ยินดีต้อนรับ

พลเมืองที่รอบรู้เท่าทัน คือ พลังประชาธิปไตยที่แท้จริง
Well-informed citizens are the true democratic forces.

Wednesday, March 23, 2016

วิเคราะห์การแต่งตั้งโยกย้ายกลางปี ของกองทัพบก

23 มี.ค.59
วิเคราะห์การแต่งตั้งโยกย้ายกลางปี ของกองทัพบก
ผ่านมาทางไลน์

เป็นที่สังเกตว่าในการแต่งตั้งโยกย้างคราวนี้สื่อต่างๆไม่นำมาวิเคราะห์คาดการณ์หรือลงข่าวสัมภาษณ์ผู้นำทหารคนใด ยกเว้น เดลินิวส์ที่ลงข่าวการแต่งตั้งที่มีชื่อรองแม่ทัพภาค1  สองในสามคนที่เลื่อนระดับสูงขึ้น รวมทั้ง การเลื่อนจากแม่ทัพน้อยเป็นแม่ทัพของภาค 2 ของ พล ท วิชัย แชจอหอ เด็กสร้างของ พล อ. เปรม แต่กลับให้ข้อมูลว่าเป็นนายทหารสายของ รมว กลาโหม  พล อ. ประวิตร เมื่อวันศุกร์ที่19 มี.ค. ก่อน เวลาถึง 10 วันตามที่ พล อ ประวิตรออกมาให้สัมภาษณ์ ว่าโผจะออกสิ้นเดือนนี้ แต่เย็นวันจันทร์ถัดมา ประกาศราชกิจจานุเบกษา ก็ออกโผแต่งตั้งโยกย้ายออกมาหักหน้า พล อ ประวิตร ทันควัน (คอการเมือง ต้องไม่ลืมพลาด วันศุกร์ เพราะจะมีอะไรที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นในวันนี้บ่อยครั้ง เช่นจับแล้วประกันไม่ทัน ต้องนอนคุกวันหยุด เป็นต้น)  

ในประกาศของราชกิจจานุเบกษา มีความแตกต่างจาก โผเดลินิวส์บ้าง กรณีของ พล ต กู้เกียรติ ศรีนาคา อดีตขุนพลจาก หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ยืนอยู่ในตำแหน่งเดิม  แต่ที่ไม่ผิด จากโผ มี สอง ตำแหน่ง คือ พล ต  นัฐ. อินทเจริญ ทส. ของ พล อ ประวิตร จาก รอง มทภ 1 เป็นรองเสธฯทบ.   และ พล ท  วิชัย แชจอหอ จาก แม่ทัพน้อย ภ 2 เป็นมทภ 2  สองตำแหน่งนี้ เป็นการยกขึ้นเพื่อเตรียมเข้าสู่ ไลน์ของ 5 เสือ ทบ  ที่จะว่างลง 3 ตำแหน่ง โดย คู่ชิงผบ ทบ ในงวดหน้า คือ 2 ใน 5 เสือที่เหลืออยู่ คือ พล อ พิสิทธิ สิทธิสาร และ พล อ เฉลิมชัย สิทธิสาร์ท กับอีกหนึ่งตำแหน่งที่รออยู่ไม่ไปไหนคือ แม่ทัพภาค 1 คนปัจจะบันพล ท. เทพพงศ์ ทิพย์จันทร์ ครบ 5 เสือ ทบ 

กลับมาที่นายทหารในระนาบเดียวกันที่ไม่ได้ปรับเลื่อนชั้น เน้นไปคนที่มีบทบาทในช่วงการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างขั้วของ อำมาตย์กับไพร่ คือ กองทัพภาคที่ 1 ตำแหน่งแม่ทัพน้อยที่ 1  พล ท  อภิรัชต์ คงสมพงศ์  กับรองแม่ทัพภาคที่ 1  พล.ต กู้เกียรติ ศรีนาคา และ พล ต พงศ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ นายทหารเหล่านี้ล้วนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แต่กลับเสียอาวุโสในการแต่งตั้ง ให้กับเพื่อนร่วมรุ่น ตท20 ที่ด้อยบทบาทในทางสื่อ  เรียกว่ามีงานเรียกใช้ แต่ให้บำเน็จกับเด็กฝาก หากนับลำดับอาวุโสย่อมเป็นการกีดกันเส้นทางเจริญเติบโต นี่เป็นร่องรอยหนึ่งของกุศโลบายแบ่งให้แตกแล้วแยกปกครอง สลายขั้วอำนาจที่คาดว่าจะผงาดในอนาคต ซึ่งกลายเป็นวัฒนธรรมน้องเก่ง พี่ไม่"โปร" 

โผหักหน้า พล อ ประวิตร ชุดนี้มีคำตอบที่ให้ประเมินได้ว่า ทั้ง ธีรชัย ผบ ทบ กับ รมว กลาโหม ไม่มีส่วนจัดตั้ง เป็นการชงขึ้น ผ่าน ปลัดกระทรวง กลาโหมน้องชาย กับ พี่ชาย นรม.ส่งขึ้นไป แล้วประกาศใช้ (ในภาวะนี้เป็นที่ยอมรับกันว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้แต่ราชกิจจานุเบกษา ที่ไร้หลักฐานพระราชลัญจกรแต่งตั้ง แบบขลังๆ ที่เคยได้ชมกันในอดีต )  วิจารณ์แบบแลกหมัดคือการเอาคืนของ ประยุทธ กรณี การแต่งตั้ง ผบ ทบ ปี 2558 ที่ประยุทธ สมคบคิดกับ อุดมเดช ช่วยกันดันปรีชา แต่ถูกประวิตรทุบโต๊ะ ให้ ธีรชัย ที่ถูกดอง ให้รอมาหลายรอบ และที่สำคัญคือการเตะส่งอุดมเดชและทีมงานประเด็นอื้อฉาวโครงการอุทยานราชภักดิ์ของธีรชัยทันทีที่รับตำแหน่ง เรื่องนี้กระทบชิ่งไปถึง พี่น้องจันทร์โอชา ที่เล่นสองหน้า และสลายสายทหารของสุรยุทธ์ที่ถูกวางตัวแทรกเข้ามาอยู่ในแกนหลักของกองทัพคือ พอ  คชาชาติ บุญดี(หลานชายของ พล อ มงคล กมลบุตร ตท 1 บัดดี้ของ พล อสุรยุทธ์ จุลลานนท์)  และ พอ สุชาติ พรหมใหม่ เพื่อน ตท 27 ของ พอ คชาชาติ

สรุปการแต่งตั้งโยกย้ายในรอบนี้ ทำให้เกิดผลพลอยได้ไปเข้าทางเปรมที่มีเด็กเลี้ยงต้อยขึ้นขั้นอาวุโส เข้าป้ายรอตำแหน่ง 5 เสือไปก่อนตัวเต็งอย่าง อภิรัชต์ กู้เกียรติ และพงศ์สวัสดิ์ ที่มีชื่อชั้นเหนือกว่าในแวดวงการเมืองการทหาร ก่อให้เกิดรอยปริแตกทั้งฝ่ายบนและระดับสั่งการกองทัพ เห็นชัดขึ้นอีกระดับว่า ป ประยุทธ เหยียบเรือสองแคม เสนอผลงานเพื่อไปซบฟากของเปรมอีกคำรบหนึ่ง และคนประเภทนี้จะไม่มีที่ลงในวาระสุดท้ายเรียกกันว่า "หมาหัวเน่า"

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.