จอม เพชรประดับ: สัมภาษณ์ วรชัย เหมะ "เป็นไปได้ไหม เพื่อไทย และ ปชป. จับมือล้มรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้ง???
ยินดีต้อนรับ
พลเมืองที่รอบรู้เท่าทัน คือ พลังประชาธิปไตยที่แท้จริง
Well-informed citizens are the true democratic forces.
Thursday, April 30, 2015
เมกกะโปรเจค ในโลก ระยะ 15 ปี ต่อจากนี้ ล้วนน่าทึ่ง น่าตะลึง ตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง!!
เมกกะโปรเจค ในโลก ระยะ 15 ปี ต่อจากนี้ ล้วนน่าทึ่ง น่าตะลึง ตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง!! สำหรับประเทศไทยนั้น Megaprojects คือการสถาปนาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ใหม่ ใต้เกือกเผด็จการทหารและราชการของวัง
เมกกะโปรเจค ในโลก ระยะ 15 ปี ต่อจากนี้ ล้วนน่าทึ่ง น่าตะลึง ตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง!!
10 ปี ของยูทูป สนั่นโลก สะเทือนบัลลังก์...(อิ ๆ)
บันทึกยูทูปตั้งแต่อันแรก จนถึงวันนี้...
มีอะไรมากมาย หลากหลายบนโลกนี้ ที่ได้สะท้อนให้เราได้เห็น เป็นภาพ global village
และที่สำคัญที่สุด ต้องขอบคุณยูทูป ที่ทำให้เผด็จการที่มีทรัพย์สินล้นฟ้าล้นแผ่นดิน และฆาตกรเลือดเย็นในบางประเทศถูกเปิดโปง ล่อนจ้อน
1 ปี "นักโทษการเมือง" ความหวัง-ความต้องการ-กำลังใจ: ท่านช่วยได้อย่างไร?
1 ปี "นักโทษการเมือง" ความหวัง-ความต้องการ-กำลังใจ: ท่านช่วยได้อย่างไร?
พี่น้องสามารถพิจารณาช่วยเหลือและสนับสนุน ตามเนื้อหาในคลิปนะครับ
พี่น้องสามารถพิจารณาช่วยเหลือและสนับสนุน ตามเนื้อหาในคลิปนะครับ
ความเข้าใจใหม่ เกี่ยวกับ เซลล์มะเร็ง...ลองพิจารณานะครับ
ความเข้าใจใหม่ เกี่ยวกับ เซลล์มะเร็ง...ลองพิจารณานะครับ
เพื่อนจาก รพ จุฬาส่งมาให้ น่าสนใจมาก Shafin de Zane presents: What is Cancer?นี่คือ สิ่งที่คุณ ไม่เคยคาดคิด มาก่อนเ...
Posted by ดร. รุ่ง on Friday, March 13, 2015
ฟังคลิปท้ายสุด มองไกลของคุณจตุพร ด้วยความเข้าใจ แต่แทบอ้วก เมื่อถึงนาทีที่ 18
ฟังคุณจตุพร พรหมพันธุ์ คลิปสุดท้าย 30 เมษายน 2558 ด้วยความเห็นใจ...
พอรู้ว่า อันตรายรอบตัว เลยต้องป้องกันตัวเองด้วยวาทกรรมสมานฉันท์
แต่พอไปถึงนาทีที่ 18 ผมแทบอ้วก.... ขออภัย แต่คุณไม่พูดได้ไหม
รักษาศักดิ์ศรีนักสู้วีรชนที่ได้รับกระสุนพระราชทานบ้างเถิด สหาย
ฟังคลิปท้ายสุด มองไกลของคุณจตุพร ด้วยความเข้าใจ แต่แทบอ้วก เมื่อถึงนาทีที่ 18
Wednesday, April 29, 2015
สมยศ และ นักโทษ 112 กับ "ตรวนพระราชทาน"
สมยศ และ นักโทษ 112 กับ "ตรวนพระราชทาน"
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ศาล ไม่ได้พิเศษเหนืออำนาจอื่นใด และเหนืออำนาจประชาชน ศาลต้องถูกตรวจสอบได้ (โดย อ.สถิตย์ ไพเราะ)
ศาล ไม่ได้พิเศษเหนืออำนาจอื่นใด และเหนืออำนาจประชาชน ศาลต้องถูกตรวจสอบได้ (โดย อ.สถิตย์ ไพเราะ)
ศาลตรวจสอบได้: สถิตย์ ไพเราะ
พระบรมฉายาลักษณ์ที่ติดไว้ในห้องพิจารณาของศาลทุกแห่ง หมายถึงองค์พระมหากษัตริย์ หรือบุคลาธิฐานของอำนาจอธิปไตย ซึ่งเป็นของชนชาวไทย
ความคลุมเครือเช่นนี้ ลามไปถึงการแต่งกาย ท่านั่ง หรือคำพูดของผู้เข้าฟัง หรือล่ามในการพิจารณาคดีด้วย เช่น ห้ามแต่งกาย “ไม่เรียบร้อย” ห้ามนั่งไขว่ห้าง ฯลฯ ทำให้ไม่ชัดนักว่า ผู้เข้าฟังหรือร่วมในการพิจารณาคดีกำลัง “เข้าเฝ้า” หรือเพียงแต่อยู่ในห้องพิจารณาคดีของศาลในประเทศประชาธิปไตยกันแน่
ความ”ศักดิ์สิทธ์”ของศาลเพิ่งสร้างขึ้นไม่นานมานี้เอง หาได้เป็นมรดกตกทอดมาจากยุคโบราณไม่
แต่สร้างขึ้นเพื่อให้พ้นจากการถูกตรวจสอบ จึงเอาไปผูกไว้กับสถาบันพระมหากษัตริย์
ซึ่งย่อมอยู่พ้นไปจากการถูกตรวจสอบเช่นกัน
จริงหรือ
ผมว่าไม่จริง เพราะ
1. การถูกตรวจสอบ หมายความว่าอย่างไร หมายความว่าถูกติเตียน ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถูกนินทาไม่ได้เลยใช่หรือไม่ ถ้าใช่ คำกล่าวข้างบนนี้ก็ไม่จริงเพราะผู้พิพากษาหรือตุลาการทุกคนในศาลยุติธรรมย่อมรู้ว่าในคดีแพ่งนั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า คำสั่งของศาลคู่ความต้อง “โต้แย้ง” ได้ว่าผิดอย่างไร มิฉะนั้นจะอุทธรณ์ไม่ได้ ในกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 211 ก็บัญญัติว่า ในคำฟ้องอุทธรณ์คู่ความต้อง “คัดค้าน” ว่า คำพิพากษาของศาลชั้นต้น “ไม่ถูกต้อง” อย่างไร ถ้าไม่ “โต้แย้ง”หรือ”คัดค้าน” คำฟ้องอุทธรณ์(หรือฎีกา) เป็นคำฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกาที่ไม่ชอบ ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ เพราะฉะนั้นในคำฟ้องอุทธรณ์หรือคำฟ้องฎีกาผู้พิพากษาในศาลยุติธรรมต้องอ่านหรือได้อ่าน คำ “โต้แย้ง” หรือ “คัดค้าน”อยู่ทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์หรือศาลฏีกา ผู้พิพากษาที่อ่านคำฟ้องอุทธรณ์หรือคำฟ้องฎีกาดังกล่าวย่อมรู้สึกได้ว่า ศาลยุติธรรมไม่ได้พ้นจากการถูกตรวจสอบแต่อย่างใด เพราะกฎหมายได้กำหนดไว้ชัดเจนอย่างนั้น แต่ต้องเข้าใจว่าการตรวจสอบหรือการโต้แย้งคัดค้าน ดังกล่าวนี้เป็นคนละเรื่องกับการดูหมิ่นศาล ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 การโต้แย้งคัดค้านไม่ใช่การดูหมิ่นศาลอย่างแน่นอน ตัวอย่างเช่น เมื่อผมเป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดนครราชสีมา เมื่อพ.ศ.2513 มีคำฟ้องอุทธรณ์เรื่องหนึ่งทนายจำเลยเรียงอุทธรณ์คำพิพากษาของผมตอนหนึ่งว่า “พยานโจทก์อย่างนี้มีแต่เด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเท่านั้นที่จะเชื่อและลงโทษจำเลย” ถ้อยคำดังกล่าวนี้มีผู้พิพากษาบางท่านเห็นว่าเป็นคำกล่าวที่เป็นการ “ดูหมิ่น”ศาลไม่ควรรับอุทธรณ์ ควรสั่งให้ไปแก้ไขใหม่ และถ้าเป็นไปได้ควรแจ้งดำเนินคดีกับทนายความคนนั้นในข้อหา “ดูหมิ่นศาล” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา198ด้วย แต่ผมเห็นว่าเป็นเหตุผลที่ทนายจำเลยอ้างเพื่อประกอบการพิจารณาพิพากษาของศาลอุทธรณ์ เป็นเหตุที่ทนายจำเลยให้เพื่อ “คัดค้าน”คำพิพากษาของศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 211 ยังไม่ถึงขั้น “ดูหมิ่น”ศาล ผมจึงรับอุทธรณ์ของจำเลย ผมเห็นว่าต้อง “ตรวจสอบ” คำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะไปสร้างความศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้พ้นจากการตรวจสอบ โดยเอาไปผูกไว้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงย่อมอยู่พ้นไปจากการถูกตรวจสอบเช่นกัน
ตามที่บทความกล่าว เพราะตามกฎหมายและตามข้อเท็จจริงศาลยุติธรรมถูกตรวจสอบอยู่ทุกวันดังกราบเรียนข้างต้น
2.แล้วเหตุผลใด ผู้พิพากษาหรือศาลยุติธรรมจึงนำตนเองเข้าไปผูกไว้กับสถาบันพระมหากษัตริย์
ทำไปเพื่ออะไร
เหตุทำไปก็เพราะเห็นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นยิ่งใหญ่ กฎหมายรัฐธรรมนูญบัญญัติว่าสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น “อยู่ในฐานะที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้”คนที่ยังยึดติดอยู่กับอำนาจนิยม ยังยึดติดกับระบบเจ้าขุนมูลนายซึ่งเป็นระบบการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ก็พร่ำเพ้ออยากจะอยู่ในฐานะเช่นนั้นบ้าง จึงพยายามอ้างเหตุผลต่างๆ เท่าที่จะหยิบฉวยได้มาแสดงแก่คนทั้งหลาย เมื่อผมเข้าอบรมเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษารุ่น 11 เมื่อพ.ศ. 2511 บรรพตุลาการท่านหนึ่งท่านมีชื่อเสียงมาก มาเปิดอบรมและกล่าวอบรมตอนหนึ่งว่า “คุณต้องภูมิใจว่าคุณเป็นข้าราชการฝ่ายเดียวที่ทำใน “พระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์” แสดงว่าท่านผู้นั้นไปหยิบฉวยเอากฎหมายรัฐธรรมนูญที่บัญญัติว่า ผู้พิพากษาและตุลาการพิจารณาพิพากษาคดีใน “พระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์” ว่าเป็นบทบัญญัติ ”พิเศษ” ยกฐานะของผู้พิพากษาและตุลาการให้เป็นคนหรือข้าราชการฝ่าย “พิเศษ” ต่อมาก็มีการขยายความ ขยายเหตุผลต่อไปว่า ศาลเป็นตัวแทนของพระมหากษัตริย์ ซึ่งทำให้ผู้พิพากษาและตุลาการทั้งหลายคิดและพยายามให้คนอื่นคิดว่าผู้พิพากษาและตุลาการเป็นข้าราชการฝ่ายพิเศษจริงๆเพื่ออะไร ก็เพื่อสนอง ภวตัณหา
คือความอยากมี อยากเป็น อยากใหญ่ ซึ่งก็เป็นธรรมดาของคนที่เป็นคน ไม่ใช่พระที่เป็นพระ
และเมื่อยกรัฐธรรมนูญขึ้นอ้างเช่นนี้ก็เห็นว่าเป็นเหตุผลที่สมใจนึกของผู้พิพากษาและตุลาการทั้งหลาย และคนอื่นก็ไม่กล้าโต้แย้งด้วย คนที่ไม่รู้ก็ไม่รู้จะโต้แย้งอย่างไร คนที่รู้ก็ไม่อยากโต้แย้ง เพราะกลัวว่าพูดหรือเขียนมากไปก็อาจจะเข้าใกล้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทุกอย่างก็เลยตามเลย ผู้พิพากษาตุลาการทั้งหลายก็ใหญ่โตสมใจพากันยืดอกยกไหล่ คนอื่นก็พากันยกย่อง เช่น กล่าวว่า “ศาลเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน” เป็นต้น ความคิดเช่นนี้แหล่ะครับที่เป็นเหตุให้ศาลแปลคำว่า “ดูหมิ่น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ออกไปอย่างกว้างขวาง ขัดกับหลักการตีความกฎหมายอาญา และปฏิบัติต่อผู้ต้องหา หรือจำเลยในคดีอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตร 112 ขัดกับรัฐธรรมนูญ อย่างที่เห็นๆ กันอยู่ เพราะคิดว่าตนเป็นตัวแทนนั้นเอง และเป็นที่เห็นกันอยู่ว่าในการพิจารณาคดีอาญาดังกล่าว ผู้พิพากษามีอคติ 4 ประการ อยู่ในตัวอย่างบริบูรณ์ เมื่อมีอคติย่อมขาดเหตุขาดผล เป็นกลางไม่ได้เมื่อเป็นกลางไม่ได้ก็เป็นผู้พิพากษาที่ดีในคดีนั้นไม่ได้ ผลก็คือตกต่ำ ร่วงโรย เหมือนดวงจันทร์ข้างแรม ดังที่คัมภีร์อินทรภาษได้กล่าวถึงไว้ ถ้าไม่เชื่อท่านผู้อ่านไปฟังการอภิปรายที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกที่ “ประชาชน” เขาจัดทุกวันอาทิตย์ซีครับ
ความคิดเช่นนี้ สะท้อนให้เห็นจากบทสักวาที่ผู้พิพากษาคนหนึ่งได้เขียนไว้ที่กำแพง ห้องนอนเวร ที่กระทรวงยุติธรรม เมื่อครั้งยังมีระเบียบ ให้ผู้พิพากษา “นอนเวร “ ว่า
สิ้นคิดแล้วหรือเจ้ามาเฝ้าศาล
กลางวันทำในนามพระภูบาล
กลางคืนทำงานเหมือนภารโรง
เมื่อข้อความดังกล่าวรู้ไปถึงปลัดกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้น ท่านคงจะเห็นด้วยกับข้อเขียนนั้น ท่านจึงสั่งให้ยกเลิกระเบียบดังกล่าว โดยให้ผู้พิพากษาเสียเงินเป็นค่าตอบแทนข้าราชการธุรการมานอนเวรแทน คนละ 10 บาทต่อเดือน แทนการมาอยู่เวรด้วยตนเอง
ด้วยเหตุผลนี้ผมจึงเห็นว่า การเอาตัวไปผูกไว้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็เพราะความ
”อยากใหญ่” ซึ่งก็เป็นธรรมดาของคน รวมทั้งผมด้วย ไม่ใช่ต้องการให้พ้นไปจากการถูกตรวจสอบดังที่บทความกล่าวแต่อย่างใด เพราะผู้พิพากษารู้ดีว่าถูกตรวจสอบอยู่ทุกวันอยู่แล้ว ตามเหตุผลในข้อ 1
ถ้าจะว่าไปแล้ว คนเกือบจะทุกคนในประเทศนี้ที่ถูกปกครองด้วยระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มานานนับพันปี ซึมซับแนวความคิดในระบบดังกล่าวมาจนยากที่จะถอน จึงอยากจะผูกตัวเองไว้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์และความยิ่งใหญ่สมกับกิเลสตัณหาของตน เหมือนกับผม แต่ยังหาเหตุผลไม่ได้เหมือนผมเท่านั้นเอง
ถ้าจะให้ผมเสนอวิธีแก้ก็คือ ให้เพิ่มในรัฐธรรมนูญอีกหนึ่งมาตราว่า “ประชาชนนั้นยิ่งใหญ่ เพราะเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย จึงเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้” ผู้พิพากษาและตุลาการทั้งหลายก็อาจเปลี่ยนใจ คิดใหม่ ทำใหม่ว่า “ผู้พิพากษาและตุลาการเป็นผู้แทนปวงชน”เพราะเงินเดือน เงินประจำตำแหน่งและเงินสวัสดิการอื่นๆ ที่ผู้พิพากษาและตุลาการได้เป็นเงินภาษีของประชาชนทั้งสิ้น จึงจะขอใช้อำนาจตุลาการเพื่อประชาชน
ข้าราชการก็จะพูดว่า ข้าราชการเป็นข้ารับใช้ประชาชน
ฯลฯ
หมัดเด็ด บิ๊กจิ๋ว บทเรียน 66/23 และการแก้ปัญหาบ้านเมืองวันนี้ แล้วจะใช้ได้แค่ไหน????
หมัดเด็ด บิ๊กจิ๋ว บทเรียน 66/23 และการแก้ปัญหาบ้านเมืองวันนี้ แล้วจะใช้ได้แค่ไหน????
เพิ่งได้เห็นวิดีโอ การสังหารโหดสัตว์นับ 500000 ตัว ในเนปาล ก่อนเกิดแผ่นดินไหว
เพิ่งได้เห็นภาพวิดีโอเต็ม ๆ การฆ่าสัตว์สังเวยเจ้าแม่ศักดิ์สิทธิ์
หากเชื่อเรื่องบาปกรรม มันก็อดคิดไม่ได้นะครับ
สัตว์นับห้าแสนตัว... ถูกสังหารพร้อมกัน
...
แผ่นดินไหว... คนตายพร้อมกันเรือนหมื่น
เบื้องลึก เบื้องหลัง(บ้าน) กับการ "ล้มละลาย" ของการบินไทย??
มีพี่น้องฝากข่าวกระซิบมา เลยอยากให้พี่น้องเอาไปพิจารณา และศึกษา สืบค้นต่อครับ
(ข้อความตามที่ได้รับมา)
ข่าวจากโต๊ะบริหารการบินไทย กว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ว. ช่วยไม่ไดกับสังคมที่ขาด EQ.
เปิดปมลับผู้หญิงชื่อ "เพ็ญลักษณ์" ภรรยาพลเอกธนศักดิ์ จิตปฎิมาปกรณ์ คือตัวเชื่อมสำคัญสาเหตุที่ทำให้ บริษัทการบินไทยไปเข้าร่วมกับกองทัพไทยช่วยกันป่วนม้อบกปปส.จนวันนี้การบินไทยต้องอยู่ในสภาพล้มละลาย ผู้บริหารการบินไทยจำนวนหนึ่งยอมรับพลาดท่าให้เพ็ญลักษณ์ใช้องกรบริษัทป่วนกรุง โดยเพ็ญลักษณ์อ้างทำเพื่อชนชั้นสูงคนหนึ่งแล้วยุยงให้เกลียดชนชั้นสูงอีกฟากหนึ่ง จนเกิดการยึดอำนาจของทหาร ประยุทธ์-ธนศักดิ์ (สามีเพ็ญลักษณ์) ผงาดได้ประโยชน์สูงสุดได้ตำแหน่งดีๆ เพ็ญลักษณ์นั่งแท่นเสวยสุข จากการล้อบบี้ผู้บริหารการบินไทยมาแสวงหาประโยชน์เพื่อตัวเอง และใช้ผู้บริหารการบินไทยที่ไม่มีวิสัยทัศน์ในทางการเมืองมากำหนดยุทธศาสตร์ทางธุรกิจจึงนำองค์กรเข้าสู่ความขัดแย้งทางการเมือง โดยมีนางเพ็ญลักษณ์ใช้ความที่เป็นภรรยาพลเอกธนศักดิ์อดีตเคยเป็นพนักงานการบินไทยเก่าจึงมีพรรคพวกที่ยังอยู่เป็นผู้บริหารมาเป็นตัวเชื่อมนำการบินไทยและกองทัพไทยไปอุดหนุนม้อบพุทธอิสระในทางลับ ) จนเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงด้านธุรกิจของบริษัท หนเป็นภาระต่องบประมาณแผ่นดินที่นำบริษัทไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง ทำให้บริษัทไม่ได้มาตราฐานจนต่างชาติไม่ยอมรับ บทเรียนผู้บริหารการบินไทยที่ไม่ทันเกมส์เมียทหารตัวแสบที่เหยียบซากปรักหักพังของการบินไทยแล้วยังเหยียบบ่าพนักงานการบินไทยทุกคนขึ้นไปใหญ่พร้อมสามี โดยพลเอกธนศักดิ์ได้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศที่พูดจากวนตีนในเวทีโลกมากที่สุดบอกว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบแล้ว
ข่าววงใน ตัวกินป่าที่แท้ ก็คือรากเหง้าศักดินาไทย และผู้ร่วมก่อกรรม (ที่บังเอิญสนับสนุน กปปส. อย่างออกหน้า)
มีข่าววงในฝากมา ...ให้พี่น้องช่วยไปตรวจสอบ สืบค้น เพิ่มเติมหน่อยนะครับ จริงหรือไม่?
เจ้าของโนเบิ้ลกรุ๊ฟ เป็นเจ้าของเดียวกับโครงการคีรีมายา เขาใหญ่ ปากช่องเจ้าของชื่อนายธนา ธนกิจอำนวย เป็นลูกเขยนายอำนาย วีรวรรณ ครอบครัวเดียวกับ บอยถกลเกียรติ บิ๋กบสอนของเอกแซก ขาใหญ่ละครเวทีไฮโซ มีลูกชายห้าวเป้ง คือนาย นัท ณ นกหวีด พวกนี้ยิ่งใหญ่ผุดโครงการต่างๆภายใต้เส้นสายอิงอำมาตย์ของแท้ ถึงได้ยกครอบครัวไปม้อบกปปส.หมดบ้าน เพราะธุรกิจของพวกเขาไม่ง้อคนรากหญ้า สร้างบ้านให้คนรวยอยู่ จึงมีที่ดินหลายแปลงอยู่ภูเขาสวยๆหลายลูก เรียกว่า ดำเนินรอยตามลีลา ที่เขาสอยดาว เริ่มแรกออกเอกสารสิทธิ์เป็นของหม่อมเจ้าหญิงคนหนึ่ง สมัยนั้นท่านหญิงปิ๋มยิ่งใหญ่มาก ๆ กว่าแม่ศรีรัศม์หลายเท่าและถนัดกับการทำมาหากินที่ดินบนภูเขามาก ป่าแถบสอยดาวที่ถูกบุกรุกจนได้เอกสารมานั้นได้ถูกขายต่อให้ธนาคารกรุงเทพ แม้ว่าจะถูกตั้งข้อหาหลายครั้งคนในกระบวนการซื้อขายเปลี่ยนมือจึงไม่ถูกจัดการด้วยกระบวนการยุติธรรม มีแต่ได้ดิบได้ดีกันเป็นส่วนใหญ ( ข้อมูลแสดงในเอกสารสิทธิ์ และ หน้าที่การงานของผู้ดำเนินการในเอกสารนั้น) ถ้าจะตรวจเอกสารกันจริงๆ จะรู้ว่าท่านผู้หญิงปิ๋มแม่หม่อมโสมคือแลนด์ลอร์ดตัวบุกรุกที่บนเขาหลายแห่งของประเทศไทย ของอย่างนี้มันปิดไม่มิดรอวันพวกมึงฉิบหายประชาชนจะได้เห็นอะไรดีๆ ( รวมทั้งสมเด็จย่าสังวาลย์ก็ได้สิทธิ์พิเศษบุกรุกดอยตุงด้วยนะ)
เรื่องนี้เองถาม ดาวน์พงศ์ ว่าจะจัดการอย่างไร
เจ้าของโนเบิ้ลกรุ๊ฟ เป็นเจ้าของเดียวกับโครงการคีรีมายา เขาใหญ่ ปากช่องเจ้าของชื่อนายธนา ธนกิจอำนวย เป็นลูกเขยนายอำนาย วีรวรรณ ครอบครัวเดียวกับ บอยถกลเกียรติ บิ๋กบสอนของเอกแซก ขาใหญ่ละครเวทีไฮโซ มีลูกชายห้าวเป้ง คือนาย นัท ณ นกหวีด พวกนี้ยิ่งใหญ่ผุดโครงการต่างๆภายใต้เส้นสายอิงอำมาตย์ของแท้ ถึงได้ยกครอบครัวไปม้อบกปปส.หมดบ้าน เพราะธุรกิจของพวกเขาไม่ง้อคนรากหญ้า สร้างบ้านให้คนรวยอยู่ จึงมีที่ดินหลายแปลงอยู่ภูเขาสวยๆหลายลูก เรียกว่า ดำเนินรอยตามลีลา ที่เขาสอยดาว เริ่มแรกออกเอกสารสิทธิ์เป็นของหม่อมเจ้าหญิงคนหนึ่ง สมัยนั้นท่านหญิงปิ๋มยิ่งใหญ่มาก ๆ กว่าแม่ศรีรัศม์หลายเท่าและถนัดกับการทำมาหากินที่ดินบนภูเขามาก ป่าแถบสอยดาวที่ถูกบุกรุกจนได้เอกสารมานั้นได้ถูกขายต่อให้ธนาคารกรุงเทพ แม้ว่าจะถูกตั้งข้อหาหลายครั้งคนในกระบวนการซื้อขายเปลี่ยนมือจึงไม่ถูกจัดการด้วยกระบวนการยุติธรรม มีแต่ได้ดิบได้ดีกันเป็นส่วนใหญ ( ข้อมูลแสดงในเอกสารสิทธิ์ และ หน้าที่การงานของผู้ดำเนินการในเอกสารนั้น) ถ้าจะตรวจเอกสารกันจริงๆ จะรู้ว่าท่านผู้หญิงปิ๋มแม่หม่อมโสมคือแลนด์ลอร์ดตัวบุกรุกที่บนเขาหลายแห่งของประเทศไทย ของอย่างนี้มันปิดไม่มิดรอวันพวกมึงฉิบหายประชาชนจะได้เห็นอะไรดีๆ ( รวมทั้งสมเด็จย่าสังวาลย์ก็ได้สิทธิ์พิเศษบุกรุกดอยตุงด้วยนะ)
เรื่องนี้เองถาม ดาวน์พงศ์ ว่าจะจัดการอย่างไร
Labels:
กปปส.,
การจัดการทรัพยากรของชาติ,
การปล้นประเทศ,
ระบบศักดินาไทย
บัญชีหนังสุนัขผลกรรม สุเทพ เทือกสุบรรณ ห้วง 35 ปี ในฐานะนักการเมือง ประชาธิปัตย์!!
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
http://pantip.com/topic/31230808
เผยกลโกง สุเทพ เทือกสุบรรณ 35ปีในสังกัดประชาธิปัตย์
Posted by รวมคลิปเด็ด V.2 on Saturday, March 21, 2015
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา... ทรมาณสังขารกันทำไมหนอ???
Tuesday, April 28, 2015
Monday, April 27, 2015
คลิปแนะนำโดยอธิการบดีมหาวิทยาลัยประชาชน: คลิปที่จะทำลายความอำนาจของ หยดเหงื่อที่ปลายจมูก ยิ่งกว่าวาทกรรมสมเด็จเจียม!!!
คลิปแนะนำ: คลิปที่จะทำลายความอำนาจของ หยดเหงื่อที่ปลายจมูก ยิ่งกว่าวาทกรรมสมเด็จเจียม!!!
x
การยึดอำนาจประชาชน แล้วไปทำโครงการขายชาติ ถูกกฎหมายสากลหรือไม่? คนไทยทวงคืนได้ไหม?
คุณ ประยุทธ กับ คสช. และคณะ จะจัดสร้างทางรถไฟ โดยเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนไทย และดึงเอา จีน ญี่ปุ่น หรือแม้แต่ชาติในยุโรป หรือสหรัฐฯ เข้ามาร่วมทุนจัดสร้าง ทำได้แน่หรือ? โดยชอบด้วยกฏหมายระหว่างประเทศ
นี่คือคำตอบ:
อย่าเอ็ดไปครับ คุณใช้ Convention Against Transnational Crime, Sept. 2003 ที่นานาชาติ เริ่มลงนามและให้สัตยาบันกันในปีค.ศ.๒๐๐๐ และประเทศนี้ไปให้สัตยาบันในปีค.ศ.๒๐๑๓ มาเป็นเครื่องมือ ในการป้องกันชาติ มิให้ถูกปล้นได้ครับ
นี่คือคำตอบ:
อย่าเอ็ดไปครับ คุณใช้ Convention Against Transnational Crime, Sept. 2003 ที่นานาชาติ เริ่มลงนามและให้สัตยาบันกันในปีค.ศ.๒๐๐๐ และประเทศนี้ไปให้สัตยาบันในปีค.ศ.๒๐๑๓ มาเป็นเครื่องมือ ในการป้องกันชาติ มิให้ถูกปล้นได้ครับ
สิทธิเหนือรางรถไฟ เป็นสิทธิที่เกี่ยวกับ อธิปัตย์ เป็นของราษฏรทุกๆคนในประเทศนี้ เมื่อจะยกสิทธิเหนือรางรถไฟ ให้ใครๆไป ต้องทำตาม กติกาสากล (ระหว่างประเทศ) ว่าด้วย สิทธิพลเมือง และ สิทธิในทางการเมือง ปีค.ศ.๑๙๖๖ ที่ประเทศนี้ไปประกาศเข้าร่วมเป็นรัฐคู่ภาคีสมาชิก มาตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๓๙ มีผลบังคับทั่วไปต่อประเทศไทย ในวันที่ ๑ มกราคม ปีพ.ศ. ๒๕๔๐ และ ยังต้องบังคับตามกติกาสากล (ระหว่างประเทศ) ว่าด้วย สิทธิในทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ปีค.ศ.๑๙๖๖ ที่ประเทศไทย ไปประกาศขอเข้า เป็นรัฐคู่ภาคีในปีพ.ศ.๒๕๔๐ มีผลบังคับทั่วไปต่อประเทศไทยในวันที่ ๑ มกราคม ปีพ.ศ.๒๕๔๑ บทบัญญัติที่ ๑ ของสนธิสัญญาทั้งสอง คือ สิทธิที่ราษฎร ต้องใช้อัตวินิจฉัยของตนเอง หรือ Right to Self - Determination คุณประยุทธฯกับพวกคือ คสช. กับ คณะไม่ใช่เจ้าของคนเดียวผูกขาด ในสิทธินี้!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เมื่อกระทำการยึดอำนาจ ขัด หรือ แย้งกับ Convention Against Corruption, 2003 การยึดอำนาจ หรือ รัฐประหารตกเป็นโมฆะ บนที่ราบแห่งนานาชาติ (International Plane)
ทำอะไรต่อไป ก็เข้าตามองค์ประกอบของบทบัญญัติที่ ๑ และ ๒ ของ Convention Against Transnational Organized Crime, Sept. 2003 มีผลบังคับไทยมาแต่ปีค.ศ.๒๐๐๐ เพราะไทย ให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญานี้ ในเดือนตุลาคม ปีค.ศ.๒๐๑๓ ต้องส่งย้อนหลังตามหลักการของกฏหมายระหว่างประเทศ
การให้สิทธิเหนือรางรถไฟ จึงทำไม่ได้ เพราะไม่ใช่สิทธิของ คสช. กับคณะ แต่เป็นของประชาชนคนไทยทุกๆคน คสช.กับคณะทั้งหมด ไปก่อภาระผูกพันใดๆต่อประเทศชาติ และประชาชน โดยไม่ถามประชาชนทุกๆคนในประเทศไม่ได้ เพราะกระทำการขัดหลักการของ กฏหมายระหว่างประเทศ อันมีที่มาจากสนธิสัญญา (Obligation derives from the Law of Treaties) คน ที่เข้ามาจัดสร้าง ไม่ว่า จีน หรือ ญี่ปุ่น หรือชาติใดๆ อยากลองเสี่ยงกับโมฆะกรรม ก็ลองดู ไม่มีใครว่า? เพราะเป็นเรื่องของ พี่น้องประชาชนคนไทยทุกๆคนจริง ไม่ว่าเขา จะอยู่ในมุมใดของโลก เขาคือเจ้าของสิทธิในการอัตวินิจฉัย หรือ Right to Self - Determination ตัวจริง
ผู้ที่กระทำการฝ่าฝืนความของ สนธิสัญญาทั้งสองข้างต้น ล้วนมีความรับผิดในทางอาญาระหว่างประเทศ เป็นรายบุคคล
ใครอยากทำอะไรแบบแถๆ หรือ ฝ่าฝืน? ก็ลองของได้ Convention Against Corruption, 2003 ก็ดี Convention Against Transnational Organized Crime, Sept. 2004 ล้วนเป็นสนธิสัญญา ที่ก่อตั้งสิทธิในการดำเนินคดีในทางอาญา ให้แก่ราษฎร ที่ต้องตกเป็นผู้เสียหาย
การจะเที่ยวไปอ้างว่า "เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์สาธารณ หรือ ความมั่นคงของชาติ ล้วนเป็นไปเพื่อจะใช้สิทธิของราษฎร หรือ แทนราษฎร ที่เขามีอยู่ตามกติการะหว่างประเทศทั้งสองข้างต้น ไม่อาจกระทำได้
ราษฎร เขาต้องทำด้วยตัวเขาเอง ผ่านกรรมวิธีประชามติ ที่ถูกต้องสมบูรณ์ ภายใต้กฏหมายระหว่างประเทศ ที่พัฒนาแล้ว" เอวัง ก็มีด้วยประการ ฉะนี้.
เมื่อกระทำการยึดอำนาจ ขัด หรือ แย้งกับ Convention Against Corruption, 2003 การยึดอำนาจ หรือ รัฐประหารตกเป็นโมฆะ บนที่ราบแห่งนานาชาติ (International Plane)
ทำอะไรต่อไป ก็เข้าตามองค์ประกอบของบทบัญญัติที่ ๑ และ ๒ ของ Convention Against Transnational Organized Crime, Sept. 2003 มีผลบังคับไทยมาแต่ปีค.ศ.๒๐๐๐ เพราะไทย ให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญานี้ ในเดือนตุลาคม ปีค.ศ.๒๐๑๓ ต้องส่งย้อนหลังตามหลักการของกฏหมายระหว่างประเทศ
การให้สิทธิเหนือรางรถไฟ จึงทำไม่ได้ เพราะไม่ใช่สิทธิของ คสช. กับคณะ แต่เป็นของประชาชนคนไทยทุกๆคน คสช.กับคณะทั้งหมด ไปก่อภาระผูกพันใดๆต่อประเทศชาติ และประชาชน โดยไม่ถามประชาชนทุกๆคนในประเทศไม่ได้ เพราะกระทำการขัดหลักการของ กฏหมายระหว่างประเทศ อันมีที่มาจากสนธิสัญญา (Obligation derives from the Law of Treaties) คน ที่เข้ามาจัดสร้าง ไม่ว่า จีน หรือ ญี่ปุ่น หรือชาติใดๆ อยากลองเสี่ยงกับโมฆะกรรม ก็ลองดู ไม่มีใครว่า? เพราะเป็นเรื่องของ พี่น้องประชาชนคนไทยทุกๆคนจริง ไม่ว่าเขา จะอยู่ในมุมใดของโลก เขาคือเจ้าของสิทธิในการอัตวินิจฉัย หรือ Right to Self - Determination ตัวจริง
ผู้ที่กระทำการฝ่าฝืนความของ สนธิสัญญาทั้งสองข้างต้น ล้วนมีความรับผิดในทางอาญาระหว่างประเทศ เป็นรายบุคคล
ใครอยากทำอะไรแบบแถๆ หรือ ฝ่าฝืน? ก็ลองของได้ Convention Against Corruption, 2003 ก็ดี Convention Against Transnational Organized Crime, Sept. 2004 ล้วนเป็นสนธิสัญญา ที่ก่อตั้งสิทธิในการดำเนินคดีในทางอาญา ให้แก่ราษฎร ที่ต้องตกเป็นผู้เสียหาย
การจะเที่ยวไปอ้างว่า "เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์สาธารณ หรือ ความมั่นคงของชาติ ล้วนเป็นไปเพื่อจะใช้สิทธิของราษฎร หรือ แทนราษฎร ที่เขามีอยู่ตามกติการะหว่างประเทศทั้งสองข้างต้น ไม่อาจกระทำได้
ราษฎร เขาต้องทำด้วยตัวเขาเอง ผ่านกรรมวิธีประชามติ ที่ถูกต้องสมบูรณ์ ภายใต้กฏหมายระหว่างประเทศ ที่พัฒนาแล้ว" เอวัง ก็มีด้วยประการ ฉะนี้.
รวมบทสนทนา คุณจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ในโอกาสครบรอบ 10 เดือน การก่อตั้งเสรีไทยฯ จาก Stanford University
รวมบทสนทนา คุณจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ในโอกาสครบรอบ 10 เดือน การก่อตั้งเสรีไทยฯ จาก Stanford University
แถมด้วยรายการทางออกประเทศไทยล่าสุด 27 เมษายน 2558
ดร.เพียงดิน เกริ่นนำ เบื้องหลังการสัมภาษณ์
ตอนหนึ่ง ปัญหาของประเทศไทย
ตอนสอง เบื้องหลังเบื้องลึกการล้มอำนาจประชาชน
ตอนสาม (สองส่วน) เกมรัฐธรรมนูญโจร กับการแตกหัก ที่ประชาชนเลี่ยงไม่ได้
ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์ -ดร.เพียงดิน รักไทย ทาง นปช.ยูเอสเอและมหาวิทยาลัยประชาชน
ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์ -ดร.เพียงดิน รักไทย ทาง นปช.ยูเอสเอและมหาวิทยาลัยประชาชน
เจาะลึก ทุนสามานย์ผูกขาดสายเจ้าไทย ซีพี ...กับการข่มขืนประเทศและคนไทยแบบเบ็ดเสร็จ
วันก่อนเอาเรื่องสนธิ ลิ้มฯ ชำแหละซีพีอย่างหนัก วันนี้กระแสข่าวและกระแสวิพากษ์วิจารณ์มาแรงมาก จึงขอยกมาให้พี่น้องอ่านเป็นข้อมูลครับ
ซีพีตะครุบเทสโกโลตัสคืน 3 แสนล้านแล้วยึดค้าปลีกไทยเบ็ดเสร็จ
เป็นเรื่องที่คาดไว้ล่วงหน้าแล้ว และก็เป็นกระแสข่าวที่หนาหูทั้งในและต่างประเทศ ที่คุณธนินทร์ เจียรวนนท์ CEO ของซีพี เตรียมประกาศซื้อTesco Lotus ในไทยอย่างเป็นทางการด้วยเงิน 3 แสนล้าน
มีการวิเคราะห์ว่าสถานการณ์ธุรกิจการเกษตร ค้าปลีกนั้น เท่ากับเครื่อเจริญโภคภัณฑ์กรุ๊ป หรือ CP คุมการเกษตรทั้ง ข้าว หมู ไก่ กุ้ง อาหารสัตว์ ปุ๋ย พืชพลังงาน นอกจากนั้นยังคุมเทคโนโลยี่สื่อสาร ทั้งโทรบ้าน โทรมือถือ internet และมีสื่อในมือ คือ truevision สรุปคือ CP จะคุมระบบค้าปลีกค้าส่งทั้ง modern trade และ traditional trade ครบวงจร มี 7-11 ส่วนห้างค้าปลีก ค้าส่ง makro และ Lotus
ก่อนหน้านี้คอลัมน์ Market-Think ของสรกล อดุลยานนท์ เรื่อง CP BANK? ในประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ก็วิเคราะห์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าข่าว "เซเว่นอีเลฟเว่น" และกลุ่มทรู ซื้อหุ้น LH BANK จากกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เป็นจริง เราคงได้เห็น "เกมใหม่" ในแวดวงการเงิน เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา "ซีพี" มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหลายครั้ง ครั้งแรก คือ การเข้าซื้อหุ้นของ "ผิงอัน" บริษัทประกันรายใหญ่ของจีน ซึ่งเสน่ห์ของ "ผิงอัน" คือ เงินสดจากเบี้ยประกันที่นอนนิ่งอยู่ในบริษัท
ครั้งที่สอง คือ การซื้อ "แม็คโคร" ของ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ทำให้ "ซีพี" กลายเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการค้าส่งและค้าปลีกและครั้งที่สาม คือ การดึง "ไชน่าโมบาย" ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน มาถือหุ้นใน "ทรู" ดังนั้น หาก "ทรู" และ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ซื้อ LH BANK จริง จะเป็นการเคลื่อนตัวทางยุทธศาสตร์ของ "ซีพี" ครั้งที่4 ในรอบ 2 ปี เพราะเซเว่นอีเลฟเว่น มีสาขาอยู่ 8,000 สาขา เป็นทำเลที่ดีที่สุดสำหรับตู้เอทีเอ็ม มี "เคาน์เตอร์เซอร์วิส" ที่สามารถรับจ่าย รับโอน รับจองตั๋ว ที่มีประสิทธิภาพยิ่ง
สรุปยอดรายได้เมื่อปีที่แล้ว รายได้ของ "เซเว่นอีเลฟเว่น" 284,760 ล้านบาท แมคโคร 129,780 ล้านบาท รวมกันเป็นตัวเลขกลม ๆ ประมาณ 410,000 ล้านบาท หรือเดือนละ 34,000 ล้านบาท เมื่อรวมโลตัสเข้าไปอีกรายได้ก็จะเพิ่มขึ้นแตะ 5 แสนล้านบาทในอนาคตไม่ยากนัก
ดังนั้นการซื้อเทสโก้โลตัสครั้งนี้จึงเป็นก้าวเดินการเทคโอเวอร์ครั้งที่ 4 ก่อนที่จะไปซื้อ L&H แบงก์ในอีกไม่นานเป็นก้าวที่ 5
กลายเป็นเบอร์ที่เท่าไรของโลกไม่แน่ใจ แต่จำได้เคยมีใครพูดว่า ผมสนับสนุนนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาล มีอะไรผมรับผิดชอบเอง ประเทศเสียหายไปหลายแสนล้านบาท ทำไมเงียบเป็นเป่าสากเลย
เถ้าแก่CPเชียร์นโยบาย ค่าแรงสูง กับราคาข้าวสูง (2 สูง)
ผลก็เป็นอย่างนี้ที่เห็น เศร้า
เศรษฐีไทยที่มารวยระยะ 50 ปีหลังนี้ส่วนใหญ่ อาศัยอำนาจรัฐไปผูกขาด หรือเอื้ออำนวยธุรกิจตัวเอง ใครฯก็คิดกินรวบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ แต่ในระบบเศรษฐกิจเสรี ไม่ง่ายที่ใครสามารถทำได้ อย่างแน่ๆรัฐบาลไม่ยอม อเมริกาถึงกับออกกม.anti trust ขัดขวางการกินรวบเช่นนี้
ถ้าท่านธนินทร์แน่อย่างที่ทำในเมืองไทย ทำไมธุรกิจที่ฮ่องกง จีน จึงไม่เก่งแบบที่นี้ makro ที่จีนไม่ทำกำไร จะล่มเอา ธุรกิจเรื่องไก่ก็ไม่แน่แบบ ที่นี้ รายย่อยทำได้ถูกกว่า สู้เขาไม่ได้ ทุกธุรกิจที่ทำนอกประเทศแค่อยู่รอด เมื่อไม่มีอำนาจรัฐหนุน ท่านก็เป็นแมวน้อยเชื่องฯตัวหนึ่งเท่านั้น
สำหรับผม ธุรกิจไทยที่แน่จริงข้ามโลกคือกระทิงแดงเท่านั้น เพราะแข่งกับเขามือเปล่า ไม่มีรัฐช่วย
มีอีก จำได้หรือไม่ว่าใครสนับสนุนให้รัฐบาลทักษิณปลูกยางในทุกภาค เพื่อส่งไปขายจีน โดยบอกว่าเป็น นํ้ามันบนดิน และเดินสายพูดเรื่องนี้อยู่หลายปี พอยางล้นตลาดราคาตก เงียบเลย ไม่เห็นแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย นี่เป็นอีกเรื่องของคุณธนินทร์ คนไทยไม่ได้ลืมง่ายหรอก
สมัยก่อนตอนทำ 7-11 ใหม่ๆ CP ไม่อยากเสี่ยง ก็ชวนคนเข้ามาลงทุนหาซื้อที่ดินทำเลดีๆ พร้อมสร้างอาคารแล้วมาเปิด 7-11 เอาของ CP ไปขาย คนลงทุนก็ไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน หวังกินกำไรจากที่ CP แบ่งให้บ้าง
ต่อมาระยะหนึ่ง CP ก็เล็งเฉพาะร้านที่ยอดขายสูง กำไรงาม แล้วเข้าไปเสนอซื้อคืนเพื่อ CP จะทำเอง ร้านไหนยอมขายก็จบไป ร้านไหนไม่ขาย CP ลงทุนเอง เปิดร้านใหม่ในทำเลนั้น แข่งกันไปเลย เอาแบบให้เจ๊งไปข้างหนึ่ง
ถ้าร้านนั้นไม่ขาย มันก็จะซื้อที่ใกล้ๆ ออกมาตั้งแล้วแข่งกับเจ้าเดิม หน้าปากซอยบ้านผม มี 7-11 3ร้าน แต่ละร้านห่างกันไม่ถึง 50 เมตร
คนที่คิดกินรวบทุกอย่าง ต้องพึ่งพาใช้อำนาจรัฐ ทำให้สังคมเมืองและ ชนบทเป็นทาสมันตลอดการ ฆ่าคนในสังคมทั้งเป็น อย่างนี้หรือ เป็นคนที่น่ายกย่อง
คำพูดดูสวยหรู แต่ในใจ เราจะอยู่กับชาวไร่ชาวนา ชาวสวน และ ผู้เลี้ยงสัตว์ อย่างพันธมิตร โดยกูจะใช้สัญญาทาส มาควบคุมให้พวกมึงเป็นหนี้กูตลอดไป
กูมีแต่ได้กับได้ บริษัทอื่นเจ๊งหมด โดยเฉพาะ ร้านค้า sme ทั้งหลาย
สนับสนุนเลี้ยงไก่ ไข่ ปลูกยางแล้วกูจะเป็นพ่อค้าคนกลางดูดเงินจากพวกมึงอีกที
ทุกวันนี้ เขาอาศัยอำนาจรัฐ สร้างเงื่อนไขให้รัฐบาลอนุมัติธุรกิจที่กำไรง่ายฯมากฯให้กับร้าน 7-11 เช่น นาโนแบงคิ้ง ขายยา ขายล็อตเตอรี่ ตอนนี้ก็แย่งขายกาแฟสดกับร้านกาแฟแล้ว
ทุกอย่างอาศัยอำนาจรัฐทั้งนั้น เจ้าตำรับ 7-11 ญี่ปุ่นยังต้องงงงวย มันทำได้อย่างไร
ตอนมี 7-11 ใหม่ๆ คนขับรถลูกน้องเพื่อนลาออก เอาบ้านไปจำนอง ดาวน์รถปิ๊คอัพ ไปวิ่ง fleet logistics ให้ 7-11 แค่ 1-2 ปี Volume 7-11 สูงมาก CP เลิกจ้าง ทำ logistics เอง ลูกน้องเพื่อน บ้านติดจำนอง รถยังผ่อนไม่หมด ถูกลอยแพ นี่แหละวิธีการสร้างอาณาจักรธุรกิจของCP อาศัยคนอื่นลงทุนเสี่ยงขาดทุน แต่หากได้กำไรดีจะ Take over
เฟสบุ๊ก Pat Hemasuk
ระบบการค้าที่ไร้จริยธรรมหวังเพียงผลกำไรนั้นจะทำลายสังคมไม่ต่างกับฝูงตั๊กแตนที่ลงกินไร่จนหมดแล้วบินจากไปกินไร่อื่นต่อ แต่ถ้าเป็นการค้าที่ไม่ได้ข้ามชาติแล้วยังใช้ระบบฝูงตั๊กแตนกินไร่ในการทำธุรกิจ ฝูงตั๊กแตนจะต้องอดตายไปพร้อมกับไร่นั้น
ซีพี ก็เช่นกัน ถ้ากินประเทศไทยจนหมดแล้วก็คงต้องตายไปพร้อมกับประเทศ เพราะ ซีพี เองเคยผันตัวเองออกไปทำธุรกิจข้ามชาติแล้วไปไม่รอด เพราะรัฐบาลประเทศนั้นๆต่างก็ดูแลไม่ให้เกิดการผูกขาดขึ้นในประเทศของตัวเอง ถ้าผิดจากแนวทางถนัดของ ซีพี ก็จะแข่งขันแบบเป็นธรรมกับใครไม่เป็น
เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงประเทศแม็กซิโกและอาเจนติน่าที่โดนระบบการค้าทุนสูงเข้าถล่มอุตสาหกรรมเษตรของตัวเองจนล่มสลายมาแล้ว จนทำให้เกษตรกรกลายมาเป็นแรงงานราคาถูกไร้อนาคตจากอาชญากรรมทางเศรษฐกิจโดยอำนาจทุนที่เหนือกว่าเข้ากำหนดตลาดจนเกษตรกรรายย่อยอยู่ไม่ได้ หลายสิบปีผ่านไปทั้งชุมชนและวัฒนธรรมของประเทศเปลี่ยนไปแบบที่เรียกกลับมาเหมือนเดิมอีกไม่ได้ บ้านแตกสาแหรกขาด คนหนุ่มสาวในบ้านต้องออกไปขายแรงงานทิ้งเด็กและคนแก่ไว้ที่บ้านแทนที่จะทำการเกษตรเหมือนสมัยเก่าอยู่กันครบหน้ากับครอบครัว
มันคืออาชญากรรมทางเศรษฐกิจ โดยอำนาจทุนที่เหนือกว่าสมคบกับนักการเมืองที่ไม่ทำหน้าที่ปกป้องประชาชนของตัวเอง ทำลายรากฐานของประเทศจนสังคมดั่งเดิมของประชาชนอยู่ไม่ได้
ทุกวันนี้ประเทศไทยกับแม็กซิโกจะคล้ายกันที่สินค้าการเกษตรถูกคุมตลาดจากบริษัทที่ผูกขาด จนทำให้เกษตรกรกลายเป็นกรรมกรแรงงานบนที่ดินของตัวเอง เม็ดพันธุ์ แม่พันธุ์ ปุ๋ย อาหารสัตว์ ยาฆ่าแมลง จนถึงการบังคับทำสัญญาขายผลผลิตที่เกือบไม่เหลือเงินกำไร ขณะที่สังคมพื้นบ้านของเกษตรกรอ่อนแอลงไปทุกขณะ บริษัทผูกขาดก็กำไรมากขึ้นจนกลายเป็นบริษัทอันดับหนึ่งของประเทศที่รัฐบาลทุกรัฐบาลต้องเกรงใจ
ทั้งที่รัฐบาลเองก็สามารถออกกฎหมายผูกขาดทางการค้าออกมาใช้ปกป้องประชาชนได้ แต่ก็ไม่มีรัฐบาลไหนเลยที่ออกมาทำกฎหมายนี้เพื่อบังคับใช้เพื่อหยุดการปล้นประชาชนทั้งประเทศแบบผูกขาด
ในสังคมเมืองเองก็ใช่ว่าจะรอดพ้นจากการผูกขาดโดยบริษัทใหญ่แบบนี้ ในแม็กซิโกเองห้างสรรพสินค้าใหญ่อย่างวอลล์มาร์ทเข้าไปผูกขาดการค้าปลีกค้าส่งไปจนคลุมทั้งพื้นที่จนหมด ไม่ต่างอะไรกับที่ห้างสรรพสินค้าแคร์ฟูเข้าครองการค้าปลีกและส่งของอาเจนติน่า จนมีอำนาจผูกขาดโดยสมบูรณ์ที่สามารถกำหนดส่วนแบ่งทางกำไร 85%-15% ระหว่างห้างและเกษตรกรหรือผู้ค้าส่งสินค้าเข้าห้างจนเกษตรกรและผู้ค้ารายย่อยอยู่ไม่ได้
ทุกวันนี้สังคมเมืองของประเทศไทยก็ไม่ต่างกัน ผู้ค้ารายย่อยถึงกับต้องปิดตัวเองลงทั้งหมดเมื่อมีร้านสะดวกซื้อของ ซีพี เข้าไปตั้ง ซึ่งกินตลาดเข้าไประดับล่างจนถึงร้านอาหารที่ต้องสู้กับอาหารกล่อง ไปจนแม้แต่รถเข็นหมูปิ้งก็ยังต้องสะเทือนที่ร้านสะดวกซื้อของ ซีพี ก็ขายหมูปิ้งเช่นกัน แม้กระทั่งธุรกิจพื้นฐานแบบซักรีด ซีพี ก็เข้าไปจับตลาดในร้านสะดวกซื้ออีกแล้ว อุตสาหกรรมพื้นฐานหลายอย่างที่ส่งสินค้าเข้าไปขายก็โดนแย่งตลาดโดยมีของที่ห้างโลตัสและซีพี ผลิตติดตราของตัวเองออกมาแข่งบนหิ้งเดียวกันแต่ราคาถูกกว่า แล้วไล่สินค้ายี่ห้อดั่งเดิมออกไปวางที่หิ้งหลังร้านแทน
เวลานี้ทั้ง เทสโก้โลตัส และ แม็กโคร ก็โดนซื้อจาก ซีพี ไปเรียบร้อยแล้วจะบอกว่าการค้าส่งและค้าปลีกเกือบทั้งประเทศ อยู่ในกำมือของบริษัทเดียวก็ว่าได้ การแข่งขันราคาสินค้าก็หมดไป จะตั้งราคาบวกกำไรอย่างไรก็ได้เพราะทุกอย่างอยู่ในมือหมดแล้วไม่ต่างกับแม็กซิโกและอาเจนติน่า นอกจากธุรกิจการสื่อสาร ผู้ให้บริการเครือข่า่ยโทรศัพท์นับล้านหมายเลข เคเบิลทีวีรายใหญ่ที่สุด เวลานี้ ซีพี บุกเข้าจับธุรกิจ ลอจิสติกส์ส่งของแข่งกับไปรษณีย์ไทย และกำลังจะมีธนาคารของตัวเองที่ทำธุรกรรมการเงินได้ในร้านสะดวกซื้อตลอด 24ชั่วโมง สามารถออกเครดิตการจับจ่ายได้จนถึงระดับล่าง และในเวลานี้กำลังมีความสนใจจะเข้าไปจับการลงทุนในระบบรถไฟระบบใหม่ที่กำลังจะสร้างอีก
ประเทศไทยยังเหลืออะไรอีก ตั้งแต่สังคมพื้นฐานเกษตรกรก็โดน ซีพี เข้าคุมกลไกทั้งหมดตั้งแต่ การผลิต การตลาด ทั้งซื้อและขาย จนเกษตรกรกลายเป็นกรรมกรราคาถูกรับจ้างปลูกหรือผลิตในที่ดินของตัวเอง สังคมพื้นฐานในเมืองก็โดนแทรกแซงการค้าปลีกจนไม่เหลือร้านค้าปลีกประจำถิ่นอีกต่อไปแล้ว สังคมพื้นฐานอุตสาหกรรมการผลิตรายย่อยก็โดนแทรกแซงจากการกีดกันสินค้า ลอกเลียนสินค้าออกขายแข่ง แม้กระทั่ง ถล่มราคาขายถูกกว่าทุนจนรายย่อยอยู่ไม่ได้ แล้วก็ขึ้นราคากลับสู่ปกติเมื่อไร้คู่แข่งแล้ว
รวมถึงปัญหาทำลายสิ่งแวดล้อมสนับสนุนทางอ้อมให้เกษตรกรบุกพื้นที่ป่าชุมชนที่เป็นพื้นที่ภูเขาเพื่อปลูกข้าวโพดและเผาซากไร่เก่าจนปัญหาควันไฟกลายเป็นปัญหาใหญ่ แม้กระทั่งสนับสนุนประมงอวนรุนผิดกฎหมายทางอ้อมที่ทำลายตัวอ่อนของสัตว์น้ำโดยรับซื้อปลาเล็กปลาน้อยที่ยังไม่โตเต็มวัยมาเข้าโรงงานทำอาหารสัตว์
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมารัฐบาลและนักแสวงโชคทางการเมืองที่เปลี่ยนหน้ากันขึ้นมาบริหารประเทศจะมองไม่เห็นไม่รับรู้ผลกระทบทางด้าน เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการเมือง จากการผูกขาดการค้าของ ซีพี แต่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนจัดการกับปัญหาการผูกขาดอันนี้ ทั้งที่ประเทศเจริญแล้วที่มีกฎหมายดูแลประชาชนดีๆ เขามีกฎหมายป้องกันการผูกขาดการค้าทั้งนั้น ไม่ปล่อยให้บริษัทไหนหรือตระกูลใดกำอนาคตทางธุรกิจผูกขาดทั้งประเทศจนยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อคือ คนไทยมีเลือดนักสู้ไม่เหมือนคน แม็กซิกัน หรือ อาเจนไตน์ ที่คนไทยจะออกมาสู้ก่อนที่หลังจะชนฝา สักวันในเร็วๆนี้ถ้า ซีพี ยังทำเรื่องเอาเปรียบสังคมออกมาเรื่อยๆ วันนั้นคนไทยอาจจะลุกขึ้นมาสู้กับ ซีพี ..... ถ้ารัฐบาลยังพึ่งไม่ได้ แม้แต่รัฐบาลทหารปัจจุบันนี้ก็ตาม ถ้าไม่จัดการเรื่องนี้ ผมคิดว่าประชาชนอาจจะต้องจับมือกันลุกขึ้นมาจัดการธุรกิจผูกขาดกันเอง
(ภิรมย์ ศรีจันทร์:ประเทศไทยมี พรบ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542ใช้บังคับอยู่นานแล้ว มีบทบัญญัติที่จะนำมาใช้แก้ไขได้ แต่ไม่เคยมีรัฐบาลใดทำ จะเป็นอย่างที่ว่ากันหรือไม่ว่า CP ไม่ได้มีแค่อำนาจเหนือตลาดเท่านั้น แต่มีอำนาจเหนือรัฐบาลทุกรัฐบาลอีกด้วย)
Subscribe to:
Posts (Atom)