พระพยอม "ขอโทษ"
กรณีข่าว "พระธัมมชโย"
.........
จากกรณีที่มีหนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่งลงข่าวพาดหัวว่า "พระพยอม
อ่านเกมธัมมชโย แนะตัดเสบียง ส่งทหารปิดล้อม"
ชนิดที่ว่าพอเห็นพาดหัวข่าวแล้วไม่ว่าใครก็ต้องตื่นเต้นอยากติดตามอย่างแน่นอน
ในเนื้อข่าวก็ดุดันไม่แพ้กัน
อาตมาอ่านเองยังตกใจว่าทำไมเราถึงพูดจาดุดันขนาดนั้นเชียวหรือ?
วันถัดมามีสื่อมากมายติดต่อมาสัมภาษณ์อีกว่า พระพยอมโดนธรรมกายฟ้องแล้วนะ
อาตมาก็ให้สัมภาษณ์ไปว่า อาตมายอมเป็นสัตว์เล็กที่ติดใยแมงมุมของกฎหมาย
เพราะถ้าเป็นสัตว์ใหญ่คงชนตูมจนใยแมงมุมของกฎหมายขาดกระจุย
สื่อก็ไปพาดหัวข่าวว่า "พระพยอมลั่นไม่กลัวถูกดำเนินคดีเพราะพูดความจริง"
ถัดมาอีกวัน มีสื่อติดต่อเข้ามาอีกมากกว่าเดิมเพื่อขอสัมภาษณ์ต่อยอดจากเรื่องวันก่อน
จนอาตมาชักเริ่มไม่แน่ใจว่า สิ่งที่เราพูดออกสื่อไป
สื่อได้สื่อสารตรงตามที่พูดหรือมีข้อเท็จจริงอะไรคลาดเคลื่อนหรือไม่
ทำไมสื่อเริ่มเข้ามาถามคำถามที่เหมือนอาตมากำลังเลือกข้างเข้าไปเหยียบย่ำซ้ำเติมวัดธรรมกายที่กำลังถูกสังคมจับตากรณีพระธัมมชโย?
อาตมากลับมาทบทวนพิจารณาเรื่องข่าวต่างๆที่ออกไป
พบว่ามีข้อเท็จจริงบางอย่างที่ยังไม่ชัดเจน
คือกรณีที่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ที่มีการพูดจากสื่ออาวุโสชื่อดังบางท่าน
หรืออดีตสว.สรรหาบางท่านที่เกาะติดเรื่องวัดธรรมกายมานาน
รวมถึงข่าวที่แพร่กันในสังคมออนไลน์ที่ว่าท่านธัมมชโยได้กล่าวถึงหลวงปู่มั่นและท่านพุทธทาสฯว่าไปอยู่ในภพภูมิที่ไม่เหมาะสมหรือเข้าใจง่ายๆว่าได้ไปอยู่ในนรกภูมิ
อาตมาได้ให้ผู้ช่วยช่วยค้นหาข้อเท็จจริงว่าเคยมีเทปหรือคลิปที่ท่านธัมมชโยได้พูดในลักษณะดังกล่าวจริงหรือไม่
ก็ยังไม่สามารถหามาได้
อีกทั้งมีผู้สอบถามไปยังวัดธรรมกายถึงเรื่องการพูดดังกล่าวก็ได้รับการปฏิเสธมาว่าไม่เคยมีการกล่าวร้ายใดๆต่อหลวงปู่มั่น
ไม่เคยอวดอุตริว่าไปพบเห็นท่านพุทธทาสฯในนรกภูมิอย่างที่มีการส่งข่าวแชร์ข่าวกันแต่อย่างใด
และยังสำทับมาว่าถ้าเป็นเรื่องจริงป่านนี้คงมีคลิปภาพเสียงว่อนกันไปก่อนหน้านี้นานแล้ว
ในเมื่อความจริงดังกล่าวยังไม่ปรากฏชัด
ในฐานะอาตมาก็เป็นลูกผู้ชายชาติพระเหมือนกัน อาตมา "ขอโทษ"
ต่อกรณีดังกล่าวหากอาตมาได้เข้าใจผิดไป
ส่วนเรื่องที่มีข่าวออกมาในทำนองว่าพระพยอมยุให้ทหารล้อมลุยจับอะไรนั่น
อาตมาเข้าใจว่าคงลงไม่ตรงกับบรรยากาศที่สัมภาษณ์นัก
เพราะข้อเท็จจริงเป็นการตอบคำถามเชิงเปรียบเทียบจากคำถามนักข่าว
อาตมาจึงยกตัวอย่างจากการที่ได้รู้จากอดีตนายตำรวจใหญ่ท่านหนึ่งที่เล่าให้ฟังว่าปกติการจับกุมเขาจะเริ่มจากเบาไปหาหนักกันอย่างไรเท่านั้น
ซึ่งว่าตามจริงหากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะกระทำอะไรกับพระที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย
และเป็นที่เคารพนับถือขนาดนี้
ข่าวที่ออกมาดูจะเว่อร์เอิกเกริกเกินไปด้วยซ้ำ
การเจรจาพูดคุยน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุดไม่ใช่การใช้กำลังอย่างแน่นอน
แต่ในส่วนอื่นๆในการแสดงความคิดเห็นเช่นการบ้าบุญหลงบุญและชวนให้ทำบุญกันจนเพลียบุญ
ถึงขนาดมีบางคนต้องหมดเนื้อหมดตัวกับการทำบุญนั้น อาตมาก็ไม่เห็นด้วย
ไม่ใช่แต่วัดธรรมกายเท่านั้น แต่หมายถึงทุกวัดทุกองค์กร
ถ้าทำบุญจนตนเองต้องเดือดร้อนนั้นย่อมไม่ใช่สิ่งที่สมควร
อีกเรื่องที่อาตมาขอชี้แจงและฝากไว้ก็คือ
การจะเกลียดอะไรใครก็เหลือเผื่อมีโอกาสกลับมารักกันดีกันได้อีกบ้าง
เช่นเดียวกันถ้าจะรักอะไรใครก็อย่าลุ่มหลงจนหมดใจให้เผื่อใจไว้ผิดหวังกันบ้าง
เรื่องความรู้สึกเคารพนับถือและการออกมาปกป้องครูบาอาจารย์ไม่ว่าศิษย์วัดธรรมกาย
ศิษย์หลวงปู่มั่น ศิษย์ท่านพุทธทาสฯ
ย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่าก็ต้องมีความรู้สึกหากมีใครมาลบหลู่หรือให้ร้ายในทางเสียหาย
แม้แต่อย่างเรื่องคุณทักษิณก็เหมือนกัน มีทั้งคนเกลียดคนรัก
ดังนั้นจะเกลียดจะรักก็ต้องเผื่อไว้ในอนาคตด้วย
วันนี้ หากพระพยอมทำให้ใครเป็นทุกข์ "พระพยอมขอโทษ"
แต่สำหรับจุดยืนในการปกป้องพระพุทธศาสนานั้น
อาตมายังขอสงวนสิทธิ์ที่จะทำหน้าที่ทำนุบำรุงพระศาสนาอย่างถึงที่สุด
เจริญพร
/พระพยอม กัลยาโณ
...
จากคอลัมน์"สำนัก(ข่าว)พระพยอม
หนังสือพิมพ์โลกวันนี้ 9 มิ.ย.2559
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.