ยินดีต้อนรับ
พลเมืองที่รอบรู้เท่าทัน คือ พลังประชาธิปไตยที่แท้จริง
Well-informed citizens are the true democratic forces.
Thursday, March 12, 2015
การฆ่าประชาชน เพื่อกษัตริย์ภูมิพล???
ทำไมการสังหารหมู่ประชาชน จึงเกิดขึ้นบ่อยครั้งในรัชกาลที่เก้า
แต่คนกลับมองไม่เห็นว่า ใครคือตัวการเบื้องหลังมาตลอด
ทำไมเหยื่อ มันเป็นประชาชนที่เรียกร้องหาประชาธิปไตย
หรือนี่คือสงคราม ราชาธิปไตย vs. ประชาชนที่ใฝ่ประชาธิปไตย มาตลอด?
ลองดูวิดีโอ แล้วตรองด้วยสติปัญญาของท่านเอง
ยิ้มกลางสายฝน cover song โดย ดร.เพียงดิน รักไทย ให้กำลังใจ มดแดงล้มช้าง ทั่วทุกมุมโลก
ยิ้มกลางสายฝน cover song โดย ดร.เพียงดิน รักไทย ให้กำลังใจ มดแดงล้มช้าง ทั่วทุกมุมโลก
http://youtu.be/CgMpAfRTklU
มดแดงล้มช้าง คืออะไร? ทำไมวันนี้ คนไทยควรใส่ใจทฤษฎีปฏิวัตินี้
มดแดงล้มช้าง คืออะไร? ทำไมวันนี้ คนไทยควรใส่ใจทฤษฎีปฏิวัตินี้
มดแดงล้มช้างคืออะไร?
“มดแดงล้มช้าง รักประเทศไทย ใฝ่สามัคคี มีเหตุผล ฝึกฝนเสรีประชาธิปไตย ไล่เผด็จการ ต้านทรราช และตัดวงจรอุบาทว์ให้สิ้นเพื่อลูกหลาน”
อะไรคือมดแดง และอะไรคือช้าง?
มด หมายถึงประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่า เพศ วัย ระดับการศึกษา อาชีพ ทุกสีเสื้อ และทุกเชื้อชาติศาสนา ที่กำเนิดหรือได้รับสัญชาติไทยตามกฎหมาย คนไทยทุกคนมีชะตากรรมร่วมกัน ประเทศชาติเจริญก็ได้อยู่ดีมีสุขร่วมกัน ประเทศล่มจมก็ได้รับผลเสียหายพร้อมกัน เหมือนพี่น้องร่วมชะตากรรมบนเรือลำเดียวกันกลางคลื่นมหาสมุทรใหญ่ แต่คนไทยส่วนหนึ่งลืมว่า เราเป็นพี่น้องกัน เป็นคนเหมือนกัน อยากได้ อยากเป็น อยากมีเหมือนกัน มีหัวใจรู้สึกเจ็บ สุข เศร้า สนุก กตัญญูและคลั่งแค้นเป็นเหมือนกัน คนบางส่วนลืมว่าตนเองคือใคร และไม่สนคนผู้ต่ำต้อยกว่า เพราะได้เปรียบจากระบบที่เป็นอยู่ บางส่วนอิ่มกับเศษผลประโยชน์ที่ได้รับจากคนที่จัดการระบบบนเรือลำนี้ ก็ทำกร่างและกีดกัน เกลียดชังคนอื่น บางคนก็ยินดีเป็นตีนเป็นมือให้คนที่ยึดอำนาจไปอุปโลกครอง ยอมทำตามที่เขาให้ทำ โดยไม่ได้สำนึกว่า ตนเองกำลังเป็นทาสรับใช้ระบอบที่ไร้ธรรม ซึ่งจะนำไปสู่การขัดแย้ง เสียหาย และการล่มสลายของความมั่งคั่งของผู้กดขี่และประเทศชาติจะกระทบกระเทือน เป็นปัญหาของชาติที่เรากำลังเผชิญอยู่ในวันนี้ ราวกับว่าพวกนี้รวมหัวกันทำให้เรือใกล้ล่มไปทุกที
แล้วมดแดงมีลักษณะพิเศษยังไงล่ะ? ช้างมันคืออะไรกันแน่?
ชาวมดแดง คือพี่น้องคนไทยทุกหมู่เหล่า ที่ตระหนักดีถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของบ้านเมือง แล้วเชื่อว่า คนไทยทุกคนมีพลังสำหรับการเปลี่ยนแปลงในตัว และจะต้องลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ทำได้ แล้วรวมพลังกันให้เกิดผลที่ยิ่งใหญ่? เมื่อคุณฝึกฝนวิชามดแดงแล้ว คุณจะเป็นชาวมดแดงที่ใฝ่เรียนรู้ ใจกว้าง รักสามัคคีกันบนหลักเหตุผล ไม่ชอบลัทธิไสยศาสตร์ ไม่ชอบการกดขี่ข่มเหง ไม่ชอบความตอแหล ไม่ชอบนักการเมืองเห็นแก่ตัว ไม่หยาบคายก้าวร้าวแบบไร้อารยธรรม ชอบที่จะใช้ชีวิตอย่างมีเสรีภาพภายใต้ความเสมอภาคตามกฎหมายและระบบต่าง ๆ บนความสันติสุขแบบพี่น้องร่วมชาติ พร้อมกับทำสิ่งสร้างสรรค์ ทำประเทศให้วัฒนาถาวรทุก ๆ ด้านที่ทำได้
สิ่งสำคัญยิ่งก็คือ มดแดง เป็นผู้แสวงปัญญา จึงมองเห็นพิษภัยของวงจรอุบาทว์ อันเกิดขึ้นและตั้งอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่ไม่บริสุทธิ์ ถูกกลุ่มผลประโยชน์หลายกลุ่มจับมือกัน กอบโกย สร้างเครือข่าย กำหนดนโยบายแบ่งปันผลประโยชน์กันในกลุ่ม โดยละเลยประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวไทยส่วนใหญ่ของประเทศ แถมนำไปสู่การกดขี่ข่มเหง และย่ำยีสิทธิพื้นฐานแห่งมนุษยชนที่คนไทยและชาวโลกทุกคนควรได้รับ แล้วใช้ความได้เปรียบในระบอบและระบบเอาดีใส่ตัว โยนชั่วใส่ผู้แสวงหาสัจจะและความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมืองตามระบอบเสรีประชาธิปไตย??? แต่ในขณะที่หลายคนมองเห็นพิษภัยและความต่ำช้าของวงจรอุบาทว์ แล้วก็ท้อบ้าง มองไม่เห็นทางแก้และไม่คิดจะแก้ เพราะคิดว่ามันซับซ้อนเกินไป บางส่วนรอแกนนำ บางส่วนรอพรรคการเมือง บางส่วนต้องดิ้นรนเอาตัวรอดภายใต้ระบอบการปกครองที่ทำให้คนส่วนน้อยรวยแต่อยากให้คนส่วนใหญ่พอเพียง ฯลฯ อยู่นั้น ในทางตรงกันข้าม ชาวมดแดงกลับเห็นว่า การแก้ปัญหาของบ้านเมืองที่กล่าวมาและในอีกหลายมิติที่ไม่ได้กล่าวถึงนั้น ต้องอาศัยแรงของประชาชน คือพลังของมวลมหาประชาชน โดยเกิดจากประชาชนแต่ละคนที่รู้สิทธิพื้นฐานแห่งตน รู้หลักเหตุผลเกี่ยวกับการปกครองและอำนาจสูงสุดของประชาชนในระบอบเสรีประชาธิปไตย และตระหนักดีว่า ตนเองหนึ่งร่าง หนึ่งเสียง มีศักยภาพทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ได้ โดยไม่ไปฝากความหวังไว้กับพรรคการเมือง ระบบราชการ องค์กรใด ๆ หรือแม้แต่แกนนำประชาชนผู้หวังดีจำนวนไม่น้อย โดยพวกเราเหล่ามดแดง จะพยายามมองหาต้นตอปัญหา แล้วพยายามแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือกำจัดเงื่อนไขทั้งมวลแล้วแต่กรณีไป จัดปัญหาให้เป็นหลายมิติ แล้วแก้ไขอย่างเป็นระบบ ขณะเดียวกัน ก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่ากลุ่มใด กลไกใด และยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีใด ที่จะก่อให้เกิดผลยั่งยืนแน่นอน แล้วจึงสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง แต่ไม่เคยลืมว่า อนาคตและอำนาจ มันอยู่ในมือประชาชนทุกคนอยู่แล้ว เพียงพวกเราต้องใช้อำนาจของตนให้เป็น กล้าคิด กล้าทำ กล้าจินตนาการและฝัน แล้วก็รู้จักเรียนรู้ที่จะประสานงานและสร้างเครือข่ายอำนาจของตน เพื่อต่อรองและกุมอำนาจในการกำกับอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการให้ได้โดยเบ็ดเสร็จ ไม่ให้มีเหลือบหรือปลิงเข้าไปซ่อนอยู่ในระบอบแล้วกัดดูด ทำลายความวัฒนาถาวรของระบอบเสรีประชาธิปไตยได้อีก
ดังนั้นมดแดง จึงเป็นผู้ตื่นรู้ ผู้เบิกบาน ผู้แสวงหาอารยธรรม ผู้คิดดี พูดดี และทำดี เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าของตัวเอง คนรอบข้าง และสังคมเสมอ… เมื่อพวกเขาเปลี่ยนแปลงเป็นอารยเสรีชนแล้ว ผู้ปกครองใด ๆ ก็ไม่อาจจะทำร้ายพวกเขาได้อีก พวกเขาจะยอมรับสิ่งชั่วร้ายในวงจรอุบาทว์ไม่ได้อีก เหมือนน้ำไม่ยอมเข้ากับน้ำมัน หรือผู้บริสุทธิ์มังสวิรัติที่ร่างกายไม่ยอมรับเนื้อใด ๆ เข้าไปอีก… มดแดง จึงอยู่บนแนวทางอหิงสาสันติวิธี และสนับสนุนวิธีเหล่านี้ แต่ไม่ใช่ผู้ที่อ่อนด้อยทางปัญญาและไร้เดียงสา พวกมดแดงจึงรู้ว่าจะกำจัดคนชั่วในระดับต่าง ๆ ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่หนักหรือเบา บนดินหรือใต้ดิน อหิงสาแบบรุนแรงหรือไม่รุนแรง ฯลฯ ต่างกันไป เครือข่ายมดแดงที่เต็มบ้านเต็มเมือง จะพูดภาษาเดียวกันโดยไม่ต้องอธิบายกันมาก จะแลกเปลี่ยนข้อมูลความจริงกันแบบไม่มีใครหยุดได้ จะมองตารู้ใจและเคลื่อนไหวแบบมีเป้าหมายโดยไม่ต้องมีการชี้นำทุกก้าว พวกเขาจึงมีศักยภาพเหนือการทำลายล้างของคนโฉดในระบอบและระบบ เหมือนช้างสารที่ไม่สามารถป้องกันหรือทำลายล้างมดแดงได้ ในยามที่มดแดงกระโดดจากต้นไม้ แต่จากหลืบขอน กระโดดจากยอดไผ่ หรือไต่ขึ้นโคนขา เพื่อมุ่งหน้าไปพร้อมใจกันกัดจุดอ่อนและจุดตายของช้างบ้าที่ทำร้ายป่าอันอุดมสมบูรณ์และพืชพันธุ์ที่อาศัยร่วมกันอย่างผาสุก มดแดงทุกตัว เชื่อว่าล้มช้างได้ ต่างรู้ศักยภาพ สิทธิ หน้าที่ และเรียนรู้ที่จะทำสิ่งต่าง ๆ อย่างตื่นรู้ เบิกบาน มีสติ และสร้างสรรค์สิ่งดีและกำจัดสิ่งชั่วร้ายเสมอ… ด้วยตัวเอง และด้วยเครือข่ายที่ทรงพลังชนิดไม่มีใครควบคุมหรือกำจัดได้
ช้าง หมายถึงอะไร
พวกเราใช้ช้างมาอุปมาอุปมัย โดยหยิบยืมมาจากนิทานเก่าแก่ ไม่ได้มีเจตนาแสดงความเกลียดชังช้าง ซึ่งเป็นสัตว์มีประโยชน์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เป็นเพื่อนร่วมโลกกับเรา เราใช้ช้างเป็นสัญลักษณ์ของระบอบและระบบต่าง ๆ ที่มีพลัง อำนาจและศักยภาพทำลายล้างยิ่งใหญ่ หากช้างเหล่านี้ เป็นช้างบ้า หาควานควบคุมไม่ได้ เกเรและมีแต่ทำลายสิ่งรอบตัว เป็นพิษภัยแก่มนุษย์ สัตว์อื่น ๆ และพืชพันธุ์ธัญญาหาร ช้างในบริบทของสังคมไทย จึงหมายถึงความชั่วร้ายในหลายระดับ ภายใต้วงจรอุบาทว์แห่งการรัฐประหาร การเมืองที่ไม่จริงใจกับประชาชน กลุ่มผลประโยชน์ที่รวมหัวกันนอนกิน ปล้นชาติ ผลาญงบประมาณแบบหน้าไม่อาย และความตอแหลโหดร้ายของคนในระบอบทั้งหมด ช้าง จึงไม่ได้หมายถึงคนใดคนหนึ่ง สถาบันใดสถาบันหนึ่ง แต่หมายถึงความชั่วร้ายของหลายสิ่งหลายอย่าง ที่สติปัญญาของชาวมดแดงกำหนดรู้ และเมื่อรวมกันเข้าแล้ว ความชั่วร้ายนี้ อาจจะเปรียบเป็น เท้า งา งวง หู ตา ลำตัว หาง และตับไตใส้พุง หัวใจของช้าง ที่ประกอบกัน ทำให้ช้างนี้กลายเป็นสัตว์บ้า มีอันตรายและไร้ประโยชน์ต่อสันติสุขและความเจริญในอารยธรรมของบ้านเมืองที่เราอยู่ร่วมกัน หากเรากำกับช้างได้ เราก็รักษา ดูแล ล่ามและใช้งานเท่าที่ทำได้ แต่หากมวลมหามดแดงเห็นว่า ช้างบ้าตกมัน ไม่มีทางคืนกลับ และเป็นอันตรายเกินรักษาแล้ว การล้มช้าง จึงเป็นเรื่องที่จักเกิดเองโดยธรรมชาติ และมดแดงทั้งหลายย่อมรู้เองว่า ควรทำอะไรกับใคร เมื่อใด อย่างไร และเพื่ออะไร
การทำลายถาวรวัตถุของศาสนาอื่น อันเป็นมรดกวัฒนธรรมชาวโลก คือความใจแคบของผู้คลั่งศาสนาบางคน
เมื่อปลายปี 2006 ช่วงรัฐประหารในเมืองไทย (ปี 49) ผมได้มีโอกาสไปยืน ณ จุดเกิดเหตุ
ที่เมืองบามิยัน ซึ่งเป็นเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน
และที่แห่งนี้ เคยเป็นฐานอันสำคัญของศาสนาพุทธในอัฟกานิสถานเลยทีเดียว
โดยการทำลายเป็นฝีมือของพวกคลั่งศาสนา ในชื่อกลุ่ม ตาลีบัน
ได้เห็นซากปรักหักพังที่เคยเป็นส่วนประกอบของ the Big Buddha และทราบว่า
ทางยูเนสโก ได้มีความพยายามที่จะสร้างองค์พระขึ้นมาใหม่ โดยใช้วัสดุเดิมที่พอเหลืออยู่
ไม่ทราบว่าวันนี้จะสำเร็จหรือยัง ไม่น่าเชื่อว่า ผ่านไปนับเกือบเก้าปีแล้ว
พอดีเห็นข่าวจากบีบีซี กล่าวถึงเบื้องหลัง... เลยยกมาให้พี่น้องอ่าน เพื่อเป็นความรู้นะครับ
piangdin
เรื่องเล่าจากชายคนหนึ่งที่ถูกบังคับให้ทำลายสมบัติของบ้านเกิด
(เครดิต BBC Thai)
(เครดิต BBC Thai)
เมื่อ 16 ปีก่อนตอนที่กลุ่มตาลีบันเข้ายึดเมืองบามิยันในอัฟกานิสถานได้สำเร็จ หลังจากสู้รบต่อเนื่องกันมาหลายเดือน ทั้งโลกต้องตกตะลึงเมื่อกลุ่มตาลีบันทำลายพระพุทธรูปแห่งบามิยันซึ่งเป็นมรดกโลกที่ทรงคุณค่าและเป็นพระพุทธรูปยืนที่สูงที่สุดในโลก
เมียร์ซา ฮุสเซน หนึ่งในกลุ่มคนที่ถูกกลุ่มตาลีบันจับตัวไว้เป็นนักโทษบอกว่า ตอนนั้นเขาอายุ 26 ปี กลุ่มตาลีบันจับตัวพวกผู้ชายไว้ได้ 25 คน ส่วนคนที่เหลือก็หนีตายไปที่อื่น กลุ่มนักโทษได้รับอาหารวันละน้อยนิด ไม่มีเครื่องนุ่งห่มหรือเครื่องกันหนาวใด ๆ และหากไม่ได้ดั่งใจจะถูกฆ่าทิ้งตอนไหนก็ได้ นั่นก็เพราะชาวเมืองบามิยันส่วนใหญ่เป็นมุสลิมชีอะห์ ซึ่งกลุ่มตาลีบันถือว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจของชาวมุสลิมซุนนีย์
ถัดมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิเมื่อปี 2544 ผู้บัญชาการกลุ่มตาลีบันเริ่มปฏิบัติการทำลายพระพุทธรูปแห่งบามิยัน โดยเริ่มจากการใช้รถถังกราดยิงใส่องค์พระพุทธรูป แต่ก็ไม่ได้ผลมากนัก กลุ่มตาลีบันจึงเริ่มวางแผนใช้ระเบิดแทน
ฮุสเซน เล่าว่า เหล่านักโทษต้องแบกวัตถุระเบิดทั้งหลายเข้าไปยังฐานพระพุทธรูปด้วยมือเปล่า ซึ่งหากผิดพลาดก็ตายได้ง่าย ๆ หรือไม่ก็ถูกกำจัดทิ้ง เขาจำได้ว่ามีนักโทษคนหนึ่งซึ่งขาเจ็บและแบกระเบิดไม่ไหว ผู้คุมก็เลยยิงทิ้งตรงนั้นแล้วบอกให้นักโทษอีกคนลากศพไปทิ้ง
ภารกิจฝังระเบิดนี้ใช้เวลาถึง 3 วันเต็ม ๆ สายไฟระโยงระยางถูกเชื่อมต่อกับตัวบังคับระเบิดซึ่งอยู่ที่มัสยิดที่ใกล้ที่สุด กลุ่มตาลีบันกดระเบิดขณะพร้อมใจกันโห่ร้องว่า “อัลลอฮุ อักบัรฺ” ซึ่งเป็นการกล่าวสรรเสริญว่าพระอัลเลาะห์เจ้าทรงเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
แต่กลุ่มตาลีบันก็ต้องผิดหวังเมื่อพบว่าแรงระเบิดนี้ทำลายได้แค่ขาข้างหนึ่งของพระพุทธรูปเท่านั้น
จากนั้นกลุ่มตาลีบันจึงนำวัตถุระเบิดมาเพิ่มอีก ฮุสเซนบอกว่าวัตถุที่ว่านี้ดูเผิน ๆ เหมือนสบู่ก้อนและมีลักษณะหยุ่น ๆ เหมือนแป้งนวด
แผนการระเบิดครั้งใหม่นี้ กลุ่มตาลีบันใช้วิธีระเบิดวันละ 2-3 ครั้ง ต่อเนื่องกันไปเป็นเวลาทั้งหมด 25 วัน จนกระทั่งไม่เหลือซากของพระพุทธรูปอีกเลย หลังจากนั้นกลุ่มตาลีบันก็เฉลิมฉลองกับความสำเร็จในครั้งนี้ มีการเชือดวัวถึง 9 ตัวเพื่อเป็นการบวงสรวง
ชีวิตของเมียร์ซา ฮุสเซนในวันนี้ เขาเป็นช่างซ่อมจักรยานในเมืองบามิยันบ้านเกิด ถึงแม้เวลาจะผ่านมานานมากแล้ว แต่ความทรงจำอันเลวร้ายนี้ยังแจ่มชัดอยู่ในใจเสมอ เขาบอกว่า ตอนนั้นเขาไม่มีทางเลือกจึงต้องจำใจทำ ซึ่งมันทำให้เขาเสียใจมาก ถึงตอนนี้ก็ยังเสียใจอยู่ และก็คงรู้สึกเสียใจแบบนี้ไปจนตาย
ฮุสเซนกล่าวทิ้งท้ายว่า เขาอยากให้รัฐบาลและชาวต่างชาติช่วยกันระดมทุนเพื่อสร้างพระพุทธรูปแห่งบามิยันขึ้นใหม่ แต่ดูเหมือนความหวังของฮุสเซนคงจะยังไม่เป็นจริงโดยเร็ว เพราะที่ผ่านมาก็มีการถกเถียงกันมาหลายปีแล้วว่าจะสร้างพระพุทธรูปขึ้นใหม่ หรือจะคงสภาพเดิมไว้แบบนี้เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงความหลัง แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเสียที
===============
วันนี้ มีการสร้างใหม่ จนองค์พระเป็นรูปร่าง ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในอนาคตสักวันหนึ่ง เมื่ออัฟกานิสถานกลับสู่สันติสุขอีกครั้ง แต่เมื่อใดล่ะ?
===============
วันนี้ มีการสร้างใหม่ จนองค์พระเป็นรูปร่าง ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในอนาคตสักวันหนึ่ง เมื่ออัฟกานิสถานกลับสู่สันติสุขอีกครั้ง แต่เมื่อใดล่ะ?
รายงานจากนาโต 2011
คนที่หลงไปเลือกตั้งใต้รัฐธรรมนูญโจร โง่ยิ่งกว่าคนคลั่งภูมิพล โดย อ.ชูพงศ์ ถี่ถ้วน-2015-03-09
อ.ชูพงศ์ ถี่ถ้วน-2015-03-09 คนที่หลงไปเลือกตั้งใต้รัฐธรรมนูญโจร โง่ยิ่งกว่าคนคลั่งภูมิพล
http://youtu.be/5ZqWWyte6MU
ผมขอแสดงความเห็นเพิ่มเติมสั้น ๆ ดังนี้นะครับ
วันนี้และวันต่อจากนี้ไป ใต้เกือกเผด็จการทหารเพื่อพระราชา
เรามีอะไรที่ควรสานต่อ หรือเอามาใช้ต่อไปสืบถึงลูกหลานบ้าง?
ระบบราชการถูกวางฐานให้มีอำนาจอิสระจากนักการเมือง
ระบบราชการถูกคนที่มีหัวอนุรักษ์นิยมไปจองตำแหน่งสำคัญ ๆ ทุกระดับ
ระบบตุลาการ ยังถูกคนของเครือข่ายเจ้าและเผด็จการทหารไทย กุมอำนาจโดยสิ้นเชิง
ระบบทหารและตำรวจ ถูกกลไกเผด็จการเอาคนของตนจ่อขึ้นต่อท่ออำนาจ
องคมนตรี ยังมีอำนาจแผ่ไพศาล เหนือทุกระบบที่กล่าวมา
ระบบเจ้าไทย ยังต้องการครอบงำศาสนา เพื่อหวังครอบงำจิตใจคน
สถาบันการศึกษาและวัฒนธรรม ถูกลัทธิคลั่งเจ้าครอบงำ
ทหารเพื่อพระราชา กำลังออกไปสร้างการครอบงำจิตสำนึก จนจะเป็นรัฐทหารอยู่แล้ว
รัฐธรรมนูญ และอำนาจนิติบัญญัติ ถูกวางกรอบให้รับใช้ชนชั้นศักดินาและเผด็จการ ทำลายอำนาจที่แท้จริงของประชาชน
ระบบกษัตริย์จะยิ่งมีอำนาจเหนือ แล้วเอื้อให้วงจรอุบาทว์เกิดขึ้นอีกต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน
เครือข่ายเจ้าไทย ยิ่งได้รับการหนุนหลังและรับใช้ทุนจากจีน จะยิ่งสานพลังอำนาจครอบงำ
รัฐบาลที่มาจากประชาชนเลือกตั้งเข้าไป จะไม่สามารถทำอะไรได้
รัฐบาลทักษิณ เคยทำได้ 8/10 เขาเห็นอันตรายของการให้อำนาจประชาชนตัดสินเชิงอำนาจ
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ใช้เวลาสองปี ทำอะไรได้ไม่ถึง 4/10 แค่ขยับจะเลยขึ้นเลข 5 วันนี้เขารวบกลับ
ย้อนมาแล้ว อำนาจตัวแทนประชาชน จะเหลือไม่ถึง 1/10
แล้วนักการเมืองไร้สำนึก ยังจะสยบยอม
พาเสียงประชาชนไปให้ความชอบธรรมต่อระบอบเหี้ยนี้อีกหรือ?
แล้วนักการเมืองพวกนี้ ยังคิดจะไปขอต่อรองอำนาจ
เพื่อขอร่วมข่มขืนประชาชนอีกหรือ?
- ใครก็ตามคิดจะเลือกตั้งใต้รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการจับยัด ถือว่า ทรยศประชาชน
- ใครก็ตามที่อยู่นิ่งเฉย ไม่เคยคิดทำให้ประชาชนเข้มแข็ง มันคือ คนทรยศจิตวิญญาณประชาธิปไตย
- ใครก็ตามที่ขัดขวางการเติบโตของประชาชนทางจิตสำนึก การรวมตัวจัดตั้ง การวาดผังอนาคต ฯลฯ คนเหล่านั้น คือศัตรูของประชาชน
ประวัติศาสตร์เลือด สู่อาณาจักรคอมมิวนิสต์จีน... สารคดีจาก ซีไอเอ (ภาษาอังกฤษ)
The Bloody History of China - CIA Cold War Documentary on a Communist Empire_Full
Length Film (1967)
Length Film (1967)
สงครามสื่อ ซันชิโร่ (เพลงร็อคเพื่อชีวิต เพื่อสะท้อนสังคม)
สงครามสื่อ ซันชิโร่ (เพลงร็อคเพื่อชีวิต เพื่อสะท้อนสังคม)
เพลงคุณภาพจากศิลปินร็อคเพื่อชีวิต
เสียงสูงแบบเร้าใจ เนื้อหาสะท้อนสังคมยุคสื่อสังคมออนไลน์
สนับสนุนกันด้วยนะครับ
https://youtu.be/-82FrpegI_w
เพลงประจำรายการชวนคิดชวนคุย มหาวิทยาลัยประชาชน (ชื่อ ปีศาจ)
สุดยอดฝีมือการแต่ง เรียบเรียงเสียงประสาน เนื้อหา ดนตรี และเสียงร้องครับ
ขอบคุณศิลปินประวัติศาสตร์
ขอบคุณศิลปินประวัติศาสตร์
Wednesday, March 11, 2015
ทฤษฎีปฎิวัติเพียงดิน ต้องแทงตรงหัวใจให้ทะลุหลัง...
เผยแพร่ครั้งแรก เดือนพฤศจิกายน 2553
หากจะมองภาพการต่อสู้ระหว่างฝ่ายรักษ์เจ้า หรือฝ่ายศักดินานิยม กับฝ่ายประชาธิปไตยในระยะปีที่สี่หลังการรัฐประหาร 49 มาจนถึงเวลานี้ ต้องถือว่ายากจะบอกว่าใครจะชนะในระยะใกล้นี้ ยังก้ำกึ่งและมีสิทธิออกได้หลายหน้าเสียด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ประชาชนจะต้องชนะในระยะยาวในที่สุด แต่จะเพราะเทพอสูรเป๋และภาคียอมโยนผ้าขอแพ้ หรือจะชนะแตกแบบเลือดกลบหน้าสู้ต่อไม่ได้ หรือจะโดนประชาชนน็อค ก็ต้องเกิดโดยประชาชนชนะแน่ ๆ แต่ในระยะนี้ ต้องย้ำว่า ยังกำ้กึ่งครับ
ที่ว่าก้ำกึ่งนั้น แปลว่า คณะรักษ์เจ้าเคล้าศักดินานิยม มีโอกาสจะสามารถเตะถ่วงและยึดอำนาจได้อีกหลายปี ก็คือชนะในยกต่อไปนั่นเอง และมีแนวโน้มเป็นไปได้สูงว่าเราอาจจะต้องทรมาณเหมือนดูละครน้ำเน่าบ้านทรายทองอีกซักสองสามตอนนะครับ ที่เห็นชัด ๆ เราก็เห็นการจับแกนนำเราขังคุก ไล่ต้อนแกนนำไม่ให้โงหัว พยายามสยบและสลายทุกกลุ่มที่จะคิดการต่อต้านรัฐบาล เข้าครอบครองสื่อทุกแขนง ป้อนข้อมูลเน่าให้กับระบบต่าง ๆ ทุกระบบ ใช้ตีนมือระบอบราชการ (กิจการของพระราชา) ฯลฯ ภาพที่เห็นเวลานี้ จึงเหมือนว่า พวกเทพอสูรและภาคีต่างย่างสามขุมไล่ต้อนฝ่ายประชาธิปไตย แถมมีกรรมการคอยจับตีนมือฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อหวังให้อีกฝ่ายต่อย ๆ เตะเอา ... ภาพที่เห็นปลายยกที่ผ่านมาและในอีกยกต่อไปที่กำลังจะเริ่ม ต้องถือว่าน่าอึดอัด เพราะ ฝ่ายประชาชน ยังคงต้องถอยและแย็ปหมัดเพื่อป้องกันตัวเองไปก่อน
สิ่งที่ผมเกรงไว้ว่าจะพัฒนาต่อไปจากนี้ ก็คือภาพจำลองสองภาพครับ
หนึ่ง หากมีการเลือกตั้งปีหน้านี้ เราอาจจะแพ้อย่างราบคาบ แล้วพวกศักดินาจะอ้างความชอบธรรม และฝ่ายประชาธิปไตยจะแดงกระจัดกระจาย แล้วก็กลายเป็นผู้ก่อการร้ายที่จะถูกเขาจัดการอย่างถูกกฎหมาย ยิ่งใช้ความรุนแรง ก็จะยิ่งโดนเขายุให้ฆ่าฟันล้างล่า จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง หรือสงครามกองโจร ที่ต้องอาศัยเวลาและการสูญเสียมหาศาลก่อนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ได้
และสอง หากเสื้อแดงแกร่งเกินต้าน และพวกแก๊งค์เทพอสูรรู้ว่าเลือกตั้งแล้วจะแพ้ พวกเขาจะหน้าด้านยืดอายุรัฐบาล หรือหาโอกาสตั้งรัฐบาลอวยเจ้าและเฝ้าล่าแดงให้จงได้ จากนั้น ก็จะดำเนินการเหมือนที่กำลังทำอยู่ แต่จะยิ่งเพิ่มอัตราความโหด ประชาชนจะตายในหลักพันหลักหมื่น ไม่ด้อยกว่าเหตุสมมุติข้างบน หรือต่อให้รัฐบาลฝั่งทักษิณต่ออำนาจไปได้ เขาก็จะต้องหาทางล้ม และใช้เครือข่ายต่าง ๆ ที่เขาวางไว้แล้วนั้น เข้าเล่นงานเพื่อกระชับอำนาจให้จงได้ในที่สุด
การคงอยู่ของไดโนเสาร์เหล่าตอแหลศักดินานั้น ไม่มีทางที่จะตั้งอยู่บนความรุ่งเรืองและสุขสบายของประชาชน เพราะพวกนี้ กำเนิดก็ผิดธรรมชาติ อยู่ก็ผิดศีลธรรม และปล่อยไว้ก็เป็นพิษแบบโรคติดต่อร้ายแรง ดังนั้น ไม่มีทางเลือกหรอกครับ หากประชาชนจะยอมให้เกิดเหตุการณ์สองอย่างข้างบน เราจะสูญเสียมหาศาล ดังนั้น หากอยากกู้บ้านแปงเมือง ก็ต้องลุกมาปฎิวัติ หากอยากให้บ้านเมืองลงเอยด้วยดี เราก็ต้องจัดการป้องกันและต่อสู้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสองสิ่งนี้
ผมฟังคุณชูพงศ์และคุณแอนตี้มานาน เห็นด้วยและชื่นชมกับทั้งสองท่านอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในแง่การชี้เป้าว่า กษัตริย์คือตัวปัญหาสำคัญของบ้านเมือง และเชื่อตามว่า กษัตริย์และกลุ่มผลประโยชน์รอบวัง คือก๊กที่ชิงอำนาจจากประชาชนไปใช้ปกป้องและแสวงหาผลประโยชน์ร่วมอย่างเป็นระบบ เป็นแก๊งค์ และเป็นภัยยิ่งต่ออนาคตของประเทศชาติ แต่ผมไม่เห็นด้วยว่าเราควรจะทิ้งแนวรบทางรัฐสภาเสียสิ้นเชิง เพราะยิ่งเราปล่อยให้พวกอภิสิทธิชนตอแหลอยู่ในอำนาจ ความเสี่ยงของการเกิดภาพจำลองทั้งสองภาพข้างบนจะยิ่งเพิ่มขึ้น และประชาชนจะชนะยากขึ้น และสูญเสียมากขึ้น
การจะสู้และจะก้าวไปสู่การปฎิวัติประชาชนนั้น จะต้องทำอะไรหลายอย่าง ซึ่งผมได้เน้นไว้หลายครั้ง ดังที่ระบุไว้เป็นภารกิจมดแดง http://unrad.net/?p=7 และหัวใจของปัญหาที่เราต้องแทงให้ทะลุไปถึงแผ่นหลังของตัวปัญหา หัวใจของปัญหาเมืองไทยมีหลายด้าน ซึ่งเราต้องแทงให้ทะลุเข้าไปถึงใจกลาง ส่วนจะจัดการอย่างไรนั้น เราต้องช่วยกันคิด ช่วยกันทำต่อไป แต่ทิศทางต้องชัด คือจัดการกับทุกส่วนของหัวใจปัญหาต่อไปนี้:-
ข้างนอกสุดของหัวใจของปัญหาแห่งชาติไทย คือ พลังมวลชนที่ถูกเขาสกดไว้ด้วยมนตราไสยศาสตร์ ทำตัวจัดขวางประชาชนด้วยกันเอง หากไม่แก้ไขให้มวลชนตื่น เราก็จะพบกับความลำบากในการเคลื่อนไหวใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฎิวัติในอนาคต
ถัด ๆ กันเข้าไปนี้ ก็จะพบว่ามีสื่อ สถานศึกษา หน่วยงานราชการ และหน่วยงานการเมืองทั้งหลาย ที่อยู่ในกำกับของก๊กเทพอสูร พวกนี้เป็นสิ่งที่จะพบได้ทั่วไป และจะเป็นเหมือนตัวมนตร์สกด หรือสารแพร่พิษ ที่ทำให้มวลชนจำนวนมากต่อต้านการพัฒนา หรือวางเฉย หรือไม่กล้าสู้ หริอหลายส่วนยังตามืดบอดอีกต่อไป
ลึกเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง ก็คือรัฐบาลนอมินีก๊กมาร รัฐบาลนี้ คือตีนมือของเทพอสูร เป็นเครื่องจักสำคัญ เราคงเห็นแล้วว่า รัฐบาลที่มีหัวหน้ารัฐบาลหน่อมแน้ม และมีกำนันเก่ามากุมอำนาจมหาดไทย มันกลับสามารถใช้งานเครือข่ายตีนมือระบอบราชาธิปไตยอย่างดีและยึดอำนาจมาปั่นต่อ จนทำให้เหล่าเสื้อแดงรวนไปหลายครา เรียกว่ามาแรงจนแดงต้องหลบเชียวนะครับ....
และส่วนที่ลึกลงไป ที่กำกับรัฐบาลและสื่อสารกันอย่างใกล้ชิดกับขั้วปัญหา ก็คือกลุ่มทุนที่่ได้ประโยชน์กับการอยู่ร่วมกับรัฐบาลนอมินีและราชสำนัก และระดับนี้ จะมีขุนศึก (ทหารตำรวจ) เป็นกลไกสำคัญ หากไม่แก้กลุ่มนี้ ก็จะไม่มีทางเข้าถึงแก่นกลางของปัญหาได้
และในที่สุดตรงกลางสุดของปัญหา ก็คือสถาบันพระมหากษัตริย์นั่นเอง ปัจจุบันนี้ ความสงสัยเกี่ยวกับบทบาทและฐานะที่แท้จริงของสถาบันฯ นั้น แทบไม่เหลือแล้วครับ คงไม่ต้องขยายความเลย สำหรับคนเสื้อแดงที่ได้รู้ ได้ยิน ได้เห็น และได้สัมผัสมาตลอดสี่ปีที่ผ่านมา
การจะปฎิวัติ จะต้องแทงหัวใจปัญหาเหล่านี้ให้ทะลุ จะต้องเอาพวกนี้มาเป็นพวกของประชาชนให้จงได้ หากเอามาเป็นพวกไม่ได้ ก็ต้องทำลาย หรือกดให้หมดอำนาจหรือพลังที่เป็นพิษต่อประชาชนให้ได้ จะทำอย่างเดียว ด้านใดด้านหนึ่งไม่ได้
การจะจัดการกับพี่น้องประชาชนที่ถูกสกดจิต ทำอย่างไร การเผยแพร่ความจริง และสร้างภาพเชิงสัญลักษณื ทำได้ดีแล้ว แต่ต้องทำมากกว่าเดิม ลึกกว่าเดิม และมุ่งเป้ากระจายออกไปหาประชาชนสีอื่น ๆ อย่างมีความคาดหวังให้สูงยิ่งขึ้น
การจัดการกับสื่อ สถานศึกษา วัดโบสถ์มัสยึด กลไกที่เป็นกลุ่มก้อนในสังคม ที่ยังรับใช้ลัทธิไดโนเสาร์ ต้องทำอย่างไรบ้าง เป็นโจทย์สำคัญอย่างยิ่ง
เรื่องการแย่งอำนาจรัฐ ก็จะต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อไทยอาจจะเป๋ แต่ประชาชนจะต้องไม่เป๋ ไม่ยอม และจะต้องดึงเพื่อไทยมารับใช้ให้ได้ ตอนนี้ยังไม่ชัด แต่จะต้องทำให้ชัดกว่านี้
ส่วนกลุ่มขุนศึกและนายทุนอิงวังนั้น การจัดการหรือดึงพวกเขาเข้ามาสนับสนุนการปฎิวัติประชาธิปไตย จะต้องทำอย่างมีเป้าหมาย และหากพวกนี้พยศและทำร้ายประชาชน ประชาชนยิ่งจะต้องมีวิธีปรามและกำราบพวกเขาอย่างเด็ดขาด ตรงนี้อ่อนไหวมาก ๆ และเป็นจุดบ่งชี้สำคัญ!!!! ใครจะทำ และทำอย่างไร???? เป็นคำถามที่แกนนำการปฎิวัติในวันนี้และในอนาคตต้องคิด เพราะหากไม่สามารถกดหรือดึงพวกนี้มาเข้าข้างประชาชน เราชนะไม่ได้ครับ หรือจะชนะได้ ก็ต้องฆ่าล้างโคตรกันไปข้างหนึ่งทีเดียว แต่คงล้างโคตรประชาชนไม่ได้ ดังนั้น หากจะล้างโคตรแล้วชนะ ก็คือ ฝ่ายขุนศึกและนายทุนศักดินาน่ะแหละ ที่จะต้องถูกล้มล้าง
และในที่สุด ก็ต้องมาถึงแกนกลางที่สุดของปัญหา ชั้นในสุด หากคิดจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หากไม่แตะถึงแกนกลาง ก็จะไม่มีทางแทงทะลุหัวใจ และจะไม่สามารถหยุดกลไกพิษหรือวงจรอุบาทว์ได้ จะทำอย่างไร จะล้อมวังจับตัวฆ่าฟัน จะล้อมวังแล้วบังคับให้เจรจายกอำนาจคืนประชาชน จะกราบบังคมทูลแบบเนียน ๆ และประณีประนอมผ่านสภา จะลอบฆ่าล่าล้าง จะกราบแล้วขอร้องให้ท่านคืนอำนาจแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น แต่สิ่งเหล่านี้ ต้องเกิด และจะต้องเกิดภายในไม่เกินรัชกาลที่สิบแน่นอน เพราะเวลานี้ปัญหา ประเทศไทย เหมือนหนองที่มีน้ำหนองเหลืองบวมพองเกินผิวหน้าของหนังจะรับได้แล้ว และการจัดการกับฝี ไม่มีทางอื่นใดที่จะเลี่ยงการเอาหัวฝีออกได้เลย
จะเห็นว่า สิ่งที่กล่าวมา คือ ทฤษฎีปฎิวัติเพียงดิน เพราะนี่คือการปฎิวัติของประชาชนชาวดิน ที่ไร้อำนาจบาตรใหญ่ ไร้กลไกอำนาจในระบอบอำนาจเดิม ดังนั้น หากจะเจาะเข้าไปแก้ปัญหา ก็ต้องแทงให้ทะลุให้จงได้ จะทำอย่างไร? นี่เป็นโจทย์ที่คนเสื้อแดงหลายฝ่ายพยายามคิด แต่อย่าลืมว่า หากคิดได้เท่าเดิม ทำได้เท่าเดิม และไม่มองสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด และทำในทุกจุด เราจะเสี่ยงที่จะถูกถึงไปอยู่ในเกมอำนาจโฉดสองเกมของลัทธิไดโนเสาร์ เราจะสูญเสียอย่างมหาศาล...
การปฎิวัติเพียงดิน จึงเป็นสิ่งที่ไม่ทำไม่ได้... ทำน้อยก็ไม่ได้... ทำแบบไม่ครบวงจรก็ไม่ได้.. . และทำแบบไม่สามัคคีพลังประชาชนก็ไม่ได้... ประชาชนไทย พร้อมแค่ไหนและมุ่งมั่นเพียงใดล่ะครับ?
TAHR เรียกร้องให้คนไทย ส่งจดหมายถึงกงสุลและฑูตต่างประเทศในไทย เพื่อหยุดพลตรีเหรียญทอง ก่อนสายเกินไป
TAHR เรียกร้องให้คนไทย ส่งจดหมายถึงกงสุลและฑูตต่างประเทศในไทย เพื่อหยุดพลตรีเหรียญทอง ก่อนสายเกินไป
ดาวน์โหลดจดหมาย เพื่อลงนามและส่งไปรษณีย์ จากลิ้งค์ข้างล่างนี้
http://www.mediafire.com/view/p0tofau4o9trb3b/RianThong-HRAbuses-official.pdf
http://www.mediafire.com/view/6gnizz2q7qqe30f/RianThong-HRAbuses-official(2).pdf
ดาวน์โหลดจดหมาย เพื่อลงนามและส่งไปรษณีย์ จากลิ้งค์ข้างล่างนี้
http://www.mediafire.com/view/p0tofau4o9trb3b/RianThong-HRAbuses-official.pdf
http://www.mediafire.com/view/6gnizz2q7qqe30f/RianThong-HRAbuses-official(2).pdf
Subscribe to:
Comments (Atom)

