กรอบพิจารณาพรรคการเมืองก่อนเลือกตั้ง
เพื่อไม่ให้เราถูกหลอกซ้ำในระบอบเดิม
เขียนในฐานะพลเมืองไทยคนหนึ่ง ที่เชื่อว่า “การเลือกตั้ง” จะมีความหมาย ก็ต่อเมื่อเรากล้าประเมินพรรคการเมืองด้วยคำถามเชิงโครงสร้าง ไม่ใช่ด้วยหน้าเดิม เงินเดิม หรือคำสัญญาเดิม
ประเทศไทยไม่ได้มีปัญหาแค่ “รัฐบาลบริหารไม่เก่ง” แต่มีปัญหาเชิงโครงสร้างลึก ได้แก่ คณาธิปไตยซ้อนราชาธิปไตย, อำนาจรวมศูนย์, องค์กรอิสระที่ก้าวล่วงอธิปไตยประชาชน, การเมืองตระบัดสัตย์, คอร์รัปชัน, ความเหลื่อมล้ำ, เศรษฐกิจผูกขาด, และคุณภาพคนที่ถูกระบบการศึกษากดทับ
ถ้านักการเมืองหรือพรรคการเมืองใด ไม่กล้า หรือไม่สามารถแตะโครงสร้างเหล่านี้ได้ ต่อให้แจกนโยบายสวยหรูแค่ไหน ประเทศก็จะวนอยู่ที่เดิม
กรอบนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานสำคัญข้อหนึ่ง:
นักการเมืองเก่า แก่ หรือมาจากตระกูลการเมือง มักเรียนรู้ที่จะ “อยู่กับระบอบ” และแสวงประโยชน์จากมัน มากกว่าที่จะเปลี่ยนมัน
ในโลกยุค AI ความซับซ้อนทางเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ และการแข่งขันเชิงเทคโนโลยี ประเทศไทยต้องการผู้นำที่คิดเป็นระบบ กล้าปรับโครงสร้าง และไม่ติดหนี้บุญคุณเครือข่ายอำนาจเดิม
1) จุดยืนต่อโครงสร้างอำนาจ
พรรคมองเห็นปัญหาคณาธิปไตย อำนาจรวมศูนย์ และความไม่ชอบธรรมเชิงโครงสร้างหรือไม่ กล้าพูดตรงหรือเลี่ยงบาลี เสนอแก้ไขจริง หรือแค่บริหารให้ “เนียน”
2) ความเป็นอิสระจากเครือข่ายอำนาจเดิม
แกนนำพรรคและแหล่งทุน ผูกพันกับกลุ่มอำนาจเดิม บ้านใหญ่ หรือผลประโยชน์ผูกขาดมากน้อยเพียงใด พรรคนี้ “เป็นหนี้ใคร” หรือไม่
3) คุณภาพและที่มาของบุคลากร
ผู้นำพรรค ส.ส. และทีมบริหาร เติบโตจากความสามารถจริง หรือจากสายสัมพันธ์และมรดกการเมือง เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่หรือไม่
4) ความซื่อสัตย์ทางการเมือง
ประวัติการตระบัดสัตย์ การย้ายข้าง การสมยอมกับอำนาจนอกระบบ และการรับผิดชอบต่อคำพูดในอดีต
5) นโยบายแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง
นโยบายแตะโครงสร้างจริงหรือไม่ เช่น การกระจายอำนาจ, ปฏิรูประบบยุติธรรม, ลดการผูกขาด, ปฏิรูประบบราชการ หรือแค่แจกเงินระยะสั้น
6) วิสัยทัศน์ต่อโลกยุคใหม่ (AI / ภูมิรัฐศาสตร์)
พรรคเข้าใจโลกยุค AI, เศรษฐกิจความรู้, การแข่งขันเทคโนโลยี, และแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือยังคิดแบบโลกเก่า
7) ความกล้าหาญทางจริยธรรม
เมื่อเผชิญแรงกดดันจากอำนาจนอกระบบ พรรคมีแนวโน้มยืนหยัด หรือยอมถอยเพื่อ “อยู่เป็น”
8) ความสอดคล้องระหว่างคำพูดกับการกระทำ
สิ่งที่พรรคพูดตรงกับสิ่งที่เคยทำหรือไม่ มีประวัติทำตรงข้ามกับที่หาเสียงหรือเปล่า
9) การมองประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ
พรรคมองประชาชนเป็นแค่ฐานเสียง หรือเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย เปิดให้ตรวจสอบหรือไม่
10) ศักยภาพในการ “เปลี่ยนโครงสร้าง” จริง
เมื่อประเมินทุกข้อรวมกัน พรรคนี้มีโอกาสมากน้อยเพียงใด ที่จะไม่ถูกกลืน และสามารถเขยื้อนโครงสร้างอำนาจไทยได้จริง
| เกณฑ์ | พรรค A (0–10) |
พรรค B (0–10) |
พรรค C (0–10) |
หมายเหตุ |
|---|---|---|---|---|
| 1) โครงสร้างอำนาจ | ||||
| 2) อิสระจากอำนาจเดิม | ||||
| 3) บุคลากร | ||||
| 4) ความซื่อสัตย์ | ||||
| 5) นโยบายเชิงโครงสร้าง | ||||
| 6) โลกยุค AI | ||||
| 7) จริยธรรมทางการเมือง | ||||
| 8) คำพูดกับการกระทำ | ||||
| 9) ประชาชนคือเจ้าของอำนาจ | ||||
| 10) ศักยภาพเปลี่ยนโครงสร้าง |
หมายเหตุ: การให้คะแนนไม่มี “คำตอบถูก–ผิด” แต่มี “คำถามที่ต้องกล้าถาม” เพื่อไม่ให้การเลือกตั้งกลายเป็นเพียงพิธีกรรม ภายใต้ระบอบเดิมอีกครั้ง
