ยินดีต้อนรับ

พลเมืองที่รอบรู้เท่าทัน คือ พลังประชาธิปไตยที่แท้จริง
Well-informed citizens are the true democratic forces.

Saturday, May 2, 2015

"ระเบิดเวลา" สังคมไทย จะถอดสลักได้หรือไม่? อย่างไร? ดร.เพียงดิน รักไทย มหาวิทยาลัยประชาชน ชวนคิดชวนคุย


อีกหลักฐานสำคัญ ที่ลบไม่ได้ ยืนยันว่า ทหารไทย ฆ่าประชาชนอาสาจริง!!!

อีกหลักฐานสำคัญ ที่ลบไม่ได้ ยืนยันว่า ทหารไทย ฆ่าประชาชนอาสาจริง!!!

อีกหลักฐานสำคัญ ที่ลบไม่ได้ ยืนยันว่า ทหารไทย ฆ่าประชาชนอาสาจริง!!!


อีกหลักฐานสำคัญ ที่ลบไม่ได้ ยืนยันว่า ทหารไทย ฆ่าประชาชนอาสาจริง!!!

อีกหลักฐานสำคัญ ที่ลบไม่ได้ ยืนยันว่า ทหารไทย ฆ่าประชาชนอาสาจริง!!!

อีกหลักฐานสำคัญ ที่ลบไม่ได้ ยืนยันว่า ทหารไทย ฆ่าประชาชนอาสาจริง!!!


ทางออกประเทศไทย คือกุญแจที่อยู่ในมือ "มดแดงล้มช้าง"

ทางออกประเทศไทย คือกุญแจที่อยู่ในมือ "มดแดงล้มช้าง"
เมื่อสี่ปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา ผมได้คิดทฤษฎีที่จะช่วยอธิบายปรากฏการณ์การต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตย แล้วก็เกิดวลี มดแดงล้มช้าง  เพื่อหาทางปลุกใจให้ประชาชนลุกขึ้นมาสู้ด้วยตัวเอง  วันนี้เหตุผลที่ประชาชนต้องสู้เอง ได้ปรากฏชัดเจนสมบูรณ์แล้ว

  • ดร.ทักษิณและตระกูลชินวัตร ถูกเจ้ากดหัวไว้เกือบสนิทแล้ว (แต่...อิ ๆ คนอย่างดร.ทักษิณ หมอบราบจริง)
  • พรรคเพื่อไทยไม่แตกก็เหมือนแตก  นักการเมืองที่มีบารมีก็เหมือนลูกไก่ในกำมือเผด็จการ
  • แกนนำนปช. เปลี่ยนจากผู้ชี้นิ้วบงการแทนประชาชน เป็นผู้อ้อนวอนและขอเมตตาจากผู้เข่นฆ่าคนเสื้อแดง และปล้นอำนาจอธิปไตยของคนทั้งชาติไปครองอย่างย่ามใจ
  • เครือข่ายของเจ้าเข้มแข็ง ยิ่งใหญ่และมุ่งมั่นจะล้มล้าง ระบอบประชาธิปไตย โดยอ้างว่า ต้องทำลายระบอบทักษิณที่ชั่วร้าย อย่างไม่ลดละ   แถมมีพลังทำลายล้างแบบครบวงจร ยากที่ใครคนใดคนหนึ่ง จะลุกขึ้นมานำทัพแบบชัดเจนได้ (อันที่จริง เมื่อทักษิณไม่สามารถทำได้แล้ว ที่เหลือก็จะอ่อนพลัง หรือกระจัดกระจาย ต้องใช้เวลาสะสมบารมีและกำลังพอสมควร)
  • การต่อสู้ในประเทศไทย ไม่ใช่ระหว่างคนสองตระกูล หรือแค่ทุนศักดินาและเครือข่าย กับ ทุนใหม่ เท่านั้น แต่ได้พัฒนาให้เห็นว่า เป็นสงครามชนชั้นระหว่างกลุ่มศักดินาและทุน กับ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ  วันนี้ เป็นการเผชิญหน้ากันอย่างชัดเจนแบบไม่ต้องปิดบัง ระหว่างสองชนชั้น 
และแน่นอนว่า เมื่อสงครามชัดเจนแล้ว และในสภาพที่เผด็จการสำแดงอำนาจเผด็จการของพวกเขาเต็มที่ ประชาชนจะต้องถูกแบ่งแยก ข่มขู่ กดทับ ขูดรีด และทำให้ไม่สามารถรวมตัวกันได้ง่าย ๆ อย่างถึงที่สุด ดังนั้น จึงเป็นความจำเป็นที่ประชาชนจะต้องหาทางสู้ โดยประชาชนแต่ละคนที่มีจิตสำนึกต่อต้านการครอบงำของเผด็จการต้องร่วมรับผิดชอบอย่างแท้จริง ด้วยการ

  • ไม่นิ่งเฉย 
  • ไม่หยุดการรับข่าวสารใหม่ และเรียนรู้
  • ไม่กลัว 
  • ไม่ท้อ 
  • ไม่หลบหนี 
  • ไม่ทำลายกันเอง คือ ไม่หลงเกม ตกเป็นเครื่องมือของเผด็จการที่ต้องการสลายพลังประชาชน 
  • ไม่หยุดที่จะหาทางต่อรอง ต่อต้าน ต่อสู้ และโจมตี เพื่อทำลายความชอบธรรม (จอมปลอม) ของเผด็จการ ด้วยวิธีการที่ชาญฉลาด
  • ไม่หยุดการสานเครือข่าย ขยายความรู้ ประสานความร่วมมือ และเตรียมการลุกฮือ เพื่อล้มช้างในวันนัดหมาย
  • ไม่งอมืองอเท้าให้ใครมาอ้างการนำ โดยประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมวางกรอบและใส่รายละเอียดของเป้าหมาย วิธีการต่อสู้ และการสร้างอนาคตที่ถาวร
  • ไม่หยุดการพัฒนาวิธีการต่อสู้ และยกระดับให้สูงและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในการไม่ยอมรับ ไม่ยอมให้ปกครอง และไม่ยอมให้ปกครองต่อ แล้วนำไปสู่การยึดอำนาจมาเป็นของประชาชน เพื่อสร้างชาติใหม่
สรุปสาระสำคัญที่สุด อันเป็นความจริงที่ประจักษ์ต่อหน้าเราทุกคนก็คือ เราจะต้องเลิกเล่นบทผู้ดู หรือผู้อยู่นิ่งเฉย ไม่รับรู้ ไม่รับผิดชอบ และไม่ลงมือทำอย่างจริงจัง แล้วต้องถือเป็นภารกิจส่วนตัวที่จะต้องทำสิ่งต่าง ๆ ให้ดีที่สุดเท่าที่ตนเองจะทำได้ แล้วขณะเดียวกัน ก็ยื่นมือออกไปประสานกับเพื่อนพ้องน้องพี่รอบตัว ที่เข้าใจปัญหาบ้านเมืองตรงกัน และอยากจะมีส่วนช่วยกันแก้ไข...

ไม่มีใครอื่นที่จะรับหน้าช่วยเหลือแล้วทำให้สำเร็จ เป็นพระเอกขี่ม้าขาวดอก มองในกระจก ที่คุณเห็นนั่นแหละ ที่เป็นพระเอกและนางเอก ที่แท้จริง  หากคนที่ท่านเห็นในกระจก ไม่ทำอะไรเลย หรือทำอะไรที่ไม่มีผลที่จะสานไปสู่ผลคืบหน้าในภารกิจใหญ่ของการปฏิวัติประเทศเลย เราก็จะไม่มีทางสู่ชัยชนะได้อย่างแท้จริง ...

ลุกมาเป็นนักปฏิวัติ เอาชนะสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง กู้ชาติ และสร้างบ้านแปงเมืองใหม่กันเถิด เพื่ออนาคตที่ดีกว่าในยุคพวกเรา และเพื่อลูกหลานเหลนของพวกเราในระยะยาวสืบไปชั่วนานแสนนาน








ทางออกประเทศไทย คือกุญแจที่อยู่ในมือ "มดแดงล้มช้าง"

ทางออกประเทศไทย คือกุญแจที่อยู่ในมือ "มดแดงล้มช้าง"
เมื่อสี่ปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา ผมได้คิดทฤษฎีที่จะช่วยอธิบายปรากฏการณ์การต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตย แล้วก็เกิดวลี มดแดงล้มช้าง  เพื่อหาทางปลุกใจให้ประชาชนลุกขึ้นมาสู้ด้วยตัวเอง  วันนี้เหตุผลที่ประชาชนต้องสู้เอง ได้ปรากฏชัดเจนสมบูรณ์แล้ว

  • ดร.ทักษิณและตระกูลชินวัตร ถูกเจ้ากดหัวไว้เกือบสนิทแล้ว (แต่...อิ ๆ คนอย่างดร.ทักษิณ หมอบราบจริง)
  • พรรคเพื่อไทยไม่แตกก็เหมือนแตก  นักการเมืองที่มีบารมีก็เหมือนลูกไก่ในกำมือเผด็จการ
  • แกนนำนปช. เปลี่ยนจากผู้ชี้นิ้วบงการแทนประชาชน เป็นผู้อ้อนวอนและขอเมตตาจากผู้เข่นฆ่าคนเสื้อแดง และปล้นอำนาจอธิปไตยของคนทั้งชาติไปครองอย่างย่ามใจ
  • เครือข่ายของเจ้าเข้มแข็ง ยิ่งใหญ่และมุ่งมั่นจะล้มล้าง ระบอบประชาธิปไตย โดยอ้างว่า ต้องทำลายระบอบทักษิณที่ชั่วร้าย อย่างไม่ลดละ   แถมมีพลังทำลายล้างแบบครบวงจร ยากที่ใครคนใดคนหนึ่ง จะลุกขึ้นมานำทัพแบบชัดเจนได้ (อันที่จริง เมื่อทักษิณไม่สามารถทำได้แล้ว ที่เหลือก็จะอ่อนพลัง หรือกระจัดกระจาย ต้องใช้เวลาสะสมบารมีและกำลังพอสมควร)
  • การต่อสู้ในประเทศไทย ไม่ใช่ระหว่างคนสองตระกูล หรือแค่ทุนศักดินาและเครือข่าย กับ ทุนใหม่ เท่านั้น แต่ได้พัฒนาให้เห็นว่า เป็นสงครามชนชั้นระหว่างกลุ่มศักดินาและทุน กับ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ  วันนี้ เป็นการเผชิญหน้ากันอย่างชัดเจนแบบไม่ต้องปิดบัง ระหว่างสองชนชั้น 
และแน่นอนว่า เมื่อสงครามชัดเจนแล้ว และในสภาพที่เผด็จการสำแดงอำนาจเผด็จการของพวกเขาเต็มที่ ประชาชนจะต้องถูกแบ่งแยก ข่มขู่ กดทับ ขูดรีด และทำให้ไม่สามารถรวมตัวกันได้ง่าย ๆ อย่างถึงที่สุด ดังนั้น จึงเป็นความจำเป็นที่ประชาชนจะต้องหาทางสู้ โดยประชาชนแต่ละคนที่มีจิตสำนึกต่อต้านการครอบงำของเผด็จการต้องร่วมรับผิดชอบอย่างแท้จริง ด้วยการ

  • ไม่นิ่งเฉย 
  • ไม่หยุดการรับข่าวสารใหม่ และเรียนรู้
  • ไม่กลัว 
  • ไม่ท้อ 
  • ไม่หลบหนี 
  • ไม่ทำลายกันเอง คือ ไม่หลงเกม ตกเป็นเครื่องมือของเผด็จการที่ต้องการสลายพลังประชาชน 
  • ไม่หยุดที่จะหาทางต่อรอง ต่อต้าน ต่อสู้ และโจมตี เพื่อทำลายความชอบธรรม (จอมปลอม) ของเผด็จการ ด้วยวิธีการที่ชาญฉลาด
  • ไม่หยุดการสานเครือข่าย ขยายความรู้ ประสานความร่วมมือ และเตรียมการลุกฮือ เพื่อล้มช้างในวันนัดหมาย
  • ไม่งอมืองอเท้าให้ใครมาอ้างการนำ โดยประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมวางกรอบและใส่รายละเอียดของเป้าหมาย วิธีการต่อสู้ และการสร้างอนาคตที่ถาวร
  • ไม่หยุดการพัฒนาวิธีการต่อสู้ และยกระดับให้สูงและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในการไม่ยอมรับ ไม่ยอมให้ปกครอง และไม่ยอมให้ปกครองต่อ แล้วนำไปสู่การยึดอำนาจมาเป็นของประชาชน เพื่อสร้างชาติใหม่
สรุปสาระสำคัญที่สุด อันเป็นความจริงที่ประจักษ์ต่อหน้าเราทุกคนก็คือ เราจะต้องเลิกเล่นบทผู้ดู หรือผู้อยู่นิ่งเฉย ไม่รับรู้ ไม่รับผิดชอบ และไม่ลงมือทำอย่างจริงจัง แล้วต้องถือเป็นภารกิจส่วนตัวที่จะต้องทำสิ่งต่าง ๆ ให้ดีที่สุดเท่าที่ตนเองจะทำได้ แล้วขณะเดียวกัน ก็ยื่นมือออกไปประสานกับเพื่อนพ้องน้องพี่รอบตัว ที่เข้าใจปัญหาบ้านเมืองตรงกัน และอยากจะมีส่วนช่วยกันแก้ไข...

ไม่มีใครอื่นที่จะรับหน้าช่วยเหลือแล้วทำให้สำเร็จ เป็นพระเอกขี่ม้าขาวดอก มองในกระจก ที่คุณเห็นนั่นแหละ ที่เป็นพระเอกและนางเอก ที่แท้จริง  หากคนที่ท่านเห็นในกระจก ไม่ทำอะไรเลย หรือทำอะไรที่ไม่มีผลที่จะสานไปสู่ผลคืบหน้าในภารกิจใหญ่ของการปฏิวัติประเทศเลย เราก็จะไม่มีทางสู่ชัยชนะได้อย่างแท้จริง ...

ลุกมาเป็นนักปฏิวัติ เอาชนะสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง กู้ชาติ และสร้างบ้านแปงเมืองใหม่กันเถิด เพื่ออนาคตที่ดีกว่าในยุคพวกเรา และเพื่อลูกหลานเหลนของพวกเราในระยะยาวสืบไปชั่วนานแสนนาน








เวทีนี้ ไม่มีพี่เลี้ยง แต่เรามีเรา ประชาชนผู้ใฝ่เสรีที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย

เมื่อสี่ปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา ผมได้คิดทฤษฎีที่จะช่วยอธิบายปรากฏการณ์การต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตย แล้วก็เกิดวลี มดแดงล้มช้าง  เพื่อหาทางปลุกใจให้ประชาชนลุกขึ้นมาสู้ด้วยตัวเอง  วันนี้เหตุผลที่ประชาชนต้องสู้เอง ได้ปรากฏชัดเจนสมบูรณ์แล้ว

  • ดร.ทักษิณและตระกูลชินวัตร ถูกเจ้ากดหัวไว้เกือบสนิทแล้ว (แต่...อิ ๆ คนอย่างดร.ทักษิณ หมอบราบจริง)
  • พรรคเพื่อไทยไม่แตกก็เหมือนแตก  นักการเมืองที่มีบารมีก็เหมือนลูกไก่ในกำมือเผด็จการ
  • แกนนำนปช. เปลี่ยนจากผู้ชี้นิ้วบงการแทนประชาชน เป็นผู้อ้อนวอนและขอเมตตาจากผู้เข่นฆ่าคนเสื้อแดง และปล้นอำนาจอธิปไตยของคนทั้งชาติไปครองอย่างย่ามใจ
  • เครือข่ายของเจ้าเข้มแข็ง ยิ่งใหญ่และมุ่งมั่นจะล้มล้าง ระบอบประชาธิปไตย โดยอ้างว่า ต้องทำลายระบอบทักษิณที่ชั่วร้าย อย่างไม่ลดละ   แถมมีพลังทำลายล้างแบบครบวงจร ยากที่ใครคนใดคนหนึ่ง จะลุกขึ้นมานำทัพแบบชัดเจนได้ (อันที่จริง เมื่อทักษิณไม่สามารถทำได้แล้ว ที่เหลือก็จะอ่อนพลัง หรือกระจัดกระจาย ต้องใช้เวลาสะสมบารมีและกำลังพอสมควร)
  • การต่อสู้ในประเทศไทย ไม่ใช่ระหว่างคนสองตระกูล หรือแค่ทุนศักดินาและเครือข่าย กับ ทุนใหม่ เท่านั้น แต่ได้พัฒนาให้เห็นว่า เป็นสงครามชนชั้นระหว่างกลุ่มศักดินาและทุน กับ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ  วันนี้ เป็นการเผชิญหน้ากันอย่างชัดเจนแบบไม่ต้องปิดบัง ระหว่างสองชนชั้น 
และแน่นอนว่า เมื่อสงครามชัดเจนแล้ว และในสภาพที่เผด็จการสำแดงอำนาจเผด็จการของพวกเขาเต็มที่ ประชาชนจะต้องถูกแบ่งแยก ข่มขู่ กดทับ ขูดรีด และทำให้ไม่สามารถรวมตัวกันได้ง่าย ๆ อย่างถึงที่สุด ดังนั้น จึงเป็นความจำเป็นที่ประชาชนจะต้องหาทางสู้ โดยประชาชนแต่ละคนที่มีจิตสำนึกต่อต้านการครอบงำของเผด็จการต้องร่วมรับผิดชอบอย่างแท้จริง ด้วยการ

  • ไม่นิ่งเฉย 
  • ไม่หยุดการรับข่าวสารใหม่ และเรียนรู้
  • ไม่กลัว 
  • ไม่ท้อ 
  • ไม่หลบหนี 
  • ไม่ทำลายกันเอง คือ ไม่หลงเกม ตกเป็นเครื่องมือของเผด็จการที่ต้องการสลายพลังประชาชน 
  • ไม่หยุดที่จะหาทางต่อรอง ต่อต้าน ต่อสู้ และโจมตี เพื่อทำลายความชอบธรรม (จอมปลอม) ของเผด็จการ ด้วยวิธีการที่ชาญฉลาด
  • ไม่หยุดการสานเครือข่าย ขยายความรู้ ประสานความร่วมมือ และเตรียมการลุกฮือ เพื่อล้มช้างในวันนัดหมาย
  • ไม่งอมืองอเท้าให้ใครมาอ้างการนำ โดยประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมวางกรอบและใส่รายละเอียดของเป้าหมาย วิธีการต่อสู้ และการสร้างอนาคตที่ถาวร
  • ไม่หยุดการพัฒนาวิธีการต่อสู้ และยกระดับให้สูงและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในการไม่ยอมรับ ไม่ยอมให้ปกครอง และไม่ยอมให้ปกครองต่อ แล้วนำไปสู่การยึดอำนาจมาเป็นของประชาชน เพื่อสร้างชาติใหม่
สรุปสาระสำคัญที่สุด อันเป็นความจริงที่ประจักษ์ต่อหน้าเราทุกคนก็คือ เราจะต้องเลิกเล่นบทผู้ดู หรือผู้อยู่นิ่งเฉย ไม่รับรู้ ไม่รับผิดชอบ และไม่ลงมือทำอย่างจริงจัง แล้วต้องถือเป็นภารกิจส่วนตัวที่จะต้องทำสิ่งต่าง ๆ ให้ดีที่สุดเท่าที่ตนเองจะทำได้ แล้วขณะเดียวกัน ก็ยื่นมือออกไปประสานกับเพื่อนพ้องน้องพี่รอบตัว ที่เข้าใจปัญหาบ้านเมืองตรงกัน และอยากจะมีส่วนช่วยกันแก้ไข...

ไม่มีใครอื่นที่จะรับหน้าช่วยเหลือแล้วทำให้สำเร็จ เป็นพระเอกขี่ม้าขาวดอก มองในกระจก ที่คุณเห็นนั่นแหละ ที่เป็นพระเอกและนางเอก ที่แท้จริง  หากคนที่ท่านเห็นในกระจก ไม่ทำอะไรเลย หรือทำอะไรที่ไม่มีผลที่จะสานไปสู่ผลคืบหน้าในภารกิจใหญ่ของการปฏิวัติประเทศเลย เราก็จะไม่มีทางสู่ชัยชนะได้อย่างแท้จริง ...

ลุกมาเป็นนักปฏิวัติ เอาชนะสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง กู้ชาติ และสร้างบ้านแปงเมืองใหม่กันเถิด เพื่ออนาคตที่ดีกว่าในยุคพวกเรา และเพื่อลูกหลานเหลนของพวกเราในระยะยาวสืบไปชั่วนานแสนนาน