Credit: Unknown
ในเวลานี้ ประเทศไทย เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีการปกครองจากรัฐบาลเผด็จการทหาร (Military Dictatorship หรือ Military Junta)
เมื่อนำเอาสถิติตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ขึ้นมา จะเห็นว่ามีไม่กี่ประเทศในโลก (ส่วนใหญ่อยู่ในทวีปอัฟริกา) ที่มีการปกครองระยะหนึ่ง โดยฝ่าย Military Dictatorship
ถ้าไม่รวมประเทศไทย ครั้งสุดท้ายที่มีการรัฐประหารสำเร็จและยึดอำนาจการปกครองได้ คือที่ประเทศเบอร์กิน่า ฟาโซ่ (Burkina Faso) ในทวีปอัฟริกา และการรัฐประหารสิ้นสุดลงภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ เมื่อปี พ.ศ. 2558 คือปีที่แล้วนั่นเอง (เกือบหนึ่งปีเต็ม ถ้านับจากวันนี้)
ส่วนในเอเซีย-แปซิฟิค ก็คงมีแต่ประเทศฟิจิ ซึ่งออกไปเกือบสองปีแล้ว ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนม่าร์ ก็หมดไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว นั่นคือปี พ.ศ. 2554
-------------------
เหตุผลของการก่อการรัฐประหาร ที่ทุกๆ ประเทศอ้างเสมอมาคือ ต้องเข้ามากอบกู้ประเทศชาติ จากกลุ่มนักการเมืองผู้ฉ้อโกงหรือรัฐบาลพลเรือนผู้มีวิสัยทัศน์อันคับแคบ (Myopic) กลุ่มเผด็จการทหารจะสร้างความชอบธรรมด้วยการอ้างถึง สถานะตำแหน่งของพวกตนว่า เป็นผู้ตัดสินใจอย่าง "เป็นกลาง" จากรากฐานของตนเองที่เป็นสมาชิกในกองทัพทหาร และฝ่ายเผด็จการทหารเหล่านี้ จะตั้งชื่อกลุ่มของตนเอง เพื่อสร้างความชอบธรรม เป็นต้นว่า "สภากอบกู้ประเทศชาติ " (National Redemption Council) หรือไม่ก็ "คณะกรรมการฟื้นฟูประเทศชาติ" (Committee of National Restoration) เป็นต้น
การสร้างความชอบธรรมในการยึดอำนาจโดยกองทัพ จะพยายามอ้างถึงเรื่อง เสถียรภาพทางการเมืองของประเทศชาติ หรือไม่ก็ทำการกู้ภัยจากการคุกคามจากลัทธิคตินิยมอันเป็นอันตราย (Dangerous Ideologies) ในสมัยอดีตนั้น ประเทศทางอเมริกากลางหรือละตินอเมริกา ก็ใช้เหตุผลของ การคุกคามจากลัทธิคอมมิวนิสต์มาสร้างความชอบธรรม
-------------------
ฝ่ายกองทัพจะสวมบทบาทให้ตนเองดูว่า เป็นพวกที่ไม่ฝักใฝ่ข้างหนึ่งข้างใด (non-partisan) และเป็นกลาง (Neutral Party) ซึ่งสามารถทำหน้าที่การนำประเทศชาติได้อย่างชั่วคราวในเหตุการณ์ของความยุ่งเหยิง และทำการพรรณาให้เห็นกันอยู่เสมอว่า นักการเมืองของประเทศตนนั้น ทำการฉ้อโกงและไม่มีประสิทธิ์ภาพในการบริหารประเทศแต่อย่างใด
ลักษณะอีกอย่างหนึ่งของ Military Dictatorship ในเกือบ ทุกๆ ประเทศ ก็คือ รัฐบาลทหารจะต้องออกกฎในการใช้กฎอัยการศึก หรือไม่ก็ใช้มาตรการในการประกาศเรื่องสภาวะฉุกเฉินกันอย่างถาวร
------------------
และไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ หรือประเทศไหนในโลก สุดท้ายแล้ว มันก็ต้องหา "ความชอบธรรม" ป่าวประกาศให้คนทั่วโลกได้ทราบกัน ด้วยการ "จัดการการเลือกตั้ง" เท่านั้นเอง.. (ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ก็อยู่ที่การจัดการของแต่ละประเทศกันเอง)....
และถ้าระบบของ Military Dictatorship มันดีจริง ก็น่าจะมีประเทศต่างๆ หันมากระทำการแบบนี้กันมากขึ้น
แต่ในเวลาที่ผ่านมาสองปี มีแค่สองประเทศที่ยังคิดว่า มันเป็นเรื่องที่สามารถแก้ปัญหาภายในได้ (Lesotho และ Burkina Faso) (แต่เราก็คงจะเห็นกันแล้วว่า กระแสโลกในเรื่องแบบนี้ มีการตอบร้บกันอย่างไรบ้าง ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา)
------------------
เรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งคือ ถ้าบุคคลมีโอกาสเลือกสถานที่ที่สามารถใช้ชีวิตความเป็นอยู่ หรือทำมาหากินกันได้ ท่านคิดว่า พลเมืองเหล่านั้น ต่างมีความต้องการที่จะอยู่ภายใต่้การปกครองในรูปแบบไหนกัน?
ลองไปขบคิดเล่นๆ กันนะคะ
Happy Tuesday ค่ะ
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.