ยินดีต้อนรับ

พลเมืองที่รอบรู้เท่าทัน คือ พลังประชาธิปไตยที่แท้จริง
Well-informed citizens are the true democratic forces.

Wednesday, August 19, 2015

มีพี่น้องรายงานว่า การระเบิดที่ราชประสงค์...ทำขึ้นเพื่อ....

เหตุการณ์วางระเบิดราชประสงนัยทางการเมือง วันที่ 16 ส.ค. ปั่นเพื่อแม่ วันที่ 17 เวลา 19.00 น. หนึ่งทุ่มของบ้านเรา ก่อนจะมีข่าวพระราชสำนัก  ซึ่งกระแสฟ้าชายปั่นเพื่อแม่ กำลังมาแรง  แต่ต้องดับกระแส ลงเพราะมีการวางระเบิดที่ราชประสง โดยจัดฉากมือวางระเบิดให้เป็นแขกขาว(อุยกูร์) แพะ ที่ไม่มีปากเสียง สิ่งที่ผิดสังเกต คือทำไมต้องมาลงมือหลังฟ้าชายปั่นเพื่อแม่ พักยังไม่หายเหนื่อยเลย ทำให้กระแส bi for mom (ปั่นเพื่อแม่) ดับสนิท  เตรียมงานแทบตาย ประชาสัมพันธ์เป็นเดือน ๆ ปั่น ตั้ง 43 km. แต่กระแสหายเงียบ เพราะระเบิดราชประสง  ทำไมต้องเป็นแยกราชประสง ๆ มีที่ให้มือระเบิด ซุกซ่อนตัว หรือเปล่า  จบ.
มดแดงล้มช้าง....ผู้รายงาน

การสังหารหมู่ หรือ Massacre คืออะไร? รับผิดตามกฏหมายใด?ของโลกใบนี้ (ตอนที่ ๓)

การสังหารหมู่ หรือ Massacre คืออะไร? รับผิดตามกฏหมายใด?ของโลกใบนี้ (ตอนที่ ๓)

๑๕. เมื่อนำ กติการะหว่างประเทศว่าด้วย สิทธิพลเมือง และ สิทธิในทางการเมือง ปีค.ศ.1966 หรือ International Covenant on Civil and Political Rights, 1966 และ กติการะหว่างประเทศว่าด้วย สิทธิในทางเศรษฐกิจ สังคม และ วัฒนธรรม ปีค.ศ.1966 หรือ International Covenant on Economic Social and Cultural Rights, 1966 ออกมากางอ่านดู (โปรดหาสนธิสัญญาทั้งสองฉบับมาพิจารณาดู)

๑๖. ผู้อ่านทุกๆท่าน ก็จะพบว่าในการร่างกติการะหว่างประเทศทั้งสองฉบับดังกล่าว ขึ้นมาบังคับใช้แก่นานาชาติ และองค์การสหประชาชาติ หรือ United Nations นั้น ได้มีการนำเอาเจตนารมณ์ของ กฏบัตรสหประชาชาติ ในข้อที่ ๑ และ ข้อที่ ๓ มาวางเป็นกรอบบังคับไว้ ตั้งแต่ต้น


๑๗. คือ เจตนารมณ์ของตัวสนธิสัญญาทั้งสองฉบับ, บทบํญญัติที่ ๑ ข้อที่ ๓. บทบัญญัติที่ ๒ ข้อ ๒, บทบัญญัติที่ ๔ ข้อที่ ๑, ๒ และข้อที่ ๓ รวมทั้งบทบัญญัติที่ ๕ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วย สิทธิพลเมือง และ สิทธิในทางการเมือง ปีค.ศ.1966


๑๘. ที่ต้องยกกติการะหว่างประเทศฯทั้งสองฉบับ ขึ้นมาให้ท่านผู้อ่านได้เห็น ก็เพื่อที่จะชี้ว่า เมื่อกติการะหว่างประเทศฯ ดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ปีค.ศ.1948 หรือ the Universal Declaration of Human Rights, 1948 เป็นธรรมนูญของโลก ในส่วนที่เกี่ยวกับ สิทธิมนุษยชน หรือ the International Bill of Rights แล้ว

๑๙. ยังเป็นเจตจำนงค์ หรือ เจตนารมณ์ของ กฏบัตรของ องค์การสหประชาชาติ หรือ the Charter of United Nations ตามที่ผมได้แสดงมาให้ดูแล้วตั้งแต่ต้น ที่รัฐ หรือ ชาติคู่ภาคีสมาชิก ชาติ หรือ รัฐคู่ภาคีใดๆ ไม่อาจไปฝ่าฝืนกฏเกณฑ์ เช่นว่านี้ได้ เพราะถ้าชาติ หรือ รัฐคู่ภาคีใดๆ ไปกระทำล่วงละเมิด ต่อ กฏบัตรขององค์การสหประชาชาติ หรือ the Charter of United Nations

๒๐. บทลงโทษ หรือ การ Sanction ย่อมปรากฏเป็นเงาตามตัว ผู้กระทำการละเมิดมา ดั่งเช่น อิรัค. อียิปต์, ลิเบีย, เยเมน, สหภาพอาฟริกาใต้ (ในอดีต) รวมทั้งประเทศไทย เป็นรายล่าสุด ฯลฯ เป็นต้น

๒๑. การที่องค์การสหประชาชาติ หรือ United Nations ยังไม่ใช้มาตรการลงโทษทางทหารต่อ ประเทศไทยในขณะนี้ ไม่หมายความว่า:

๒๑.๑ ผู้กระทำความผิด ที่ได้กระทำความผิดในฐานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือ Genocide ในประเทศไทย จะหลุดรอดไปจากข้อหา หรือ ฐานความผิด ในข้อหาทางอาญาระหว่างประเทศนี้ ดังปรากฏตามคำประกาศขององค์การสหประชาชาติ หรือ United Nations เองว่า "No Impunity for Perpetrators"


๒๑.๒ สหประชาชาติ กำลังเฝ้าจับตา (Monitoring) การกระทำ อันเป็นการละเมิดต่อ เจตจำนงค์ หรือ เจตนารมณ์ของ กฏบัตรสหประชาชาติ อย่างใจจดใจจ่อ และ ไม่หมายความว่า องค์การสหประชาชาติ จะอยู่เฉยปล่อยให้เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในประเทศไทยในรอบที่ ๒ และ รอบที่ ๓ เกิดขึ้น โดยองค์การสหประชาชาติ จะไม่ทำอะไรเลย

๒๑.๓ มิฉะนั้น คงไม่เกิดเป็นคดีความ ในทางอาญาระหว่างประเทศขึ้นในคดี สโลโบดัน มิโลเซวิค, คาราสซิค และ ดูสัน ทาดิค ในศาลอาญาพิเศษของ องค์การสหประชาชาติ ในบอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า, พลอ พต, นวนเจีย กับพวกขึ้น ในศาลอาญาพิเศษของ องค์การสหประชาชาติ ในประเทศกัมพูชา รวมทั้งในรายล่าสุด คือ ซีเซ กับพวก (Sesay et. al ) ขึ้นในศาลอาญาพิเศษของ องค์การสหประชาชาติ ในเซียร่าเรน โอน

๒๒. ที่ต้องบรรยายมา ให้ท่านผู้อ่าน ได้เห็น กฏเกณฑ์ เป็นภาพขึ้น ในสมองท่านผู้อ่าน เพราะต้องการปูพื้นฐานเบื้องต้น เป็นความเข้าใจในกลไกทางกฏหมายของ องค์การสหประชาชาติ ในทางที่ต้องใช้กฏหมายบังคับ แก่กรณีของ "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือ Genocide" ก่อนที่จะก้าวล่วง ไปหาสนธิสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวพัน กับ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือ Genocide ต่อไป ในตอนหน้า ................... (มีต่อ)

การสังหารหมู่ หรือ Massacre คืออะไร? รับผิดตามกฏหมายใด?ของโลกใบนี้ (ตอนที่ ๒)

การสังหารหมู่ หรือ Massacre คืออะไร? รับผิดตามกฏหมายใด?ของโลกใบนี้ (ตอนที่ ๒)

๕. สนธิสัญญาที่โลกสร้างขึ้นมาในระยะเวลาอันเป็นช่วงต่อของสงครามโลกครั้งที่ ๒ กับเวลาที่ความสงบสันติสุข ได้กลับคืนมาสู่พื้นพิภพนี้ นอกจาก the the Convention on the Protection and the Punishment of the Crimes of Genocide,1951 แล้ว เพื่อความเข้าใจในกฏหมายที่มีอยู่ในกรณีของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ หรือที่รารู้จักกันในชื่อว่า "Genocide"

๖. เนื่องจาก Preamble หรือ เจตนารมณ์ของกฏบัตรสหประชาติ (the Charter of United Nations) ที่บัญญัติไว้ในข้อที่ ๑ ว่า "to save succeeding generations from the scourge of war, which twice in our lifetime has brought untold sorrow to mankind, and" และ

ข้อที่ ๓ ว่า "to establish conditions under which justice and respect for the obligations arising from treaties and other sources of international law can be maintained, and"

๗. ซึ่งเจตนารมณ์ทั้งสองข้อดังกล่าว เมื่อถอดความออกมาเป็นภาษาไทยแล้วคงได้ความดังต่อไปนี้:

ข้อที่ ๑. "เพื่อที่จะปกป้อง และรักษามนุษยชาติ ในรุ่นต่อไป ที่จะมีมา จากความหฤโหดชั่วร้ายของสงคราม, ซึ่งบังเกิดขึ้นสองครั้งในช่วงชีวิตเรา ซึ่งนำมาซึ่งความเศร้าโศรกเสียใจ ที่สุดจะบรรยายได้แก่เผ่าพันธุ์มนุษย์, และ"

๘. ตามความของเจตนารมณ์ของกฏบัตรสหประชาชาติ ที่เป็นหัวใจและเจตนารมณ์ของกฏบัตรฯ ฉบับดังกล่าวนี้ใน ข้อที่ ๓. "เพื่อที่จะสร้างเป็นเงื่อนไขให้เกิด การปกปักรักษา ในกรณีที่ความยุติธรรม และ การเคารพต่อพันธกรณีอันเกิดจากสนธิสัญญา และแหล่งกำเหนิดอันเป็นที่มาของกฏหมายระหว่างประเทศในแหล่งอื่นๆ ตกอยู่ภายใต้เงื่อนไขเช่นว่านี้, และ"

๙. เมื่อผม เขียนบรรยายมาถึงตรงนี้ ก็เพื่อต้องการที่จะชี้ให้เห็น ถึงสาเหตุและ ที่มา รวมทั้งความจำเป็นว่า มีอยู่เพียงใดในการ ที่จะต้องปกปักรักษาความยุติธรรม พันธกรณีที่เกิดจากสนธิสัญญา รวมตลอดไปถึงแหล่งที่มาและ บ่อเกิดของ กฏหมายระหว่างประเทศ ที่องค์การสหประชาชาติ หรือ United Nations องค์กรโลกบาลของโลก

๑๐. ผู้มีหน้าที่ ต้องปกปักรักษาความสงบสุข และสันติสุขของโลก จักต้องมีอันเป็น การรักษาดุลย์แห่ง อำนาจ ที่ได้รับมอบหมายจากประชาคมของ โลก ต้องมีอยู่ในมือ และพร้อมที่จะนำมาใช้ เพื่อรักษาความสงบสุข และ สันติสุขให้กับประชาคมของโลกทุกๆประชาคม

๑๑. เพราะฉะนั้นสิ่ง ที่สหประชาชาติ หรือ United Nations พึงประสงค์ที่จะรักษาไว้สูงสุด ก็คือ การรักษาความยุติธรรม ภายใต้ครรลองของกฏหมาย หรือ Due Process of Law


๑๒. โดยมีกฏหมาย อันมี ที่มาจากสนธิสัญญา รวมทั้งกฏหมาย ที่มีที่มา ในแหล่งอื่นๆ อาทิเช่น คำพิพากษาของ ศาลนานาชาติ กฏหมาย ธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติ ในระหว่างชาติ ที่เราเรียกว่า "the Customary Rules of International Law" ฯลฯ เป็นต้น เป็นหลักในการใช้อำนาจบังคับแก่ชาติ หรือรัฐใด ที่ทำตัวเป็นรัฐอันธพาลแหก กฏ แหกเกณฑ์ที่ชาวโลกต้องให้ความเคารพ

๑๓. ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อประกาศปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ปีค.ศ.1948 แล้ว องค์การสหประชาชาติ จึงลงมือร่าง กติการะหว่างประเทศว่าด้วย สิทธิพลเมือง และ สิทธิในทางการเมือง (the Tentative Draft on the International Covenant on Civil and Political Rights) และ ร่างกติการะหว่างประเทศว่าด้วย สิทธิในทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (the Tentative Draft on the International Covenant on Economic Social and Cultural Rights) ในทันที

๑๔. ซึ่งในร่างกติการะหว่างประเทศ ดังกล่าวทั้ง สองฉบับ องค์การสหประชาชาติ และ มวลหมู่สมาชิก ไม่หลงลืมที่จะนำเอาเจตนารมณ์ของกฏบัตรสหประชาชาติ หรือ the Preamble to the Charter of United Nations มาบัญญัติ เป็นกรอบลงไว้ใน(สนธิสัญญา) กติการะหว่างประเทศทั้งสองฉบับดังกล่าวข้างต้น.........................(มีต่อ)

ข่าวลับกรองแล้ว 20 สิงหาคม 2558


ข่าวลับกรองแล้ว 20 สิงหาคม 2558 

"ครม.ใหม่ไม่มีใครเซนต์แต่งตั้งคงนั่งบริหารกันอย่างเถื่อนๆ"

(เครดิต)  สืบความลับจับมาตีแผ่เผยแพร่เป็นประจำในขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนียเวียโดยกลุ่มเสียงประชาชนไทย(สปท.)  http://thaiscandemo.blogspot.com/

*ที่สุดแล้วเศรษฐกิจไทยก็ไปไม่รอดเพราะถ้ารอดก็ไม่ต้องเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจเชื้อพระวงศ์"หม่อมอุ๋ย+สมหมายภาษี"...แต่ทีมใหม่นี้ยิ่งไปไม่รอดหนักกว่าเดิมเพราะเป็นเหล้าใหม่ในโถขี้เก่าคสช.ที่เหม็นคละคลุ้งแถมยังไม่มีใครเซนต์แต่งตั้ง
*โผครม.ประยุทธ์3หลุดออกมาแล้วก่อนมีเสียงระเบิด(หลังจากประยุทธ์เล่นลครโกหกและกักขฬะหน้าสื่ออยู่นาน)ขณะนี้อยู่ระหว่างนำขึ้นทูลเกล้า...คงคลอดไม่ยากแต่จะเป็นครม.เถื่อนที่สมบูรณ์แบบที่สุดตั้งแต่มีประเทศไทยมาเพราะแถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับที่14บอกความจริงแล้วว่ากษัตริย์ภูมิพลกลายเป็นผักอย่างสิ้นสงสัยนอนให้อาหารทางสายยางและระบบน้ำในสมองมีปัญหาเกินกว่าจะเยียวยาซึ่งสปท.ได้รายงานไปแล้วฉบับล่าสุดลว.12สิงหาว่านอนหลับทั้งวันเสล็ดมากแม้แต่ต่อสายยางให้อาหารทางปากยังไม่ได้เพราะจะสำลัก...วันนี้กำลังตัดสินใจว่าจะต้องเจาะคอหรือไม่เพราะเสล็ดมากกำลังปอดไม่แข็งแรงพอจะขับเสล็ดออกได้ตามปกติ
*รับประกันได้ไม่มีทางที่จะมีภาพประยุทธ์นำครม.ใหม่เข้าถวายสัตย์แน่นอน...ถ้ามีก็ให้รู้ไว้ใช้เทคนิคตัดต่อหลอกล่อสลิ่มกันต่อไปว่ายังมีพระพลานามัยสมบูรณ์
*จะให้ถวายสัตย์กับตัวแทนคือคุณป้าก็บ้าไปแล้ว...ภาพล่าสุดที่สำนักพระราชวังบรรจงถ่ายแจกแหกตาประชาชนว่าคุณป้าสมจิตทำบุญวันเกิดก็จัดกันแบบพอเพียงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนเพราะคุณป้าหน้าก็ไม่ยอมแต่งปากแดงก็ซีดไปทั้งลูกชายลูกสาวต้องคอยประกบสองข้างเพราะแค่จะยกมือไหว้พระยังทำไม่ได้ต้องคอยจับมือให้พนม...พระที่ได้รับนิมนต์ไปยังต้องก้มหน้าหลบตาไม่กล้ามองเพราะกลัวจะเจอคดี112ข้อหา"เป็นผู้เอาภาพที่เห็นจริงแต่ไม่ตรงกับภาพข่าวแจกของวังออกมาเผยแพร่"
*ฉายาครม.ชุดนี้เรียกให้เต็มยศคือ"คณะรัฐมนตรีชุดพระปรมาภิไธยปลอม"

*ทีมเศรษฐกิจใหม่ที่ประยุทธ์ฝันว่าจะมาแก้หน้าก็ดูหน้าสงสารจังเพราะประวัติหัวหน้าทีมก็เน่ามานาน...มาดูประวัติจริงของสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่วิกิพีเดียยังไม่รู้...เดิมชื่อเด็กชาย"ฮั่วกวง แซ่จัง"เด็กๆแถวโรงเรียนเผยอิงเยาวราชเรียกว่า"ไอ้กวง"เป็นน้องชายนายสม จาตุศรีพิทักษ์อดีตผู้บริหารธนาคารเอเชียทรัสต์และเจ้าของธนาคารนครหลวงไทย เป็นตัวใหญ่อาชญากรทางเศรษฐกิจตัวจริงหนึ่งในกลุ่มธนาคารเถ้าแก่สายพลเอกเปรมที่เป็นปลิงดูดเลือดระบบเศรษฐกิจไทยมายาวนานจนระบบเศรษฐกิจพังทลายเมื่อปี2540และเป็นหนึ่งในกลุ่มเถ้าแก่ที่ล้มบนฝูกคือธนาคารล้มละลายปิดตัวไปทิ้งขี้ให้ประชาชนจนถึงวันนี้ธนาคารนครหลวงไทยของพี่ชายสมคิดเป็นหนึ่งในกลุ่มธนาคารล้มละลายที่ยังติดหนีี้กองทุนฟื้นฟูธนาคารรวมเป็นแสนแสนล้านที่ทุกรัฐบาลปวดกบาลเพราะยังต้องตั้งงบประมาณชดเชยดอกเบี้ยที่ค้างอยู่ในระบบบัญชีที่ปิดไม่ลงเกือบ20ปีแล้ว...แม้ธนาคารล้มแต่เถ้าแก่สม จาตุศรีพิทักษ์ พี่ชายหัวหน้าทีมเศรษฐกิจใหม่ยังรวยเป็นปกติ ยังรับใช้เลียตีนพลเอกเปรมตั้งแต่ก่อนธนาคารล้มละลายจนถึงวันนี้ดังนั้นตั้งแต่พลเอกเปรมทำรัฐประหารเมื่อ19กันยายน2549ล้มทักษิณและทำต่อเนื่องจนถึงล้มยิ่งลักษณ์, เสี่ยสมพี่ชายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาตั้งแต่นั้นมาจนถึงวันนี้ก็ยังติดกลุ่มผู้สนับสนุนเผด็จการเปรมจนถึงขณะนี้ยังได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาสุนัขรับใช้แห่งชาติ(สนช.)

*ความใกล้ชิดกับพลเอกเปรมของ"เสี่ยสม"คนนี้มีมาตั้งแต่ว่าที่รองนายก"ไอ้กวง"ยังเป็นเด็กนุ่งกางเกงขาสั้นหลักฐานชัดเจนคือก่อนที่ธนาคารนครหลวงไทยจะเจ๊งในปีวิกฤติเศรษฐกิจใหญ่ต้มยำกุ้ง2540พลเอกเปรมถึงขั้นถือเงินสดห้าแสนบาท(เป็นเงินที่นายสมจัดถวายพลเอกใส่พระหัตถ์พลเอกเปรมเพื่อจัดฉาก)เดินไปฝากเงินที่ธนาคารนครหลวงไทยเพื่อเรียกความเชื่อมั่นเพราะเวลานั้นประชาชนแห่กันไปถอนเงินหาคนฝากเงินไม่มี...ดังนั้นคงไม่แปลกใจว่าทำไมประยุทธ์จึงต้องญาติดีกับสมคิดตั้งแต่เริ่มต้นดึงเข้ามาเป็นที่ปรึกษาคสช.และถึงขนาดต้องประกาศขอตัวมาช่วยงานในงานแต่งลูกชายสมคิดเมื่อ25กรกฎาที่ผ่านมาจนเป็นที่ฮือฮาในหน้าหนังสือพิมพ์ก็เพราะเป็นเด็กฝากจากสายพลเอกเปรม...ถ้ารู้ลึกไปกว่านี้ก็จะรู้ว่ารัฐบาลประยุทธ์ข้างในมีแต่ขี้กับใส้ดังนั้นอาการไข้ทางเศรษฐกิจของประเทศไทยจึงไม่มีทางฟื้น

*"ไอ้กวง"มันกลวงสมชื่อจริงๆมีแต่ไอ้"ไอ้เปรม"ที่แก่จนหลงและหลงเชื่อว่านายสมคิดมีน้ำยาเพราะไอ้กวงกับสมพี่ชายนั่งประคบประหงมคนแก่และทูลรายงาน"องค์เปรม"ว่าสมัยที่เศรษฐกิจยุคทักษิณเฟื่องฟูนั้นเป็นฝีมือไอ้กวงจนบ้านสี่เสาเชื่อกันทั้งบ้าน(เพราะไอ้กวงจริงๆจบด้านการตลาดเป็นเพียงนักโฆษณาไม่ใช่จบทางด้านเศรษฐกิจการธนาคาร)ถึงขนาดเปรมใช้บังสนธิยึดอำนาจเมื่อ19กันยา49พลเอกสุรยุทธลูกป๋าขึ้นเป็นนายกฯยังต้องเอาไอ้กวงมาเป็นที่ปรึกษาแต่ตอนนั้นภาพลักษณ์ไอ้กวงยังแกะไม่ออกจากทักษิณและคณะยึดอำนาจกำลังจะล้างบางตัดสิทธิ์กรรมการไทยรักไทย5ปี ไอ้กวงจึงต้องมีอันเป็นไปใน3วัน7วันทันที
*ความเดิมไอ้กวงเป็นเด็กทักษิณ(ตอนนั้นยังไม่ได่แบ่งสายแดงเหลืองนักธุรกิจทั้งหลายต้องขึ้นสายเจ้าผ่านเปรมไม่เช่นนั้นโตไม่ได้)ที่เริ่มต้นชีวิตการเมืองก็มีอาการขี้ขึ้นสมอง...จากสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดทักษิณก็ประเคนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงขุนคลังให้แต่ไอ้กวงไม่กล้ารับเพราะยังกระดูกอ่อนจึงขอไปว่าการกระทรวงพานิชย์แต่ปรากฎว่าถูกขาใหญ่การสื่อสารอดิศรัย โพธารามิกที่นำพลพรรคสส.จากชาติพัฒนามาร่วมพรรคไทยรักไทยหลายคนตกลงจองไว้กับทักษิณก่อนแล้ว สมคิด"กวง"จึงแห้วจำต้องขาสั่นไปนั่งที่กระทรวงการคลังดังนั้นการบริหารทั้งหมดจึงทำตามที่ทักษิณสั่งการ แต่"กวง"มีศิลปในการโม้ต่อสาธารณะจึงดูท่าทางเป็นเรื่องเป็นราว
*กวงเป็นเด็กไร้เดียงสาทางการเมืองพอเริ่มอยู่ไปรัฐบาลทักษิณแก้ปัญหาวิกฤติต้มยำกุ้งได้สำเร็จ,กวงก็ตีกินและเริ่มฟันกระสันอยากเป็นนายกบ้างและเมื่อสัญญานล้มทักษิณแจ่มชัดในปี2548พี่ชายสมจึงดึง"ไอ้กวง"แปรพักต์ออกห่างทักษิณไปสวามิภักดิ์องค์เปรม,กวงเป็นเด็กหน้าซื่อใสแต่ใจคดได้แอบไปร่วมประชุมกับพลเอกสุรยุทธ์ก่อนการรัฐประหาร2549ณ.ที่แห่งหนึ่งด้วยหลงเชื่อว่าองค์เปรมจะให้รางวัลปั้นขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีเพราะพันธมิตรกำลังเริ่มก่อจราจลตามแผนขององค์เปรมอย่างโจ่งแจ้งแล้วแต่การประชุมลับที่เด็กชายกวงแอบไปนั้นไม่อาจรอดพ้นไปจากสายตาของทักษิณได้พอเจอทักษิณดักทางถึงกับหน้าถอดสีในเวลานั้น(*องค์เป็นคำย่อจากคำว่า"องคมนตรี"ที่เจ้าหน้าที่ในสำนักงานองคมนตรีถูกบังคับให้ใช้เรียกชื่อองคมนตรีทุกคนแทนคำว่านาย)
*มาถึงวันนี้การเป็นที่ปรึกษาพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็ดีและก้าวขึ้นเป็นที่ปรึกษาคสช.จนเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลเผด็จการคสช.ของสมคิดจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะประยุทธคือคนโง่แห่งยุคศตวรรษที่21ที่คอนเนคชั่นด้านเศรษฐกิจการเมืองตีบตันดังนั้นการโหนอำนาจจึงต้องโหนสถาบันเจ้าทุกทางโดยจำต้องใช้มือหนึ่งโหนองค์เปรมและอีกมือหนึ่งโหนฟ้าชายจึงเป็นที่มาของสมคิดได้ขี่คอประยุทธ์ในวันนี้

*ก็เพราะครม.ประยุทธ์3เป็นเหล้าใหม่ในโถขี้เก่าที่ถูกทั้งโลกประนามจากการยึดอำนาจและละเมิดสิทธิมนุษยชนตั้งแต่จับขังประชาชนด้วย112จนถึงโลฮิงยาและเป็นขี้ข้าจีนเพราะจนตรอกจนต้องเอาใจจีนโดยยอมส่งอุยกูคืนให้จีนทั้งที่ลี้ภัยมาไทยแต่ก็ต้องถูกส่งกลับไปตายที่จีนจนเกิดระเบิดที่ราชประสงค์อย่างนี้ต่อให้10"ไอ้กวง"ก็ต้องกลวงๆๆ

*ปีนี้ส่งออกติดลบ3ทำให้ทหารจำต้องถอนสมอความอวดเก่งโดยพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะต้องยอมถอยให้นางอภิรดี ตันตราภรณ์อดีตปลัดกระกรวงพานิชย์ขึ้นเป็นว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพานิชย์แทนแต่พลเอกฉัตรชัยในฐานะกระเป๋าเงินคสช.มาแต่ดั้งเดิมเมื่อครั้งหาเงินแบ่งกันใช้ในทีวีช่อง5ประยุทธ์จึงยังต้องให้ไปนั่งกระทรวงเกษตรที่เป็นแหล่งเงินงบเฉียดสองแสนล้านต่อไป...ขอแสดงความเสียใจล่วงหน้ากับเกษตรกรที่จะต้องทุกข์ยากหนักขึ้นกว่าเดิม

*หลายกระทรวงเศรษฐกิจและกระทรวงหน้าตาที่ต้องคบค้าต่างประเทศที่ทหารอวดเก่งโง่แต่ขยันหาประโยชน์ต้องยอมถอยให้เช่นพานิชย์,คมนาคม,อุตสาหกรรมและต่างประเทศแต่สปท.ขอบอกตรงนี้เลยว่าไม่มีทางที่จะแก้เศรษฐกิจตกต่ำและความทุกข์ยากของประชาชนได้ด้วยปัจจัย3ตัวที่เป็นกุญแจล็อคเปิดไม่ออกคือ(1)ยังเป็นครม.เผด็จการที่จะต่ออำนาจไม่รู้จบที่โลกคว่ำบาตร...อย่างนี้ต่อให้10สมคิดก็คิดไม่ตก(2)งบส่วนใหญ่ยังนำไปบำรุงบำเรอราชสำนัก(ตัวอย่างล่าสุดใช้งบ2,000กว่าล้านบาทก่อสร้างอนุสาวรีย์7มหาราชที่หัวหินขนาดตัวสูงราวตึกสิบชั้นเท่าคิมอินซุงในเกาหลีเหนือในขณะที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจประชาชนอดอยาก)แม้แต่เพียงเศษเงินก็ไม่หล่นไปถึงมือชาวนาจำนำข้าวหรือเพื่อแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำและการขาดแคลนน้ำ...อย่างนี้ต่อให้10ปลัดกระทรวงพานิชย์อุตสาหกรรมก็ทำอะไรไม่ได้(3)เศรษฐกิจทรุดสะสมตั้งแต่ยึดอำนาจจากหม่อมอุ๋ยที่อู้ยื้อกันมาปีกว่าจนค่าเงินบาทไหลตกลงไปใกล้36บาทต่อ1ดอลล่าแต่ต่อมาจีนที่คสช.ขอกอดตีนอยู่เกิดวิกฤติซ้ำอีกจำต้องลดค่าเงินหยวน,เป็นอย่างนี้เห็นทีบาทไทยต้องไหลลงไปอีกใกล้แตะ40บาทแน่ๆ...อย่างนี้ต่อให้ประยุทธ์บินไปเจรจาการค้าถึงดาวอังคารก็ต้องอาการปางตาย...ยิ่งมาเจอระเบิดทั้งจีนและฝรั่งตายนั่งท่องเที่ยวยิ่งหดหายชีวิตไทยคงตายคามือประยุทธ์แน่นอน

*ข่าวระเบิดคนวิเคราะห์กันมากมาย สปท.ขอบายไปก่อนจนกว่าจะได้ข่าวกรองชัดเจนจึงจะกลับมารายงานแต่ที่แน่ๆคนวางระเบิดมันหักหน้าไบค์ฟอร์มัมและเป็นบทพิสูจน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากเสียงระเบิดที่ป้องกันไม่ได้และไม่เคยจับได้นอกจากแพะก็คือทหารและตำรวจไทยเก่งแต่นุ่งกระโปรงแอบหลังไอ้โล้นเทพก่อจราจลแล้วยึดอำนาจเท่านั้นเรื่องป้องกันประเทศทำอะไรไม่เป็น555แล้วพบกันใหม่//จบข่าว//

ชวนคิดชวนคุย กับ ดร.เพียงดิน 19 ส.ค. 2558 ตอน ระเบิดนรกตกใส่ประเทศไทย วันนี้คนไทยต้องร่วมกันกู้ชาติ!!

ชวนคิดชวนคุย กับ ดร.เพียงดิน 19 ส.ค. 2558 ตอน ระเบิดนรกตกใส่ประเทศไทย วันนี้คนไทยต้องร่วมกันกู้ชาติ!!

ลิ้งค์สำหรับการเข้าร่วมขบวนประชาชนกู้ชาติ

ลงชื่อร่วมขบวนการของปวงชนชาวไทย เพื่อสู้ทั้งบนดิน ใต้ดิน ในประเทศ และต่างประเทศ

 ร่วมโหวตชื่อของเครือข่ายปวงชนชาวไทยทั่วโลก ที่จะร่วมกันกู้ชาติ ล้มช้าง สร้างชาติ

ร่วมกันกำหนดเป้าหมายของขบวนประชาชน (โหวตได้มากกว่าหนึ่งข้อ)

"ระเบิดราชประสงค์"

ชาญวิทย์ เกษตรสิริ 

เชื่อไทยเข้าสู่"กาลียุค"แล้ว

jom voice
Published on Aug 18, 2015

ศาสตราจารย์ พิเศษ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์การเมือง อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia กรณี ระเบิดแยกราชประสงค์เมื่อตอนค่ำวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา 

จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็­นจำนวนมากว่า เป็นเรื่องที่น่าตกใจ เพราะไม่เคยเกิดเหตุระเบิดรุนแรงจนมีคนบาด­เจ็บและคนตายนอนเกลื่อนใจกลาง ประเทศไทยมาก­่อนเลย ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่าอนาคตการเมืองไทย 

คงจะย่างเข้าสู่ยุคมิคสัญญี หรือ กาลียุคแล้ว 

ส่วนจะวิเคราะห์ว่าฝ่ายไหนทำนั้นเป็นเรื่อ­งที่วิเคราะห์ได้ยาก แต่เป็นกลุ่มคน หรือบุคคลที่ต้องการสร้างความเสียหายต่อปร­ะเทศ และต้องการจะให้เป็นที่รับรู้ของชาวโลกด้ว­ยเพราะการเลือกสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที­่ยวสำคัญ 

ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวเสียชีวิตและบาดเจ็­บเป็นจำนวนมาก ซึ่งนั่นแสดงว่าไม่ได้หวังผลภายในประเทศแต­่ต้องการขยายผลไปยังนานาชาติด้วย





ท่านสามารถติดตามคลิปล่าสุด ทางมหาวิทยาลัยประชาชน ที่นี่!


ท่านสามารถติดตามคลิปล่าสุด ทางมหาวิทยาลัยประชาชน ที่นี่!





อุ๊ ช่อผกา... กับการเรียกร้องไม่ให้ใช้ Pray for Bangkok



ท่านอ่านแล้วคิดอย่างไร?
สำหรับผม รู้เลยว่า เธออยู่ในโลกที่ไร้เดียงสาทางการเมือง
เป็นชนชั้นกลางในเมืองกรุง ที่ไม่ประสากับกลเกมอำนาจ
มองแค่ว่า การไม่พูดถึง หรือการพูดถึง จะมีผลทำให้สิ่งที่ได้เกิด และจะเกิดขึ้นนั้น มันเปลี่ยนทิศทางได้

และดูเหมือนเธอจะไม่รู้เลยว่า วันนี้ Thailand is already in the deep shit!

ดร.ทักษิณ ประนามผู้ก่อการระเบิดกรุงเทพฯ