Saturday, June 18, 2016
บนทางแยกประวัติศาสตร์ของฝ่ายจารีต-ขวาไทย : ทักษิณอาจไม่ใช่ศัตรูหลักอย่างที่พวกเขาเข้าใจ
บนทางแยกประวัติศาสตร์ของฝ่ายจารีต-ขวาไทย : ทักษิณอาจไม่ใช่ศัตรูหลักอย่างที่พวกเขาเข้าใจ
แผนร้ายเผด็จศึกธรรมกาย วันเสาร์ ที่ 18 และ อาทิตย์ ที่ 19 นี้
แผนร้ายเผด็จศึกธรรมกาย วันเสาร์ ที่ 18 และ อาทิตย์ ที่ 19 นี้
Friday, June 17, 2016
นายบุญชัย เบญจรงคกุล แห่ง ดีแทค เรียกคนนับล้าน เข้าวัด เปิดเกมส์เขย่าขวัญ
นายบุญชัย เบญจรงคกุล แห่ง ดีแทค เรียกคนนับล้าน เข้าวัด เปิดเกมส์เขย่าขวัญ
คสช. เปิดข้อมูลเครือข่ายวัดพระธรรมกาย พบมีศิษยานุศิษย์และผู้สนับสนุนรวมประมาณ 4 ล้านคน และมีวัดสาขาอีก 86 แห่งในต่างประเทศ
อ่านต้นตอข่าวที่ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/703082
คสช. เปิดข้อมูลเครือข่ายวัดพระธรรมกาย พบมีศิษยานุศิษย์และผู้สนับสนุนรวมประมาณ 4 ล้านคน และมีวัดสาขาอีก 86 แห่งในต่างประเทศ
การเปิดเผยของทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เกี่ยวกับปฏิบัติการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อจับกุมพระธัมมชโยนั้น สะท้อนว่าฝ่ายความมั่นคงจับตาวัดแห่งนี้ใกล้ชิดพอสมควร
ข้อมูลที่ พ.อ.ปิยพงษ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช.ออกมาระบุ และเป็นสาระสำคัญคือ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอในการเข้าไปตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ไม่ได้ถือว่าล้มเหลว เพราะแม้ไม่ได้ตัวผู้ต้องหา แต่ก็ได้ข้อมูลใหม่ๆ ทั้งเรื่องสถานที่ตั้ง พื้นที่ด้านในบางส่วน รวมทั้งภาพกลุ่มแกนนำ นอกจากนั้น ยังพบข้อมูลว่ามีพระมาจากภาคใต้ มวลชนจากภาคอีสานที่เดินทางเข้าไปในวัด 2 วันก่อนเจ้าหน้าที่เข้าไปอีกด้วย
ทั้งนี้ ข้อมูลจากทีมโฆษก คสช. สอดคล้องกับข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามหมายจับพระธัมมชโยรายงานไปยังรัฐบาลก่อนหน้านี้ โดยระบุว่าวัดพระธรรมกายมีศิษยานุศิษย์และผู้สนับสนุนรวมประมาณ 4 ล้านคน กระจายในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ และประเทศต่างๆ ทั่วโลก ขณะที่มวลชนที่สามารถออกมาเคลื่อนไหวได้จริง และเคยรวมตัวกันมาแล้ว มีประมาณ 5 หมื่นคน พิจารณาจากกิจกรรมบวชอุบาสิกาแก้ว ล่าสุดในปี 2559
วัดพระธรรมกายมีวัดสาขา สำนักสงฆ์ และศูนย์ปฏิบัติธรรมของวัดเอง ทั่วประเทศมากถึง 71 แห่ง ในต่างประเทศอีก 86 แห่ง
นอกจากนั้นยังมีวัดในเครือข่ายขององค์กรที่วัดพระธรรมกายสนับสนุน เช่น ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 แห่ง วัดต่างๆ ในภาคกลาง 42 แห่ง ซึ่งทางวัดเคยจัดธุดงค์ผ่านและพักแรม นอกจากนั้นยังมีวัดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ทางวัดเคยจัดกิจกรรมช่วยเหลือด้วย
คสช. เปิดข้อมูลเครือข่ายวัดพระธรรมกาย พบมีศิษยานุศิษย์และผู้สนับสนุนรวมประมาณ 4 ล้านคน และมีวัดสาขาอีก 86 แห่งในต่างประเทศ
อ่านต้นตอข่าวที่ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/703082
คสช. เปิดข้อมูลเครือข่ายวัดพระธรรมกาย พบมีศิษยานุศิษย์และผู้สนับสนุนรวมประมาณ 4 ล้านคน และมีวัดสาขาอีก 86 แห่งในต่างประเทศ
การเปิดเผยของทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เกี่ยวกับปฏิบัติการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อจับกุมพระธัมมชโยนั้น สะท้อนว่าฝ่ายความมั่นคงจับตาวัดแห่งนี้ใกล้ชิดพอสมควร
ข้อมูลที่ พ.อ.ปิยพงษ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช.ออกมาระบุ และเป็นสาระสำคัญคือ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอในการเข้าไปตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ไม่ได้ถือว่าล้มเหลว เพราะแม้ไม่ได้ตัวผู้ต้องหา แต่ก็ได้ข้อมูลใหม่ๆ ทั้งเรื่องสถานที่ตั้ง พื้นที่ด้านในบางส่วน รวมทั้งภาพกลุ่มแกนนำ นอกจากนั้น ยังพบข้อมูลว่ามีพระมาจากภาคใต้ มวลชนจากภาคอีสานที่เดินทางเข้าไปในวัด 2 วันก่อนเจ้าหน้าที่เข้าไปอีกด้วย
ทั้งนี้ ข้อมูลจากทีมโฆษก คสช. สอดคล้องกับข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามหมายจับพระธัมมชโยรายงานไปยังรัฐบาลก่อนหน้านี้ โดยระบุว่าวัดพระธรรมกายมีศิษยานุศิษย์และผู้สนับสนุนรวมประมาณ 4 ล้านคน กระจายในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ และประเทศต่างๆ ทั่วโลก ขณะที่มวลชนที่สามารถออกมาเคลื่อนไหวได้จริง และเคยรวมตัวกันมาแล้ว มีประมาณ 5 หมื่นคน พิจารณาจากกิจกรรมบวชอุบาสิกาแก้ว ล่าสุดในปี 2559
วัดพระธรรมกายมีวัดสาขา สำนักสงฆ์ และศูนย์ปฏิบัติธรรมของวัดเอง ทั่วประเทศมากถึง 71 แห่ง ในต่างประเทศอีก 86 แห่ง
นอกจากนั้นยังมีวัดในเครือข่ายขององค์กรที่วัดพระธรรมกายสนับสนุน เช่น ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 แห่ง วัดต่างๆ ในภาคกลาง 42 แห่ง ซึ่งทางวัดเคยจัดธุดงค์ผ่านและพักแรม นอกจากนั้นยังมีวัดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ทางวัดเคยจัดกิจกรรมช่วยเหลือด้วย
เรื่องมูลนิธิราชภักดิ์ และความผิดปกติ (หลายอย่าง)
เรื่องมูลนิธิราชภักดิ์ และความผิดปกติ (หลายอย่าง)
เมื่อ 4 มกราคม 59 บอกว่า จะมีการเปลี่ยนชื่อมูลนิธิราชภักดิ์ใหม่ (มีห้อยท้าย) มูลนิธิเป็นเจ้าภาพชงเรื่องอยู่ และกระทรวงมหาดไทยก็ออกมาปฏิเสธพัลวัน (http://news.mthai.com/hot-news/politics-news/475240.html) โดยจะเปลี่ยนชื่อเป็น "มูลนิธิราชภักดิ์ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร" นั้น
จนบัดนี้ ก็ยังไม่มีประกาศใดๆ ในราชกิจจานุเบกษา
(นานกว่าหกเดือนก็ไม่มีประกาศใดๆออกมาเลย)
ท่านทั้งหลายพิจารณาดูเถิดว่า แอบอ้างเบื้องสูงหรือไม่
(กูบอกแล้วไง ว่าไม่มีใครเซ็นให้ ทำไมไม่ฟังกัน)
(ตามลิงก์นี้ที่บอกไปเมื่อ 10 ม.ค.59https://www.facebook.com/secret100million/posts/442651545933047)
ทั้งนี้ ก็มีข่าวล่าสุด ว่ากรรมการราชภักดิ์ กำลังไปไถเงินจาก "เทศบาลเมืองหัวหิน" (http://www.posttoday.com/local/south/437479) แปลกแต่จริง เงินมูลนิธิราชภักดิ์ มียอดเงินคงเหลือจากการบริจาคเข้ามายังมูลนิธิ อยู่ประมาณ 106 ล้านบาท และยังเป็นเงินบริจาคที่อยู่ในกองทุนกองทัพบกอีกกว่า 50ล้านบาท(เงินลงทุน)
แปลว่า มูลนิธิราชภักดิ์ มีดอกผล(กำไร)
จากกองทุนกองทัพบก ตามอัตราที่กองทุนกำหนดไว้
ถ้าสมมุติว่าดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี ก็ล้านสองนิดๆ
แสนกว่าบาทน่าจะเพียงพอเป็นรายจ่ายดูแลต่อเดือน
(คณะกรรมการบริหารอุทยานราชภักดิ์ ขอเทศบาลเมืองหัวหิน สนับสนุนงบประมาณบำรุงรักษาภูมิทัศน์ภายในอุทยาน 1.2 แสนต่อเดือน- เห็นไหมว่าทำไมไม่เอาดอกผลจากกองทุนกองทัพบกมาดูแลอุทยาน)
แล้วทำไม มูลนิธิราชภักดิ์ ซึ่งมีเงินเหลือกว่า 156 ล้านบาท มีเงินลงทุนในกองทุนที่น่าจะได้ปันผล(มากพอสมควร) จึงต้องไปขอเงินจาก "เทศบาลเมืองหัวหิน" มาเป็นค่าดูแลอุทยานอีกคำรบหนึ่งด้วยเล่า
(หรือว่าเงินในบัญชี มันออกไปเที่ยวเล่นในบัญชีเมียใครหรือไม่)
ท่านสมาชิกทั้งหลาย ช่วยกันพิจารณาดู
ถ้าพิจารณาแล้วคิดไม่ตก ให้ช่วยกันแชร์ไปให้มาก
จะได้ช่วยกันคิด เผื่อจะคิดอะไรออกบ้าง
เรื่องมูลนิธิราชภักดิ์ และความผิดปกติ (หลายอย่าง)
เรื่องมูลนิธิราชภักดิ์ และความผิดปกติ (หลายอย่าง)
เมื่อ 4 มกราคม 59 บอกว่า จะมีการเปลี่ยนชื่อมูลนิธิราชภักดิ์ใหม่ (มีห้อยท้าย) มูลนิธิเป็นเจ้าภาพชงเรื่องอยู่ และกระทรวงมหาดไทยก็ออกมาปฏิเสธพัลวัน (http://news.mthai.com/hot-news/politics-news/475240.html) โดยจะเปลี่ยนชื่อเป็น "มูลนิธิราชภักดิ์ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร" นั้น
จนบัดนี้ ก็ยังไม่มีประกาศใดๆ ในราชกิจจานุเบกษา
(นานกว่าหกเดือนก็ไม่มีประกาศใดๆออกมาเลย)
ท่านทั้งหลายพิจารณาดูเถิดว่า แอบอ้างเบื้องสูงหรือไม่
(กูบอกแล้วไง ว่าไม่มีใครเซ็นให้ ทำไมไม่ฟังกัน)
(ตามลิงก์นี้ที่บอกไปเมื่อ 10 ม.ค.59https://www.facebook.com/secret100million/posts/442651545933047)
ทั้งนี้ ก็มีข่าวล่าสุด ว่ากรรมการราชภักดิ์ กำลังไปไถเงินจาก "เทศบาลเมืองหัวหิน" (http://www.posttoday.com/local/south/437479) แปลกแต่จริง เงินมูลนิธิราชภักดิ์ มียอดเงินคงเหลือจากการบริจาคเข้ามายังมูลนิธิ อยู่ประมาณ 106 ล้านบาท และยังเป็นเงินบริจาคที่อยู่ในกองทุนกองทัพบกอีกกว่า 50ล้านบาท(เงินลงทุน)
แปลว่า มูลนิธิราชภักดิ์ มีดอกผล(กำไร)
จากกองทุนกองทัพบก ตามอัตราที่กองทุนกำหนดไว้
ถ้าสมมุติว่าดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี ก็ล้านสองนิดๆ
แสนกว่าบาทน่าจะเพียงพอเป็นรายจ่ายดูแลต่อเดือน
(คณะกรรมการบริหารอุทยานราชภักดิ์ ขอเทศบาลเมืองหัวหิน สนับสนุนงบประมาณบำรุงรักษาภูมิทัศน์ภายในอุทยาน 1.2 แสนต่อเดือน- เห็นไหมว่าทำไมไม่เอาดอกผลจากกองทุนกองทัพบกมาดูแลอุทยาน)
แล้วทำไม มูลนิธิราชภักดิ์ ซึ่งมีเงินเหลือกว่า 156 ล้านบาท มีเงินลงทุนในกองทุนที่น่าจะได้ปันผล(มากพอสมควร) จึงต้องไปขอเงินจาก "เทศบาลเมืองหัวหิน" มาเป็นค่าดูแลอุทยานอีกคำรบหนึ่งด้วยเล่า
(หรือว่าเงินในบัญชี มันออกไปเที่ยวเล่นในบัญชีเมียใครหรือไม่)
ท่านสมาชิกทั้งหลาย ช่วยกันพิจารณาดู
ถ้าพิจารณาแล้วคิดไม่ตก ให้ช่วยกันแชร์ไปให้มาก
จะได้ช่วยกันคิด เผื่อจะคิดอะไรออกบ้าง
เกิดขึ้นแล้ว! ทหารฟ้องกลับ นักสิทธิมนุษชน กรณีรายงาน ซ้อมทรมาน ประชาชน
เกิดขึ้นแล้ว! ทหารฟ้องกลับ นักสิทธิมนุษชน กรณีรายงาน ซ้อมทรมาน ประชาชน
คลังคำไทยที่มักสะกดผิด – สำหรับฝึกความจำให้คนไทยทุกรุ่น
ภาพประกอบชวนขำกลิ้ง คลังคำไทยที่มักสะกดผิด – สำหรับฝึกความจำให้คนไทยทุกรุ่น คลังคำไทยที่มักสะกดผิด ภาษาไทยน...
-
ลองนึกภาพกัมพูชาและประเทศไทยเป็นสองบ้านที่อยู่ติดกันบนถนนสายเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บ้านทั้งสองมีประวัติศาสตร์ยาวนานเหมือนพี่น้องที่ทะ...
-
ความเชื่อที่ว่าชาวยิวครองโลกหรือมีตระกูลยิวบงการเหตุการณ์สำคัญในโลก โดยมีศูนย์กลางที่สหรัฐอเมริกาและอังกฤษ เป็นแนวคิดที่มาจากทฤษฎีสมคบคิด (c...
-
โดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2017–2021 และดำเนินนโยบายที่มุ่งเน้นให้ “อเมริกามาก่อน” (America First) ซึ่งเป็นแนว...









