Wednesday, December 10, 2025

คลังคำไทยที่มักสะกดผิด – สำหรับฝึกความจำให้คนไทยทุกรุ่น

ภาพประกอบชวนขำกลิ้ง คลังคำไทยที่มักสะกดผิด – สำหรับฝึกความจำให้คนไทยทุกรุ่น

คลังคำไทยที่มักสะกดผิด

ภาษาไทยนี่ทำตัวเหมือนเจ้าเมืองโบราณ: มีทั้งพยัญชนะสามหมู่ สระลอยได้ การันต์ฆ่าตัวอักษร ทับศัพท์ต่างภาษา แถมยังเล่นเสียงวรรณยุกต์อีกต่างหาก คนเขียนเลยมักถูก “หลอกใช้” ให้สะกดผิดอยู่เรื่อย ๆ

ยิ่งคำที่มาจากบาลี–สันสกฤต–เขมร กับคำทับศัพท์ดิจิทัลทั้งหลาย ยิ่งสร้างกรรมให้คนพิมพ์หนักเข้าไปอีก – สระจะวางตรงไหน การันต์จะกดทับตัวไหน ราชบัณฑิตฯ ว่ายังไงก็อีกเรื่องหนึ่ง ภาษาไทยไม่เคยใจดีกับคนเขียนสักเท่าไร – มีทั้งเสียงวรรณยุกต์ พยัญชนะหลายหมู่ สระล้อมหน้า–หลัง การันต์ฆ่าตัวอักษร

แถมยังรับแขกจากบาลี สันสกฤต เขมร และภาษาอังกฤษมาอยู่ร่วมบ้านกันอย่างไร้ระเบียบ

ตารางนี้ทำมาเพื่อ “ขยี้สายตา” และช่วยให้ความจำของเรากับภาษาไทยสนิทกันมากขึ้น จะใช้สอนนักเรียน ทบทวนเอง หรือแอบเอาไว้เช็กเวลาพิมพ์โพสต์ก็ได้ทั้งนั้น

หมายเหตุ: คอลัมน์ “มักเขียนผิดเป็น” เป็นเพียงตัวอย่างรูปแบบที่พบเจอบ่อย ไม่ได้รวบรวมครบทุกแบบที่ผิด และบางคำมีรูปสะกดที่ยอมรับได้มากกว่าหนึ่งแบบในบริบทเฉพาะ (ชื่อคน ชื่อสถานที่ ฯลฯ)

รายการคำที่มักสะกดผิด (อย่างน้อย 90 รายการให้ฝึกจำ)

เขียนให้เป๊ะ – ไม่ต้องเกรงใจอาจารย์ภาษาไทย
# เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น หมวด / ชนิดคำ
1 กงสุล กงศุล ศัพท์ราชการ
2 กฎหมาย กฏหมาย ศัพท์กฎหมาย
3 กฎ กฏ คำทั่วไป
4 กบฏ กบฎ, กบถ การเมือง/ประวัติศาสตร์
5 กงเกวียนกำเกวียน กงกำกงเกวียน, กงกรรมกงเกวียน สำนวน
6 กะทันหัน กระทันหัน คำทั่วไป
7 กะทัดรัด กระทัดรัด คำบรรยาย
8 กระจิริด กะจิดริด คำบรรยาย
9 กิจจะลักษณะ กิจลักษณะ บาลี–สันสกฤต
10 กิตติมศักดิ์ กิตติมาศักดิ์, กิติมศักดิ์ ยศ/ตำแหน่ง
11 กาลเทศะ กาละเทศะ บาลี–สันสกฤต
12 เกษียณ เกษียน คำราชการ
13 เกียรติ เกียรติ์ คำทั่วไป
14 ขะมักเขม้น ขมักเขม้น คำบรรยาย
15 ขี้เกียจ ขี้เกลียด, ขี้เกียด คำทั่วไป
16 ข้าวเหนียวมูน ข้าวเหนียวมูล อาหาร
17 คลินิก คลินิค, คลีนิก แพทย์/สุขภาพ
18 คำนวณ คำนวน วิชาการ
19 ครองราชย์ ครองราช ประวัติศาสตร์
20 มัคคุเทศก์ มัคคุเทศน์ ท่องเที่ยว
21 นะคะ นะค่ะ คำลงท้ายสุภาพ
22 กูเกิล กูเกิ้ล ทับศัพท์แบรนด์
23 เฟซบุ๊ก เฟสบุ๊ค ทับศัพท์แบรนด์
24 กดไลก์ กดไลค์ โซเชียลมีเดีย
25 อัปเดต อัพเดท, อัปเดท ไอที/ดิจิทัล
26 อัปโหลด อัพโหลด ไอที/ดิจิทัล
27 ดาวน์โหลด ดาวโหลด ไอที/ดิจิทัล
28 คลิก คลิ๊ก ไอที/ดิจิทัล
29 คอนเทนต์ คอนเท้นต์ สื่อออนไลน์
30 อีเมล อีเมล์, อีเมลล์ สื่อออนไลน์
31 แอปพลิเคชัน แอพพลิเคชั่น ไอที/ดิจิทัล
32 เว็บไซต์ เว็ปไซต์ ไอที/ดิจิทัล
33 อีบุ๊ก อีบุ๊ค สื่อดิจิทัล
34 ดิจิทัล ดิจิตอล ไอที/ดิจิทัล
35 วิดีโอ วีดิโอ สื่อดิจิทัล
36 ลิงก์ ลิงค์ ไอที/ดิจิทัล
37 บล็อก บล็อค สื่อออนไลน์
38 โปรโมชัน โปรโมชั่น การตลาด
39 เวิร์กชอป เวิร์คช็อป การอบรม
40 อินเทอร์เน็ต อินเตอร์เน็ต ไอที/ดิจิทัล
41 แพ็กเกจ แพ็คเกจ การตลาด
42 โพรเจกต์ โปรเจค งาน/โครงการ
43 ซีรีส์ ซีรีย์ สื่อบันเทิง
44 ล็อกอิน ล็อคอิน ไอที/ดิจิทัล
45 แพลตฟอร์ม แพลทฟอร์ม ไอที/ดิจิทัล
46 แฮชแท็ก แฮชแท็ค โซเชียลมีเดีย
47 เวอร์ชัน เวอร์ชั่น ไอที/ดิจิทัล
48 เกม เกมส์ สื่อบันเทิง
49 อัลกอริทึม อัลกอรึทึ่ม, อัลกอรึทึม วิทยาการคอมพิวเตอร์
50 อาร์ตเวิร์ก อาร์ทเวิร์ค ดีไซน์/สื่อ
51 ลิขสิทธิ์ ลิขสิทธ์, ลิขสิทธิ กฎหมาย/ธุรกิจ
52 ไข่มุก ไข่มุข คำทั่วไป
53 จตุปัจจัย จัตุปัจจัย บาลี–สันสกฤต
54 นานัปการ นานับประการ คำบรรยาย
55 ประจัญบาน ประจันบาน สำนวน
56 ปะรำพิธี ปะรัมพิธี พิธีการ
57 เผ่าพันธุ์ เผ่าพันธ์ คำวิชาการ
58 พหูสูต พหูสูตร บาลี–สันสกฤต
59 ร้างรา ร้างลา สำนวน
60 ลิดรอน ริดรอน คำกฎหมาย/สิทธิ
61 รังเกียจเดียดฉันท์ รังเกียจเดียจฉัน คำวิชาการ
62 เลือนราง เลือนลาง คำบรรยาย
63 โล่ โล่ห์ คำทั่วไป
64 วิปลาส วิปลาศ คำวิชาการ
65 ศีรษะ ศรีษะ กายวิภาค
66 สมเพช สมเพศ อารมณ์/ความรู้สึก
67 สาธารณสมบัติ สาธารณะสมบัติ กฎหมาย/สิทธิ
68 สาปแช่ง สาบแช่ง คำทั่วไป
69 สาสน์ สาร์น ราชการ/หนังสือ
70 เส้นทแยง เส้นทะแยง คณิตศาสตร์
71 สัมภาษณ์ สัมภาสน์, สัมภาษ สื่อ/งานวิชาการ
72 อนุญาต อนุญาติ กฎหมาย/ราชการ
73 อเนกประสงค์ เอนกประสงค์ คำบรรยาย
74 อัตคัด อัตคัต คำบรรยาย
75 อำนาจบาตรใหญ่ อำนาจบาทใหญ่ การเมือง/สังคม
76 อุทธรณ์ อุทรณ์ กฎหมาย
77 อุทาหรณ์ อุดทาหรณ์ คำวิชาการ
78 อุปการคุณ อุปการะคุณ คำสุภาพ
79 อุโมงค์ อุโมง, อุโมงก์ คำทั่วไป
80 โอกาส โอกาศ คำทั่วไป
81 ไอศกรีม ไอศครีม อาหาร/ขนม
82 ก็ ก้อ ภาษาพูดเขียนกันเล่น
83 เกม เกมส์ สื่อบันเทิง
84 แก๊ง แก๊งค์, แก๊งก์ ภาษาทั่วไป
85 กลยุทธ์ กลยุทธิ์, กลยุทธ บริหาร/การตลาด
86 พิมพ์ พิม การเขียน/พิมพ์
87 เซ็นชื่อ เซ็นต์ชื่อ ธุรการ
88 สังเขป สังเขบ งานเขียน/สรุป
89 สังเกต สังเกตุ คำทั่วไป
90 โปรไฟล์ โพร์ไฟล์ สื่อออนไลน์
91 ก๊อปปี้ ก็อปปี้ ภาษาพูด/ดิจิทัล
92 เสิร์ช เซิร์ช ดิจิทัล/SEO
93 สคริปต์ สคริปท์ สื่อ/การพูด
94 แบล็กลิสต์ แบล็คลิสต์ ธุรกิจ/การเงิน
95 แผนการ แผนการณ์ คำทั่วไป

เคล็ดลับการใช้ตารางนี้: อ่านคอลัมน์ “เขียนถูก” ช้า ๆ ให้ตาและสมองจดจำรูปคำ แล้วค่อยไล่ดูคอลัมน์ “มักเขียนผิดเป็น” ว่าตัวเองเคยตกหลุมพรางคำไหนบ้าง ยิ่งจับผิดตัวเองได้มากเท่าไร ความจำด้านภาษาไทยยิ่งแข็งแรงเท่านั้น

จากปากกระบอกปืนสู่รัฐธรรมนูญ 2560: การสถาปนาระบอบกึ่งเผด็จการในนามของ ‘ความมั่นคง

จากปากกระบอกปืนสู่รัฐธรรมนูญ 2560: การสถาปนาระบอบกึ่งเผด็จการในนามของ ‘ความมั่นคง’

จากปากกระบอกปืนสู่รัฐธรรมนูญ 2560: การสถาปนาระบอบกึ่งเผด็จการในนามของ ‘ความมั่นคง’

บทวิเคราะห์เชิงโครงสร้างต่อการจัดวางอำนาจและผลสะเทือนต่อประชาธิปไตยไทยร่วมสมัย

การรัฐประหารไม่ใช่เพียงเหตุการณ์ยึดอำนาจในช่วงเวลาหนึ่ง แต่คือการประกาศว่ากระบวนการทางการเมืองที่ยึดโยงกับประชาชน ถูก “พัก” ไว้โดยผู้มีอำนาจนอกระบบในนามของการแก้ไขวิกฤต การเคลื่อนอำนาจเช่นนี้ส่งผลให้สถาบันที่เคยอยู่บนฐานของฉันทามติสาธารณะ ถูกแทนที่ด้วยโครงสร้างที่ยึดโยงกับอำนาจแบบรวมศูนย์ การจัดวางเช่นนี้ปรากฏให้เห็นชัดในช่วงเปลี่ยนผ่านรัชกาล ซึ่งต้องการเสถียรภาพทางการเมืองอย่างยิ่งยวด และทำให้การรัฐประหารทำหน้าที่เป็น “สะพานเฉพาะกิจ” ที่ขยายตัวเป็นระบอบยาวนานเกินกว่าที่มีการประกาศไว้ในตอนต้น.

วัตถุประสงค์ของบทความนี้ คือการอธิบายโครงสร้าง กลไก และผลสะเทือนของยุคหลังรัฐประหาร ผ่านแนววิเคราะห์เชิงสถาบัน โดยแยกความเข้าใจจากอารมณ์ทางการเมือง เพื่อให้เห็น “ชั้นกลไก” มากกว่าการเห็นเพียง “เหตุการณ์”.

1. ปากกระบอกปืนในฐานะจุดเริ่มต้นของระเบียบอำนาจใหม่

รัฐประหารทำหน้าที่มากกว่าการเปลี่ยนรัฐบาล เนื่องจากเป็นกระบวนการที่สลับศูนย์อำนาจจากระบบที่มีตัวแทนประชาชน ไปสู่ระบบที่อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ในมือของคณะบุคคลกลุ่มเล็ก การถือครองอำนาจโดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง ทำให้รัฐสามารถบริหารประเทศได้โดยไม่ต้องอ้างอิงต่อฉันทามติของสังคมหรือกระบวนการถ่วงดุลเชิงสถาบัน.

บริบททางการเมืองในปี 2557 ซึ่งเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งยืดเยื้อและสภาวะเปลี่ยนผ่านรัชกาล ทำให้การใช้อำนาจพิเศษกลายเป็นคำตอบที่กลุ่มผู้ถืออำนาจมองว่า “เหมาะสมที่สุดในเชิงยุทธศาสตร์” แม้จะลดทอนความยึดโยงทางประชาธิปไตยลงโดยสิ้นเชิง.

ผลลัพธ์ไม่ใช่เพียงการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ แต่คือการรีเซตระบบนิติบัญญัติ การกำกับราชการแผ่นดิน และการจัดความสัมพันธ์เชิงอำนาจในรัฐไทยใหม่ทั้งหมด ทำให้สถาบันประชาธิปไตยในระบอบรัฐสภา ไม่สามารถทำหน้าที่ตามปกติได้.

2. มาตรา 44: กลไกกฎหมายที่ทำหน้าที่แทนอำนาจเบ็ดเสร็จ

มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ทำหน้าที่เป็น “สภานิติบัญญัติ ศาล และฝ่ายบริหารรวมอยู่ในคนเดียว” เพราะให้อำนาจหัวหน้า คสช. ตัดสินใจทุกประเด็นว่าจำเป็นเพื่อความมั่นคงหรือไม่ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบเชิงสถาบันที่รัฐสมัยใหม่พึงมี.

เครื่องมือเช่นนี้ทำให้การออกนโยบายเป็นเรื่องของดุลยพินิจส่วนบุคคล มากกว่ากระบวนการทางเหตุผลสาธารณะ (public reason) ซึ่งลดทอนความโปร่งใสและเพิ่มความเสี่ยงต่อความผิดพลาดเชิงนโยบายในระดับโครงสร้าง.

มาตรา 44 ยังสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้สังคมไทยที่อันตรายในเชิงหลักการ คือความคิดที่ว่า “ความรวดเร็วเหนือเหตุผล” เป็นข้ออ้างที่เพียงพอในการหลีกเลี่ยงกระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการเปลี่ยนวัฒนธรรมทางการปกครองไปสู่โมเดลอำนาจนิยมภายใต้กฎหมาย.

3. การจำกัดสิทธิมนุษยชนและการสร้างวัฒนธรรมแห่งความเงียบ

ยุคหลังรัฐประหารถูกบันทึกโดยนักวิจัยด้านสิทธิมนุษยชนว่าเป็นช่วงเวลาที่กลไกรัฐถูกใช้เพื่อควบคุมพื้นที่สาธารณะอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นการเชิญตัวบุคคล การดำเนินคดีทางการเมือง การใช้ศาลทหารกับพลเรือน หรือการจำกัดเสรีภาพการชุมนุมอย่างกว้างขวาง.

บรรยากาศเช่นนี้ไม่ได้สร้างผลกระทบเฉพาะรายบุคคล แต่ทำให้สังคมเกิด “self-censorship” ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการลดทอนเสรีภาพที่ทรงพลังที่สุด เพราะการจำกัดตนเองนั้นฝังลึกและยากต่อการคลี่คลาย.

ผลในระยะยาวคือความเสื่อมถอยของความสามารถในการตรวจสอบอำนาจรัฐโดยสื่อ นักวิชาการ และภาคประชาชน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของประชาธิปไตยที่ทำงานอย่างมีคุณภาพ.

4. เศรษฐกิจภายใต้ความไม่แน่นอนของอำนาจรวมศูนย์

อำนาจที่รวมศูนย์มากเกินไปทำให้เกิดสภาวะ “policy unpredictability” หรือความไม่แน่นอนด้านนโยบาย ซึ่งเป็นปัจจัยที่นักเศรษฐศาสตร์การเมืองยืนยันว่า มีผลกระทบโดยตรงต่อการตัดสินใจลงทุนของเอกชนทั้งในและต่างประเทศ.

การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วงหลังรัฐประหารที่ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หากเป็นผลสะท้อนของโครงสร้างที่ไม่เปิดให้การแข่งขันเกิดขึ้นได้อย่างเป็นธรรม รวมถึงการเอื้อประโยชน์แก่ทุนบางกลุ่มที่มีสายสัมพันธ์กับผู้มีอำนาจ.

ความเหลื่อมล้ำระหว่างธุรกิจขนาดใหญ่และผู้ประกอบการรายย่อยยังเพิ่มขึ้น เพราะระบบที่ขาดการตรวจสอบทำให้กลไกตลาดไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ และส่งผลให้ผลิตภาพของเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว.

5. รัฐธรรมนูญ 2560: สถาปัตยกรรมของการสืบทอดอำนาจทางกฎหมาย

รัฐธรรมนูญ 2560 ได้จัดวาง “จุดยุทธศาสตร์” หลายจุดที่ทำให้กลไกประชาธิปไตยอ่อนแอลงอย่างถาวร แม้จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในภายหลัง เช่น ระบบวุฒิสภาแต่งตั้ง การคิดคะแนนแบบลดทอนความได้เปรียบของพรรคใหญ่ และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่ผูกมัดการตัดสินใจของรัฐบาลทุกชุด.

นักรัฐศาสตร์จำนวนมากจัดระบอบประเภทนี้ไว้ในหมวดหมู่ hybrid regime หรือ competitive authoritarianism เพราะมีการเลือกตั้ง แต่กลไกการใช้อำนาจจริงถูกกำกับโดยผู้ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง.

ผลที่เกิดขึ้นคือการเมืองแบบที่ประชาชนมีสิทธิเพียงบางชั้น แต่ไม่สามารถกำหนดทิศทางรัฐได้อย่างแท้จริง เนื่องจากโครงสร้างทางกฎหมายถูกออกแบบให้คุมทิศไว้แล้วล่วงหน้า.

6. บทสรุป: ความมั่นคงที่กันประชาชนออกจากศูนย์กลางของรัฐ

เมื่อพิจารณาผลรวมทั้งหมด เราพบรูปแบบร่วมกันอย่างหนึ่ง คือการตีความ “ความมั่นคง” ในแบบที่ทำให้ประชาชนห่างจากการมีส่วนร่วมในรัฐมากขึ้น ขณะที่กลุ่มอำนาจที่ไม่ได้ผ่านการเลือกตั้ง มีบทบาทกำกับประเทศมากขึ้น.

ผลสะสมคือความเสื่อมถอยของกลไกตรวจสอบ การล่มสลายของพื้นที่สาธารณะสำหรับการอภิปรายเหตุผล และการคงอยู่อย่างยืดเยื้อของโครงสร้างอำนาจแบบรวมศูนย์ ซึ่งขัดต่อหลักพื้นฐานของประชาธิปไตยสมัยใหม่.

หากประชาชนคือหัวใจของรัฐสมัยใหม่ ระบอบที่ถือกำเนิดจากปืนย่อมไม่อาจทำให้ประชาชนอยู่ในศูนย์กลางได้อย่างแท้จริง.

คลังคำไทยที่มักสะกดผิด – สำหรับฝึกความจำให้คนไทยทุกรุ่น

ภาพประกอบชวนขำกลิ้ง คลังคำไทยที่มักสะกดผิด – สำหรับฝึกความจำให้คนไทยทุกรุ่น คลังคำไทยที่มักสะกดผิด ภาษาไทยน...