เพราะก่อนหน้านี้ ทักษิณออกมาดับเครื่องชน คสช.อย่างรุนแรง เริ่มจากการออกมาพูดถึงเบื้องหลังการปฏิวัติเนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีการยึดอำนาจของ คสช. และหลังจากนั้นก็ตามมาด้วยการท้าทายให้ คสช.ถอดยศ รวมทั้งการวิพากษ์วิจารณ์ คสช.ในหลายเรื่อง เช่น เรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ ระหว่างที่เดินทางไปพบคนไทยในฟินแลนด์และเยอรมัน
แต่ท่าทีล่าสุดระหว่างอยู่ในฮ่องกงเหมือนหนังคนละม้วน
โดยนายขวัญชัยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ระหว่างที่ ทักษิณพำนักอยู่ที่ฮ่องกงว่า ได้พูดคุยกับอดีตนายกฯทักษิณที่บอกกับเขาว่าให้แกล้งตายนานขึ้นอีกนิด สถานการณ์เวลานี้ให้นิ่งเฉยก่อน อย่าตื่นตระหนก และแกล้งตาย
"ท่านบอกผมว่า ให้คอยกระทั่งเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งนั่นจะเป็นช่วงที่เราจะได้รับชัยชนะ ตอนนี้มีเพียงแค่คำถามที่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่" นายขวัญชัยกล่าวกับรอยเตอร์
เป็นที่น่าสังเกตว่า นายขวัญชัยระบุกับรอยเตอร์ว่า ได้พูดคุยกับทักษิณเมื่อประมาณหนึ่งเดือนมาแล้ว ซึ่งเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้วทักษิณยังเดินสาย โจมตี คสช.อยู่ในยุโรป แล้วจะสั่งไพร่พลให้แกล้งตายหรือ เพราะที่จริงจะต้องสั่งสู้
จากข้อสังเกตข้างต้น จึงเป็นไปได้สองทาง คือ หนึ่ง นายขวัญชัยเพิ่งคุยกับทักษิณในช่วงที่ทักษิณอยู่ในฮ่องกงนี่แหละ และทักษิณได้เปลี่ยนท่าทีผ่านมาทางนายขวัญชัย สอง มีการพูดคุยกันระหว่าง คสช.กับตัวแทนทักษิณในเมืองไทย และตกลงกันได้ โดยให้ทักษิณหยุดความเคลื่อนไหวในช่วงนี้ เพื่อแลกกับอะไรบางอย่าง ซึ่งทักษิณก็ตอบตกลง โดยนายขวัญชัยน่าจะมีส่วนอยู่ในการพูดคุยลับครั้งนี้ด้วย จึงถูกมอบหมายให้เป็นผู้ออกมาส่งสัญญาณถึงไพร่พลของทักษิณโดยอ้างทักษิณ
อีกคนหนึ่งที่ออกมาพูดถึงท่าทีของทักษิณในช่วงที่ ทักษิณอยู่ในฮ่องกง แต่ครั้งนี้ไม่ได้พูดโดยอ้างคำพูดทักษิณเหมือนเคย คือ นายนพดล ปัทมะ ทนายความส่วนตัว ที่กล่าวว่า ที่มีแหล่งข่าวใกล้ชิดอ้างว่าทักษิณจะออกคลิปวิจารณ์การเมืองและ คสช.นั้น ตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ให้ข่าว แต่เชื่อว่าจะไม่มีการออกคลิปใดๆ เพราะอดีตนายกฯคงอยากจะใช้ชีวิตเงียบๆ และไม่ประสงค์จะเป็นเงื่อนไขที่ถูกโยงไปให้เกิดความขัดแย้ง และคงจะไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์การเมืองในประเทศ ดังนั้นแหล่งข่าวข้างต้นจึงให้ข่าวที่คลาดเคลื่อนจากความจริง
คำพูดของนายนพดลคือการพยายามยืนยันว่า ทักษิณหยุดรบ และจะไม่ออกมาชนกับ คสช. ซึ่งมีความหมายสอดคล้องกับที่นายขวัญชัยบอกว่า "แกล้งตาย"
ทำไมทั้งนายขวัญชัยและนายนพดลถึงต้องออกมาพูดแทน "นายใหญ่" ว่า "แกล้งตาย"
หนึ่ง เพราะทักษิณออกมาพูดเองไม่ได้ว่า แกล้งตาย เพราะหากพูดเองจะทำให้ไพร่พลในฝ่ายฮาร์ดคอร์ที่ต้องการให้สู้เสียศรัทธา สอง ทั้งนายขวัญชัยและนายนพดลมองเห็นแล้วว่า สถานการณ์ในตอนนี้สู้ไปก็ "ตายจริงๆ" สาม เพื่อส่งสัญญาณตอบรับไปยัง คสช.ว่าจะหยุดรบ จนกว่าจะถึงเลือกตั้ง ขานรับตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ออกมาพูดถึงทักษิณว่า "ผมก็อยากให้ท่านอยู่เฉยๆก่อน ถ้าท่านอยากจะเล่นอะไร พรรคพวกจะทำอะไร ก็รอหลังมีรัฐธรรมนูญ มีการเลือกตั้ง แต่ตอนนี้ขอให้นายกฯทำงานก่อน"
ข่าวว่า "บิ๊กป้อม" พูด ถึงทักษิณอย่างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ไม่ได้เคร่งเครียดอะไร คล้ายกับแน่ใจว่ายังไงทักษิณก็ต้องตอบรับ หรืออาจได้รับสัญญาณจากทักษิณมาแล้วว่าจะหยุด (แกล้งตาย)
คล้ายเป็นอาการอารมณ์ดีของผู้ชนะ
ทำไมทักษิณและแกนนำมวลชนคนสำคัญอย่างนายขวัญชัยและที่ปรึกษากฎหมายคู่ใจอย่างนายนพดล จึง "แกล้งตาย" ง่ายดายนัก
หรือแท้ที่จริงกำลัง "ใกล้ตาย" จึงแสร้งทำเป็น "แกล้งตาย" เพื่อกลบเกลื่อน
ถูกต้อง ทักษิณกำลังใกล้ตาย เพราะสถานการณ์หลายอย่างตกอยู่ในกำมือหรือการควบคุมของ คสช.เบ็ดเสร็จแล้ว
หนึ่ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว 5 แสน 1 หมื่นล้านบาท หากไม่จ่ายเงินชดใช้ก็จะถูกยึดทรัพย์ นอกจากนี้ยิ่งลักษณ์อาจติดคุกจากคดีเดียวกันนี้ด้วย
อย่างนี้เรียกว่าใกล้ตาย ไม่ใช่แกล้งตาย เพราะเมื่อ คสช.และรัฐบาลตัดสินใจเดินหน้าในเรื่องเรียกชดใช้ค่าเสียหาย ทุกอย่างก็ต้องเดินหน้า และหยุดไม่ได้
ทักษิณเจอดอกนี้เข้าไป ถึงกับนิ่งและแก้ลำไม่ออก แม้กระทั่งมุกเดิมที่เคยนำมาใช้สมัยตัวเองถูกยึดทรัพย์ โดยอ้างเป็นเรื่องการเมือง และเป็นเรื่องการใช้อำนาจจากคณะปฏิวัติ ก็นึกไม่ออก และไม่งัดมาใช้ เพราะเงินตั้ง 5 แสนล้าน เป็นใครก็ต้องมึน
สอง พานทองแท้ ชินวัตร ก็คอขึ้นเขียงในคดีทุจริตแบงก์กรุงไทยเช่นกัน หาก คสช.และรัฐบาลเดินหน้าอย่างจริงจัง โดยไม่กลัวว่าจะถูกแฉกลับว่ามีคนในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็มีส่วนรับผลประโยชน์หรือเกี่ยวข้องกับการทุจริตนี้
สถานการณ์ของนายพานทองแท้ก็ถือว่าใกล้ตายตามยิ่งลักษณ์ไปอีกคน ทั้งน้องสาว ทั้งลูกชาย ใกล้ตาย
สาม แกนนำคนสำคัญในเครือข่ายทักษิณ ทั้งแกนนำในพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. เข้าคุกไปครึ่งตัวเกือบทุกคนแล้ว เนื่องจากถูกศาลตัดสินจำคุก และทุกคนอยู่ในระหว่างประกันตัว ดังนั้น หากมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองในลักษณะต่อต้าน คสช.อีก ก็หนีไม่พ้นจะต้องเข้าไปอยู่ในคุกเต็มตัว
ดังนั้น สถานการณ์ในส่วนไพร่พลของทักษิณถือว่า เดี้ยงทั้งกองทัพ ขณะที่อีกบางส่วนก็ต้องหนีไปต่างประเทศ ไม่มีทางที่จะลุกขึ้นสู้กับ คสช.ได้ในตอนนี้ ถึงไม่อยากแกล้งตาย ก็ต้องแกล้งตาย ซึ่งที่จริงคือตายจริงๆแล้วในตอนนี้
สี่ นี่ยังไม่รวมกับการที่ คสช.และรัฐบาลเปิดเกมบุกรุกเข้าสู่พื้นที่ฐานมวลชนรากหญ้าของทักษิณ โดยใช้อดีตขุนพลคู่ใจของทักษิณ คือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เข้าไป "ย้อนเกล็ด" ทักษิณ ซึ่งทักษิณยังรับมือไม่ถูกว่าจะสู้อย่างไรกับเกมบุกครั้งนี้ หรืออาจต้องยอมถูกบุกไปก่อน เพื่อต่อรองหรือแลกกับอะไรบางอย่าง
ทั้งสี่สถานการณ์ข้างต้น ซึ่งอยู่ในกำมือของ คสช.ถึง 3 สถานการณ์ ยกเว้นสถานการณ์ที่สี่ ทำให้ทักษิณต้องแกล้งตาย โดยบอกว่าจะไปสู้ในตอนเลือกตั้ง ซึ่งมั่นใจว่าตัวเองจะชนะอีกครั้ง
ซึ่งเป็นการแกล้งตาย เพื่อรักษาชีวิตยิ่งลักษณ์ พานทองแท้ และแกนนำคนสำคัญ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ แกล้งตายเพื่อหวังต่อรองไม่ให้ถูกชดใช้ค่าเสียหายและถูกยึดทรัพย์อีกรอบ
ทว่า หากมองให้ขาดจะพบว่า การแกล้งตายครั้งนี้ จะนำไปสู่การตายจริงๆของระบอบทักษิณในที่สุด เพราะยังไงคดีของยิ่งลักษณ์ พานทองแท้ และแกนนำคนสำคัญ นั้นก็ไม่สามารถ "ถอยหลัง" ได้ (ก็เหมือนกับคดีของทักษิณ) ทุกคดียังไงก็ต้องเดินหน้า อย่างดีที่ทำได้คือถ่วงเวลาไว้เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าทักษิณจะไม่สามารถลุกขึ้นต่อกรกับ คสช.ได้อีกเลย ขณะที่อีกด้านหนึ่ง คสช.ก็จะต้องใช้ห้วงเวลาที่ทักษิณแกล้งตาย รุกคืบขจัดฐานกำลังและยึดคืนพื้นที่ทางการเมืองทุกอย่างของทักษิณกลับคืน รวมทั้งการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อตัดรากถอนโคนระบอบทักษิณอย่างสิ้นซาก
ดังนั้น เมื่อถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ทักษิณคงจะไม่มีแรงเคลื่อนไหวอะไรอีก เพราะ คสช.คงไม่ยอมปล่อยให้ทักษิณแกล้งตาย แต่คงทำให้ตายจริงๆไปเลย ก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า!!!
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.