่านั้น อย่าเอาหลักการที่ล้าสมัยมาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเลย เพราะคนทำชั่วกลับได้ดีแต่คนทำดีกลับได้ชั่ว

เราต้องช่วยกันชี้แจงให้คนในชาติเห็นว่านี่คือโทษของความงมงาย


ผมไม่เชื่อว่าเมืองไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริง โดย เอนก ซานฟราน




คนไทยทุกคนเมื่อเกิดมา ทุกคนถูกหล่อหลอมให้มีความเชื่อถือเรืองไสยศาสตร์ เรื่องโชคลางของขลัง ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ผู้ใหญ่มักยัดเยียดความเชื่อของตัวเอง แล้วถ่ายทอดสู่ลูกหลานของตัวเอง และคนรุ่นใหม่ ความเชื่อถือที่ยึดเหนี่ยวมาตามยุคตามสมัยที่ถ่ายทอดจากยุคสู่ยุค ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน โดยไม่นำหลักวิทยาศาสตร์ และความเจริญทางเทคโนโลยีมาเปรียบเทียบกับความงมงายของตัวเอง เป็นที่น่าสังเกตว่า คนไทยส่วนใหญ่มักมีความเชื่อถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และบุคคล ที่ตัวเองคิดว่าเป็นผู้วิเศษหรือเทวดา ซึ่งยังคงปรากฎให้เห็นตามพิธีการต่างๆ ตลอดทั้งมีความเลื่อมใสต่อบุคคลที่ตัวเองคิดว่า เขาคือผู้วิเศษ ที่สามารถทำให้ชีวิตพวกเขาประสพแต่สิ่งที่ดี อยู่ดี กินดี แต่ก็ไม่เคยปรากฎให้เห็นความคิดเยี่ยงนี้เป็นความคิดที่แตกต่างไปจากคนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในประเทศอื่น ซึ่งปรากฎชัดเจนว่า คนที่อาศัยอยู่ในประเทศอื่น เขามีความเจริญก้าวหน้ามากกว่า และเขาก็มีความเชื่อว่ากฎหมายเท่านั้น คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาต้องเคารพบูชา และเป็นกติกาในการดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี เพราะฉะนั้น หากใครมาถามผมว่าคนไทยบางคนยังมีความงมงายเชื่อเรื่องที่ไม่สมควรเชื่อหรือไม่?ผมก็ตอบว่าใช่ สาเหตุที่คนไทยยังไม่มีความเจริญ สาเหตุที่สำคัญนั้นเกิดจากความงมงายที่เชื่อถือในสิ่งที่ไม่สมควรเชื่อ จึงทำให้คนไทยมีความคิดล้าหลัง ไม่มีการพัฒนาตามสิ่งที่ปรากฎให้เห็นเป็นหลักฐานกลับเชื่อถือตามคำพูดที่ขัดต่อหลักความจริงและก็ไม่ปรากฎหลักฐานให้เห็นเพื่อเป็นการพิสูจน์ ตามหลักการที่ถูกต้อง และก็ตามหลักสากลที่คนในสังคมโลกยอมรับ ?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:office:office" /

โดยเฉพาะความเชื่อเรื่องวัตถุ หรือพระต่างๆที่คนในชาตินำมาเป็นที่พึ่งเพื่อให้ช่วยในการแก้ไข หรือปกป้องคนดีๆ หรือลงโทษคนที่ทำร้ายบ้านเมือง หรือกลุ่มคนที่โกงกินบ้างเมือง หรือกลั่นแกล้งบุคคลผู้บริสุทธิ์ หรือการใช้อำนาจของตัวเองทำร้ายคู่ต่อสู้ก็ตาม สิ่งที่ปรากฎให้เห็นนั้น จึงพอมอง และสรุปได้ว่าหากประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเหล่านั้นต้องลุกขึ้นมาปกป้องคนดีๆ เพื่อให้เกิดความยุติธรรม ตามหลักที่ว่า "ทำดีต้องได้ดี"แต่สิ่งที่ปรากฎให้พวกเราได้เห็นก็คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่สามารถคุ้มครองคนดีๆ ได้เช่นประชาชนที่ด้อยโอกาส แต่กับปล่อยให้คนชั่วๆ ทั้งหลายที่มีอำนาจยังคงทำลายความยุติธรรมและรังแกคนที่ด้อยโอกาสกว่า เป็นเรื่องที่ทำให้คนที่มีสำนึกอย่างผม ต้องนำเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาวิจารณ์ให้เห็นกันบ้างว่า ประเทศที่เจริญแล้วนั้นไม่ได้อยู่ได้ด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่อยู่ได้ด้วยหลักของความยุติธรรมต่างหาก ที่เป็นกรอบกำหนดให้เราอยู่ร่วมกันอย่างสันติ          วันนี้พวกเราเลิกพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว เลิกงมงายกันเสียทีมันไม่ศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไปแล้ว เพราะคนที่มีอำนาจนั้นสามารถทำอะไรก็ได้ และก็ทำตัวเหนือกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสียด้วยซ้ำเช่น ช่วยคนผิดให้เป็นถูกเช่นเรื่องคดีกล้ายางที่มีพวกนายเนวินคนขี้โกงประเทศที่เล่นแทงพนันฟุตบอลคู่ละเป็นล้านทุกวัน ได้รับอิสระเพราะอำนาจมาจากใคร? รัฐบาลที่เป็นพวกเดียวกัน เพราะนายเนวินยอมให้ความร่วมมือกับพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาล  ยอมทรยศพรรคพวกที่เคยให้ความช่วยเหลือ เอาตัวรอดมา ผลจึงออกมาเป็นในรูปนี้ แต่คดีของนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งเป็นเพียงคดีเรื่องเล็กน้อยที่ไปสอนทำอาหาร(ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม) กลับถูกลงโทษ แต่ไม่ลงโทษคนที่มีพฤติกรรมเหมือนกันเช่นนายวิชา มหาคุณ หรือนายจรัญ ภักดีธนากุล ที่ไปรับจ้างสอนหนังสือเหมือนกัน หรือคดีคุณหญิงพจมาน ที่ไปประมูลที่ดินสามีกลับมีความผิด แต่พลเอกสุรยุทธิ์ยึดที่ดินของประเทศไปฟรีๆเป็นสมบัติตัวเองกลับไม่มีความผิด 

อำนาจที่รัฐบาลชุดนายอภิสิทธิ์ที่กำลังบริหารประเทศอยู่ทุกวันนี้นั้นได้มาเพราะใคร? ประชาชนหรือก็ไม่ใช่เพราะเสียงส่วนใหญ่คนในประเทศก็ไม่ได้เลือกพรรคประชาธิปัตย์แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นมา เป็นแบบนี้นั้นก็เป็นเพราะเขาได้รับอำนาจจากใครเป็นคนแต่งตั้ง? เพราะฉะนั้นอำนาจที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ที่ได้ผลบังคับใช้นั้นเป็นอำนาจที่มาคนๆ นี้ ที่ไม่ใช่อำนาจของประชาชน วันนี้เรายังคงรอคอยสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ช่วยเหลือพวกเราอยู่อีกหรือ? กลุ่มพันธมิตรยึดสนามบินยึดทำเนียบรัฐบาล ประเทศชาติเดือดร้อน ไม่เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลุกขึ้นมาลงโทษคนที่ทำชั่วเลย ไหนบอกว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วไง เราเลิกงมงายกันได้แล้วไปมัวนับถือเรื่องโง่ๆอยู่ทำไมเรียนแบบคนต่างชาติดีกว่าที่พวกเขาไม่เคยโง่งมงายเหมือนพวกเราเลย พวกเขาเชื่อถือเพียงการเคารพต่อกฎหมาย และปฎิบัติตนให้เป็นคนดีของครอบครัวและสังคมเพียงเท่านั้น อย่าเอาหลักการที่ล้าสมัยมาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเลย เพราะคนทำชั่วกลับได้ดีแต่คนทำดีกลับได้ชั่ว

เราต้องช่วยกันชี้แจงให้คนในชาติเห็นว่านี่คือโทษของความงมงาย