คนไทย ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ ยังต้องผ่านบทเรียนกฏหมาย จากต่างชาติ ผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศนี้ อีกมากมาย หากยังไม่เลิกแนวคิด แบบไดโนเสาร์ เต่าล้านปี
๑. วันนี้โลกในปัจจุบัน เปลี่ยนไปมาก
๒.แต่คนส่วนใหญ่ตรงเส้นรุ้ง ตัดกับ เส้นแวงตรงนี้ ก็ยังไม่มีวี่แวว จะเปลี่ยนในด้านความคิด
๓. นั่นก็คือเรา จะต้องรอให้โลก ใช้ปฏักแทงหลังเรา โดยคนต่างชาติ
๔. การที่ประเทศไทย ไปลงนามและให้สัตยาบัน ต่อ (สนธิสัญญา ปราบปรามการคอร์รัปชั่น) Convention against Corruption, 2003 ในวันที่ ๑ มีนาคม ปีค.ศ.๒๐๑๑ หรือ ปีพ.ศ.๒๕๕๔
๕. โดยผลของสนธิสัญญา ฉบับนี้ ทำให้การรัฐประหาร และยึดอำนาจ ไม่เกิดความชอบธรรมตามกฏหมาย อีกต่อไป ไม่ว่าในระบบกฏหมายใดๆ
๖. แต่ ก็ยังได้ยินเสียง ที่ออกมาจากปาก นักกฏหมายบางคน ที่เถียงว่า " คณะผู้ยึดอำนาจ เป็น อธิปัตย์" ผมก็ไม่รู้ว่า คำว่า "อธิปัตย์" ที่เขาต้องการ "ได้มา" หรือ "ให้เป็น" นั้น เขาเอากฏหมาย ตัวไหน มารองรับ
๗. ทั้งๆที่ไม่มีอยู่ ในตำรากฏหมายร่วมสมัย (Contemporary Text Book in learning Laws)
๘. และแถม ก็ยังไม่มีอยู่ ในภาคปฏิบัติของ กฏหมายใดๆ ในโลกด้วย แม้แต่ ระบบกฏหมายกะเหรี่ยง ก็ไม่มี
๙. ผมก็ไม่รู้ว่า คนพูด ที่ไปเรียนกฏหมายจบ มาจากต่างประเทศ เป็น "ผู้ทรงภูมิรู้" หรือ "ทรงภูมิไม่รู้" กันแน่
๑๐. และคนไทย ก็เชื่อกันแบบฝังหัว จนบ้านเมืองนี้ ป่นบี้ยี้ยับ ในวันนี้.
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.