พี่น้องที่รัก เราทุกคนต่างปรารถนาสังคมที่ยุติธรรม เศรษฐกิจที่มั่นคง และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสำหรับตัวเรา ลูกหลาน และประเทศชาติ แต่ในช่วงเวลาของการเลือกตั้ง เรามักเจอกับการยื่นมือเข้ามา "ช่วยเหลือ" ในรูปแบบเงินสดหรือของแจกเล็ก ๆ น้อย ๆ จากนักการเมืองหรือผู้สมัครบางคน ซึ่งก็คือ "การซื้อเสียง" ที่หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องปกติหรือแค่ "เงินฟรี" ที่ไม่เสียหายอะไร
แต่ความจริงแล้ว มันคือกับดักที่ทำลายอนาคตของเราอย่างรุนแรง ลองคิดตามผมดูสิครับว่าทำไมเงินเพียง 500-1,000 บาทต่อเสียง ถึงกลายเป็นหายนะใหญ่หลวงได้อย่างไร
1. นักการเมืองที่ได้มาจากการซื้อเสียง คือคนที่ไม่จริงใจกับประชาชน
- เมื่อนักการเมืองใช้เงินซื้อคะแนนเสียง แทนที่จะแข่งขันด้วยนโยบายที่แท้จริง พวกเขาจะไม่รู้สึกผูกพันกับประชาชน พอได้รับเลือกตั้งเข้ามา ก็จะมุ่งเน้นแต่การคืนทุนจากการลงทุนซื้อเสียงนั้น โดยการคอร์รัปชั่น หาประโยชน์จากงบประมาณแผ่นดิน เช่น การฮั้วประมูลโครงการรัฐ การรับสินบนจากธุรกิจใหญ่ หรือแม้แต่การขายสัมปทานทรัพยากรธรรมชาติให้ต่างชาติ ผลคือ เงินภาษีของเราที่ควรนำไปพัฒนาโรงเรียน โรงพยาบาล ถนนหนทาง กลับรั่วไหลไปเข้ากระเป๋านักการเมืองและพวกพ้อง ทำให้ประเทศชาติติดหล่มความยากจนและความเหลื่อมล้ำต่อไป
- ตัวอย่างจริงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย: ในอดีต เรามีกรณีนักการเมืองหลายคนที่ถูกจับได้ว่าทุจริตงบประมาณ เช่น โครงการรับจำนำข้าวที่ทำให้รัฐสูญเสียเงินหลายแสนล้านบาท หรือโครงการก่อสร้างที่ล่าช้าและ予算บานปลายเพราะการแบ่งเปอร์เซ็นต์ สุดท้าย คนที่เดือดร้อนคือชาวบ้านอย่างเรา ที่ต้องจ่ายภาษีแพงขึ้นแต่ชีวิตไม่ดีขึ้น
- การซื้อเสียงทำให้การเลือกตั้งไม่สะท้อนเจตจำนงที่แท้จริงของประชาชน แต่กลายเป็นการแข่งขันด้วยเงินทุน ใครมีเงินมากกว่าก็ชนะ ส่งผลให้คนดี คนมีความสามารถแต่ไม่มีเงินทุนมหาศาล ถูกกีดกันออกไปจากเวทีการเมือง เราจึงได้รัฐบาลที่อ่อนแอ ขาดวิสัยทัศน์ และไม่สามารถแก้ปัญหาใหญ่ ๆ ได้ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจถดถอย การว่างงานของเยาวชน หรือวิกฤตสิ่งแวดล้อมอย่างฝุ่น PM2.5 และน้ำท่วมซ้ำซาก
- ลองคิดดู: ถ้าทุกคนรับเงินซื้อเสียง ประเทศเราจะกลายเป็น "ประชาธิปไตยปลอม" ที่คล้ายกับบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เคยล้มเหลวเพราะคอร์รัปชั่น จนประชาชนต้องออกมาประท้วงและเปลี่ยนรัฐบาลซ้ำซาก สุดท้าย เศรษฐกิจพัง เงินเฟ้อสูง ค่าครองชีพแพง และลูกหลานเราต้องหนีไปทำงานต่างประเทศเพราะไม่มีโอกาสในบ้านเกิด
- เงินเล็กน้อยที่รับมา อาจพอซื้อข้าวกินได้ไม่กี่มื้อ แต่แลกกับอนาคตที่มืดมน เช่น ลูกของคุณอาจไม่ได้เรียนในโรงเรียนดี ๆ เพราะงบการศึกษาถูกโกงไป หรือคุณอาจต้องรอคิวยาวนานในโรงพยาบาลรัฐเพราะอุปกรณ์ไม่พอ การซื้อเสียงยังนำไปสู่สังคมที่เต็มไปด้วยอาชญากรรมและยาเสพติด เพราะนักการเมืองที่ไม่จริงใจมักปล่อยปละละเลยปัญหาเหล่านี้เพื่อเอาใจกลุ่มทุนผิดกฎหมาย
- นึกถึงตัวอย่างใกล้ตัว: ในบางจังหวัดที่การซื้อเสียงแพร่หลาย ชาวบ้านยังคงยากจนเหมือนเดิม แม้จะได้รับเงินเลือกตั้งทุกครั้ง เพราะนักการเมืองไม่ได้พัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นจริง ๆ แต่กลับทำให้หนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้นจากนโยบายประชานิยมที่ไม่ยั่งยืน สุดท้าย คุณและครอบครัวต้องแบกรับภาระหนี้ประเทศที่พุ่งสูงขึ้น
- การปฏิเสธเงินซื้อเสียงคือการปกป้องอนาคตของชาติ คุณสามารถรายงานการซื้อเสียงได้ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผ่านสายด่วน 1171 หรือแอปพลิเคชัน "ตาสับปะรด" โดยไม่ต้องกลัว เพราะกฎหมายคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส ลองคิดดูสิครับ ถ้าทุกคนเลือกนักการเมืองจากนโยบายที่ชัดเจน เช่น การแก้ปัญหาค่าครองชีพ การพัฒนาการศึกษา หรือการต่อต้านคอร์รัปชั่น เราจะได้รัฐบาลที่ทำงานเพื่อประชาชนจริง ๆ ทำให้ประเทศไทยก้าวหน้าเทียบเท่านานาชาติ
- จำไว้ว่า: เงิน 500 บาทอาจหายไปในพริบตา แต่การตัดสินใจผิดพลาดในการเลือกตั้ง จะหลอกหลอนเรานานหลายปี อย่าให้เงินเล็กน้อยทำลายความฝันของชาติเราเลยครับ

No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.